ดิฉันคือนางร้ายในนิยายBL - ตอนที่ 9
“ขอทวนหน่อยนะคะ”
“อ่าฮะ”
“ระหว่างที่กำลังหลงทาง คุณก็พบเข้ากับพวกคุณชายเหล่านี้”
“เปล่านะ ไม่ได้หลงสักหน่อย ผมกำลังไปหอประชุมต่างหาก”
“หอประชุมอยู่ซีกตะวันออก แต่คุณดันเดินมาซีกตะวันตก อย่างนี้ไม่เรียกหลงแล้วให้เรียกอะไรคะ?”
“น-นั่น!”
เธอยกนิ้วขึ้นเป็นคำสั่งให้อีกฝ่ายเงียบ ก่อนจะทวนเรื่องเล่าต่อ โดยไม่สนว่าอีกฝ่ายจะหน้าแดงด้วยความอับอายแค่ไหน
“คุณชายเรนอล โรเจอร์ บอกว่าหน้าคุณน่าหมั่นใส้ ก็เลยเริ่มหาเรื่องคุณ…”
“ใช่แล้ว ดูเหมือนว่าหมอนั่นเพิ่งจะเรียนสกิลใหม่มาเลยอยากลองใช้ แต่หาเป้าเหมาะ ๆ ไม่ได้”
“เขาก็เลยเล่นงานคุณ?”
“เหอะ! มันก็แค่พวกอ่อนหัด เจอสวนกลับไปทีเดียวก็หน้าหงายแล้ว”
หลังจากทวนเรื่องราวของอีกฝ่ายจบ ไนติงเกลก็พบว่าตัวเองกำลังนั่งกุมขมับอยู่ นั่นเป็นเพราะ…
‘ที่คิดไว้มันไม่ใช่แบบนี้!’
ในตอนแรก เธอก็คิดว่าเหตุการณ์น่าจะดำเนินไปเหมือนกับอีเวนท์ในการ์ตูนโชโจ เพราะยังไงซะนี่ก็คือนิยายที่มีโทนเป็นโรแมนซ์เหมือนกัน ต่างกันแค่เพศของตัวเอก
รู้จักใช่ไหม โชโจมังงะน่ะ? ถ้าหากคุณเคยอ่านล่ะก็ น่าจะนึกภาพนางเอกที่ถูกชายฉกรรจ์ตามรุมล้อมออกใช่ไหม เธอเองก็นึกว่าจะเป็นอย่างนั้นเหมือนกัน เพราะยังไงเสียนี่ก็เป็นนิยายBL แถมยังเป็นโอเมก้าเวิร์สอีก…
‘แต่ไอ้การหาเรื่องชาวบ้านเพราะจะลองทดสอบหมัดนี่มันอะไร๊!! พวกเอ็งคิดว่าตัวเองอยู่ในการ์ตูนโชเน็นกันรึไงง!?’
“…โอย ปวดหัว”
“หือ? เรื่องมันรุนแรงขนาดนั้นเลยหรอ… จริงสิ ต่อให้เป็นคุณก็คงสู้กับสี่ตระกูลนั้นไม่ได้สินะ”
“เอ้ะ…คุณรู้จักดิฉันด้วยหรือคะ?”
“ก็เคยได้ยินมาบ้าง”
ชายหนุ่มพ่นลมหายใจออกทางจมูก ประหนึ่งจะพูดว่า ‘มีใครไม่รู้จักหล่อนบ้างหะ?’
ไนติงเกลครุ่นคิดเล็กน้อยกัยคำพูดของอีกฝ่าย ก่อนที่จะร้อง ‘อ้อ’
‘คงจะเป็นข่าวลือประเภทนั้นสินะ’
เธอกำลังหมายถึงข่าวลือประเภท ‘คุณค่าที่ตัวร้ายคู่ควร’ อยู่
ไม่แปลกที่ ‘ไนติงเกล ฟอร์ส’ จะมีข่าวลือแย่ ๆ เพราะนอกจากเรื่องที่จะเป็นลูกสาวคนเดียวของตระกูลดยุกแล้ว เธอก็ยังเป็นนางร้ายเพียงคนเดียวในโลกนี้ด้วย
คนดังจะมาพร้อมข่าวลือก็ไม่แปลก ไม่ต้องนับไนติงเกลที่เป็นนางร้ายคนเดียวในโลกใบนี้เลย
เพียงแต่ว่า ข่าวลือที่ชายคนนี้เล่ามันออกจะ…แปลก ๆ นิดหน่อย?
“ผมได้ยินมาว่าคุณเป็นนักเวทย์ที่เก่งกาจมาก อย่างตอนที่เข้าเรียนวันแรกก็ซัดหน้าอาจารย์ไปแล้วถึงห้าคน”
‘…’
“…อะไรนะคะ?”
“ผมเพิ่งมาใหม่ก็เลยไม่ได้เห็นด้วยตาตัวเอง แต่ถ้าฟังจากที่เขาเล่ากันแล้ว ดูเหมือนว่าคุณจะเก่งมากเลยทีเดียว”
พริบตานั้น จู่ ๆ ไนติงเกลก็มองเห็นภาพตัวเองปล่อยพลังใส่อาจารย์สี่ห้าคน จนลอยละลิ่วตกสนามไป K.O ตั้งแต่ดอกแรก
เดี๋ยว ๆ อันนี้แนวอะไรนะ? กำลังภายในหรอ??
“จำผิดคนรึเปล่าคะ ดิฉันมีนามว่าไนติงเกล ฟอร์ส ไม่ใช่จอห์น ซีน่านะคะ!”
“ไม่ผิดสักหน่อย ว่าแต่จอห์น ซีน่านี่ใคร? …อืม แต่คำพูดนั้นก็คงไม่เกินจริงสักเท่าไหร่”
ชายผมดำก้มหน้าลงมามองที่บริเวณขาของไนติงเกลอย่างพินิษ ส่งผลให้กลิ่นหอมของมินต์และดอกไม้ที่พยายามเมินอยู่นาน ลอยกลับเข้าจมูกอีกครั้ง
‘ค-โครตหอม…’
จังหวะนั้น เธอก็เหลือบเห็นโชคเกอร์บนบริเวณต้นคอของชายหนุ่ม นี่คือสิ่งที่เธอสังเกตุมาโดยตลอด เพราะมันคือสิ่งที่ดัชเชสฟอร์สไม่มี
‘โอเมก้าที่ยังไม่เลือกคู่จะสวมปลอกคอไว้ เพื่อป้องกันกรณีที่ถูกอัลฟ่ากัดโดยไม่เต็มใจ…’
“อึ่ก!”
เมื่อนึกถึงความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น เธอก็รีบดันไหล่ของเขาออกไปให้ห่าง ก่อนที่ตัวเองจะเผลอตัวกระโจนเข้าใส่อย่างลืมตัว
“เดี๋ยวสิ ทำอะไรเนี่ยคะ!? รักนวลสงวนตัวหน่อยสิคะ ดิฉันเป็นอัลฟ่านะ!”
“โอ้ โทษที พอเห็นเวทย์บนวิลแชร์แล้วมันก็อดไม่ได้น่ะ”
ชายหนุ่มเกาหัวอย่างรู้สึกผิด เมื่อเห็นเด็กสาวตรงหน้ารีบถอยหลังไปหลบหลังกำแพงเหมือนกระต่ายที่ตื่นกลัว
“เวทย์มนต์ที่สลักบนวิลแชร์ของคุณมันเจ๋งมากจนอดไม่ได้น่ะ คุณเป็นคนทำใช่ไหม?”
‘หะ เมื่อกี้เขาบอกว่าวิลแชร์มันทำไมนะ?’
ไนติงเกลทำสีหน้าว่างเปล่าไปพักหนึ่ง เพราะว่าเธอเข้าใจคำพูดของเขาที่บอกว่ามีพลังเวทย์สลักอยู่บนวิลแชร์ของเธอดี
เวทย์ที่สลักลงไปในสิ่งของนั้น มีความพิเศษในตัวมันเองอยู่แล้ว จึงไม่มีความจำเป็นต้องใส่เวทย์เพื่อควบคุมลงไปเพิ่ม
ยกตัวอย่างเช่น อ่างอาบน้ำที่สามารถเต็มได้เอง หรือเตาผิงที่ลุกไหม้ได้ตามต้องการ นี่คือความรู้พื้นฐานจากความทรงจำของไนติงเกล
‘ไอ้เราก็นึกว่าตัวเองเป็นคนเคลื่อนวิลแชร์มาตลอด แต่ที่แท้มันเป็นแบบอัตโนมัติหรอเนี่ย…’
“เกรงว่าคนที่ทำจะไม่ใช่ดิฉันหรอกค่ะ คงจะเป็นยอดจอมเวทย์สักคนมากกว่า…”
ต่อให้ไนติงเกล ฟอร์ส ก่อนหน้านี้จะเก่งเทพยังไง เธอก็ไม่คิดว่าวิลแชร์ตัวนี้จะเป็นสิ่งที่นักเรียนทำได้อยู่ดี
เพราะถ้าหากมันเป็นสิ่งที่ใครก็ทำได้จริง ๆ ป่านนี้บ้านทุกหลังก็คงจะมีอ่างอาบน้ำกับเตาผิงอัตโนมัติไปแล้ว
ชายหนุ่มมองสีหน้าเคว้งของเธออยู่สักพัก ก่อนจะพูดออกมาเพิ่มเติม
“แต่ผมไม่คิดอย่างนั้นนะ มาดูนี่สิ”
ถึงจะบอกว่ามานี่สิ แต่เขากลับเป็นฝ่ายที่เดินเข้ามาหาเอง
“เห็นร่องรอยตรงล้อนี่ไหม?”
เขาชี้มาที่ล้อวิลแชร์ ซึ่ง…ไม่เห็นจะมีอิหยัง แต่ไนติงเกลก็ต้องพยักหน้าตามน้ำไป
“เอ็นอ่ะ”
เด็กสาวพูดพลางบีบจมูกไปด้วย แต่ก็ไม่ได้ช่วยอะไรเท่าไหร่จึงเลิกทำ
“ลองใช้พลังดูสิ”
“หะ?”
“บอกให้ลองใช้เวทย์ดู”
‘เอ้า อะไรวะ จู่ ๆ ก็มาบอกให้ดูล้อรถ แล้วก็บอกให้ตูใช้เวทย์ซะงั้น?’
แต่เมื่อเห็นอีกฝ่ายเลิกคิ้ว เธอก็ได้แต่เลิกลั่ก
‘จะใช้เวทย์อะไรดีล่ะ!? ไอ้ที่คิดว่าตัวเองเป็นคนทำก็ดันกลายเป็นของอัตโนมัติ ทำไงดี ๆ!’
ก่อนที่ไนติงเกลจะได้เอ่ยปากปฏิเสธ ทันใดนั้นเอง จู่ ๆ อุณหภูมิบริเวณสวนหย่อมก็ลดลงกระทันหัน ประหนึ่งมีหิมะตกตอนแดดออก
และในตอนนั้นเอง หน้าต่างโปร่งใสบานหนึ่งก็ปรากฏขึ้นมาให้เห็น
[สกิล ‘เยือกแข็งเป็นวงกว้าง’ LV. 2 เปิดใช้งาน]
…
“หะ”
Extra
เรนอล โรเจอร์ “…”
คุณชายลีฟ “…”
คุณชายเจอร์เดอริก “…”
คุณชายนูว์ “…”
ไนติงเกล & ชายผมดำ “นู่นนี่นั่น บลา ๆ ๆ”
ทุกคน ‘ขอตื่นได้ยังอ่ะ?…’