ดิฉันคือนางร้ายในนิยายBL - ตอนที่ 29
‘ไม่รู้ว่าฟังผิดไปหรือเปล่า แต่เขาบอกว่าจำชื่อพี่สาวของตัวเองไม่ได้? จำชื่อคนในครอบครัวตัวเองไม่ได้อ่ะนะ??’
ไนติงเกลว่างงแล้ว แต่จูเลียซนั้นอาการหนักยิ่งกว่า ดวงตาสีฟ้าของเขาสั่นไหวด้วยความสับสน ปากก็พึมพัมแต่คำว่า ‘ทำไม?’ ไม่หยุด
“มิสเต– เฮ้ย!?”
ปึง!
เป็นจูเลียซที่ใช้ศีรษะของตัวเองโขกเข้ากับกำแพงจนเกิดเสียงดัง
“อา…เอ่อคือ”
โชคดีที่เขากำลังพักฟื้น แรงที่โขกไปที่กำแพงจึงไม่มากพอที่จะทำให้เกิดบาดแผล
“…มิสเตอร์จูเลียซ…”
ตอนแรกไนติงเกลตกใจจนสะดุ้งตัวโยน แต่ก็ค่อย ๆ กลับมาสงบเหมือนเดิม เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายใจเย็นลงแล้ว
เหลือเพียงความสงสารเท่านั้นที่อยู่ในสายตา…
‘ต้องมีอะไรเกิดขึ้นกับเขาแน่นอน’
“…ขอโทษ…ผมขอโทษครับ”
จูเลียซกล่าวขอโทษซ้ำไปมา โดยไม่รู้ว่ากำลังขอโทษเธอที่อยู่ตรงนี้ หรือคนที่จากไปแล้วกันแน่
เขาราวกับเด็กตัวเล็ก ๆ ที่ไม่รู้จะเอาความเจ็บปวดไปนี้ไว้ที่ไหน
‘นึกออกเลยว่าตอนนี้กำลังรู้สึกยังไง…แต่ว่า–’
*************
ตอนนี้จูเลียซกำลังจมอยู่ใต้น้ำ…ที่แห่งนี้ช่างมืดมิด และหนาวเหน็บราวกับจะกัดกร่อนไปจนถึงกระดูก
“…”
เขารู้ว่ามันไม่ใช่ใต้น้ำจริง ๆ …แต่คือภาพหลอนจากความรู้สึกผิดบาปในใจของเขาเอง
แต่ถึงกระนั้นชายหนุ่มก็ไม่ได้ต่อต้านมัน…
‘ลืม? แกลืมชื่อคนที่เลี้ยงตัวเองมาเนี่ยนะ?’
ปีศาจตัวหนึ่งโผล่ขึ้นมาตรงหน้าเขา
ใบหน้าของมันพร่ามัว และร่างกายก็ถูกปกคลุมไปด้วยหมอกควัน ทำให้ไม่รู้แม้แต่เพศสภาพ
“…เตอร์…”
‘ไอ้สารเลว ไอ้ขยะ ไอ้อกตัญญู!’
พริบตานั้น มันก็แยกร่างออกเป็นสองส่วน ปีศาจตัวที่สองมีรูปลักษณ์เหมือนกับมันไม่มีผิด
ฟึ่บ ฟึ่บ
จากนั้นก็แยกออกเป็นสิบ แล้วก็กลายเป็นร้อย จำนวนของมันเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ จนห้อมล้อมตัวของจูเลียซไว้ไม่ให้หนีไปไหน
ทุก ๆ ตัวต่างชี้นิ้วมาที่เขา
‘แกก็เป็นแค่ปลิงที่สูบเลือดสูบเนื้อทุกคน!’
“…เลียซ”
“อา…”
และในตอนนั้นเอง เขาก็ได้เห็นว่าใบหน้าของปีศาจทุกตัวนั้น…
มันคือตัวเขาเอง
‘คนอย่างแกไม่สมควรมีชีวิตอยู่ด้วยซ้ำ!!’
“มิสเตอร์จูเลียซ!!”
“…เฮือก!”
แฮ่ก แฮ่ก! เพียงแค่ชั่วครู่เดียวเท่านั้น แต่ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยเหงื่อเย็น ๆ
“เป็นอะไรไหมคะ?”
เป็นเสียงไพเราะของไนติงเกล ที่ปลุกจูเลียซให้ตื่นขึ้นมาจากห้วงความคิดตัวเอง
“อา ข-ขอโทษนะ–”
เขาตกอยู่ในสภาพย่ำแย่มาก จนลืมไปว่ายังมีใครบางคนอยู่ในห้องเดียวกัน
‘ดันแสดงท่าทางน่าขายหน้าออกไปซะแล้ว…’
ตอนนี้ดวงตาของเขาพร่ามัวจนมองไม่เห็นอะไรเลย แต่ว่านั่นก็ดีแล้ว…เพราะว่าเขาไม่อยากเห็นใบหน้าผิดหวังของเธอ เพื่อนเพียงคนเดียวของเขา
แต่กลับกัน ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ได้สนใจเรื่องนั้นสักเท่าไหร่
“มิสเตอร์จูเลียซ ดิฉันมีเรื่องอยากจะขอร้องค่ะ”
“…หะ?”
เขาส่งเสียงออกไปโง่ ๆ ด้วยความตกใจ ในเมื่ออีกฝ่ายเห็นสภาพน่าสมเพชแบบนี้แล้ว ยังอยากจะขอร้องให้เขาช่วยอะไรอีก?
‘อา…’
และในตอนนั้นเอง ดวงตาของเขาก็ได้ประสานเข้ากับอัญมณีคู่หนึ่ง
“ดิฉันเชื่อว่า ต้องมีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นกับความทรงจำของคุณแน่นอนค่ะ”
ดวงตาสีไข่มุกของมิสไนติงเกลกำลังจ้องมาที่เขา
**********
“ดิฉันเชื่อว่า จะต้องมีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นกับความทรงจำของคุณแน่นอนค่ะ”
เมื่อเห็นสภาพของชายหนุ่มแล้ว ไม่ว่ายังไงไนติงเกลก็ไม่มีทางเชื่อเด็ดขาด ว่าเขาจะแค่ลืมชื่อของพี่ตัวเองไปเฉย ๆ
ลืมหน้าน่ะพอเป็นไปได้ ตอนนั้นจูเลียซก็ยังเล็กอยู่ แถมเวลาก็ผ่านมานานแล้ว ความทรงจำจะขาดหายก็ไม่แปลก
แต่ชื่อเนี่ย…มันคือสิ่งที่แทนตัวตนของคน ๆ นั้น ถ้าถูกลืมชื่อ ก็เท่ากับว่าหายไปจากความทรงจำเลยไม่ใช่รึไง?
จนถึงตอนนี้ ไนติงเกลยังจำชื่อของคนที่เกลียดได้แม่นอยู่เลย เพราะงั้นมันจะเป็นไปได้จริง ๆ น่ะหรอ ที่เขาจะลืมชื่อคนที่รัก
“เพราะงั้นช่วยเล่าเรื่องของเธอให้ฟังหน่อยได้ไหมคะ?”
“…”
…
ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ แต่ในที่สุดจูเลียซก็กล้าที่จะอ้าปากออกมา
“ผ-ผม…อยู่กับพี่…ส-สองคน”
เสียงของเขาตะกุกตะกัก ราวกับว่าการพูดแต่ละทีก่อให้เกิดความเจ็บปวด
แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่มีใครหยุด…
จูเลียซยังคงพยายามเล่าออกมาด้วยความยากลำบาก เช่นเดียวกับไนติงเกลที่ยังอดทนตั้งใจฟังต่อไป
…
หลังจากฟังจนจบ ไนติงเกลก็นั่งครุ่นคิด
‘ดูยังไงก็ผิดปกติ…ราวกับว่ามีคนจงใจขโมยความทรงจำส่วนนั้นไป’
จูเลียซอ่อนไหวกับเรื่องของเธอคนนั้นมาก เพราะงั้นจึงเอาแต่โทษตัวเองที่บังอาจลืมเรื่องสำคัญที่สุดไป
‘ใครกัน ที่จะได้ประโยชน์จากความสิ้นหวังของนายเอก?’
คนเดียวที่เธอนึกออกก็คือ…นางร้ายหลักของเรื่อง ‘ไนติงเกล ฟอร์ส’ …แต่ก็ต้องปัดทิ้งไป เพราะว่าตัวเธอเข้ามาอยู่ในร่างนี้ก่อนที่เนื้อเรื่องนิยายจะเริ่มขึ้น
เท่ากับว่านี่คือครั้งแรกที่เธอได้พบกับจูเลียซ เพราะงั้นไม่มีทางที่ไนติงเกลตัวจริงจะรู้จักเขามาก่อนแน่นอน…
‘แต่ว่านั่นก็คือในกรณีที่เป็นไปตามนิยายต้นฉบับอ่ะนะ…’
หลังจากเจอนิสัยของตัวละครหลาย ๆ ตัวที่ผิดแปลกไป รวมทั้งเจอตัวละครลับที่ไม่ได้โผล่มาในนิยาย ทำให้เธอไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่าอะไรจะเกิดขึ้นอีกกันแน่
เพราะงั้นจึงยังตัด ‘ไนติงเกล’ ออกจากการเป็นผู้ต้องสงสัยไม่ได้…
แต่แค่ขโมยชื่อ เพื่อทำให้นายเอกเกลียดตัวเองเนี่ยนะ? เรื่องมันจะมีแค่นั้นจริง ๆ น่ะหรอ? นี่มันยังกับเป็นการกลั่นแกล้งของเด็กไม่มีผิด…
‘แม่งเอ้ย! สรุปมันคือเนื้อเรื่องที่ต่างไปจากนิยาย หรือคนเขียนแค่ลืมเล่ากันแน่ฟะ!!’