ดั่งรักบันดาล - ตอนที่ 151
พอได้ยินหร่วนซือซือพูดแบบนี้ ซ่งอวิ้นอันก็กดความโมโหของตัวเองไว้ในใจ จ้องซ่งฉีด้วยสายตาเย็นชา แล้วนั่งลงอีกครั้ง
คนรอบข้างที่มองดูสถานการณ์นี้ รีบดึงซ่งอวิ้นอันกับหร่วนซือซือมาเล่นทอยลูกเต๋าเพื่อผ่อนคลายบรรยากาศ เคอเจ๋อหลินที่อยู่ข้างๆก็สมทบขึ้นมา แล้วพูดโน้มน้าว “วันนี้ทุกคนมาสนุกกัน ไม่ว่าจะเรื่องอะไรอย่าเก็บมาใส่ใจเลย ความสนุกสำคัญที่สุดนะ”
พอเขาพูดแบบนี้ คนรอบข้างก็รีบคล้อยตาม ทุกคนต่างก็ส่งเสียงขานรับ บรรยากาศก็เลยค่อยๆดีขึ้นมาบ้างแล้ว
ยังดีที่ซ่งอวิ้นอันชอบเล่นอะไรพวกนี้อยู่แล้ว พอพูดถึงเรื่องทอยลูกเต๋าดื่มเหล้า หลังจากที่รีบโยนฉากเมื่อครู่ทิ้งไป ก็ลากหร่วนซือซือมาร่วมสนุกกับทุกคน
เดิมทีมีไม่กี่คน พวกเขายิ่งเล่นกันก็ยิ่งมือขึ้น เสียงก็ดังขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ผู้คนรอบข้างต่างก็เข้ามาสนุกด้วย และค่อยๆทยอยเข้ามาแจม
ซ่งฉีนั่งอยู่ด้านข้าง มองพวกเขาที่ส่งเสียงเอะอะโวยวายเต็มไปด้วยความครึกครื้น ใจจริงอยากจะเข้าไปร่วมตั้งนานแล้ว แต่เพราะมีซ่งอวิ้นอันอยู่ เธอเลยต้องนั่งดื่มเหล้าอย่างอึดอัดใจอยู่ตรงนี้
“เสี่ยวฉี พวกเราก็ไปสนุกกันเถอะ?”
ผู้หญิงที่นั่งอยู่ข้างซ่งฉีดึงเธอไปร่วมแจม แต่ใครจะไปรู้พอซ่งฉีได้ยินเข้า สีหน้าก็เปลี่ยนไป “เธออยากจะไปก็ไปสิ!”
พูดจบ เธอก็ลุกขึ้นอย่างโมโห แล้วเดินไปทางห้องน้ำ
ถ้ารู้ว่าวันนี้ซ่งอวิ้นอันจะมาล่ะก็ เธอก็คงไม่มาหรอก ไม่มีเรื่องน่ายินดีไม่พอ ยังพลอยทำให้ตัวเองอารมณ์ไม่ดีอีก
จนเธอออกมาจากห้องน้ำ มองเห็นจากไกลๆว่าทุกคนกำลังสนุกกันแถวๆที่นั่งโซฟา ทุกคนต่างก็กำลังทอยลูกเต๋า ในตอนนี้ ในใจเธอก็ยิ่งโมโหเข้าไปใหญ่
ขณะที่ซ่งฉีกำลังกระทืบเท้าด้วยความโกรธนั้น การกระทำของเธออยู่ในสายของเมิ่งจื่อหันที่อยู่อีกฝั่ง
วันนี้เธอนัดเพื่อนๆออกมาสนุกด้วยกัน ไม่คิดว่าจะได้เจอกับ“เพื่อนเก่า” ตอนที่หร่วนซือซือกับซ่งอวิ้นอันพึ่งเข้ามานั้น เธอก็รับรู้ได้แล้ว ที่บังเอิญก็คือเธอก็รู้จักซ่งฉีเหมือนกัน ก่อนหน้านี้เคยเรียนโยคะด้วยกันกับเธอ
สถานการณ์เมื่อครู่ เธอดูผ่านๆแล้ว ก็เข้าใจขึ้นมา ตอนนี้มองใบหน้าที่ท่าทางเคียดแค้นของซ่งฉี แล้วเธอก็หันไปมองหร่วนซือซือที่อยู่ในกลุ่มคน สายตาเย็นชาที่มองผ่านไปยากที่จะได้เห็น
เมิ่งจื่อหันสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วเดินไปทางซ่งฉี เขายิ้มออกมาแล้วพูด “เสี่ยวฉี บังเอิญจริง ไม่คิดว่าจะเจอกันที่นี่?”
ซ่งฉีหันหน้ามามอง เห็นว่าเป็นเมิ่งจื่อหัน ก็ยิ้มตอบแบบขอไปที แล้วพูดออกมา “อืม บังเอิญมาก”
เห็นว่าซ่งฉีจ้องฝั่งนั้นอย่างไม่ละสายตา เมิ่งจื่อหันก็ยิ้ม แล้วพูดเสียงเบา “ยิ่งบังเอิญไปกว่านั้นก็คือ ไม่คิดว่าคุณกับหร่วนซือซือจะรู้จักกัน”
ได้ยินเมิ่งจื่อหันพูดถึงหร่วนซือซือ สายตาของซ่งฉีก็หันไปทันที “คุณรู้จักเธอ?”
“รู้จักสิ เขาเป็นเพื่อนร่วมงานฉัน ทำงานด้วยกันมานานแล้ว” เมิ่งจื่อหันเลิกคิ้วพูด “ซือซือมีสเน่ห์จะตายไป ผู้ชายในบริษัทพวกเราชอบเขากันเกือบหมด ถึงขนาดรองประธานยังสนใจเขาเลย ฉันคิดไม่ถึงเหมือนกันว่าพวกคุณจะรู้จักกัน ก็ว่าอยู่คนสวยยังไงก็ต้องคบหากับเพื่อนสวยๆสินะ”
ประโยคนี้ที่เมิ่งจื่อหันพูดเหมือนกับเป็นคำชม แต่สีหน้าของซ่งฉีกลับขรึมลงไปเยอะ
ความจริงแล้วที่หร่วนซือซือมา แล้วเธออารมณ์ไม่ดีก็เพราะว่า ตอนที่หร่วนซือซืออยู่มหาลัยเป็นคนเงียบๆพื้นๆธรรมดา หน้าตาถือได้ว่าใสๆ แต่คิดไม่ถึงว่าพอจบไปสองปีก็เปลี่ยนไป ไม่เหมือนกับแต่ก่อนเลยสักนิด
แต่ไหนแต่ไรมาเธอไม่ค่อยถูกชะตากับผู้หญิงที่มีอำนาจกับตัวเองสักเท่าไหร่ ตอนนี้เห็นว่าเธอแย่งความสนใจจากคนอื่นที่มีต่อตัวเองไป ก็ยิ่งทำให้ซ่งฉีไม่ชอบมากขึ้นไปอีก
เมิ่งจื่อหันเห็นสีหน้าของซ่งฉี ก็ยิ้มมุมปาก แล้วยุแยงตะแคงรั่วต่อ “พูดตามความจริง ฉันล่ะอิจฉาซือซือจริงๆ ผู้หญิงใสๆแบบเขา ใสจนเป็นที่ชื่นชอบของเพศตรงข้ามที่สุด ใช่ไหมเสี่ยวฉี?”
ซ่งฉีกระตุกมุมปาก เหลือบสายตามองเมิ่งจื่อหัน เธอไม่อยากที่จะพูดกับเขา เลยเดินไปอีกฝั่งแทน
เมิ่งจื่อหันมองซ่งฉีที่เดินไกลออกไป ก็ยิ้มขึ้นมาด้วยสีหน้าเย็นชา ถึงแม้ว่าเธอจะเคยเรียนด้วยกันกับซ่งฉีแค่ไม่กี่คาบ แต่ก็รู้จักนิสัยของเธอดี พูดจาโอ้อวด คิดว่าตัวเองเก่งกว่าคนอื่น ดูถูกคนอื่นไปซะหมด ไม่มีทางยอมให้คนอื่นดีไปกว่าตัวเองแน่
หลังจากนี้ เธอก็ไม่ต้องยื่นมือ เกรงว่าหร่วนซือซือคงมีเรื่องให้ต้องปวดหัวแล้ว
ตอนที่ซ่งฉีกลับไปฝั่งนั้น พอดีกับจังหวะที่หร่วนซือซือเล่นเกมแพ้ ซ่งอวิ้นอันเป็นคนนำส่งเสียง จะให้หร่วนซือซือไปเต้นตรงฟลอร์เต้นรำกลางเวทีให้ได้
“ซือซือรีบไปเร็ว เมื่อกี้คนที่กำลังมา/เธอรับปากกับฉันแล้วนะ ทำไมถึงผิดคำพูดเนี่ย!”
“ใช่แล้ว ซือซือ กล้าเล่นก็ต้องกล้ารับสิ!”
“ไม่งั้นก็ต้องดื่มสามแก้ว ไม่สิ ดื่มหกแก้ว!ครั้งนี้ให้เคอเจ๋อหลินดื่มแทนเธอไม่ได้แล้ว!”
“……”
กลุ่มคนค่อยๆพากันส่งเสียง หร่วนซือซือยิ้มเหมือนจะร้อง รู้ดีว่าหนีไม่พ้นแน่ ก็เลยยกมือยอมแพ้ “ได้ ฉันไปก็ได้ แค่ไปเต้นก็พอแล้วใช่ไหม?”
เธอรู้ดี ทั้งหมดเป็นเพราะซ่งอวิ้นอันเพื่อนตัวทำลายของเธอจงใจทำแบบนี้ ทั้งๆที่รู้ว่าเธอเต้นไม่เป็น ก็ยังให้เธอขึ้นไปเต้นให้ขายหน้าเล่นๆอีก
ซ่งอวิ้นอันตื่นเต้นไปหมด “รีบไปรีบไป พวกเราจะไปดูข้างๆ เตรียมมือถือให้พร้อมล่ะ!”
ซ่งฉีเห็นสถานการณ์ ก็ทำเสียงไม่พอใจออกมา แล้วเดินไปตามฟลอร์เต้นรำฝั่งนั้น
ในช่วงที่เหมือนจะเต็มใจแต่ไม่เต็มใจ หร่วนซือซือเดินขึ้นไปบนเวที แล้วเต้นรำกับทั้งผู้ชายและผู้หญิงประมาณห้าถึงหกคนที่เป็นมืออาชีพอย่างสนุกสนาน เธอเหมือนกับลูกเป็ดเก้งก้างตัวหนึ่ง ท่าทางแปลกๆนั้นก็เกิดจากมือเท้าก็เธอที่แข็งไปหมด
ซ่งอวิ้นอันหัวเราะอยู่ข้างล่างจนเกือบหายใจไม่ทัน จนน้ำตาไหลออกมาแล้ว
เวลานี้ ซ่งฉีขึ้นเวที เหมือนกับว่าจงใจเดินมาข้างๆหร่วนซือซือ เต้นไปพร้อมกับดนตรีด้วยการบิดเอวที่อ่อนช้อย ราวกับงูที่ยืดหยุ่นได้
เมื่อเปรียบเทียบทั้งสองคนกันแล้ว ท่าทางของหร่วนซือซือแข็งมากอย่างเห็นได้ชัด ไม่รู้ว่าควรจะควบคุมมือกับเท้าไปวางไว้ที่ไหน
เห็นท่าทางของหร่วนซือซือ ซ่งฉียิ้มอย่างโอหัง เธอเป็นมืออาชีพ เธอจะพลาดโอกาสที่จะได้ข่มหร่วนซือซือได้ยังไง?
เห็นว่าหร่วนซือซือย้ายไปถึงริมขอบ สายตาของซ่งฉีก็ขรึมขึ้นมา เธอกัดฟัน แล้วจงใจเอียงตัว เบียดไปทางฝั่งนั้น
เวลานี้ ถ้าสามารถเห็นหร่วนซือซือล้มลงจากเวทีกับตาได้ เธอจะมีความสุขยิ่งกว่า!
หร่วนซือซือถูกเธอเบียดจนถอยไปด้านหลัง ใครจะไปรู้ว่าพื้นที่ที่เท้าเหยียบนั้นว่างเปล่า เห็นว่าตัวเองใกล้จะตกเวทีแล้ว เธอรีบยื่นมือออกมา จับสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวเธอที่สุด เลยสามารถกลับมายืนได้อย่างมั่นคงได้
เธอถอนหายใจออกมา พอปล่อยมือ จู่ๆก็รู้สึกว่าบรรยากาศได้แปลกไป พอเหลือบตาขึ้นมอง เห็นว่าซ่งฉีที่อยู่ข้างๆหน้าแดง ตาทั้งสองข้างจ้องมาที่เธออย่างโหดเหี้ยม เธอเลยไม่ค่อยเข้าใจ
ผ่านไปไม่กี่วินาที เธอก้มลงมอง เห็นสิ่งที่เธอจับอยู่เมื่อครู่ หน้าก็ซีดขึ้นมา
สิ่งที่เธอจับเมื่อครู่ไม่ใช่สิ่งอื่นใด แต่เป็นเสื้อเปิดไหล่ของซ่งฉี!หลังจากที่เธอฉีกไปเมื่อครู่ เสื้อเปิดไหล่ตัวนั้นถูกฉีกลากยาวลงมา เผยให้เห็นแผ่นแปะหน้าอกด้านในของเธอ!
หร่วนซือซือสมองเบลอไปสักพัก รีบชิงก่อนที่ซ่งฉีจะลงมือ รีบช่วยเธอจัดเสื้อขึ้นไปให้ดี คลุมส่วนที่ไม่ควรจะเปิดให้เห็น แล้วรีบพูด “ขอโทษนะขอโทษ!ฉันไม่ได้……”
เธอยังพูดไม่ทันจบ ซ่งฉีก็ยกมือขึ้นตีมาที่เธอ ในช่วงที่อันตรายแบบนี้ เธอถอยหลังเพื่อจะหลบ มือของซ่งฉีเลยตีได้แค่อากาศ
ซ่งฉีกัดฟันโกรธ เมื่อครู่ที่หร่วนซือซือฉีกแบบนั้น ทำให้เธอโป๊อยู่บนเวที ล่างเวทีคนก็เยอะขนาดนั้น มีทั้งคนที่มองเห็นกับตา มีทั้งคนที่หยิบมือถือขึ้นมาถ่าย ตอนนี้เธอเสียหน้าหมดแล้ว!
“หร่วนซือซือ เธอจงใจใช่ไหม!”
ซ่งฉีเดินเข้ามาด้วยความโหดร้าย กำลังจะยกมือ ก็ถูกเพื่อนผู้ชายที่กระโดดขึ้นมาบนเวทีห้ามไว้ ซ่งอวิ้นอันเห็นท่าว่าไม่ดีแล้ว ก็รีบดึงหร่วนซือซือลงมา บังไว้ที่ด้านหลัง
หร่วนซือซือถูกทำให้ตกใจ และก็คิดไม่ถึงว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น เมื่อครู่เธอก็แค่เอื้อมมือไปตามสัญชาตญาณ ถ้าเธอรู้ว่าจะกลายเป็นแบบนี้ เธอยอมตกเวทีดีกว่าไปฉีกเสื้อผ้าของซ่งฉี!
แต่ตอนนี้ เรื่องมันก็มาถึงจุดเป็นจุดตายแล้ว เธอควรจะทำยังไง?