หร่วนซือซือไม่มีท่าทีลังเล คิดก็แทบจะไม่คิดก่อนจะพยักหน้าหงึกหงัก แล้วเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงมั่นอกมั่นใจว่า "อื้ม ฉันยอมรับทั้งหมดค่ะ"
เดิมทีเธอก็ขาดทุนให้กับอวี้อี่มั่วอยู่แล้ว ตอนนี้ยังเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมาอีก เธอก็ยิ่งละอายใจมากขึ้นกว่าเดิม
"อืม ขึ้นรถก่อนเถอะ"
หร่วนซือซือสูดอากาศเข้าปอดลึกๆ ผละออกจากเขา แล้วขึ้นรถไป
ในระหว่างทางกลับไป พวกเขาไม่พูดอะไรกันสักคำ ภายในตัวรถเงียบกริบราวกับว่าบรรยากาศหยุดนิ่งไปด้วย
รถมาหยุดจอดอยู่ตรงที่ด้านนอกเขตเล็กๆ หร่วนซือซือยื่นมืออกไปเปิดประตู ก่อนจะสบมองไปที่อวี้อี่มั่วอย่างลองเชิง เมื่อเห็นเขาไม่มีปฏิกิริยาอะไร เธอจึงสาวเท้าก้าวลงจากรถ
ในช่วงเวลาก่อนที่ประตูรถจะถูกปิดลงนั้น เธอได้ยินเสียงของชายหนุ่มดังขึ้น "พรุ่งนี้ฉันจะให้ตู้เยี่ยมารับเธอ ไปเยี่ยมคุณย่ากัน"
"ค่ะ"
หร่วนซือซือตอบรับคำ แล้วปิดประตูรถ
เมื่อรถยนต์เคลื่อนตัวออกไปแล้ว ก็ไม่ได้มีท่าทีที่จะหยุดลงอีก ก่อนจะจากไปทันที
หร่วนซือซือถอนหายใจ ก่อนจะหมุนตัวแล้วเดินเข้าไปในเขตเล็กๆ กลับเข้าคอนโดมิเนียม
เมื่อกลับถึงบ้าน เธอล้างหน้าล้างตา นำโทรศัพท์มือถือที่ไม่มีแบตเตอรี่แล้วไปชาร์จแบตเตอรี่ เมื่อเปิดเครื่องแล้ว ถึงจะรู้ว่ามีสายโทรเข้าจากคุณนายหลิวที่โทรศัพท์เข้ามาหลายสายแต่ทว่ากลับไม่ได้รับ
หร่วนซือซือตกใจ ก่อนจะมีสติกลับคืนมาอย่างงุนงง เธอลืมไปแล้วว่าต้องบอกพวกเขาว่าวันนี้ไปโรงพยาบาลไม่ได้แล้ว!
เธอรีบฝากข้อความทางโทรศัพท์กลับไปทันที เมื่ออธิบายให้คุณนายหลิวเสร็จสรรพ ก็ตัดสายไป ถึงจะถอนหายใจอย่างโล่งอกขึ้นมาหนึ่งครั้ง
เมื่อนอนพลิกไปพลิกมาด้วยความทรมาน เธอก็หิวขึ้นมาอีกแล้ว เมื่อเดินไปที่ห้องครัวรอบหนึ่ง กลับค้นพบว่าในตู้เย็นไม่มีอะไรหลงเหลืออยู่เลย
ช่างโชคร้ายเสียนี่กระไร
หร่วนซือซือขบเม้มริมฝีปากไปมา กำลังจะวางแผนสั่งเดลิเวอร์รี่ ใครจะรู้ล่ะว่าจู่ๆกลับมีเสียงออดของประตูดังขึ้น
เธอเดินไปที่หน้าประตู มองลอดผ่านตาแมว ก่อนจะเห็นบุรุษในชุดเดลิเวอร์รี่คนหนึ่งยืนอยู่ด้านนอก
เธอเปิดประตูด้วยสมองขาวโพลน ก่อนที่บุรุษในชุดเดลิเวอร์รี่คนนั้นจะยื่นของส่งมาให้เธอ "เดลิเวอร์รี่ของคุณครับผม"
เธอ…ยังไม่ได้สั่งเดลิเวอร์รี่นะ……
หลังจากที่รับมาอย่างลังเลแล้ว เธอสบมองใบเสร็จที่แปะอยู่ด้านบน รู้สึกว่าชื่อร้านค่อนค้างที่จะคุ้นตาเล็กน้อย
แทบจะเป็นร้านอาหารที่เธอเคยไปทานเมื่อครั้งก่อน ครั้งนั้นเป็นอวี้อี่มั่วที่พาเธอไปนี่……
หรือว่าจะเป็นอวี้อี่มั่วที่ช่วยเธอสั่งมากันนะ?
สมองกลับฉายภาพใบหน้านั้นของชายหนุ่ม หัวใจของหร่วนซือซือก็อบอุ่นขึ้นมาทันที
คนที่สามารถสั่งเดลิเวอร์รี่ให้เธอได้ในเวลานี้ ก็มีเพียงแค่เขาเท่านั้นแล้ว
ถึงแม้ว่าเขาจะแสดงท่าทีเย็นชาออกมา แต่ทว่าภายในใจกลับมีความรู้สึกจริงๆ……
คืนนั้นทั้งคืน หร่วนซือซือนอนไม่ค่อยสงบ แม้กระทั่งฝันก็ยังฝันว่ากำลังวิ่งไล่จับคนที่ Shengtai Garden อยู่ เมื่อตื่นขึ้นมา ท้องฟ้าก็เริ่มสว่างขึ้นแล้ว
เธอเก็บกวาดแบบง่ายๆครั้งหนึ่ง หลังจากนั้นไม่นาน ตู้เยี่ยก็โทรศัพท์เข้ามาหา บอกว่าตอนนี้เขาอยู่ที่ชั้นล่างแล้ว
นั่งรถมาไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง หร่วนซือซือก็มาถึงบ้านของคุณย่าเรียบร้อยแล้ว
เมื่อลงจากรถ ก็มองเห็นบ้านพักที่ทั้งคุ้นเคยทั้งแปลกตา จู่ๆหร่วนซือซือก็รู้สึกลังเลขึ้นมาเล็กน้อย
"เข้าไปเถอะครับ ท่านประธานอวี้กับคุณท่านรออยู่ที่ชั้นสองแล้วครับ"
เมื่อฟังตู้เยี่ยเอ่ยเตือนขึ้น หร่วนซือซือสูดลมหายใจเข้าปอดหนึ่งครั้ง พยักหน้า ก่อนจะรวบรวมความกล้าแล้วเดินเข้าไปด้านใน
เมื่อถึงชั้นสอง ตู้เยี่ยนำเธอเข้าไปถึงที่หน้าประตูห้องนอน เปิดประตู หร่วนซือซือจึงสาวเท้าก้าวเดินเข้าไป ก็สบมองเห็นคุณย่าที่กำลังนอนอยู่บนเตียงและอวี้อี่มั่วที่เฝ้าอยู่ข้างเตียง
เมื่อคุณย่าเห็นหร่วนซือซือ นัยน์ตาเป็นประกายขึ้นมาทันที "ซือซือ หนูมาหรือจ๊ะ?"
"คุณย่าคะ……"เธอรีบสาวเท้าก้าวเข้าไป ก่อนจะเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วงว่า "คุณย่าเป็นอย่างไรบ้างคะ? ดีขึ้นหรือยังคะ?"
คุณย่าพยักหน้าขึ้นลง สบมองไปยังอวี้อี่มั่วอย่างไร้เรี่ยวแรง ก่อนจะเอ่ยเสียงเบาขึ้นว่า "อี่มั่ว เธอออกไปก่อนเถอะ ฉันมีเรื่องจะคุยกับซือซือ"
อวี้อี่มั่วได้ยินดังนั้น พลันชะงักนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะสบมองหร่วนซือซือครั้งหนึ่ง ลุกขึ้นยืนแล้วเดินออกจากห้องไป ก่อนที่จะปิดประตูตามหลังให้ด้วย
หร่วนซือซือไม่เข้าใจเล็กน้อย เมื่อหันศีรษะกลับไป ก็เห็นคุณย่ากำลังสบมองเธออยู่ สีหน้าเป็นไปด้วยสิ่งที่อยากจะเอ่ยมากมาย
"คุณย่าคะ เป็นอะไรไปคะ?"
มีเรื่องอะไรที่ไม่สามารถเอ่ยขึ้นต่อหน้าอวี้อี่มั่วได้อย่างงั้นหรือ?"
คุณย่าสูดอากาศเข้าปอดลึกๆหนึ่งครั้ง ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่เดือนเนื้อร้อนใจขึ้นว่า "เรื่องเมื่อวานน่ะ หนูไม่ต้องไปใส่อกใส่ใจมากนัก ไม่โทษหนูหรอกนะ……"
หร่วนซือซือได้ยินดังนั้น หลุบตาลงต่ำ ก่อนจะเอ่ยขึ้นเสียงเบาว่า "ถ้าหากตอนนั้นหนูอยู่ด้วยกันกับคุณย่าแล้วล่ะก็ คงไม่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นหรอกค่ะ"
เมื่อคุณย่าได้ยินดังนั้น ก็ตบเข้าที่หลังมือของเธออย่างแผ่วเบา ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงแผ่วเบาขึ้นว่า "ที่จริงแล้ว เมื่อวานย่าไม่ได้หลงทางหรอก"
เมื่อหร่วนซือซือได้ยินดังนั้น ในเวลานั้นเองก็พลันชะงักนิ่งไปครู่หนึ่ง เงยหน้าขึ้นสบมองคุณย่าด้วยท่าทางตกตะลึง "ถ้าอย่างนั้นแล้วคุณย่าทำไมถึงได้……"
ทำไมจู่ๆถึงได้หายไปกันล่ะ
"เมื่อวานตอนที่ย่ากำลังรอหนูอยู่ มีผู้หญิงรูปร่างคล้ายหนูเข้ามาหา บอกว่าเป็นเพื่อนของหนู……"
เมื่อฟังคุณย่าเล่าเรื่องราวของเมื่อวานที่เกิดขึ้นรอบหนึ่งแล้ว หร่วนซือซือก็ยิ่งตกตะลึงมากขึ้น
ตามที่คุณย่าอธิบายรูปประพันสันฐานแล้ว เธอก็ยังคงไม่รู้ว่าคือใคร แต่ทว่าสามารถพูดได้จุดหนึ่งว่า ผู้หญิงคนนั้นเป็นคนที่พุ่งเข้ามาหาเธอแน่ๆ!
"ถ้าอย่างนั้นทำไมคุณย่าถึงไม่บอกเรื่องนี้กับอวี้อี่มั่วล่ะคะ?"
คุณย่าถอนหายใจเบาๆ "ย่ากลัวว่าเขาจะโทษหนู ก็เลยไม่ได้บอกเขาไปจ้ะ ดีที่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ทว่าย่ารู้สึกว่าควรจะต้องบอกหนูเสียหน่อย ไม่ว่าเธอคนนั้นจะเป็นใคร หนูต้องระวังเอาไว้ด้วยนะ!"
คำพูดเหล่านี้เปรียบเสมือนกับหินก้อนมหึมา ที่กำลังกดทับเข้าที่หัวใจของหร่วนซือซือเอาไว้ ทำให้เธอไม่เป็นสุข
เธอแทบไม่เคยทำผิดใจอะไรกับใครเลย ในสมองของเธอมีผู้หญิงที่รู้จักผ่านเข้ามา แต่ทว่าสุดท้ายแล้วก็ยังจับต้นสายปลายเหตุขอวเรื่องนี้ไม่ได้
คนที่ถือว่าเคยทำผิดด้วยคนเดียวนั้น ก็คงจะเป็นเฉิงลู่ แต่ทว่าพวกเขาไม่ได้พบเจอกันเป็นเวลานานแล้วนะ คงจะไม่ใช่เธอหรอกมั้ง
เมื่อเห็นเธอตกอยู่ในภวังค์ คุณย่าจึงเอ่ยเสียงเบาขึ้นว่า "ซือซือจ๊ะ เรื่องครั้งนี้ไม่โทษหนูหรอกนะจ๊ะ ที่ย่าเรียกหนูมา เล่าเรื่องเหล่านี้ให้หนูฟัง หนูก็ไม่ต้องเอาไปใส่ใจมากนักนะจ๊ะ"
หร่วนซือซือมีสติกลับคืนมา ก่อนจะพยับหน้าตอบรับคุณย่าหงึกหงัก
ตั้งแต่ที่ออกมาจากห้องนอนของคุณย่า เธอยังคงมีความวิตกกังวล ตอนนี้ยังไม่ทราบแน่ขัดเลยว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร เธออยู่ในที่มืด จะป้องกันอย่างไรก็ไม่อาจป้องกันได้
ที่มากไปกว่านั้นก็คือ อีกทั้งยังเชื่อมโยงไปถึงคุณย่า ถ้าเป็นแบบนั้นแล้วก็ยิ่งให้อถัยไม่ได้แล้ว!
พึ่งจะสาวเท้าเดินได้สองก้าว เธอเผอิญช้อนสายตาขึ้น ก็มองเห็นทางบันได้ที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลนัก เห็นเงาของชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่กำลงยืนพิงกำแพอยู่ทางนั้น
ชายหนุ่มที่สวมใส่เสื้อเชิ้ต ไม่ใส่เน็กไท กระดุมที่คอเสื้อถูกปลดออกก่อนสองเม็ด มีทางทีสบายๆอยู่มากโข
ไม่เพียงแต่ยืนพิงกำแพงด้วยท่าทีสบายๆ อีกทั้งยังมีเสน่ห์เป็นอาวุธอีกด้วย
ดูท่าแล้ว คลับคล้ายคลับคลาราวกับว่ากำลังรอเธออยู่
หร่วนซือซือลอบบีบมือเข้าหากันแน่น รวบรวมความกล้า ก่อนจะเดินตรงที่ทางอวี้อี่มั่ว
คุณย่ายังไม่ได้บอกเรื่องนี้กับเขา แต่ทว่าเธอรู้สึกว่า ยังไงก็ต้องให้เขารับรู้เอาไว้เสียจะดีกว่า เผื่อว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น……
เธอเดินตรงเข้าไปหา เอ่ยขึ้นด้วยท่าทางขึงขังว่า "อวี้อี่มั่ว เรามาคุยกันหน่อยเถอะค่ะ"
นัยน์ตาของอวี้อี่มั่วฉายแววประหลาดใจ ครึ่งวินาทีหลังจากนั้น เขาถึงเริ่มขยับริมฝีปากเบาๆว่า "ได้สิ"
พอดีเลย เขาก็มีเรื่องจะคุยกับเธออยู่พอดี
อวี้อี่มั่วสาวเท้าเดินตรงไปข้างหน้า นำเธอเดินตรงเข้าไปในห้องหนังสือ ปิดประตู เขาเดินไปนั่งบนโซฟา ท่าทางเอาแต่ใจ ก่อนจะพยักหน้าไปทางเธอเบาๆ "นั่งสิ"
หร่วนซือซือนั่งลงที่ตรงข้ามกับเขา สูดลมหายใจเข้าลึกๆหนึ่งครั้ง ก่อนจะเอ่ยเสียงเบาว่า "ที่จริงแล้วเมื่อวานที่คุณย่าหายไป ไม่ได้เป็นเพราะว่าท่านหลงทาง"
เมื่อหร่วนซือซือเอ่ยจบประโยค ร่างทั้งร่างของอวี้อี่มั่วที่อยู่ตรงข้ามก็หดเกร็งขึ้นมาทันที นัยน์ตาฉายประกายความเย็นยะเยือกออกมา
"เกิดอะไรขึ้น?"
เมื่อวานตอนที่พบคุณย่า ท่านพูดกับปากของท่านเองกับเขาว่าเป็นเพราะตนเองไม่ระวังจึงหลงทางไป ทว่าตอนนี้ทำไมถึงกลับคำเสียแล้วล่ะ?
หร่วนซือซือบอกเล่าเรื่องราวที่คุณย่าเล่าให้ฟังอีกครั้งให้กับอวี้อี่มั่วฟังด้วยท่าทางไม่เร่งรีบเพียงแต่ว่าเห็นสีหน้าของเขาที่ค่อยๆเคร่งขรึมมากขึ้น แม้กระทั่งอุณหภูมิของบรรยากาศโดยรอบก็เย็นลงตามเข้าไปติดๆ
เพื่อคนที่เขาเฝ้าทะนุถนอม เขาไม่อนุญาตให้พวกเขาได้รับบาดเจ็บอะไรแม้แต่น้อย!
เมื่อพูดจบ หร่วนซือซือพลานนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยเสียงเบาอีกว่า "ฉันเองก็ยังไม่เข้าใจว่าสรุปแล้วคือใครค่ะ……"
อวี้อี่มั่วขมวดคิ้ว ก่อนจะเอ่ยเสียงเย็นขึ้นว่า "ฉันจะไปสืบเอง"
หร่วนซือซือได้ยินดังนั้น พยักหน้าหงึกหงัก "เรื่องที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตามฉันก็มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย ขอโทษนะคะ"
พูดไป เธอลุกขึ้นยืน ก่อนจะโค้งคำนับขอโทษไปทางอวี้อี่มั่ว
อวี้อี่มั่วที่เห็นสถานการณ์ดังนั้นแล้ว ก็หวนนึกถึงคำพูดเมื่อวานเหล่านั้นก่อนจะขึ้นรถของเธอ คิ้วขมวดแน่น ก่อนจะเอ่ยปากขึ้นมาว่า "เมื่อวานที่เธอพูดน่ะ ยังถือว่าเชื่อถือได้ไหม?"
หร่วนซือซือพลันชะงักนิ่งไป หวนนึกถึงคำที่ตนเองได้เคยเอ่ยไป ก่อนจะพยักหน้าขึ้นลง "เชื่อถือได้ค่ะ"
อวี้อี่มั่วได้ยินดังนั้นแล้ว เขายื่นมือออกไป หยิบเอกสารจากทางด้านข้างขึ้นมาหนึ่งฉบับ ก่อนจะยื่นส่งไปให้ "ถ้าอย่างนั้นก็เซ็นเอกสารนี่เสีย"
MANGA DISCUSSION