ดิฉันคือนางร้ายในนิยายBL - ตอนที่ 0
ณ อพาร์ตเมนต์ที่ไหนสักแห่งบนโลก
มีเสียงพลิกหน้ากระดาษดังไปทั่วห้อง ต้นเสียงคือหญิงสาวที่นอนอ่านหนังสืออยู่บนเตียง
เธอมีใบหน้าธรรมดา ไม่ได้ขี้เหร่ แต่ก็ไม่ได้สวย สวมแว่นหนาเตอะ อายุประมาณ 20 มาตรฐานเด็กมหาลัย เธอกำลังอ่านนิยายที่เพื่อนสนิทแนะนำมาให้ และก็พบว่ามัน…
“โครตน่าเบื่อ”
แต่ถึงจะพูดอย่างนั้น เสียงพลิกหน้ากระดาษก็ไม่ได้หายไปไหน กลับกันความเร็วดันเพิ่มขึ้นอีกต่างหาก
พรึ่บ ๆ ๆ
จากมุมมองคนนอก คงดูเหมือนเธอกำลังอ่านผ่าน ๆ ไม่ใยดี แต่ความจริงแล้วรายละเอียดทุกตัวอักษรนั้นเข้ามาในสมองหมดทุกอย่าง
มันคือความสามารถพิเศษเพียงอย่างเดียวที่เธอมี ‘การอ่านไว’
อยู่มาวันหนึ่ง เพื่อนสนิทของเธอก็แนะนำ(ยัดเยียด)นิยายมาให้ มีชื่อว่า ‘My Omega’
หน้าปกเป็นรูปผู้ชายสองคนจ้องหน้ากันด้วยสายตาหวานชื่น ซึ่งไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเป็นแนวอะไร แต่เผื่อสำหรับใครที่ตาถั่วมองไม่ออกจริง ๆ ทางสำนักพิมพ์ก็ใจดีแปะป้ายตัวโต ๆ เอาไว้ว่า (BL)
พล็อตเรื่องก็ง่าย ๆ นายเอก หรือก็คือคนผมสีดำที่อยู่บนปก บุตรชายบุญธรรมของพ่อค้าที่ไต่เต้าขึ้นมาจนเป็นขุนนางยศบารอน เข้าไปเรียนในโรงเรียนเวทย์มนต์เฉพาะขุนนางเท่านั้น ก่อนจะได้พบรักกับ พระเอก ใช่ ไอ้คนผมสีน้ำเงินข้าง ๆ กันนั่นแหละ
ซึ่งแน่นอนว่าถ้ามีพระนางแล้ว ก็ต้องมีนางร้ายถูกไหม?
“โห จะหักขานายเอกเลยหรอ…อีนางร้ายนี่โหดจริง ๆ”
เธอส่ายหัวให้กับความโหดร้ายของ ‘ไนติงเกล ฟอร์ส’
นางร้ายเรื่องนี้ก็ไม่มีอะไรมาก ก็แค่นางอิจฉาทั่วไปในละครหลังข่าว ซึ่งเป็นจุดศูนย์รวมความเกลียดชังของเรื่อง ได้แก่พฤติกรรมขี้อิจฉา และเกลียดนางเอกม้ากกกกมาก ประหนึ่งชาติที่แล้วถูกนางเอกโยนระเบิดใส่บ้าน
แต่ก็นะ…โดนแย่งผัวไปจะไม่ให้เกลียดได้ไงอ่ะ
แต่เธอก็ไม่ได้เห็นใจนางร้ายอย่างไนติงเกลแต่อย่างใด เพราะอะไรน่ะหรอ? ก็ดูสิ นางวางแผนจะฆาตกรรมนายเอกอีกแล้ว นี่ก็ปาไปรอบที่ 17 แล้วนะ…จะว่าไปแล้ว นายเอกนี่ก็ถึกทนดีจริง ๆ
ตอนแรกมาก็ลุ้นดีอยู่หรอกว่านางจะรอดยังไง แต่พอรอบที่ 3 รอบที่ 4 ผ่านไปก็แบบ…อ๋อ อีกแล้วหรอ? อืม ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวอีตาพระเอกมันก็มาช่วยเองแหละ
โชคดีที่นิยายเล่มนี้มีเล่มเดียวจบ ทำให้เธออดทนอ่านจนจบก่อนที่จะได้เขวี้ยงทิ้งเสียก่อน
ซึ่งฉากจบก็ไม่มีอะไรมาก ก็แค่ประหารชีวิตนางร้ายได้สำเร็จ แล้วพระนางก็ได้กัน พิเศษหน่อยก็ตรงที่ว่าเป็นโอเมก้าเวิร์ส นายเอกก็เลยท้องได้ มีลูกแฝดแฮปปี้ปิ้ง ๆ จบ
“เฮ้ออ ตาแห้งชะมัด”
หญิงสาวเอาหน้าซุกหมอนจากอาการล้า…อ่านหนังสือ 2 ชั่วโมงต่อเนื่องนี่ไม่ง่ายเลยจริง ๆ
เอาจริง ๆ ถ้าเธอไม่หยุดพักด่าเนื้อเรื่องเป็นช่วง ๆ ก็คงจะอ่านจบไปตั้งแต่ 15 นาทีแรกแล้ว
นอนคิดเรื่อยเปื่อยสักพัก ความง่วงก็เข้าถาโถม
‘โอย ยังไม่ได้ล้างหน้าเลย…เออ ช่างเหอะ’
จากนั้นภาพก็ตัดไปทั้งอย่างนั้น
********************************************************************************
เมื่อตื่นขึ้นมาอีกทีก็พบว่าแสงแดดแยงตาแล้ว เธอเดาว่าตอนนี้คงเป็นเวลาประมาณ 7 โมงเช้า เพราะเสียงนกร้องที่คุ้นเคยดังแจ้งเตือนทุกครั้ง ประหนึ่งห้องติดกับป่า
ว่าแต่กี่โมงนะ… 7 โมง?
“…สายแล้วนี่หว่า”
พรึ่บ!
หญิงสาวรีบลุกพรวดขึ้นมาทันที ก่อนที่จะหงายหลังล่มลงไปนอนกับที่เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
‘หะ?’
จู่ ๆ เธอก็ลุกไม่ขึ้นซะอย่างนั้น ราวกับว่าร่างกายส่วนล่างของเธอไม่มีอยู่…
เธอรีบเลิกผ้าห่มขึ้นมาตรวจดูขาของตัวเองก่อนเป็นอย่างแรก โดยที่ไม่ได้รู้สึกผิดปกติกับผ้าห่มที่ไม่คุ้นเคยเลยแม้แต่น้อย
และปรากฏว่าขาสองข้างที่อยู่กับเธอมาตลอด 20 ปีนั้น…ก็ยังอยู่ แต่แค่ขยับไม่ได้เท่านั้นเอง
“เท่านั้นเองก็บ้าแล้ว!! แล้วนี่มันขาใครเนี่ย ขาฉันไม่ได้ขาวขนาดนี้สักหน่อย!!?”
หญิงสาวขยับตัวดุ้กดิ้กอยู่บนเตียง เพราะว่าช่วงล่างใช้การไม่ได้ สภาพตอนนี้จึงดูเหมือนปลาดุกที่พยายามว่ายออกจากกระชอน
ตุบ! ท้ายที่สุดเธอก็ตกลงมาบนพื้น
“โอยย เจ็–…”
ก่อนจะนิ่งเงียบไป เพราะเห็นบุคคลที่อยู่ตรงหน้า
‘…ว้าว นี่มันค่อนข้างตะลึงเลยแหะ’
ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา ไม่เคยมีครั้งไหนที่เธอคิดว่า ‘โอ้ ผู้ชายคนนั้นหล่อจัง’ หรือ ‘โหย ผู้หญิงคนนั้นสวยจังเลย’ เลยสักครั้ง
แต่พอมาตอนนี้…ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้ากลับดูเปล่งประกายยิ่งกว่าสิ่งใด
ผมสีไข่มุกหย่อนตัวลงมาถึงเอว และดวงตาสีเดียวกันที่ถูกล้อมรอบไปด้วยขนตางอนยาว
ในชีวิตนี้หญิงสาวไม่เคยเห็นใครงดงามได้เท่านี้มาก่อน ทำเอาซะเธออยากจะขอแต่งงานเลย
–ถ้าไม่ติดว่าเมื่อเธอยกมือซ้ายขึ้นแล้ว สาวงามคนนั้นก็ทำตามอ่ะนะ
“…”
คราวนี้เธอลองขยับมือขวาดู อื้ม ไหนลองมือซ้ายอีกรอบดูซิ? อ้า!
“ชัดเจน ตัวกูเอง”
สาวงามคนนั้นคือภาพสะท้อนของกระจกค่าคุณขาาาา!!!