ดั่งรักบันดาล - ตอนที่ 33
พอได้ยินคำว่า " ภรรยา " หร่วนซือซือก็ชะงักไป ต่อมาก็รู้สึกขำนิดหน่อย
เธอเป็นภรรยาของอวี้อี่มั่วจริงๆ เเต่เป็นเพียงในนามเท่านั้น ตกลงคนที่ชื่อเย่หว่านเอ๋อเป็นใคร อยู่ที่ไหน เธอก็ไม่เคยรู้เลย
พอคิดมาถึงตรงนี้ หร่วนซือซือก็รู้สึกอึดอัดใจ บวกกับเธอเพิ่งตื่นนอนจึงทำให้งอแงเล็กน้อย ทันใดนั้น ความกล้าของเธอก็เพิ่มขึ้นทันที
เธอมองไปทางอื่นเเละพูดบ่น " ก็เป็นเเค่ในนาม…… "
อวี้อี่มั่วนั่งอยู่ข้างเตียง ถึงเเม้ว่าเสียงของเธอจะไม่ดังมาก เเต่เขาก็ได้ยินอย่างชัดเจน เขาขมวดคิ้วเเละจับมือเธอแน่นขึ้นทันที " ใครบอกว่าเป็นเพียงในนาม? "
สิ่งที่สามีภรรยาเขาทำกันพวกเขาก็ทำมาหมดเเล้ว จะถือว่าเป็นเพียงในนามได้ยังไง
หร่วนซือซือพูดอย่างประชดประชัน " ฉันบอกเอง "
ถึงจะพูดแบบนั้น เเต่เธอก็ไม่กล้าสบตาผู้ชายตรงหน้า อยู่ๆคางของเธอก็รู้สึกแน่นขึ้น เเละถูกเขาจับให้หันมาทางนี้ ในที่สุดเธอก็พบกับความงามที่สมบูรณ์แบบและไร้ที่ติของผู้ชายตรงหน้า
ปกติ ถึงเเม้ว่าหร่วนซือซือจะมีโอกาสได้ใกล้ชิดกับอวี้อี่มั่ว เเต่นี่ถือว่าเป็นครั้งเเรกที่ทั้งสองคนสบตาใกล้กันขนาดนี้ เเละยังอยู่ในตอนที่ได้สติ ทันใดนั้น เธอก็รู้สึกลุกลี้ลุกลนเล็กน้อย หัวใจของเธอก็เต้นเเรงอย่างควบคุมไม่อยู่
" คุณ…… "
อวี้อี่มั่วพูดเบาๆ " สิ่งที่เขาทำกันก็ทำมาหมดเเล้ว ทำไมถึงยังไม่ถือว่าเป็นสามีภรรยาล่ะ? "
หร่วนซือซือรู้สึกหนักใจทันที หน้าของเธอแดงขึ้นอย่างรวดเร็ว ในหัวของเธอก็ปรากฏเรื่องที่เกิดขึ้นในห้องโรงแรมนานาชาติเจียงโจวเมื่อครั้งที่เเล้ว
คล้ายกับ……จะเป็นแบบนั้นจริงๆ
หร่วนซือซือกัดริมฝีปาก เธอไม่มีเเรงขัดขืน หน้าของเธอไม่ได้แดงเพราะอายอย่างเดียว เเต่ยังแดงเพราะโมโหด้วย หลังจากนั้นเธอก็ผลักมือของอวี้อี่มั่วออกอย่างลุกลี้ลุกลน เเละพูดขึ้นอย่างโมโห " ฉันไม่กลับ วันนี้ยังไงฉันก็ไม่กลับ! "
เธอยังพูดไม่ทันจบ อยู่ๆอวี้อี่มั่วก็ลุกขึ้น หร่วนซือซือรู้สึกแค่ว่าถูกเงาคนปกคลุม เธอจึงหันไปมอง เเต่ไม่คิดว่าเขาจะก้มลงมาหาเธอ
ไม่รอให้เธอได้ตอบสนองอะไร เขาก็อุ้มเธอขึ้นมาเเละหมุนตัวอย่างไม่เปลืองแรง
เธอกำลังจะดิ้นรน เเต่เหมือนอวี้อี่มั่วจะรู้อยู่เเล้วว่าเธอต้องใช้วิธีนี้ อยู่ๆเขาก็ขยับไปพูดข้างหูเธอ " ไม่กลับไปกับผม งั้นคืนนี้ผมจะนอนที่นี่ พ่อตากับเเม่ยายคงไม่ถือสาที่ผมจะพักที่นี่ ถึงเเม้ว่าเตียงของคุณจะเล็กไปหน่อย เเต่ก็สามารถอัดกันได้ "
หร่วนซือซือชะงักไปทันที วินาทีต่อมาเธอก็รู้สึกอายจนไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมา
เขา…ทำไมเขาถึงกล้าพูดคำแบบนี้ออกมาได้กันนะ!
อวี้อี่มั่วกอดเธอไว้อย่างไม่ลุกลี้ลุกลน หลังจากนั้นเขาก็ก้มหน้าถามเธอ " เพราะฉะนั้นจะกลับไปกับผมไหม? "
มาถึงขนาดนี้เเล้ว หร่วนซือซือขึ้นหลังเสืออย่างสมบูรณ์ ต่อให้เธอไม่ตกลงก็ต้องตกลง เเละตอนนี้เธอก็จดทะเบียนสมรสกับอวี้อี่มั่วเเล้วด้วย ถ้าเขาพักที่นี่ คุณนายหลิวก็คงจะให้พวกเขาพักด้วยกันอย่างแน่นอน
นี่เท่ากับว่าเธอวางกับดักตัวเองไม่ใช่เหรอ?
อวี้อี่มั่วก้มหน้าอย่างอดทนเเละพูดต่อ " หืม? กลับไม่กลับ? "
หร่วนซือซือแทบจะเค้นคำตอบออกมาจากซอกฟันอยู่เเล้ว " กลับ… "
ตอนนี้เธอไม่มีทางเลือกอื่นเเล้ว
" ดี " อวี้อี่มั่วยกยิ้มอย่างพึงพอใจ หลังจากนั้นก็ก้าวเท้าออกไปจากห้องทันที
ออกมาจากห้องนอน คุณนายหลิวกับศาสตราจารย์หร่วนก็กำลังรออยู่ในห้องนอน เห็นได้ชัดว่าพวกเขาก็รู้สึกสงสัยกับความเคลื่อนไหวของพวกเขาสองคนเหมือนกัน
อวี้อี่มั่วอุ้มหร่วนซือซือออกมาโดยไม่ปล่อย พอเห็นพวกเขาอวี้อี่มั่วก็พูดขึ้น " พ่อ แม่ วันนี้ผมผิดเองครับที่ทำให้ซือซือโกรธ ตอนนี้เราพูดกันเเล้วครับ เเละผมจะพาเธอกลับบ้าน พวกท่านไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ "
" ดีเเล้วๆ! " คุณนายหลิวรีบลุกขึ้นเเละเดินมาหาพวกเขาทันที เธอมองหร่วนซือซือที่กำลังถูกอุ้ม สีหน้าของเธอก็ปกปิดรอยยิ้มไม่มิด " ซือซือ ลูกต้องใจกว้างกว่านี้หน่อย ลูกต้องรู้ว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ในสถานะไหน เข้าใจไหม! "
หร่วนซือซือฝังหน้าลงที่ระหว่างทรวงอกของอวี้อี่มั่ว เธอกลัวว่าคุณนายหลิวกับศาสตราจารย์หร่วนจะเห็นหน้าที่เเดงๆของเธอ เธอจึงทำเพียงส่งเสียง " อืม " ออกมา
คุณนายหลิวกำลังจะพูดต่อ เเต่ไม่คิดว่าจะถูกศาสตราจารย์หร่วนขวางไว้ก่อน เขามองอวี้อี่มั่วกับหร่วนซือซือเเละพูดขึ้นเสียงเบา " พอเเล้ว ในเมื่อไม่มีอะไรเเล้ว พวกเธอก็กลับไปได้เเล้ว อีกเดี๋ยวพอดึกเเล้วมันจะไม่สะดวกเอา "
" ครับ งั้นเราขอตัวกลับก่อน "
อวี้อี่มั่วพูดเสร็จก็อุ้มหร่วนซือซือออกไปจากห้อง พอคุณนายหลิวมาส่งพวกเขาที่หน้าประตูเสร็จเเล้ว เธอก็กลับไปที่ห้องอย่างอาลัยอาวรณ์
พอลงบันไดมาได้สองสามชั้น หร่วนซือซือก็รีบพูดขึ้น " นี่ก็ออกมาเเล้ว วางฉันลงได้เเล้วมั้ง? "
อวี้อี่มั่วยิ้มเเละถามกลับเบาๆ " คุณไม่ได้ใส่รองเท้า เเน่ใจนะว่าจะให้ผมวางคุณลง? "
พอได้ฟังเขาพูดเตือนแบบนี้ หร่วนซือซือถึงจะตอบสนองกลับมาได้ว่าตัวเองถูกเขาอุ้มลงจากเตียง เเม้แต่รองเท้าก็ไม่ทันได้ใส่
" เเต่ฉัน…ก็ไม่สามารถถูกคุณอุ้มแบบนี้ไปตลอดนี่นา! "
อวี้อี่มั่วก้าวเท้าเดินต่อไป " ทำไมจะไม่ได้? คุณได้รับบาดเจ็บอยู่พอดี ไม่ใส่รองเท้าน่ะดีที่สุด "
หร่วนซือซือพูดต่อไม่ถูก เธอจึงเงียบเเละไม่พูดอะไรอีก
อวี้อี่มั่วอุ้มเธอเดินผ่านชุมชน เขาเพิ่งเดินมาถึงข้างรถ ตู้เยี่ยก็ลงจากรถเเละมาเปิดประตูให้พวกเขา
อวี้อี่มั่ววางหร่วนซือซือลงที่เบาะหลังอย่างระมัดระวัง หลังจากนั้นเขาก็ตามขึ้นไป เเละสั่งให้ตู้เยี่ยออกรถ
เมื่อรถขับไปถึงถนนใหญ่ อยู่ๆภายในรถก็เงียบลงทันที จึงทำให้บรรยากาศเก้อเขินนิดหน่อย
อวี้อี่มั่วหันไปมองผู้หญิงที่อยู่ข้างๆ เเละเขาก็เป็นฝ่ายพูดขัดจังหวะความเงียบก่อน " ยังโกรธอยู่หรอ? "
วันนี้ตอนที่อยู่ในห้องทำงาน เขาพูดคำพวกนั้นออกไปอย่างไร้ความรู้สึกจริงๆ เเต่เขาไม่คิดว่าเธอจะโกรธถึงขนาดนี้ ถึงขนาดที่หนีกลับไปที่บ้านพ่อเเม่ของเธอแบบนี้
เห็นเธอไม่ตอบอะไร อวี้อี่มั่วจึงพูดต่อ " ซือซือคุณรู้ไหมว่าไม่ใช่ทุกคนที่จิตใจดีเหมือนคุณ เเละไม่ใช่ทุกคนที่พอได้รับความกรุณาจากผู้อื่นเเล้วจะตอบเเทนบุญคุญผู้อื่น "
คนแบบหยางเย่กับฉินเสียนหลี่ ถ้าครั้งนี้ไม่สั่งสอนพวกเขา เกรงว่าครั้งต่อไปพวกเขาก็คงจะรังแกผู้อื่นอีก
พอได้ยินเขาพูดแบบนี้ เดิมทีความไม่สบายใจของหร่วนซือซือที่ติดอยู่ในใจก็ได้หายไปเล็กน้อย เธอขยับตัวเเละพูดขึ้นเสียงเบา " ฉันเเค่คิดว่าถ้าทำแบบนี้มันจะทำร้ายคนที่ไมเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้มากมาย "
เงียบไปสักครู่ อยู่ๆอวี้อี่มั่วก็หันมามองเธออย่างจริงจัง " คุณอยากให้โอกาสกับพวกเขาจริงๆหรอ? "
หร่วนซือซือสูดหายใจเข้าลึกๆเเละพยักหน้า " อืม "
การปล่อยคนอื่นไปก็เหมือนเป็นการปล่อยตัวเองเหมือนกัน เเละเธอก็ไม่อยากบังคับพวกเขาจนหมดหนทาง
เห็นในตาของเธอมีความแน่วแน่อยู่ในนั้น อวี้อี่มั่วก็พูดขึ้นมาเสียงเบา " ได้ งั้นผมจะให้โอกาสพวกเขา "
บางครั้ง ความเป็นจริงจะให้บทเรียนที่ลึกซึ้งกับผู้คนมากกว่าหลักการทางวาจา เเต่ที่หร่วนซือซือขาดคือการขัดเกลาความเป็นจริง เเละหลักการบางอย่างสามารถสอนได้ด้วยความเป็นจริงเท่านั้น
หร่วนซือซือรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย " จริงหรอ? "
อวี้อี่มั่วพูดนิ่งๆ " อืม ฟังคุณสักครั้ง "
เห็นเขาตอบตกลง เธอก็รู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมาทันที
ไม่นาน รถก็มาจอดที่หน้าคฤหาสน์ อวี้อี่มั่วอุ้มหร่วนซือซือลงจากรถ เขาเพิ่งเดินมาถึงทางเข้า ป้าหรงก็ออกมารับเขาทันที
พอเห็นอวี้อี่มั่วอุ้มหร่วนซือซือ เธอก็รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย " นี่…ทำไมถึงกลับมาอีกล่ะคะ? "
อวี้อี่มั่วเลิกคิ้วขึ้นเเละพูดเบาๆ " งอแงกลับบ้านพ่อเเม่ นี่ก็เพิ่งถูกผมลักพาตัวกลับมา "
พอเขาพูดคำนี้ หร่วนซือซือก็หน้าแดง เธอสูดหายใจเข้าลึกๆเเละหันหัวกลับไปอย่างเขินอาย " ไม่ใช่สะหน่อย! "
ป้าหรงเห็นเด็กสองคนหยอกล้อกัน เธอก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา เเต่ไม่ได้พูดอะไรเเละรีบเดินออกไปทันที
อวี้อี่มั่วอุ้มหร่วนซือซือกลับไปที่ห้องนอน พอถึงห้องก็วางเธอลงบนเตียงเเละพูดเตือนเสียงเบา " คืนนี้นอนเร็วๆ พรุ่งนี้เรายังมีธุระสำคัญ "
พอได้ยินเขาพูดแบบนี้ หร่วนซือซือถึงจะนึกขึ้นได้อย่างกะทันหัน
พรุ่งนี้เป็นวันเสาร์ เป็นวันที่เธอตกลงกับอวี้อี่มั่วว่าจะกลับไปบ้านเก่าเพื่อไปดูคุณยาย!