ดั่งรักบันดาล - ตอนที่ 171
เสียง " ซิ่ว——" ดังขึ้น ลูกดอกก็พุ่งไปที่เป้าอย่างรวดเร็ว
แผ่นเกมปาเป้าหมุนไปเรื่อยๆ หร่วนซือซือหลับตาสนิทไม่กล้าขยับเลยแม้แต่น้อย
สายตาจับจ้องไปที่ลูกดอกนั้นกำลังจะพุ่งมาที่แขนเธอ และมีเสียง " ฟุ่บ! " ดังขึ้น ลูกดอกปักลงบนแผ่นปาเป้าโดยห่างจากแขนเธอไม่ถึงครึ่งเซนติเมตร
หร่วนซือซือได้ยินเสียงหายใจหอบดงขึ้นข้างๆ เธอจึงค่อยๆลืมตาขึ้น
ลูกดอกดอกสุดท้าย ปาผ่านเธอไปอย่างสวยงามโดยไม่โดนตัวเธอเลยแม้แต่น้อย!
เธอเงยหน้าขึ้นมองอย่างดีใจเล็กน้อย เมื่อสบตากับชายที่มีดวงตาดำสนิทและสุดลึกล้ำคู่นั้น เธอก็รู้สึกสบายใจอย่างบอกไม่ถูก
ความรู้สึกแบบนี้ มันเป็นความรู้สึกปลอดภัยอย่างแท้จริง เป็นความไว้ใจ เป็นความรู้สึกที่เธอไม่เคยได้รับจากใครมาก่อน
พอเห็นว่าหร่วนซือซือมองมาทางเขา จากแววตาที่เย็นชาของอวี้อี่มั่วก็เปลี่ยนเป็นแววตาที่อบอุ่นและสบตากับเธออย่างอ่อนโยน
ในตอนนั้นเองก็มีเด็กผู้ชายคนหนึ่งวิ่งเข้ามาหยุดลงตรงหน้านายเค และโน้มตัวเข้าไปกระซิบข้างหูเขา
ต่อมา แววตาของนายเคเปลี่ยนไป และตั้งใจจ้องไปที่หน้าอวี้อี่มั่ว และเขาก็ส่งสัญญาณให้คนข้างๆออกไปก่อน
เขาเดินเข้าไป เดิมทีสีหน้าที่เย็นชาของเขาก็เปลี่ยนไป เขายิ้มมุมปากและปรบมือให้อวี้อี่มั่ว " เยี่ยม! ปาได้เยี่ยมจริงๆ ไอ้เคคนนี้นับถือ! "
เมื่อได้ยินคำเยินยอของเขา สีหน้าอวี้อี่มั่วก็ยังไม่มีความเปลี่ยนแปลง อวี้อี่มั่วชำเลืองตามองเขาด้วยสายตาเยือกเย็น
รอยยิ้มของนายเคนั้นมีความเจ้าเล่ห์แฝงอยู่ หลังจากเขาปรบมือ เขาก็ยื่นมือไปหยิบลูกดอกที่วางอยู่บนถาดมา และเดินไปทางที่อวี้อี่มั่วอยู่ เขาหัวเราะและพูดขึ้นว่า " ดูเหมือนว่าคุณจะยังเก็บซ่อนบางอย่างไว้อยู่นะ และซ่อนมันไว้ลึกมากด้วย! "
น้ำเสียงของเขาเหมือนพูดเล่น ในมือของเขาหมุนลูกดอกไปมาราวกับว่ากำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่างอยู่ เขาไม่รอให้อวี้อี่มั่วตอบ เขาหยิบลูกดอกขึ้นมาในระดับสายตา และหลับตาหนึ่งข้างจากนั้นก็ทำท่าเล็งไปที่หร่วนซือซือ
นายเคเล็งพร้อมกับพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงสบายๆ " ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันนะ ว่าฉันจะปาแม่นรึเปล่า? "
แววตาของอวี้อี่มั่วมืดมน เขารีบยื่นมือออกไปบีบปลายลูกดอกไว้อย่างไม่ลังเล เพื่อห้ามการกระทำในขั้นตอนต่อไปของเขา เขาพูดด้วยน้ำเสียงโทนต่ำและเคร่งขรึมว่า " เกมส์มันได้จบลงแล้ว "
พอนายเคได้ยินแบบนั้น เขาก็ยิ้มมุมปากและยอมลดมือลง
สีหน้าของอวี้อี่มั่วเยือกเย็น เขาแย่งลูกดอกพวกนั้นจากมือเขาและโยนลงในถอดข้างๆอย่างไม่ลังเล
เมื่อเห็นการกระทำของอวี้อี่มั่ว นายเคก็ขมวดคิ้วพร้อมและรอยยิ้มบนหน้าเขาก็หายไป เขาทำท่าปัดฝุ่นในมือทั้งๆที่ไม่มีฝุ่นเลยแม้แต่ละอองเดียว " เกมส์จบแล้วหรอ? "
อวี้อี่มั่วจ้องตากับเขาอย่างไม่ยอมอ่อนข้อ อารมณ์ของเขาแสดงออกอย่างชัดเจนมาก ทำให้บรรยากาศข้างๆยังตึงเครียดตามไปด้วย
ทั้งสองจ้องหน้ากันอยู่นานปาก อวี้อี่มั่วเม้มปาก และพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงท่าทางที่เยือกเย็น " ไอ้เค ฉันทำตามคำร้องขอที่นายได้พูดไว้ทุกย่างแล้ว "
เขาบอกให้เขาปล่อยตัวสวี่เฟิงหมิงไป เขาเองก็ได้ออกคำสั่งให้ทางนั้นปล่อยแล้ว เขาให้เขาเล่นปาเป้าเขาก็เล่นแล้ว ถ้าไอ้เคนี่ยังไม่ยอมปล่อยให้พวกเขาไปสักทีก็คงเหลือเพียงทางเลือกเดียวแล้วล่ะ
นั่นก็คือตายเป็นตาย
นายเคสัมผัสได้ถึงสายตาสุดพิฆาตของอวี้อี่มั่ว ใจของเขาเริ่มเกิดความวิตกกังวล
อวี้อี่มั่วเป็นแบบที่นายใหญ่ท่านนั้นได้กล่าวไว้จริงๆว่าเขาเป็นคนที่ไม่อาจมองข้ามไปได้จริงๆ
หลังจากปรับตัวให้กลับมาเป็นปกติแล้ว เขาก็ยิ้มแปลกๆให้อวี้อี่มั่ว
เขายกมือโบกไปมาให้ลูกน้องตัวเอง
ลูกน้องทั้งสองคนของเขาเข้าใจทันที พวกเขาเดินตรงไปที่เครื่องเล่นปาเป้าและแก้มัดให้หร่วนซือซือ และเอาตัวเธอลงจากเครื่องเล่นนั้น
" คนอย่างไอ้เคพูดคำไหนคำนั้น คำที่พูดออกไปแล้วแน่นอนว่าต้องทำให้ได้ ก็แค่อยากรู้ว่าจะเจอคุณอีกทีเมื่อไหร่? "
นายเคพูดพร้อมกับยกแก้วไวน์ที่มีไวน์อยู่ครึ่งแก้วขึ้นมาดื่ม
อวี้อี่มั่วมองดูการกระทำของเขา และพูดอย่างช้าๆไม่รีบร้อนว่า " อนาคตยังอีกยาวไกล ต้องได้เจอกันอยู่แล้ว "
เขาเชื่อว่าในไม่ช้าพวกเขาจะได้พบกันอีกแน่นอน
พอนายเคได้ยินแบบนั้นก็ยิ้มมุมปาก และมีประกายบางอย่างผ่านแวบในแววตาเขาแต่เขาไม่ได้พูดอะไร
อวี้อี่มั่วเหลือบมองเขาแวบหนึ่ง และก้าวขาเดินไปยังเครื่องเล่นปาเป้า มองดูหญิงสาวที่อ่อนแอยืนพิงอยู่ตรงเครื่องเล่นตรงนั้น เขาก็รู้สึกเจ็บใจอย่างบอกไม่ถูก
หลังจากนั้นเขาก็สับขาเดินเข้าไปหาหญิงสาว เขาไม่พูดอะไรแม้แต่คำเดียงเขาพุ่งตรงเข้าไปโอบกอดเธอไว้
หร่วนซือซือหนาวสั่นไปทั้งตัว เมื่อได้สัมผัสกับร่างกายและโอบกอดของชายหนุ่ม ร่างกายของเธอก็ยังคงสั่นยังควบคุมตัวเองไม่ได้
เสียงลมหายใจของอวี้อี่มั่วดังขึ้นข้างๆเธอ และเสียงทุ้มๆของชายหนุ่มก็ดังขึ้นข้างหูเธอ " ไม่ต้องกลัวนะ ฉันจะพาเธอไปจากที่นี่เอง "
สำหรับเธอแล้ว ได้ยินคำนี้ในเวลานี้มันเป็นคำที่ดีและราวกับเป็นเสียงที่ไพเราะมากที่สุดแล้ว
เธอเหมือนจะอยากร้องไห้ออกมา และตอบรับไปเบาๆ เธอในตอนนี้หดเข้าไปในตัวเหมือนกับเป็นนกน้อยที่ต้องการที่พักพิง
อวี้อี่มั่วหันหน้าไปมองสภาพของหญิงสาวในเวลานี้ เขายิ่งรู้สึกเจ็บใจมากขึ้นไปอีก มันเป็นความรู้สึกเจ็บใจที่ไม่สามารถพูดออกมาเป็นคำพูดได้
เขาต้องพาเธอออกจากที่นี่ให้เร็วที่สุด ยิ่งเร็วเท่าไหร่ยิ่งดี!
แต่ทันทีที่พวกเขาเดินไปข้างหน้า คนของนายเคก็วิ่งมาขวางทางพวกเขาไว้ทันที
อวี้อี่มั่วหรี่ตาลงเล็กน้อย และมองไปที่ไอ้เคที่อยู่หลังฝูงคน สายตาที่มืดมิดสีเข้มและเยือกเย็นของเขานั้นทำให้ผู้คนที่เห็นถึงกับต้องตัวสั่น
ดูเหมือนว่าเขาต้องการกดดันให้อวี้อี่มั่วใช้กำลังให้ได้
เขากระชับมือที่กอดหร่วนซือซือให้แน่นขึ้น และกำลังหาโอกาสลงมือ แต่จู่สีหน้าของนายเคของเปลี่ยนไป และตะโกนบอกพวกลูกน้องว่า " ไอ้พวกนี้ช่างไม่รู้ว่าอะไรควรอะไรไม่ควร ไสหัวไปเดี๋ยวนี้! "
ลูกน้องของเขามองหน้ากัน พวกเขาลังเลก่อนที่จะเปิดทางให้อวี้อี่มั่วและหร่วนซือซือ
พออวี้อี่มั่วเห็นแบบนี้ แววตาของเขาก็ผ่อนคลายลง เขาอุ้มหร่วนซือวืออกจากตรงนั้นโดยไม่พูดอะไรแม้แต่คำเดียว
เขารู้อยู่แก่ใจดีว่าไอ้เคคนนี้เขาเป็นคนฉลาด เขาบรรลุเป้าหมายของเขาแล้ว เขาคงไม่เสี่ยงที่จะทำให้ตัวเองต้องลำบากหรอก เมื่อกี้เขาก็แค่เป็นการลองใจเขาเท่านั้น
เดินผ่านห้องโถงคาสิโนที่บรรยากาศมืดมินออกมายังข้างนอกก็เห็นตู้เยี่ยยืนรออย่างใจจดใจจ่ออยู่ข้างรถ
วินาทีที่เห็นพวกเขาเดินออกมา สีหน้าเขาก็โล่งออกและรีบเดินเข้าไปทักทาย " ประธานอวี้ครับ ทางด้วยซูอวี้เฉิง……"
เขาเหลือบไปมองหร่วนซือซือที่อยู่ในอ้อมแขนของเขา เขาก็หยุดพูดทั้งๆที่ยังพูดไม่จบเพราะว่าอวี้อี่มั่วเดินผ่านเขาเข้าไปในรถเรียบร้อยแล้ว
ตู้เยี่ยจึงทำได้เพียงหยุดพูดและเดินตามขึ้นรถไป
รถแล่นไปทางด้านหน้าอย่างรวดเร็ว
ภายในรถ อวี้อี่มั่วมองหน้าหญิงสาวที่อยู่ในอ้อมแขน เขาขมวดคิ้วและเรียกชื่อเธอเบาๆ " หร่วนซือซือ "
ใบหน้าของหญิงสาวในอ้อมกอดซีดเซียว เนื้อตัวเย็นเฉียบและไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองใดๆ ราวกับว่าเธอจะเป็นลมไปแล้ว
เมื่อหลัวยู่ที่นั่งอยู่ข้างๆเห็นเข้า ก็พูดขึ้นเสียงเบาว่า " นายใหญ่ครับ ดูสภาพแล้วน่าจะเป็นลมครับ เธอคงตกใจมาก "
สีหน้าท่าทางรวมถึงแววตาของอวี้อี่มั่วมีความวิตกกังวลแสดงออกอย่างชัดเจน เขากวาดสายตามองไปทั่วทั้งตัวเธอเพื่อดูให้แน่ใจว่าเธอไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ จากนั้นก็สั่งลูกน้องอย่างเย็นชาว่า " กลับโรงแรม "
รถแล่นออกไปอย่างรวดเร็ว ทันทีที่รถจอดลงหน้าประตูโรงแรม อวี้อี่มั่วก็กำลังจะอุ้มตัวหญิงสาวลงรถ แต่ทันใดนั้นหลัวยู่ที่อยู่ข้างๆก็พูดขึ้นมาว่า " นายใหญ่ครับ เธอยังคงมีเลือดออกอยู่ "
พออวี้อี่มั่วได้ยินแบบนั้น เขาก็ชะงักไปชั่วครู่ และมองไปตามสายตาของหลัวยู่ และก็เห็นตรงกระโปรงสีขาวส่วนล่างของเธอมีเลือดไหลออกมาไม่หยุด
สีหน้าของเขาตกใจ และเขากำลังจะยื่นมือไปยกชายกระโปรงเธอขึ้นเพื่อดูบาดแผล แต่ทันใดนั้นเขาก็นึกถึงคำพูดที่นายเคพูดไว้ว่า เลือดบนร่างกายของหร่วนซือวือเป็นเพราะเธอมีประจำเดือน เขาไม่ได้แตะต้องเธอเลยแม้แต่น้อย
เขาชะงักไปชั่วครู่ และเงยหน้าขึ้น พอเห็นว่าหลัวยู่กำลังจ้องจุดที่มีเลือดออกอย่างอยากรู้อยากเห็น ทันใดนั้นสีหน้าของเขาก็ไม่พอใจและถามเขาด้วยน้ำเสียงเย็นชา " มองอะไรของแก?"