ดั่งรักบันดาล - ตอนที่ 90
หร่วนซือซือนิ่งไปชั่วครู่ ภายในใจของเธอลังเล
เธอยังไม่คิดเลยว่าเมื่อไหร่จะกลับไปทำงานที่อวี้กรุ๊ป ไม่ว่าจะพูดอย่างไรนั่นก็เป็นบริษัทของอวี้อี่มั่ว หากว่าเธอกลับไป เงยหน้าไม่เห็นแต่ก้มหน้าก็ต้องเห็นอยู่ดี เลี่ยงไม่ได้ที่จะอึดอัด
คุณหลานถาม "ได้ยินว่าเธอล้มภายในบ้านและยังรักษาตัวที่โรงพยาบาล ตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง? มาทำงานได้หรือเปล่า?"
หร่วนซือซือนั้นลังเล "ก็ดีขึ้นมากแล้ว แต่…"
ไม่รอให้เธอพูดจบ คุณหลานก็กล่าวว่า "ซือซือ ถ้าเธอสามารถมาทำงานได้ พรุ่งนี้ก็มาเถอะ ช่วงนี้ที่บริษัทวุ่นวายมาก ที่แผนกมีพนักงานไม่พอ เธอมาทำงานได้ฉันเองก็พอโล่งใจ เป็นช่วงปลายไตรมาสที่สองของปีนี้ ถ้าเธอสามารถกลับมาได้ก็สามารถยื่นปรับเงินเดือนได้"
ปรับเงินเดือน?
สายตาของหร่วนซือซือนั้นมีแสงจ้าขึ้น
อวี้กรุ๊ปในหนึ่งปีสามารถปรับเงินเดือนได้สองครั้ง ครั้งแรกในช่วงกลางปี ครั้งที่สองในช่วงปลายปี แม้ว่าเธอจะไม่ประสบความสำเร็จมากนักในช่วงสองปีที่ผ่านมา แต่เธอก็ทำงานอย่างหนักเพื่อที่จะได้เพิ่มพูนทักษะของเธอ เธอรอโอกาสเช่นนี้มาหกเดือนแล้ว แล้วเช่นนี้เธอจะพลาดได้อย่างไร?
ยิ่งไปกว่านั้นถ้าเธอออกจากอวี้กรุ๊ป ในเวลานี้การหางานอาจไม่ใช่เรื่องง่าย แถมเงินเดือนของอวี้กรุ๊ปก็ถือว่าดีมากในวงการนี้ หากว่าเธอออกจากงานในเวลานี้ก็เหมือนกับเธอรนหาที่ตายหรือเปล่า?
หร่วนซือซือกัดริมฝีปากของเธอ ภายในใจของเธอนั้นเก็บความกังวลเอาไว้และกล่าว "คุณหลาน ถ้าเป็นไปได้ พรุ่งนี้ฉันจะไปทำงาน"
เมื่อได้ยินเธอกล่าวเช่นนั้น ผู้จัดการหลานก็โล่งใจ "ได้ งั้นพรุ่งนี้เธอมารายงานตัว"
เมื่อวางสาย หร่วนซือซือก็สูดลมหายใจเข้าและเดินตรงไปยังบ้านของเธอ
เมื่อถึงบ้าน คุณนายหลิวก็คว้ามือของเธอเอาไว้และถามในทันที "เป็นอย่างไรบ้าง? เด็กชายคนนั้นไม่เลวเลยใช่ไหม"
"ก็ดีมาก" หร่วนซือซือตอบรับ แต่ภายในใจกลับเป็นอีกด้าน
คุณนายหลิวอดไม่ได้ที่จะไล่ถาม "อะไรคือดีมาก? พวกแกคุยอะไรกัน? พูดมาให้ฟังหน่อย…"
ภายในใจของหร่วนซือซือนั้นสับสนวุ่นวาย เธอกล่าวเบาๆ "แม่ ฉันอยากอยู่เงียบๆ พรุ่งนี้ฉันต้องไปทำงาน.."
"ทำงาน?"
เมื่อได้ยินว่าหร่วนซือซือบอกว่าจะกลับไปทำงาน คุณนายหลิวก็สงบจิตสงบใจไม่ได้อีกครา "แกแน่ใจเหรอว่าจะกลับไปทำงาน?"
เมื่อถึงเวลาที่จะต้องเจออวี้อี่มั่ว พวกเขาทั้งสองจะไม่อึดอัดใจงั้นเหรอ?
หร่วนซือซือสูดลมหายใจเข้าลึกๆและกล่าว "แม่ ฉันคิดดีแล้ว ไม่เป็นอะไรฉันอยู่ในแผนกธุรการและฉันก็ไม่ได้เจอเขาบ่อยนัก"
เมื่อกล่าวจบ คุณนายหลิวก็พยักหน้าและไม่อยากพูดอะไรมากมายนัก
ภายในใจของหร่วนซือซือยังคงปลอบใจตัวเอง แต่เธอไม่คาดคิด กลับมาทำงานในวันแรก คุณหลานก็จัดเตรียมแผนงานให้เธอไปช่วยท่านประธาน
"จื่อหัน ซือซือ ตอนนี้ที่แผนกมีโครงการ ทุกคนนั้นวุ่นวายมาก วันนี้ประธานต้องรับแขกต่างชาติอีกครั้งดังนั้นงานต้อนรับและเลขาต้องให้พวกเธอทั้งสองคอยจัดการ"
เมื่อกลับไปทำงานในวันแรก หร่วนซือซือได้ยินแผนงานที่ต้องรับผิดชอบของเธอแล้วก็อดไม่ได้ที่จะเวียนศีรษะ
ขอให้เธอช่วยทีมเลขา คอยรับแขกชาวต่างชาติ นี่มันเลี่ยงไม่ได้เลยที่จะต้องพบเจอกับอวี้อี่มั่ว
ผู้จัดการหลานเงยหน้าขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจ เธอเห็นว่าหร่วนซือซือกำลังเหม่อลอย เธอจึงถาม "ซือซือ เป็นอะไรไป?"
หร่วนซือซือหายใจเข้าลึกๆและรีบกล่าว "เปล่า เปล่าเลย"
ในเมื่อเธอตกลงที่จะกลับมาทำงานแล้ว เธอเองก็ไม่สามารถเลือกได้ จะไปแสดงความเห็นได้อย่างไร
เมื่อเห็นท่าทีเช่นนี้เมิ่งจื่อหันที่อยู่ข้างกายก็ฉายแววตาเย็นชาและยิ้มเยาะจากนั้นก็ถาม "ผู้ช่วยหร่วน อาการของคุณนั้นยังฟื้นตัวไม่ดีหรือเปล่า? คุณมีสภาพจิตใจแบบนี้ เมื่อถึงเวลาที่พบแขกชาวต่างชาติแล้วจะไหวจริงๆเหรอ?"
บนพื้นผิวคำพูดเหล่านี้ฟังดูเหมือนห่วงใย แต่หร่วนซือซือนั้นไม่ได้โง่ เธอฟังออกว่าภายในคำพูดเหล่านั้นมีวาจาถากถางซ่อนอยู่
เธอทำตัวร่าเริงสดใสและส่งยิ้มให้กับเมิ่งจื่อหัน "ผู้ช่วยเมิ่ง วางใจเถอะ ฉันพักผ่อนมาหลายวัน ฉันมีแรงและสภาพจิตใจเข้มแข็งปกติดี"
ได้ยินเธอพูดเช่นนี้ รอยยิ้มบนใบหน้าของเมิ่งจื่อหันก็แข็งทื่อ เธอละสายตาและไม่พูดอะไรอีก
คุณหลานหลานกระแอมในลำคอและพูดว่า "พอได้แล้ว พวกเธอไปเตรียมตัวได้แล้ว เดี๋ยวต้องไปช่วยทีมเลขาแล้ว"
หลังจากออกมาจากห้องทำงานของหัวหน้า เพื่อนร่วมงานในสำนักงานเห็นหร่วนซือซือ พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะมองไปที่เธอ พวกเขาไม่เห็นเธอมาทำงานในช่วงเวลาหนึ่ง พวกเขาล้วนคิดว่าเธอนั้นลาออกไปแล้ว
เสี่ยวหานโบกไม้โบกมือและส่งยิ้มให้หร่วนซือซือ
หร่วนซือซือยิ้ม เธอรู้สึกดีขึ้นมากโดยไม่รู้ตัว เธอเดินตาเมิ่งจื่อหันไปยังห้องประชุมขนาดใหญ่ที่ต้อนรับแขกคนสำคัญ
"โบรชัวร์เหล่านี้ก็เอาวางตามนี้ดีแล้ว แล้วก็อันนี้ก็เอาตามแผนภาพได้เลย"
ทันทีที่เข้ามาถึงห้องประชุม เมิ่งจื่อหันก็ส่งงานระดับต่ำสุดให้กับเธอและตัวเองก็ไปอ่านเอกสารของชาวต่างชาติ
หร่วนซือซือไม่ได้พูดอะไรมาก เธอหยิบสิ่งของเหล่านั้นและเริ่มทำสิ่งต่างๆ หลังจากจัดโต๊ะประชุมแล้วเธอก็เดินไปที่แท่นวางจอโปรเจ็กเตอร์
เมิ่งจื่อหันดูเหมือนจะฝึกอะไรบางอย่าง หร่วนซือซือเดินเข้าไปใกล้ เธอได้ยินคำทักทายพื้นฐานสองสามอย่างในภาษาฝรั่งเศสดังออกมาจากปากของเธอ เธอเลิกคิ้ว หลังจากดูชื่อแบรนด์แล้วก็รู้ว่าบริษัทที่เข้ามาในบริษัทครั้งนี้เป็นตัวแทนจากฝรั่งเศส
ทันใดนั้นเมิ่งจื่อหันก็หันหน้ามามองเธอและพูดอย่างเย็นชาว่า "ตรวจสอบจอโปรเจ็กเตอร์และโน้ตบุ๊กเสร็จแล้ว ถ้าไม่มีปัญหาอะไรก็ไปตรงห้องชงชาซะ"
หร่วนซือซือสูดลมหายใจและมองไปที่เธอ "แล้วเธอล่ะ?"
งานทั้งหมดนี้มอบหมายให้เธอแล้ว แล้วเมิ่งจื่อหันล่ะจะทำอะไร?
เมิ่งจื่อหันขมวดคิ้ว ราวกับว่าเธอไม่คาดคิดว่าหร่วนซือซือจะตั้งคำถามกับเธอแบบนี้ เธอกัดฟัน พูดอะไรไม่ออก เธอจึงต้องปิดข้อมูลแขกในมือลุกขึ้นแล้วเดินไปที่โปรเจ็กเตอร์
เมื่อห้องประชุมจัดเกือบจะเสร็จแล้ว ทีมเลขาก็รีบเข้ามา
เฉิงลู่และอันหร่านก็เดินเข้ามาตรวจสอบอีกครั้ง
เมื่อเฉิงลู่เห็นหร่วนซือซือ สีหน้าก็เริ่มมืดมัว มองไปยังโต๊ะประชุม จากนั้นก็เดินไปยังหน้าต่างและยื่นนิ้วมือออกมาเช็ด
เมื่อเห็นชั้นฝุ่นบางๆบนปลายนิ้วของเธอ เธอมองไปที่หร่วนซือซือและกล่าวด้วยเสียงเย็นชา "นี่คือห้องประชุมที่คุณจัดให้งั้นเหรอ?"
แม้ว่าคำพูดนั้นจะส่งถึงหร่วนซือซือและเมิ่งจื่อหันก็ตาม แต่ดวงตาได้ชี้เป้าอย่างชัดเจน
หร่วนซือซือเหลือบมองไปที่ขอบหน้าต่าง ภายในใจรู้ดี ห้องประชุมนี้ได้รับการดูแลโดยพนักงานทำความสะอาดมืออาชีพ การที่เฉิงลู่ทำเช่นนี้นั้นเป็นเพียงข้ออ้างเท่านั้น
เป็นวันแรกที่กลับมาทำงานที่บริษัท เธอขี้เกียจเกินกว่าที่จะวุ่นวายกับเฉิงลู่ เธอไม่กล่าวอะไรมากนัก เธอลุกขึ้นหยิบเศษผ้าจากบริเวณโต๊ะชงชามาและเช็ดโต๊ะริมหน้าต่างของห้องประชุมอีกครั้ง
เมื่อเห็นว่าหร่วนซือซือไม่พูดอะไรแถมยังเชื่อฟัง ดังนั้นภายในดวงตาของเฉิงลู่ก็มีความภาคภูมิใจมากขึ้นเล็กน้อย
คาดไม่ถึงเลยว่าหลังจากไม่ได้พบเธอเพียงไม่นาน หร่วนซือซือคนนี้ก็ได้เรียนรู้อะไรมากมาย
เธอเลิกคิ้วอย่างภาคภูมิใจและมองไปที่อันหร่าน "อันหร่าน มีเวลาไม่มากแล้ว พวกเราควรไปรอด้านล่างแล้ว"
อันหร่านพยักหน้ามองไปที่หร่วนซือซือและเมิ่งจื่อหันจากนั้นก็ออกคำสั่งว่า "ในเวลาประมาณสิบห้านาทีแขกต่างชาติจะมาถึง คุณสามารถไปที่หอจดหมายเพื่อดูแผนการที่เตรียมไว้ได้"
เมิ่งจื่อหันยิ้มและตอบรับ "ได้ เลขาอัน เรื่องนี้ฝากไว้กับฉันได้เลย"
หลังจากที่อันหร่านและเฉิงลู่จากไป เมิ่งจื่อหันก็หันไปยังหร่วนซือซือและออกคำสั่ง "เธอไปที่หอจดหมายและเอาแผนการมา"
เมื่อฟังเมิ่งจื่อหันมอบหมายงานให้เธออีกครั้ง หร่วนซือซือก็ขมวดคิ้วและถามอีกครั้ง "แล้วเธอล่ะ?"
เธอไม่ได้โง่และจะไม่ยอมให้ออกคำสั่งกับเธอแบบนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า