ดั่งรักบันดาล - ตอนที่ 279
เมื่อเห็นว่าหร่วนซือซือไม่อยากที่จะพูดออกมา ซ่งเย้อันก็ไม่ถามต่อ เขาดื่มน้ำ รู้สึกหน่วงๆตรงหัว อยากพักผ่อนเสียหน่อย แต่แค่นอนลงไปก็หลับยาวเลย
หร่วนซือซือที่นั่งอยู่ข้างๆ มองผู้ชายที่นอนหลับอย่างนิ่งสงบ เธอก็แอบถอนหายใจเบาๆ
วันนี้ก็เกิดเรื่องมากพอแล้ว ถ้ายังดันทุรังต่อเธอคงได้ยุ่งจนหัวหมุนแน่ๆ
ที่เธอเข้าไปยุ่งวุ่นวายในคลับเฮาส์ครั้งนี้ ก็เพื่อไปอธิบายเกี่ยวกับเรื่องข้อมูลรั่วไหลกับอวี้อี่มั่ว แต่ว่า ทุกอย่างกลับสูญเปล่า พังไม่เป็นท่า
แต่เธอเองไม่รู้เลยว่า ผู้ชายที่เธอเฝ้านึกเฝ้าคำนึงนั้น ได้รู้เรื่องทุกอย่างหมดแล้ว
อวี้อี่มั่วที่อยู่ในห้องควบคุมกล้องวงจรปิด ได้เห็นทุกเหตุการณ์ผ่านหน้าจอแล้ว เขาขมวดคิ้วแน่น
บุพเพสันนิวาสคลับเฮาส์เกิดเรื่องขึ้น มีรถฉุกเฉินมาจอดถึงด้านหน้าตึก ข่าวแพร่กระจายไปทั่วคลับเฮาส์อย่างรวดเร็ว เขาที่ไม่ได้สนใจเรื่องนี้แต่แรก จนตู้เยี่ยมารายงานกับเขา เขาจึงได้รู้ว่าหร่วนซือซือกับซ่งเย้อันคือคนที่อยู่ในจุดเกิดเหตุ
ได้ยินชื่อนี้แล้ว เขาก็เป็นกังวลเกิดอารมณ์ฉุนขึ้นมาทันที รีบไปถามเรื่องทั้งหมดให้ชัดเจน แต่บริกรเองไม่ค่อยรู้เรื่องเหตุการณ์เท่าไหร่ สุดท้ายเขาจึงไปที่ห้องควบคุมกล้องวงจรปิดเพื่อไล่ดูเหตุการณ์
กล้องวงจรปิดหน้าห้องน้ำบันทึกเหตุการณ์ชัดเจน ตั้งแต่หร่วนซือซือวิ่งเข้าไปหลบในห้องน้ำหญิง จนถึงซ่งเย้อันโดนทุบที่หลังศีรษะ ช่วงเหตุการณ์นี้เขาดูซ้ำไปมาหลายรอบ
เรื่องเป็นมายังไง เขาพอจะลำดับเหตุการณ์ได้แล้ว
เขากัดฟัน ขมวดคิ้วแน่น ยกข้อนิ้วขึ้นเคาะไปที่หน้าจอ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า : "สองสามคนนี้ จับมันมาให้ได้!"
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวันนี้ ปล่อยผ่านไม่ได้เด็ดขาด!
กล้าจะทำอะไรมิดีมิร้ายกับหร่วนซือซือในที่แบบนี้ ลงไม้ลงมือตีคนจนได้รับบาดเจ็บ แล้วยังปล่อยให้หลบหนีไปได้ คิดว่าคลับเฮาส์นี้เป็นสนามเด็กเล่นของพวกมันหรืออย่างไร
ตู้เยี่ยรีบรับคำสั่งทันที : "ครับ ท่านประธานอวี้"
อวี้อี่มั่วจ้องมองยังหน้าจอ หน้าจอเปลี่ยนเป็นภาพเหตุการณ์หน้าประตูใหญ่ หร่วนซือซือที่พยุงตัวซ่งเย้อันอยู่ น้ำตาไหลท่วมหน้า ดูแล้วสงสารจับใจ
อวี้อี่มั่วรู้สึกหน่วงที่หัวใจ ในหัวนึกย้อนถึงเหตุการณ์ที่โรงจอดรถ หร่วนซือซือก็เป็นแบบนี้ พอเปลี่ยนเป็นผู้ชายคนอื่นเธอก็ร้อนใจเหมือนๆกัน
ความลนลาน เป็นห่วง ร้อนใจ ที่แท้แล้วไม่ได้เป็นกับเขาคนเดียวสินะ
ชั่วอึดใจ ความโกรธก็ปะทุขึ้นในใจ อวี้อี่มั่วขมวดคิ้วแล้วกำหมัดแน่น
เดินออกจากห้องควบคุมกล้องวงจรปิด หันไปมองตู้เยี่ยที่อยู่ข้างๆ พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก : "วันนี้เธอโทรมาใช่หรือเปล่า?"
ตู้เยี่ยผงะ รีบพยักหน้าตอบ : "เธอโทรมาถามที่อยู่ของท่านประธานอวี้กับผมครับ ผมยอมใจเธอแล้วจริงๆ ไม่นึกว่าเธอจะมาที่นี่ได้ นึกไม่ถึงว่าเธอจะหาทางเข้ามาจนได้"
อวี้อี่มั่วหรี่ตาลง
ชุดที่เธอใส่เป็นชุดบริกรของคลับเฮาส์ เขาเห็นมันชัดเจน คิดไม่ถึงว่าเธอจะกล้าบ้าบิ่นขนาดนี้ ถึงขั้นใช้วิธีนี้เพื่อเข้ามาข้างใน
หลับตาลง ภาพที่ผู้หญิงคนนั้นประคองซ่งเย้อันและใบหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตา อวี้อี่มั่วขมวดคิ้วแน่น แล้วพูดออกไปว่า : "จัดคนออกไปตามหาตัวคนที่ลงมือ กลับคฤหาสน์"
ตู้เยี่ยนิ่งไปเล็กน้อยแล้วถามขึ้นว่า : "จะไปดูเลขาหร่วนที่โรงพยาบาลเสียหน่อยไหมครับ?"
เขาตอบกลับด้วยน้ำเสียงเย็นชา : "ไม่ไป"
เธอไปอยู่เป็นเพื่อนกับผู้ชายคนอื่น เขาจะไปเป็นก้างขวางคอทำไม?
หาเรื่องไม่สบายใจใส่ตัว ไม่ใช่สไตล์ของเขา
วันถัดมา แสงแดดสาดส่องเข้ามาในห้องผู้ป่วย แดดอ่อนๆส่องหน้าของเธอ ใบหน้าดูเด่นชัดขึ้น
หน่วนซือซือนอนฟุบข้างเตียงผู้ป่วย บนตัวเธอมีเสื้อคลุมห่มอยู่ ใบหน้าเล็กๆที่เผยให้เห็นอยู่หน่อย นอนหลับสบายเชียว
ตั้งแต่ซ่งเย้อันตื่นนอน ก็เห็นภาพภาพนี้แล้ว ใจก็อ่อนขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
มองหน้าของเธอแล้ว ก็ละสายตาไม่ได้เลย ดูเท่าไหร่ก็รู้สึกไม่พอ
เธอที่นอนหลับปุ๋ยอยู่รู้สึกมีแสงอ่อนๆแยงตา ก็เริ่มขยับตัว ค่อยๆลุกขึ้นลืมตา
เมื่อเห็นซ่งเย้อัน เธอก็รู้สึกตื่นขึ้นมาทันที รีบนั่งตัวตรง : "นาย……ตื่นแล้วเหรอ?"
ซ่งเย้อันยิ้มอ่อนๆ แววตาเต็มไปด้วยความขี้เล่น : "อืม พึ่งตื่น"
เธอที่เห็นสายตาแบบนี้ของเขา ก็รู้สึกเก้อเขินขึ้นมา เธอรีบขยี้ตา : "ฉันจะไปตามหมอมาดูอาการของนายก่อน"
ผ่านไปแล้วหนึ่งคืน ถ้าไม่มีอะไรแทรกซ้อน วันนี้คงได้กลับไปพักฟื้นต่อที่บ้าน
เมื่อคุณหมอมาแล้ว ก็เช็กอาการเบื้องต้น แล้วพูดขึ้นว่า : "ทุกอย่างปกติดี กลับไปพักฟื้นที่บ้านต่อได้ อีกสามวันมาดูอาการอีกทีนะอย่าลืม วันที่ห้ามาตัดไหมได้"
คุณหมอพูดจบ หร่วนซือซือก็แอบถอนหายใจเบาๆ เมื่อคุณหมอออกไปแล้ว เธอจึงรีบพูดขึ้นว่า : "เย้อัน ฉันไปส่งนายดีกว่า หรือว่าโทรหาอันอันดี……"
"ไม่เป็นไร ฉันสั่งคนของฉันมารับ"
พูดจบ มือถือของหร่วนซือซือก็ดังขึ้น
เป็นสายที่โทรจากผู้จัดการหลิว หร่วนซือซือรับสายอย่างไม่ลังเล
"เลขาหร่วน เธออยู่ไหนเนี่ย? ทำไมยังไม่มาที่บริษัท ท่านประธานอวี้มาถึงบริษัทตั้งแต่ครึ่งชั่วโมงที่แล้ว เห็นเธอไม่อยู่ ดูเหมือนจะโมโห"
หร่วนซือซือที่ได้ยินแล้วก็อึ้งเล็กน้อย
เธอพึ่งตื่น ลืมเรื่องทำงานไปเสียสนิท
"ฉัน……ฉันจะไปเดี๋ยวนี้ค่ะ"
พูดจบก็วางสายไป หร่วนซือซือหันไปมองซ่งเย้อันอย่างลำบากใจ เธอยังไม่ทันที่จะพูดอะไร ซ่งเย้อันก็เข้าใจทันที : "เธอรีบไปเถอะ ทางนี้ฉันจัดการเอง"
พูดจบเขาก็หันไปมองที่โต๊ะหัวเตียง : "ฉันสั่งคนเตรียมชุดให้เธอมาชุดหนึ่ง เธอเปลี่ยนชุดแล้วไปที่บริษัทเลย น่าจะยังทัน"
หร่วนซือซือเมื่อได้ยินแล้ว ก็พึ่งสังเกตเห็นถุงๆหนึ่ง ในใจเธอรู้สึกตื้นตันอย่างบอกไม่ถูก
ซ่งเย้อันเป็นคนละเอียดอ่อน คิดแทนคนอื่นจัดการให้แทบทุกอย่าง
เธอเองรู้ว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลามานั่งขอบคุณ รีบบอกลาเขาพร้อมกับไปเปลี่ยนชุดที่ห้องน้ำ แล้วก็ตรงดิ่งไปที่บริษัททันที
เมื่อถึงบริษัทแล้ว เธอสายไปราวหนึ่งชั่วโมง
เมื่อถึงห้องท่านประธาน ผู้ช่วยหลิวก็ตรงมาหาเธอ พูดเสียงกระซิบแล้วชี้ไปที่ห้องทำงาน : "ท่านประธานอวี้บอกว่าถ้าเธอถึงแล้ว ให้ไปหาเขาที่ห้องทำงาน"
หร่วนซือซือที่พึ่งจะถอนหายใจก็ได้เรื่องเครียดต่อ : "ได้บอกรึเปล่าคะว่าเรื่องอะไร?"
ผู้ช่วยหลิวส่ายหน้า : "ไม่ได้บอก……เธอรีบเข้าไปเถอะ"
หร่วนซือซือสูดลมหายใจเข้า กัดฟันแน่น เดินไปถึงหน้าห้อง ได้ยินข้างในไม่มีเสียงอะไรก็ผลักประตูเข้าไป
ขณะที่หร่วนซือซือเดินเข้าไปนั้น อวี้อี่มั่วก้มหน้าอ่านเอกสารอยู่ เมื่อเขาได้ยินเสียง เขาก็ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามองและอ่านเอกสารต่อ
หร่วนซือซือเดินไปหน้าโต๊ะของเขา รอเขาพูด
แต่ผ่านไปราวสามนาที เขาก็ไม่มีท่าทีว่าจะเงยหน้าขึ้นมาเลย ราวกับว่าเธอเป็นธาตุอากาศยังไงอย่างั้น
รอไปอีกสักพัก เธอเห็นว่าเอกสารในมือของเขานั้นไปถึงหน้าสุดท้ายแล้ว เธอจึงกัดฟันแน่น แล้วพูดขึ้นว่า : "ท่านประธานอวี้"
อวี้อี่มั่วเมื่อได้ยินเสียงเธอแล้ว ก็ขมวดคิ้ว เงยหน้าขึ้นมองเธอด้วยสายตาเย็นชา ปิดแฟ้มเอกสารในมือลง
เขามองเสื้อผ้าที่เธอสวมใส่ สีหน้าเข้มขรึม แล้วก็ขยับปากพูดขึ้นว่า : "หร่วนซือซือ ใครอนุญาตให้เธอมีสิทธิพิเศษหยุดงานตามอำเภอใจได้?"
เป็นซ่งเย้อันรึไง?
เพื่อที่จะได้ดูแลผู้ชายคนนั้น เธอไม่กลัวจะเสียงานนี้ไปเลยเหรอ!