ดั่งรักบันดาล - ตอนที่ 173
หร่วนซือซือสูดหายใจเข้าลึกๆ และปรับอารมณ์ตัวเองสักพัก จากนั้นก็เงยหน้ามองอวี้อี่มั่วและพยักหน้าให้เขา " ถ้าอย่างนั้นฉันจะฟังคุณ ฉันจะกลับไปในวันพรุ่งนี้ "
ตอนนี้พอเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น เธอโดนคนพวกนั้นจับตัวไปแล้วรอบหนึ่ง ถ้าเธอยังอยู่ที่นี่ต่อ เธอไม่เพียงแต่จะช่วยอะไรเขาไม่ได้อีกทั้งอาจจะเป็นตัวถ่วงของเขาด้วยซ้ำ
ถ้าเป็นแบบนี้ เธอกลับไปจะดีกว่า
เมื่อเห็นเธอยอมตอบตกลง อวี้อี่มั่วก็ขมวดคิ้วที่จ้องไปที่เธอ เขากำลังเตรียมจะพูดบางอย่าง แต่ทันใดนั้นก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น
หร่วนซือซือตัวเกร็งไปหมด เธอมีความกังวลเล็กน้อย
อวี้อี่มั่วที่อยู่ตรงนั้นก็รีบลุกไปเปิดประตู
พอเปิดประตูออกไปก็เห็นตู้เยี่ยยืนอยู่หน้าแระตูด้วยสีหน้าที่ตื่นตระหนก "ซูอวี้เฉิงกลับมาแล้วครับ เขาได้รับบาดเจ็บ ผมไปเยี่ยมเขามาแล้วเหมือนเขายังคงโมโหอยู่ ท่านประธานอวี้จะไปเยี่ยมเขาหน่อยไหมครับ? "
พออวี้อี่มั่วได้ยินแบบนั้น ดวงตาเขาก็หม่นหมองอย่างบอกไม่ถูก หยุดชะงักไปชั่วครู่เขาก็ค่อยๆพยักหน้า " ฉันรู้แล้ว เดี๋ยวฉันจะไปเดี๋ยวนี้ "
ตู้เยี่ยพยักหน้าและเดินออกไปโดยไม่ได้พูดอะไร
อวี้อี่มั่วปิดประตูห้อง พอนึกถึงคำพวกที่ตู้เยี่ยพูดเมื่อสักครู่ สีหน้าเขาตึงเครียดเล็กน้อย
ในเรื่องคืนนี้ พวกเขาเตรียมการกันอย่างหนักและวางแผนกันมายาวนานมากๆ ก็เพื่อต้องการจะจับตัวสวี่เฟิงหมิงให้ได้ แต่ไอ้เคนั้นกลับชิงลงมือจับตัวหร่วนซือซือไปสะก่อน ทำให้ตอนนี้พวกเขาเป็นฝ่ายเสียเปรียบ
จับคนกลับมาไม่ได้ยังไม่พอ ยังโดนเล่นงานอีก ก็เป็นธรรมดาที่ซูอวี้เฉิงจะไม่พอใจ
เขาหันหลังและเดินกลับมา ทันทีที่เขาเงยหน้าขึ้นมอง เขาก็เห็นหร่วนซือซือที่เดินลงจากเตียงมาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ สองเท้าของเธอเหยียบลงบนพื้นที่เย็นเฉียบ และดวงตาคู่นั้นของเธอก็กำลังจ้องมาที่เขา
เขาขมวดคิ้วแล้วถามว่า " เธอจะทำอะไร? "
ไม่ยอมนอนพักผ่อนอยู่บนเตียง แล้วยังลงมาเดินเท้าเปล่าบนพื้นเย็นเฉียบแบบนี้อีก ไม่รู้หรือยังไงว่าตอนนี้ตัวเองห้ามสัมผัสของเย็น?
หร่วนซือซือรู้สึกหดหู่เล็กน้อย และเธอก็พูดโพล่งออกมาว่า " พรุ่งนี้ คุณไม่กลับไปด้วยกันหรอ? "
ถ้าเขาไม่กลับ มันหมายความว่าเขาจะอยู่ที่นี่ต่อเพื่อจัดการกับคนเหล่านั้น หมายความว่าเขาจะอยู่ท่ามกลางกระสุนที่อันตราย และหมายความว่าเขาจะมีแนวโน้มที่จะได้รับบาดเจ็บได้
ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกันพอเขาคิดถึงเรื่องพวกนั้น ก็ทำให้เธอรู้สึกเจ็บตรงหัวใจจนแทบหายใจไม่ออก
อวี้อี่มั่วชะงักไปสักพัก เขารู้สึกถึงความเป็นห่วงที่ส่งผ่านสายตาของหญิงสาว ทันใดนั้นความรู้สึกที่ยากจะอธิบายก็ปรากฏขึ้นในใจของเขา
หลังจากนั้น เขาก็เดินเข้าไปผลักเธอให้นอนลงบนเตียง เขาขมวดคิ้วพร้อมกับมองไปที่เท้าของเธอที่ไม่ได้ใส่อะไรเลยในตอนนี้ และพูดขึ้นว่า " ถ้าเธอเป็นอะไรไป ศาสตราจารย์ต้องไม่ยกโทษให้ฉันแน่ๆ "
เขาพูดพร้อมกับดึงผ้าห่มขึ้นมาห่มตัวเธอ จากนั้นเขาก็หยิบโทรศัพท์ที่วางอยู่ข้างๆเขาขึ้นมาพร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งๆว่า " เธอพักผ่อนให้สบาย ฉันมีธุระนิดหน่อย พรุ่งนี้เช้าตู่เยี่ยจะมารับเธอที่นี่ "
เขาหันหลังเดินออกไปทันที
หร่วนซือซือรู้สึกปวดใจ เธออดใจไม่ไหวเลยยื่นมือไปคว้าแขนเสื้อเขาไว้ " อวี้อี่มั่ว "
อวี้อี่มั่วไม่ได้หันกลับมามอง แต่เขากลับตอบด้วยน้ำเสียงทั้งเย็นชาและเคร่งขรึมว่า " มีอะไร? "
หร่วนซือซือขบกรามตัวเอง เธอเหมือนว่าจะมีเรื่องเยอะแยะมากมายที่อยากจะบอกเขา แต่พอจะอ้าปากพูดก็ไม่รู้ว่าควรเริ่มจากตรงไหนดี สุกท้าย เธอก็พูดออกมาเพียงคำสั้นๆว่า " คุณระวังตัวด้วยนะ "
ในสายตาของเขาแฝงไปด้วยความประหลาดใจ จากนั้นเขายิ้มและตอบเธอว่า " ฉันรู้อยู่แล้ว "
เขาทิ้งไว้เพียงประโยคสั่นและเขาก็หันหลังเดินหลับไปโดยไม่หันกลับมามองอีกเลย
วินาทีที่ได้ยินเสียงปิดประตู หร่วนซือซือก็รู้สึกเคว้งคว้างขึ้นมาทันที
เรื่องที่เกิดขึ้นนี้ ไม่ว่าจะเกิดขึ้นเพราะเขาหรือเป็นเพราะเขาที่ทำให้เธอต้องถูกจับตัวหรือไม่ก็ตาม แต่ว่าการที่เขาช่วยชีวิตเธอไว้ในครั้งนี้ บุญคุณในครั้งนี้ เธอจะจำไม่ลืม
ในเช้ารุ่งวันต่อมา เธอพึ่งจะตื่นนอน และพึ่งจะเดินกลับไปยังห้องตัวเอง เธอกำลังเก็บของอยู่ทันใดนั้นเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น
เธอเดินไปเปิดประตูก็เจอกับตู้เยี่ยที่ยืนอยู่หน้าประตู
" ผู้ช่วยหร่วน ทันทีที่คุณเก็บของเรียบร้อยแล้ว เราจะออกเดินทางทันที "
หร่วนซือซือพยักหน้าและพูดขึ้นว่า " จริงสิ ผู้ช่วยตู้ มีของสิ่งหนึ่งอยากจะรบกวนขอให้คุณช่วยส่งคืนให้หน่อย "
เธอพูดพร้อมกับหันไปหยิบเสื้อเชิ้ตผู้ชายที่พับไว้เรียบร้อยที่วางอยู่บนตู้เล็กๆยื่นให้กับเขา
ตู้เยี่ยเหลือบมองแวบหนึ่ง เขาจำแบรนด์เสื้อเชิ้ตตัวนี้ได้ และเขาก็พยักหน้าอย่างเข้าใจ " ให้เป็นหน้าที่ผมแล้กัน! เดี๋ยวผมส่งคืนให้ "
หลังจากที่คืนเสื้อเชิ้ตเสร็จแล้ว หร่วนซือซือก็กลับมาเก็บของที่ก้องจนทุกอย่างน่าจะจัดเตรียมเรียบร้อยแล้ว เธอก็ลากกระเป๋าเดินทางออกจากห้องมา ในใจเธอรู้สึกอาลัยอาวรณ์เล็กน้อย
มองไปที่ห้องเสี่ยวหลิวที่อยู่ข้างๆ หร่วนซือซือก็รู้สึกลังเลเล็กน้อยว่าควรจะบอกลาเธอสักหน่อยดีไหม
แต่ทันใดนั้นตู้เยี่ยก็เดินเข้ามาพอดี และเหมือนจะรู้ทันความคิดเธอ เขาพูดขึ้นนิ่งๆว่า " ผู้ช่วยหร่วน ทางด้านของพี่หลัวผมได้ทำการแจ้งพวกเขาไปแล้วว่าที่คุณต้องขอตัวกลับก่อนเป็นเพราะมีปัญหาทางด้านสุขภาพ พวกเขาทุกคนก็ต่างเข้าใจดี "
พอเธอได้ยินแบบนี้ หร่วนซือซือก็ทำได้เพียงพยักหน้าและตอบกลับไปว่า " งั้นไปกันเถอะ "
ระหว่างเดินทางไปสนามบิน หร่วนซือซือรู้สึกเศร้าเล็กน้อย การเดินทางมาประเทศไทยเพียงเวลาไม่ถึงสามวันกลับต้องสิ้นสุดลงเพราะการลักพาตัวในครั้งนั้น
แผนการเหล่านั้นที่เกิดขึ้นในละคร กลับเกิดขึ้นกับเธอในชีวิตจริง
หลังจากการเดินทางกว่าสี่ชั่วโมง กว่าจะเดินทางมาถึงสนามบินเจียงโจวก็ช่วงบ่ายแล้ว
แสงอาทิตย์ของเจียงโจวเมื่อเทียบกับประเทศไทยแล้วที่นี่อบอุ่นกว่าเยอะมากๆ พอเหยียบลงบนผืนแผ่นดินของประเทศตัวเอง หร่วนซือซือก็รู้สึกสบายใจขึ้นเล็กน้อย
" ซือซือ! "
ทันใดนั้น ก็มีเสียงหนึ่งที่คุ้นเคยดังขึ้น พอหร่วนซือซือหันมองไปตามเสียง เธอก็เจอกับรูปร่างที่คุ้นเคย
ซ่งอวิ้นอันที่สวมเสื้อสเวตเตอร์แนวฮิปฮอปสีดำ และกางเกงขาสั้นที่เผยให้เห็นขาเรียวยาวของเธอกำลังยืนโบกมือให้ตัวเอง
หร่วนซือซือทั้งตกใจและดีใจ หันไปมองตู้เยี่ยที่อยู่ข้างๆ พร้อมกับพูดขึ้น " อันอันมาได้ยังไงกัน? "
ใบหน้าของตู้เยี่ยกลับมารอยยิ้มปรากฏขึ้น และเขาก็ตอบกลับเสียงเบาว่า "ผมส่งข้อความให้เธอก่อนหน้านี้ว่าคุณกำลังจะกลับมา เธอเลยอาสามารับคุณด้วยตัวเอง "
เมื่อเห็นตู้เยี่ยที่พอพูดถึงซ่งอวิ้นอันก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ทุกที หร่วนซือซือเลยอดไม่ได้ที่จะหยอกล้อเขาว่า " ตอนนี้พวกคุณ……"เป็นอะไรกัน? "
ประโยคหลังยังไม่ได้พูดออกจากปาก ตู้เยี่ยก็รีบปฏิเสธขึ้นมาทันทีว่า " ไม่มีอะไรนะ พวกเราเป็นแค่เพื่อนกัน "
ถึงปากเขาจะพูดแบบนั้น แต่สีหน้าเขามันฟ้อง
หร่วนซือซือมองท่าทีที่ตู้เยี่ยแสดงออกมา เธอก็รู้ทันที
เธอเดินออกไปโดยไม่ได้พูดอะไร
ทันทีที่เธอออกไป ซ่งอวิ้นอันก็พุ่งเข้ามากอดเธอ " ซือซือ ฉันคิดถึงเธอจะแย่แล้ว! "
ทันทีที่เจอเธอ หร่วนซือซือก็อารมณ์ดีขึ้นมาทันทีอย่างบอกไม่ถูก " เอาเถอะ ไม่ได้เจอกันแค่สามวันทำเหมือนไม่ได้เจอกันมาสามปีอย่างนั้นแหละ! "
ซ่งอวิ้นอันหัวเราะ " ฉันไม่สนหรอก จริงด้วย เธอบอกส่าไปสี่ห้าวันไม่ใช่หรอ? ทำไมกลับมาก่อนล่ะ? "
เมื่อได้ยินเธอถามแบบนี้ หร่วนซือซือก็ชะงักไป นึกถึงเหตุการณ์น่ากลัวที่เกิดขึ้นเมื่อวาน เธอก็ลังเลเล็กน้อย
เรื่องแบบนี้ ยังไม่ต้องบอกซ่งอวิ้นอันจะดีหว่า
เธอพูดขึ้นอย่างใจเย็นว่า " ฉันมีรอบเดือน เธอเองก็รู้นิ ทุกครั้งที่ฉันมีรอบเดือนฉันจะปวดท้องจะเป็นจะตายทุกทีเลย ก็ทำอะไรไม่ได้ งานทางนั้นก็ไมได้สำคัญมากเท่าไหร่ ฉันเลยขอกลับมาก่อน "
ซ่งอวิ้นอันกระพริบตา เหลือบสายตาไปมองตู้เยี่ยที่อยู่ไม่ไกล ก็อดไม่ได้ที่จะถามว่า " แล้วทำไมตู้เยี่ยถึงได้กลับมาด้วยล่ะ? "
หร่วนซือซือขบกรามตัวเอง และรีบหาข้ออ้างอย่างรวดเร็ว เธอยังไม่คิดไม่ออกตู้เยี่ยก็สับขาเดินมาทางนี้แล้ว เขาเลยตอบกลับอย่างจริงจังว่า " มีงานด่วนที่นี่ ผมเลยต้องกลับมาก่อน "
พอได้ยินเขาพูดแบบนี้ ซ่งอวิ้นอันจึงหายสงสัย เธอดึงกระเป๋าเดินทางมาจากมือของหร่วนซือซือ และพูดขึ้นอย่างอารมณ์ดี " ซือซือ ไปประเทศไทยมาครั้งนี้ได้ซื้อของขวัญที่ระลึกแบบไทยๆมาฝากฉันรึเปล่า? "
เมื่อพูดถึงขวัญที่ระลึก หร่วนซือซือหยุดชะงักไปสักพัก
เธอเดินทางกลับมาอย่างเร่งรีบ เลยลืมคิดถึงเรื่องนี้ไปเลย " สินค้าพิเศษ " อย่างเดียวที่เธอนำกลับมาจากประเทศไทย ก็คงจะมีแค่ผ้าอนามัยพวกนั้นที่เธอยัดใส่ในกระเป๋าเดินทางที่กินพื้นที่ไปกว่าครึ่งแล้วละมั้ง?