ดั่งรักบันดาล - ตอนที่ 31
หยางเย่หันไปมองฉินเสียนหลี่ที่อยู่ด้านข้าง เเละพูดขึ้นยิ้มๆ: " ครั้งนี้ที่เรามาหาเธอก็เพราะจะมาขอโทษเธอโดยเฉพาะ "
เดิมทีหร่วนซือซือก็รู้สึกงุนงงอยู่เเล้ว ตอนนี้พอหยางเย่บอกจะขอโทษเธอ เธอก็ยิ่งไม่เข้าใจ
จากที่เธอรู้จักหยางเย่กับฉินเสียนหลี่ อย่าว่าเเต่ขอโทษเลย พวกเขาแทบอยากเหยียบเธอลงในกองฝุ่นให้รู้เเล้วรู้รอด จะมายอมก้มหัวขอโทษได้ยังไง
ไม่รอให้เธอพูดอะไร หยางเย่ที่อยู่ด้านข้างก็สะกิดฉินเสียนหลี่เเละส่งสายตาให้เขาเล็กน้อย
ฉินเสียนหลีขมวดคิ้ว " ซือซือ เรื่องครั้งที่เเล้วเป็นเราที่ผิดเอง คนใจกว้างจะไม่คิดเล็กคิดน้อยกับคนใจแคบ ครั้งนี้ก็ยกโทษให้เราเถอะนะ ฉันกับหยางเย่รู้สึกผิดจริงๆ "
หร่วนซือซือกำหมัดแน่น " ยกโทษให้พวกคุณอย่างนั้นหรอ? คนที่จะตบฉันคือพวกคุณ คนที่สั่งให้หวังเหล่ยเล่นงานฉันก็คือพวกคุณ คำนี้ควรเป็นฉันพูดถึงจะถูกไม่ใช่หรอ? "
ฉินเสียนหลี่ได้ยินดังนั้น สีหน้าของเขาก็ขึงตึงขึ้นทันที " ซือซือ เรายอมรับว่าเรื่องครั้งที่เเล้วเราทำเกินไปจริงๆ เเต่เพราะเรื่องนี้อวี้อี่มั่วถึงบังคับหยางเย่จนไม่มีทางไปเเล้ว แถมห่วงโซ่ทุนก็พังไปเเล้วด้วย นี่ไม่เกินไปเหมือนกันหรอ? "
หร่วนซือซือตกตะลึง " อะไรนะ? "
อวี้อี่มั่วบังคับหยางเย่จนไม่มีทางไปอย่างนั้นหรอ?
หยางเย่พูดขานรับ " ใช่เเล้วซือซือ! เพียงเเค่เธอยกโทษให้เรา เธอต้องการให้เราชดใช้อะไร เราจะพยายามทำให้เธอพอใจทุกอย่าง! "
หร่วนซือซือรู้สึกเหมือนมีอะไรมากระทบกันอยู่ในหัว เเละเธอก็รู้สึกสบสนไปชั่วขณะ
เธอรู้เเค่ว่าหลังจากที่เรื่องนี้เกิดขึ้นอวี้อี่มั่วก็ไม่ได้พูดถึงหยางเย่กับฉินเสียนหลี่อีกเลย เเละเธอก็ไม่รู้เรื่องที่เขาทำให้ห่วงโซ่ทุนของหยางกรุ๊ปพังเช่นกัน
เห็นเธอไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองกลับมา หยางเย่ก็เริ่มหมดความอดทน เธอจึงผลักฉินเสียนหลี่เเละถลึงตาใส่เขาอย่างโหดเหี้ยม
ฉินเสียนหลี่เข้าใจ เเม้ว่าเขาจะไม่เต็มใจ เเต่เขาก็ยังคงพยักหน้าและโค้งเอวเพื่อเกลี้ยกล่อมหร่วนซือซือ " ซือซือ เธอจิตใจดีขนาดนั้น คงไม่อยากเห็นฉันกับเย่เย่เร่ร่อนอยู่บนถนนใช่ไหม? อีกอย่างตระกูลหยางก็ไม่ได้มีเราเเค่สองคน คนในตระกูลของเราเขาไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องนี้นะ! "
พูดเสร็จ เขาก็เอื้อมมือไปจับมือหร่วนซือซือไว้ " เห็นแก่มิตรภาพระหว่างเราสองคน เธอช่วยไปขอร้องประธานอวี้แทนพวกเราหน่อยได้ไหมซือซือ? "
หร่วนซือซือถูกเขาจับมืออย่างกะทันหัน เธอจึงตัวสั่นเเละรู้สึกขนลุกไปทั้งตัว หลังจากนั้นเธอก็รีบดึงมือตัวเองกลับเเละก้าวถอยหลังไปนิดหน่อย " ฉันไม่รู้เรื่องนี้เลยด้วยซ้ำ "
ฉินเสียนหลี่พูดขึ้นมา " ซือซือ เธออยากให้ฉันคุกเข่าขอร้องเธอจริงๆใช่ไหม? "
ทันใดนั้น หร่วนซือซือก็ไม่รู้ว่าจะเอาไงดี ฉินเสียนหลี่มองเธออย่างลังเล หลังจากนั้นเขาก็ก้าวถอยหลังเเละกำลังจะคุกเข่าลงจริงๆ
" อย่า! " หร่วนซือซือรีบก้าวถอยหลังทันที " ฉัน……จะช่วยคุณ! ฉันจะช่วยพูดกับเขาให้…… "
ฉินเสียนหลีเผยสีหน้าดีใจเเละรีบลุกขึ้น " ซือซือ ฉันรู้อยู่เเล้วว่าเธอน่ะจิตใจดีที่สุด! "
หยางเย่ก็มีสีหน้าดีใจเหมือนกัน " ซือซือ งั้นเรื่องครั้งนี้เราฝากเธอทำให้เราหน่อยนะ! "
พอมองพวกเขาสองคนขอโทษอย่างนู้นอย่างนี้ หร่วนซือซือก็รู้สึกสับสนนิดหน่อย กว่าพวกเขาจะเดินจากไปก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย พอพวกเขาเดินออกไปแล้วเธอถึงดึงสติกลับมาอย่างช้าๆ
ถ้าเรื่องครั้งนี้เป็นความจริง เธอกลับรู้สึกว่ามันไม่ควร ถึงเเม้หยางเย่จะมีจิตใจชั่วร้ายและยุยงให้คนมาดักทำร้ายเธอ เเต่ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องดึงคนในบริษัทมาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วย
เธอกัดริมฝีปากเเละหมุนตัวเดินเข้าไปในลิฟท์อย่างงุนงง
พอกลับมาถึงที่ห้องทำงาน เธอก็กระสับกระส่าย ในหัวของเธอคิดเเต่เรื่องนี้ไปๆมาๆ
พอคิดไปคิดมา หร่วนซือซือกลับไม่สามารถสงบลงได้ เเละในตอนนี้แผนกบริหารก็มีเอกสารที่ต้องไปส่งที่ห้องทำงานของประธานพอดี เธอจึงไปส่งเอกสาร เพื่ออยากใช้โอกาสนี้ถามเรื่องนี้กับอวี้อี่มั่วด้วย
พอมาถึงห้องทำงานของประธาน หร่วนซือซือก็เคาะประตูเเละเข้าไป เธอนำเอกสารไปวางเสร็จเเล้ว กลับไม่มีท่าทีว่าจะออกไป
อวี้อี่มั่วสังเกตได้ถึงความผิดปกติ พอเขาเงยหน้าขึ้นมาก็เห็นว่าหร่วนซือซือกำลังยืนจ้องเขาอยู่ที่หน้าโต๊ะทำงาน
ทันทีทันใด ทั้งสองคนก็สบตากัน หร่วนซือซือรู้สึกหนักใจ เธอรู้สึกว่าความสดใสของทั้งห้องกำลังจดจ่ออยู่ที่ผู้ชายคนนั้น เเละดวงตาลึกคู่นั้นก็ยิ่งราวกับจะกลืนกินเธอเข้าไปทั้งตัว
" ยังมีธุระอะไรอีก? "
เสียงที่เย็นชาของผู้ชายดังขึ้น เเละพาเธอกลับสู่ความเป็นจริงในทันที
" ฉัน…ฉันมีเรื่องอยากถามคุณ " หร่วนซือซือรวบรวมสติ " คุณเป็นคนทำเรื่องของหยางกรุ๊ปหรือเปล่า? "
" ปัง " อวี้อี่มั่ววางปากกาลงบนโต๊ะอย่างไม่เบามือ เเละเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ " อืม ผมทำเอง "
" เมื่อสักครู่หยางเย่กับฉินเสียนหลี่มาหาฉัน พวกเขามาขอโทษฉัน ฉันถึงได้รู้เรื่องนี้ "
เธอสูดหายใจเข้าลึกๆเเละพูดต่อ " อันที่จริงฉันคิดว่าเรื่องนี้ไม่ต้องถึงขั้นนั้นหรอก เเม้ว่าหยางเย่จะผิดจริงๆ เเต่ก็ไม่ใช่ว่าจะยกโทษให้ไม่ได้…… "
" หร่วนซือซือ " อยู่ๆอวี้อี่มั่วก็หน้าขรึม เขาจ้องเธอเเละถามขึ้นมา " คุณลืมไปแล้วหรอว่าพวกเขาทำอะไรกับคุณบ้าง? "
หร่วนซือซือกัดริมฝีปาก " ฉันรู้ค่ะ เเต่คุณทำแบบนี้มันจะดึงคนที่ไม่รู้อะไรเลยมาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ คนในบริษัทก็จะตกงาน คนในตระกูลของพวกเขาก็จะได้รับความลำบาก "
หัวคิ้วของอวี้อี่มั่วกระตุกเล็กน้อย ผ่านไปสักครู่ เขาก็เคลื่อนสายตาไปทางอื่น " เรื่องนี้คุณไม่ต้องยุ่ง ผมมีความพอดี ที่หยางเย่กับฉินเสียนหลี่ตกมาถึงขั้นนี้ เพราะพวกเขามีโทษที่ต้องได้รับอยู่เเล้ว "
เห็นผู้ชายตรงหน้ามีสีหน้าเย็นชาอย่างกะทันหัน หร่วนซือซือกำลังจะพูด เเต่ใครจะรู้ว่าอยู่ๆก็จะมีเสียงเท้าดังขึ้นมาจากด้านหลังเสียก่อน ต่อมา เสียงของตู้เยี่ยก็ดังขึ้น " ประธานอวี้ครับ คุณเย่หว่านเอ๋อเธอ…… "
ตู้เยี่ยพูดได้ครึ่งเดียว พอเขาเงยหน้าขึ้นมาก็พบว่าในห้องยังมีคนยืนอยู่อีกหนึ่งคน เขาจึงรีบหยุดพูดทันที
พอหร่วนซือซือได้ยินชื่อเย่หว่านเอ๋อ ตัวของเธอก็เเข็งตึงขึ้นอย่างไม่รู้ตัว
เธอได้ยินชื่อนี้หลายครั้งเเล้ว
แน่นอนว่าดวงตาของอวี้อี่มั่วเย็นชาขึ้นทันที ตู้เยี่ยรีบเดินมาด้านหน้าเเละขยับไปพูดรายงานที่ข้างหูอวี้อี่มั่วเสียงเบา
หลังจากนั้นเสียงของเขาก็ผ่อนคลายลง " เเล้วเเต่เธอ บอกเธอว่าฉันจะไปดูเธอวันต่อไป "
ตู้เยี่ยพยักหน้า หลังจากนั้นก็ออกไปจากห้องทำงาน
ทันใดนั้น ภายในห้องก็ตกอยู่ในความเงียบทันที
หร่วนซือซือกำหมัดแน่นอย่างไม่รู้ตัว พอคิดถึงเหตุการณืเมื่อสักครู่ เธอก็อึดอัดใจอย่างบอกไม่ถูก
เย่หว่านเอ๋อเป็นใครกันแน่ ทำไมถึงทำให้ท่าทางของอวี้อี่มั่วเปลี่ยนไปได้ขนาดนั้น หรือว่าจะเป็นคนรักของเขา แบบนี้เเล้วเขาจะมาจดทะเบียนสมรสกับเธอทำไมล่ะ?
คำถามมากมายผุดขึ้นในใจ อยู่ๆหร่วนซือซือก็รู้สึกหงุดหงิด
เเละในตอนนั้น เสียงที่ไร้อารมณ์ของเขาก็ดังขึ้น " คุณยังมีอะไรอีกไหม? "
หร่วนซือซือกัดริมฝีปาก " เรื่องหยางเย่กับฉินเสียนหลี่ ฉันไม่ได้จะเค้นเอาอะไร เเละหวังว่าคุณจะให้โอกาสพวกเขาอีกสักครั้ง "
อวี้อี่มั่วพูดขึ้นอย่างเย็นชา " ขอร้องให้คนที่จะทำร้ายตัวเอง ผมเพิ่งเคยเห็นละครประเภทนี้ในชีวิตจริงครั้งเเรกนี่เอง "
พูดเสร็จ เขาก็มองเธออย่างลึกซึ้ง เเละเคลื่อนสายตามองไปทางอื่น " ผมจะไม่เปลี่ยนแปลงเรื่องที่ผมตัดสินใจเเล้ว อีกอย่างที่ผมทำแบบนี้กับหยางกรุ๊ปก็ไม่ใช่เพราะคุณ "
หร่วนซือซือตัวเเข็งทื่อไปทันที เธอหาคำตอบไม่เจอไปชั่วขณะ
ดูเหมือนว่าจะเป็นเธอที่คิดไปเองทั้งหมด เธอคิดว่าอวี้อี่มั่วต่อสู้กับความอยุติธรรมเพื่อเธอ เเต่ไม่คิดว่า……
แก้มของเธอทั้งร้อนทั้งเเดง หร่วนซือซือหมดคำที่จะพูด เธอกัดริมฝีปาก สุดท้ายก็หมุนตัวเเละรีบเดินออกไปจากห้องทำงานทันที
ตกลงว่าเย่หว่านเอ๋อคนนั้นเป็นใครกันแน่?
หร่วนซือซือยิ่งคิดก็ยิ่งหงุดหงิด เธอรู้สึกคัดจมูกจนอยากจะร้องไห้
พอกลับมาที่แผนกบริหาร เธอเพิ่งเดินมาถึงหน้าห้องทำงาน เสี่ยวหานก็เดินมาหาเธอทันที " ผู้ช่วยหร่วน คุณไปไหนมาคะ เมื่อสักครู่ฉันเอาเอกสารไปให้คุณ เเต่โทรศัพท์ที่ห้องทำงานดังพอดี ฉันจึงรับให้ เห็นว่าเป็นผู้จัดหากล่องของขวัญวันหยุดเเละเขาต้องการเจอคุณค่ะ "
หร่วนซือซือได้ฟัง สติของเธอก็กลับมาทันที เเละเธอก็รีบเข้าไปในห้องทำงานอย่างรวดเร็ว
ไม่ว่ายังไง ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดสำหรับเธอตอนนี้คือแก้ไขปัญหาเรื่องงานก่อน รอแก้ไขเรื่องนี้เสร็จเเล้ว เธอถึงค่อยคิดเรื่องอื่น!