เสี่ยวหานตกใจ รีบให้คนนำขึ้นมาจากสระทันที ลากขึ้นมาไว้บนเตียงแล้วนำผ้าห่มมาปิดทับเอาไว้ รีบโทรศัพท์ติดต่อผู้ดูแลหลานทันที
ผู้ดูแลหลานรับโทรศัพท์ ก็รีบมาทันที แตะๆเข้าที่บริเวณหน้าผากของหร่วนซือซือ ก็รับรู้ได้ทันทีว่าร้ายแรง
หร่วนซือซือตัวร้อนเป็นไฟทั้งตัว หน้าแดงแก้มแดงไปหมด ไม่ว่าพวกเขาจะเรียกสักเท่าไหร่ เธอก็ไม่มีปฏิกิริยาตอบสนอง เห็นได้ชัดเจนเลยว่าสลบไปแล้ว
เสี่ยวหายวิตกกังวลเป็นอย่างมาก “คุณผู้ดูแล ตอนนี้พวกเราจะทำอย่างไรกันดีคะ?”
ผู้ช่วยหลานขมวดคิ้วแน่น ออกคำสั่งว่า “เอาอย่างงี้ เธอไปที่จุดบริการ ให้พวกเขาติดต่อหมอของโรงแรม ฉันจะไปโทรศัพท์หาประธานอวี้”
ที่วิลล่าริมทะเลสาบ เครื่องมือการแพทย์อาจจะไม่ได้ดีเท่ากับโรงพยาบาล เธอจำเป็นต้องติดต่อกับอวี้อี่มั่ว เพื่อดูว่าจำเป็นจะต้องนำหร่วนซือซือส่งไปที่โรงพยาบาลหรือไม่
ในขณะที่รับโทรศัพท์ของผู้ดูแลหลาน อวี้อี่มั่วพึ่งอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ เขากดรับสายโทรศัพท์แนบข้างหู “ฮัลโหล?”
“ท่านประธานอวี้คะ หร่วนซือซือไข้ขึ้นตัวร้อนสูง สถานการณ์ไม่ค่อยดี ท่านคิดว่าควรนำเธอส่งโรงพยาบาลไหมคะ?”
อวี้อี่มั่วได้ยินดั่งนั้น กำโทรศัพท์ที่ถืออยู่ในมือแน่นขึ้นเล็กน้อย
ที่แท้แล้ว เธอเป็นไข้แล้วนี่เอง
อวี้อี่มั่วออกคำสั่งเสียงเรียบ “ติดต่อรถ นำเธอส่งไปโรงพยาบาลทันที”
“ค่ะ”
เดิมทีอยากวางสาย เขาก็รีบถามโพล่งขึ้นมาว่า “ตอนนี้เธออยู่ที่ไหน”
สถานการณ์ของเธอกับการผ่าตัดสามารถดำเนินการตามกำหนดได้หรือไม่ เวลานี้สถานการณ์ของสุขภาพเธอคือช่วงเวลาที่น่าเป็นห่วงมากที่สุด
ผู้ดูแลหลานตอบกลับว่า “อยู่ในห้องค่ะ ห้องประตูหมายเลข 609”
“อืม”
อวี้อี่มั่วกดตัดสาย เดินไปยังประตู หยิบสูทและเสื้อโค้ทแล้วสาวท้าวก้าวเดินออกไป
ดูแล้วเขาเดินหน้าตรงไปทางลิฟท์ ตู้เยี่ยรีบตามไปทันที “ท่านประธานอวี้ ท่านจะไปดูคุณหญิงใช่ไหมครับ?”
อวี้อี่มั่วกำลังจะเปิดปากพูด โทรศัทพ์กลับสั่นขึ้นมาเสียงก่อน เขาหยิบมันออกมาดู เห็นตัวอักษรด้านบนสองคำปรากฏขึ้นว่า “จิงหวา” สีหน้าเคร่งขรีมขึ้นมากโข
นี่คือสายเรียกเข้าจากโรงพยาบาลชิงหวา
เขาไม่มีความลังเลใดๆเลยแม้แต่นิดเดียว ก่อนจะกดรับโทรศัพท์ทันที
“คุณชายอวี้ คุณรีบๆมาเถิด คุณเย่วันนี้ไม่ดื่มไม่ทานอะไรเลย โวยวายบอกว่าอยากจะพบคุณ พวกเราพูดอย่างไรก็ไม่ฟัง!”
ช่วงนี้ Peter บอกว่าต้องคอยดูคอยสังเกตสถานการณ์ของเธอ ทำการตรวจครั้งสุดท้าย ในขณะเดียวกันก็กำชับไว้ว่าไม่ให้เขาไปเจอเธอ เพื่อป้องกันไม่ให้กระทบกระเทือนจิตใจของเธอ
คิดไม่ถึงว่า เธอเริ่มอาละวาดเสียแล้ว
ไม่รอให้เขาเปิดปากพูด ก็มีเสียงหนึ่งสายแผดลอดเข้ามาในสาย คล้ายกับของอะไรบางอย่างแตกกระจายบนพื้น
อวี้อี่มั่วขมวดคิ้วแน่น สีหน้าไม่สู้ดีเพิ่มเป็นทวีคุณ เขากดเสียงต่ำลงแล้วออกคำสั่งว่า “บอกเธอ ฉันจะไปหาเธอ อย่าให้เธอทำร้ายตัวเอง!”
พยาบาลฝั่งนั้นได้ยินดังนั้นก็รีบตอบรับคำสั่ง
โทรศัพท์ถูกเก็บ อวี่อี่มั่วเร่งฝีเท้าเร็วขึ้น เพิ่มความเร็วแล้วเดินไปยังหน้าประตูลิฟท์
ตู้เยี่ยตามไปติดๆพลางถามขึ้นว่า “ท่านประธานครับ ตอนนี้พวกเรากำลังจะไปไหน”
อวี้อี่มั่วขมวดคิ้วเป็นปมแน่น พูดกดเสียงต่ำว่า “โรงพยาบาลชิงหวา”
เมื่อก่อนไม่ใช่ว่าไม่เคยมีสถานการณ์แบบนี้เกิดขึ้น เย่หว่านเอ๋อเคยอาละวาดทำข้าวของแตกจนตัวเองได้รับบาดเจ็บ ตอนนี้ในทุกครั้งที่เขามองเห็นร่องรอยจากบาดแผลพวกนั้นทีไร เขามักจะรู้สึกผิดเสมอที่ไม่ได้ดูแลเธอได้ไม่ดี
ตู้เยี่ยพลั้งปากถามออกไปหนึ่งประโยคว่า “แล้วคุณหญิงล่ะครับ?”
เมื่อสิ้นเสียง อวี้อี่มั่วเอียงศีรษะ มองผ่านมาทางเขาด้วยแววตาเศร้าหมอง
ตู้เยี่ยรู้สึกเย็นวาบไปทั่วแผ่นหลัง รีบก้มหน้าแล้วหยุดปากทันที
เมื่อเสียง “ติ๊ง” ดังขึ้น ประตูลิฟท์ก็เปิดออก อวี้อี่มั่วสาวเท้าก้าวเข้าไปด้านใน สีหน้าเคร่งเครียด
ในใจของเขา ผู้หญิงที่อยู่ในลำดับแรกสุด ยังไงก็ต้องเป็นเย่หว่านเอ๋อตลอดไป ไม่มีทางเป็นคนอื่น
……
สลบไปหนึ่งวันหนึ่งคืน หร่วนซือซือลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง พบว่าตัวเองอยู่ในสถานที่ที่ไม่คุ้นเคยเลยที่หนึ่ง
เธอขยับตัว ริมฝีปากแห้งผากเปิดอ้า แต่กลับออกเสียงไม่ได้
“ปัง——”
ประตูถูกคนดันจนเปิดกว้าง ก่อนจะรีบปิดลง น้ำเสียงคุ้นเคยดังแทรกขึ้นมาให้ได้ยิน “คุณนาย ในที่สุดคุณก็ฟื้นสักที!”
หร่วนซือซือค่อยๆหันศีรษะมาช้าๆ เห็นป้าหรงที่พึ่งกลับมาจากการตักน้ำ
เธอพยายามเปิดปาก ถามเสียงด้วยน้ำเสียงแหบแห้งว่า “ตอนนี้ฉันอยู่ที่ไหนคะ”
“อยู่ที่โรงพยาบาลไง! คุณนายไข้ขึ้นสูงค่ะ ก็เลยถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล ฉันก็รีบมาดูแลคุณนายทันทีเลย!”
ป้าหรงพูดไปพลางนำน้ำอุ่นยื่นส่งให้เธอไป
หร่วนซือซือดื่มน้ำไปหนึ่งอึก ก็ค่อยๆเริ่มอุ่นคอขึ้นมาทีละนิด“ป้าหรงจะบอกว่าฉันอยู่ที่วิลล่า แล้วถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลหรือคะ?”
ป้าหรงพยักหน้าขึ้นลง “ใช่ค่ะ”
เธอมองไปรอบๆ ก่อนจะถามต่อว่า “ฉันหลับไปนานแค่ไหนคะ……”
“หนึ่งวันหนึ่งคืน แต่ยังดีที่ตอนนี้ไข้ลดลงแล้ว……”
ถึงกับหนึ่งวันหนึ่งคืนแล้วหรือเนี่ย หร่วนซือซือสูดหายใจเข้าลึกๆหนึ่งครั้ง ก่อนจะถามต่อ “อวี้อี่มั่วล่ะคะ?”
เมื่อพูดถึงอวี้อี่มั่ว ป้าหรงอึกอักเล็กน้อย “นายน้อย……ไม่ได้มาค่ะ”
หร่วนซือซือเหม่อลอย
เธอสลบไปหนึ่งวันหนึ่งคืน ที่แท้เขากลับไม่มาหาเธอเลย……
คงจะงานยุ่งมากสินะ?
“ถ้าอย่างงั้น……ฉันจะออกจากโรงพยาบาลได้เมื่อไหร่คะ?”
ตอนนี้เธอไข้ลดลงแล้ว ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องนอนพักรักษาตัวในห้องพักผู้ป่วยที่มีค่ารักษาพยาบาลเป็นพันเป็นหมื่นต่อคืนอีกต่อไปแล้ว
“หมอบอกว่ารอให้คุณนายฟื้นก่อนและหากไม่เป็นอะไรมาก ก็สามารถกลับไปรักษาที่บ้านต่อได้เลยค่ะ ป้าจะไปตามหมอเข้ามาดูนะ”
ป้าหรงกุลีกุจอเรียกหมอเข้ามาตรวจ
รอให้หมอตรวจเสร็จเรียบร้อยแล้ว หมอกำชับเรื่องที่ต้องระวังกับเธออีกนิดหน่อย หลังจากนั้นก็อนุญาตให้เตรียมตัวกลับบ้าน
ในระหว่างที่โดยสารรถยนต์กลับบ้าน หร่วนซือซือหวนกลับไปคิดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นที่วิลล่าริมทะเลสาบ ราวกลับว่าเรื่องทั้งหมดนั้นคือความฝัน ราวกับไม่ใช่เรื่องจริง เพียงแต่ว่าลองมาคิดๆอย่างละเอียดดูแล้ว มาเดินทางมาเที่ยววิลล่าทะเลสาบในครั้งนี้มีอวี้อี่มั่วมาด้วย กลับกันกลับสร้างความสุขขึ้นได้ไม่น้อยเลยทีเดียว
เมื่อกลับมาถึงคฤหาสน์ ห้องโล่งกว้างไม่เหลือใคร ดูท่าแล้ว อวี้อี่มั่วจะยังไม่กลับมา
หร่วนซือซือรับประทานอาหารง่ายๆเล็กๆน้อยๆเสร็จ อยู่ภายใต้การดูแลของป้าหรง เธอรับประทานยาเข้าไป แล้วตามด้วยน้ำเต็มแก้วอีกหนึ่งแก้ว
“ดื่มน้ำเยอะๆนะคะ จะได้หายป่วยเร็วๆ ป้าไปรินน้ำให้อีกแก้วนะ”
ป้าหรงพูดไปพลางหยิบแก้วไปเติมน้ำ หร่วนซือซือตบแปะๆเบาๆที่พุงของตัวเอง “ป้าหรงคะ พอแล้วค่ะ ฉันดื่มไม่ไหวแล้ว!”
“ไม่ได้ค่ะ ดื่มอีกสักแก้วเถอะค่ะ”
ในระหว่างที่ทั้งสองกำลังพูดคุย ก็มีเสียงรถยนต์ดังขึ้นลอยเข้ามาให้ได้ยิน
ป้าหรงนำแก้วน้ำมาวางไว้ที่ตรงหน้าเธอ “คงจะเป็นนายน้อยที่กลับมาแล้วแน่ๆ ป้าไปดูก่อนนะคะ คุณนายดื่มให้หมดนะคะ”
หร่วนซือซือมีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก ทำได้เพียงแค่ตอบรับกลับไป
แก้วน้ำที่สองดื่มหมดแล้ว เธอพึ่งจะเงยหน้าขึ้น ก็พบว่าอวี้อี่มั่วกำลังเดินเข้ามาจากทางประตู เขาถอดเสื้อโค้ทออกแล้วเปลี่ยนรองเท้า
หร่วนซือซือลุกยืนขึ้นตัวตรง กำลังจะออกปากถามสักประโยคสองประโยค กลับพบว่าใบหน้าของฝ่ายชายมีสีหน้าเหนื่อยล้าในทันที
เธอเดินเข้าตรงไปหา มีท่าทางลังเลเล็กน้อยก่อนจะถามขึ้นว่า “กลับมาแล้วหรือคะ?”
อวี้อี่มั่วเหลือบมอง สายตาเฉยชามองผ่านตัวเธอไป “อืม”
การกระทำของเขาที่มีต่อเธอนั้น แสดงให้เห็นถึงความห่านเหินที่มีไม่น้อยเลยทีเดียว
หร่วนซือซือสาวเท้าเข้าไปข้างหน้า ถามเสียงเบาว่า “เป็นอะไรไปคะ?เป็นเพราะว่าทำงานเหนื่อยมากหรือเปล่าคะ?”
ตั้งแต่ที่ได้รู้จักกับเขามา เธอมักจะไม่ค่อยได้เห็นท่าทีอ่อนล้าของเขามากขนาดนี้ หรือว่า เกิดเรื่องอะไรขึ้นงั้นหรือ?
เธอเต็มไปด้วยคำถาม พยายามเดินตามแล้วถามต่อ แต่ทว่าอวี้อี่มั่วกลับหยุดฝีเท้าในทันที เธอไม่ทันทีจะได้เบรคฝีเท้าลง เลยทำให้ชนเข้ากับแผ่นหลังเขาเข้าอย่างจัง
หร่วนซือซือยกมือขึ้นมาถูเบาๆตรงบริเวณหน้าผากที่ได้รับบาดเจ็บ ยังไม่ทันได้เงยหน้าขึ้น ก็ได้ยินเสียงเย็นยะเยือกจากฝ่ายชาย
“ฉันอยากอยู่เงียบๆ”
มีกลิ่นบางอย่างลอยเข้ามาในจมูก หร่วนซือซือเหลือบตามอง เห็นใบหน้าเย็นชาจากชายตรงหน้าแล้วชะงักกึก
สายตาของอวี้อี่มั่วมองเธอไปทั่วร่าง ก่อนจะหมุนตัวแล้วเดินกลับขึ้นไปชั้นบน
เห็นแผ่นหลังเขาหายขึ้นไปจากตรงบันได หร่วนซือซือหัวใจกระตุกตกไปที่ตาตุ่ม
ท่าทางของเขาที่มีต่อเธอนั้น ทำไมมันถึงเปลี่ยนไปมากขนาดนี้กันนะ?
อีกทั้ง กลิ่นน้ำหอมที่เธอได้กลิ่นจากตัวเขาเมื่อสักครู่นี้ ถึงแม้ว่าเธอมักจะไม่ค่อยใช้น้ำหอมเท่าไหร่นัก แต่ว่าน้ำหอมกลิ่นหวานเลี่ยนของดอกไม้นั่น ยังไงๆก็เป็นน้ำหอมที่ผู้หญิงใช้แน่ๆ!
MANGA DISCUSSION