ดาบผู้พิทักษ์ปริศนาของบุตรชายตระกูลบารอน - ตอนที่ 3
เลกซ์ยืนมองตัวเด็กสาวที่คนของเขาจับมา ณ คุกใต้ดินของฐานลับที่มืดสลัว
ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความชั่วร้าย เหมือนกำลังสะใจที่ได้เห็นคริสต์ผู้ทำให้เขาต้องอับอายในตอนกลางวันตกอยู่ในสภาพที่ถูกพันธนาการด้วยกุญแจมือผนึกเวทภายในกรงขังสนิมเขลอะ
“รู้สึกเป็นยังไงบ้างล่ะ?” เขาเอ่ยถามเยาะเย้ย
“อ๋อ นึกว่าใครที่ไหน เจ้าหมาขี้แพ้นี่เอง แกจับฉันมาทำไม…?” เด็กสาวไม่สนใจที่จะตอบคำถามไร้สาระ เธอพูดถากถางออกมาก่อนจะถามถึงสิ่งที่เธออยากรู้ว่าผู้ชายตรงหน้าส่งคนมาจับตัวเธอทำไม แต่ดูเหมือนว่าสมองของชายตรงหน้าจะได้ยินแต่คำด่า
สีหน้าเยาะเย้ยของเขาเปลี่ยนไปเป็นบิดเบี้ยวเพราะความโกรธ
“หมาขี้แพ้งั้นเหรอ…?! บอกไว้ก่อนเลยว่าที่ฉันแพ้เธอตอนกลางวันเพราะฉันประมาทต่างหาก ถ้าฉันเอาจริงขึ้นมาอย่างเธอน่ะสู้ฉันไม่ได้สักนิด…!!”
“อ๋อเหรอ งั้นก็มาสู้กันซะตอนนี้เลยสิ” เธอพูดแหย่ออกมาพร้อมกับยกแขนขวาที่ถูกลล็อกด้วยกุญแกมือผนึกพลังเวท แต่ดูเหมือนว่าวิธีการแบบนี้มันเป็นไปไม่ได้ที่ใครจะหลงกล
“หึ! คิดว่าฉันโง่รึไง จะดูถูกใครก็ให้มันน้อย ๆ หน่อย”
“แล้วสรุปแกจับฉันมาทำไม?” เมื่อเบื่อที่จะพูดเรื่องไร้สาระ เธอจึงถามถึงสิ่งที่เธออยากรู้ในตอนแรกขึ้นมาอีกครั้ง
“แล้วเธอคิดว่าทำไมกันล่ะ?”
เลกซ์กลับมารักษาท่าทีใจเย็นก่อนจะยกยิ้มขึ้นมาอีกครั้ง
“เพื่อแก้แค้นที่ฉันทำให้แกอับอาย? หรือเพื่อกำจัดฉันที่ปฏิเสธข้อเสนอของพวกแกและอาจจะเป็นเสี้ยนหนามในอนาคต?”
“ทั้งสองอย่าง และก็มีเหตุผลอย่างที่สามด้วย”
“เหตุผลอย่างที่สาม?” เธอขมวดคิ้วพยายามทำความเข้าใจ
“มันเป็นเหตุที่ทำให้ฉันไม่กำจัดเธอทิ้งไปตั้งแต่แรกยังไงล่ะ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า… ฉันจะทำอะไรเธอไม่ได้”
เลกซ์เปิดลูกกรงเดินเข้าไปหาตัวของคริสต์ ใบหน้าของเขาที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มในตอนแรกแปรเปลี่ยนไปเป็นความชิงชังและเคียดแค้น และทันใดนั้นเขาก็ได้เตะเข้าไปที่ท้องของเธอด้วยพลังเวทที่อัดแน่น จนตัวเด็กสาวที่ถูกผนึกพลังเวทไว้ไม่สามารถทนต่อการโจมตีที่รุนแรงได้
“อึก…!!” และได้สลบลงไปอย่างไร้ทางต่อต้าน
เลกซ์มองร่างที่ไร้สติของเธอ เขายังคงรู้สึกถึงความเจ็บปวดจากการโดนทรมาน ทั้งหมดเป็นเพราะผู้หญิงตรงหน้า เพราะเขาพ่ายแพ้เธอและเสียโอกาสที่จะดึงตัวเธอมา ทำให้เคาน์เดเลอมาร์ไม่พอใจเป็นอย่างมากจนในทันทีที่กลับไปถึงคฤหาสน์ของตน เคาน์เดเลอมาร์ก็เริ่มทำการลงโทษเขาอย่างหนัก โดยการทรมานด้วยแท่งเหล็กร้อน
ความทรมานที่เขาได้สัมผัสนั้นได้ฝังลึกลงไปในจิตใจ เหตุใดที่เขาต้องเจอกับอะไรแบบนี้ ทั้งหมดมันเป็นเพราะเด็กสาวที่แสนโง่เง่าและครอบครัวของเธอที่ไม่ยอมรับข้อเสนอของพวกเขา มันทำให้เขารู้สึกเคียดแค้นอย่างมาก และเขาก็ต้องการที่จะแก้แค้น
อย่างไรก็ตาม คำสั่งที่ให้จับตัวเธอนั้นกลับพ่วงมาด้วยข้อห้ามที่ไม่ให้ทำร้ายเธอ
“ทำไมองค์ชายถึงต้องให้จับตัวยัยนี่มาด้วย แค่กำจัดไปก็พอแล้วหนิ”
แม้จะไม่พอใจกับคำสั่งที่ได้ แต่เลกซ์ก็ยอมทำตามแต่โดยดี เพราะหากไม่มีอะไรผิดพลาด เขาก็จะสามารถแก้ไขความอับอายของตัวเองได้ รวมถึงยังรับความโปรดปรานจากองค์ชายลำดับที่หนึ่ง
แล้วพอมาคิดอีกที ถึงแม้เขาจะไม่ได้แก้แค้นตัวคริสต์โดยตรง แต่หากจับครอบครัวของเธอมาทรมานให้เธอเห็น แค่จินตนาการถึงใบหน้าที่สิ้นหวังและเสียงกรีดร้องอ้อนวอนขอความเมตตาของเธอก็ทำให้เขารู้สึกสุขสุดยอดแล้ว
“หึหึ รอก่อนเถอะ” ขณะที่เลกซ์กำลังพึมพำด้วยรอยยิ้มโรคจิต ทหารนายหนึ่งก็วิ่งมาหาเขา
“ท่านเลกซ์ครับ! แย่แล้ว! มีผู้บุกรุกครับ!!”
“ผู้บุกรุกงั้นเรอะ?! เป็นไปได้ยังไง ไม่น่าจะมีใครตามรอยเราได้ไวขนาดนี้หนิ!!” สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปเป็นตื่นตระหนก ไม่เข้าใจถึงสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด
“แล้วผู้บุกรุกมีกี่คน?”
“คนเดียวครับ! ที่เห็นมีเพียงคนเดียว… แต่มันจัดการพวกเราไปเกินยี่สิบนายแล้วครับ!!”
“เป็นไปได้ยังไงกัน?” เขาไม่เชื่อสิ่งที่ได้ยิน
ทหารที่ทำการเฝ้าระวังอยู่ ณ ฐานลับใต้ดินแห่งนี้ทุกนายล้วนแล้วแต่มีฝีมือ บางคนถึงขนาดมีความสามารถเกือบเทียบเท่าทหารรักษาพระองค์ ทั้ง ๆ ที่เป็นอย่างนั้นทหารกว่ายี่สิบนาย ซึ่งเกือบจะถึงครึ่งนึงของทหารที่เฝ้าระวังทั้งหมดกลับถูกจัดการโดยผู้บุกรุกแค่เพียงคนเดียว
สถานการณ์ไม่คาดคิดที่เกิดขึ้นนั้นเป็นไปทางที่เลวร้ายอย่างเห็นได้ชัด
“ถึงเราจะมีดาบนี่อยู่ก็เถอะ…”
เลกซ์มองลงไปยังดาบที่เหน็บอยู่ข้างเอว มันเป็นดาบมนตราที่เขาได้รับมาจากเคาน์เดเลอมาร์ซึ่งเป็นสมบัติส่วนตัว แม้เคาน์เดเลอมาร์จะบอกว่าดาบเล่มนี้สามารถช่วยเหลือเขาจากอันตรายได้ แต่เขาก็ยังไม่มั่นใจอยู่ดี
“จริงสิ เดอาโกล่ะ เดอาโกอยู่ไหน…!?”
เลกซ์ตะโกนเรียกถึงอัศวินองครักษ์ของเคาน์เดเลอมาร์ เดอาโกคือนักดาบเวทผู้มีฝีมือถึงระดับ ‘ปรมาจารย์ดาบ’ ที่มีอยู่น้อยคนนักในราชอาณาจักรเรเวแนนท์ และเดอาโกคนนั้นก็ได้ถูกส่งตัวมาช่วยเหลือเขาเช่นเดียวกับดาบมนตรสำหรับการทำภารกิจจับตัวบุตรสาวของบารอนแลสเซนเนอร์
“ข้าอยู่นี่นายน้อยเลกซ์”
โดยในทันทีที่เรียกหา เดอาโกก็ปรากฏตัวขึ้นเข้ามาในสายตาของเขา ชายวัยกลางคนในชุดสไตน์เมดิเอเวิลเดินผ่านแสงไฟสลัวเข้ามาโดยเหน็บดาบไว้ข้างเอว ซึ่งเมื่อเขาเห็นคนที่ตามหาสีหน้าของเขาก็เริ่มดูดีขึ้นเพราะความเชื่อมั่นในตัวชายตรงหน้า
“เดอาโก นายน่าจะรู้เรื่องผู้บุกรุกแล้ว ฉันอยากให้นายไปจัดการผู้บุกรุกซะ”
“ข้าไม่จำเป็นต้องไปไหนหรอก” เดอาโกกล่าวขึ้น ก่อนจะมองไปยังประตูที่ปิดคั้นระหว่างคุกใต้ดินที่พวกเขาอยู่และบันไดที่เป็นเส้นทางสู่สถานที่แห่งนี้
“หมายความว่ายังไง?”
ทันใดนั้น ประตูคุกใต้ดินก็แตกออกพร้อมกับร่างเล็กของใครบางคนที่ได้พุ่งเข้ามาหยุดอยู่เบื้องหน้าของพวกเขา เลกซ์มองผู้บุกรุกที่ปกปิดใบหน้าอยู่ใต้ผ้าคลุมสีน้ำตาลและเข้าใจในทันที
ไม่จำเป็นต้องไปตามหาที่ไหน เพราะผู้บุกรุกได้บุกมาถึงที่แล้ว
—๏๏๏—
ผมมองชายสามคนที่ผมเจอทันทีที่เข้ามาถึงคุกใต้ดิน
หนึ่งคนนั้นคุ้นหน้าคุ้นตาคือเลกซ์ อีกคนเป็นทหารธรรมดาที่ยืนแสดงท่าทีหวาด ๆ ส่วนอีกคนเป็นชายวัยกลางคนร่างกายทะมัดทะแมงที่แผ่บรรยากาศกดดันออกมาอยู่ตลอดเวลา
ซึ่งทันที่เห็นพวกเขาผมก็เข้าใจในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด
หากดึงมาเป็นคนของตัวเองไม่ได้ก็ต้องกำจัดงั้นเหรอ…?
ความรู้สึกเดือดดาลเริ่มคุกรุ่นภายในจิตใจ ถึงแม้ผมจะพอคาดเดาเรื่องของเรื่องได้ตอนที่ยังไม่ได้เดินทางมาถึงที่นี่ แต่มันก็อดไม่ได้ที่จะไม่พอใจจริง ๆ เพียงเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง เลยไม่สนใจว่าจะต้องทำร้ายใครบ้าง แม้จะเป็นเด็กอายุสิบห้าปี
การกระทำอันชั่วร้ายที่เกิดจากความหวาดกลัวที่จะสูญเสียอำนาจ ไม่ว่าจะโลกไหน ๆ ถ้ายังคงมีมนุษย์อยู่ในโลกนั้นล่ะก็ มันคงเป็นเหมือนกันหมดสินะ …ไม่สบอารมณ์เลย
“แกเป็นใคร?!”
โดยไม่สนใจเสียงร้องเรียกของเลกซ์ ผมได้กวาดสายตามองไปโดยรอบเพื่อหาตัวพี่คริสต์ และผมก็ได้พบตัวเธอที่สลบเหมือดอยู่อยู่ในกรงขังสนิมเขลอะ รวมทั้งผมยังได้เห็นถึงร่องรอยการทำร้ายร่างกายของเธอ
จุดที่เธอสลบอยู่มีละอองเวทปั่นป่วนในอากาศอยู่ แสดงว่ามีคนทำร้ายเธอโดยที่ใช้พลังเวทในการเพิ่มความรุนแรง ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าเธอไม่สามารถทนรับการโจมตีได้เพราะพลังเวทถูกผนึกอยู่
ผมมองไปรอยเท้าที่ติดอยู่บนชุดนอนตัวบางของเธอ ก่อนจะหันไปมองเลกซ์พร้อมกับลดผ้าคลุมที่ปิดบังไม่หน้าลง
“ปล่อยพี่สาวของฉันซะ ไม่งั้นฉันจะฆ่าแก”
“แกคือ… น้องชายของยัยนี่งั้นเหรอ?” เลกซ์ดูไม่เชื่อในสิ่งที่เห็นสักเท่าไหร่
ดูจากสีหน้าของเขา ดูเหมือนว่าเขาจะตามสืบเรื่องพรสวรรค์ของพี่สาวได้ แต่ไม่ได้รู้อะไรเกี่ยวกับตัวผมเลย ซึ่งผมก็ไม่แปลกใจเพราะผมไม่เคยแสดงความสามารถออกมาเลยสักครั้ง
แม้กระทั่งกับคนในตระกูลก็ไม่มีใครรู้ ถึงจะยกเว้นพี่คริสต์เอาไว้คนนึง เพราะผมเคยแสดงมันออกมาตอนที่ไปบุกรังโจรกับเธอ แต่เธอก็ไม่ได้เห็นถึงความสามารถอะไรของผมอยู่ดีเพราะสลบเหมือดไปเพราะลูกศรยาสลบซะก่อน
ทำให้ในสายตาของทุกคน ผมคือบุตรชายของบารอนแลสเซนเนอร์ที่ไม่ได้มีความสามารถอะไร มันคงทำให้นายน้อยหยิ่งยโสตกใจเพราะไม่คาดคิดว่าผมจะเป็นผู้บุกรุกและเป็นคนที่จัดการกับคนของเขาไปหลายสิบราย ไม่สิ เขาดูไม่คิดจะเชื่อด้วยซ้ำ
“ฉันก็ไม่รู้ว่าแกบุกเข้ามาที่นี่ได้ยังไงหรอกนะ แต่อย่าหวังว่าจะรอดกลับไปได้!”
เขาแสดงท่าทีผ่อนคลายออกมา ก่อนจะชักดาบข้างเอวของตนออกมา
รอยยิ้มที่ส่งมาให้ผมเหมือนกับจะบอกว่าฉันใช้ดาบนี้ฆ่าแกภายในพริบตา มันช่างดูโง่เขลา ผมที่ไม่มีอารมณ์จะต่อล้อต่อเถียงจึงทำแค่เพียงตั้งกระบวนดาบเตรียมพร้อมที่จะต่อสู้ แต่ดูเหมือนว่าฝ่ายตรงข้ามยังต้องการสาธยายบางอย่างออกมา
“แกรู้รึเปล่าว่าดาบในมือของฉัน มันคือดาบอะไร?”
เลกซ์โชว์ดาบเคลย์มอร์ในมือของตัวเองขึ้น มันเป็นดาบที่ไม่ได้มีลักษณะแตกต่างไปจากดาบเคลย์มอร์ทั่วไปเท่าไหร่ ทำให้มันไม่ได้ดูโดดเด่นอะไร แต่ด้วยตัวด้ามจับและครอสการ์ดที่มีสีดำและทองตัดกัน ทำให้มันดูเป็นดาบที่ดูดีพอตัว
และที่สำคัญคือ ดาบนั่นมันแผ่พลังเวทออกมาหนาแน่นจนเห็นเป็นออร่าสีแดงเลยทีเดียว บอกได้เลยว่าดาบเล่มนั้นไม่ใช่ดาบธรรมดา อย่างน้อย ๆ ต้องเป็นดาบมนตราแน่ ๆ
“มันคือดาบมนตรา ‘มิดการ์เดอร์’ ดาบที่เป็นถึงหนึ่งในสิบสามดาบมายา มันสามารถเพิ่มความหนาแน่นของพลังเวทของผู้ใช้ให้เป็นทวีคูณได้ รวมถึงยังสามารถถ่ายเทพลังเวทลงไปในตัวดาบได้ถึงหนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์”
เขาชี้ดาบมาทางผม
“กับตัวฉันที่มีดาบเล่มนี้ แกไม่มีทางชนะได้หรอก!”
“พูดจบรึยัง?” ผมพูดขึ้นด้วยความรำคาญ
ถึงกระนั้น ความระมัดระวังของผมก็เพิ่มขึ้นเพราะดาบมนตราในมือของเขา หากความสามารถของดาบเล่มนั้นเป็นอย่างที่บอกมาจริง ๆ การจบการต่อสู้อย่างรวดเร็วคือตัวเลือกที่ดีที่สุด เพราะผมรู้ว่าดาบมิธริลในมือของผมไม่สามารถรับการโจมตีที่รุนแรงของดาบเล่มนั้นได้แน่
แถมยังมี…
ผมเหลือบตามองไปยังชายวัยกลางคนที่ยืนดูตัวผมอย่างเงียบเชียบและบรรยากาศกดดันออกมาตลอดเวลา บ่งบอกอย่างชัดเจนว่าเขาแข็งแกร่งมาก เขาไม่มีท่าทีที่จะขยับเขยื้อนหรือเข้ามาโจมตี ผมไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงยังไม่เคลื่อนไหว หรือเขากำลังรอดูการต่อสู้ของผมกับเลกซ์อยู่
ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร ผมก็ไม่สนใจหรอก เพราะผมต้องช่วยพี่สาว
ตรวจคำผิด 12/11/2022 เวลา 00:56 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด 12/11/2022 เวลา 02:20 น.