ดั่งรักบันดาล - ตอนที่ 150
เมื่อนึกถึงเรื่องเก่าๆ หร่วนซือซือใจลอย และทันใดนั้นเธอก็ได้เสียงของซ่งอวิ้นอันก็ดึงสติเธอกลับมา
" จริงด้วย ซือซือ ฉันเตรียมชุดมาเผื่อเธอด้วย เดี๋ยวกินข้าวเสร็จรีบไปเปลี่ยนนะ "
" ชุดอะไร? "
หร่วนซือซือรู้สึกสงสัย เธอก้มมองชุดที่ตัวเองใส่อยู่ และถามขึ้นอย่างไม่เข้าใจ " ชุดที่ฉันใส่อยู่ตอนนี้มันไม่ดีตรงไหน? "
เสื้อคอวีสีอ่อนกับกระโปรงลายตารางหมากรุกที่เธอใส่ตอนนี้ดูเป็นผู้ใหญ่มากกว่าตอนที่เธอใส่เสื้อยืดกางเกงยีนต์อีก
ซ่งอวิ้นอันเหลือบมองชุดที่เธอใส่แวบหนึ่ง แล้วเธอก็หัวเราะ " นี่มันเป็นชุดทำงาน ถ้าใส่ชุดนี้ไปไนท์คลับมันเรียบร้อยเกินไปรึเปล่า? "
พอได้ยินคำว่า " ไนท์คลับ "หร่วนซือซือก็รู้สึกกังวลเล็กน้อย ตั้งแต่เล็กจนโต ภายใต้การดูแลควบคุมของคุณนายหลิวและศาสตราจารย์หร่วนเธอไม่เคยก้าวขาเข้าไปในที่แบบนั้นเลย มากสุดก็ไปผับบาร์ และทุกครั้งก็มีคนชวนเธอไปทั้งนั้น
ดูท่าทีหร่วนซือซือที่ดูตกใจมาก ซ่งอวิ้นอันทนไม่ได้เธอเลยหัวเราะออกมาดังๆ " ซือซือ จะให้พูดก็พูดเถอะ นี่มันศตวรรษที่ 21 แล้ว ทำไมเธอถึงยังเหมือนอยู่ในยุคราชวงศ์ชิงอยู่ล่ะ? "
พอได้ยินคำพูดประชดของเพื่อนสนิท หร่วนซือซือรู้สึกเสียหน้านิดหน่อย หน้าเธอแดงก่ำ " ใครบอก? ฉันก็แค่ไม่อยากไปก็เท่านั้นเอง! "
ซ่งอวิ้นอันขำหนักมาก และก็พนันกับเธอว่า " ถ้าอย่างนั้นถือว่าเธอตกลงแล้วนะ ถ้าถึงที่หมายเธอต้องขึ้นเต้นบนเวทีสักรอบ ไม่อย่างนั้นต้องโดนลงโทษโดยการดื่มสามแก้วนะ! "
เมื่อพูดแบบนี้ ถึงแม้หร่วนซือซืออยากจะปฏิเสธมันก็ไม่มีประโยชน์อะไร เธอเลยตอบตกลงแบบส่งๆ และรีบเปลี่ยนประเด็น " ไปกินข้าวกันก่อน ฉันหิวจะแย่อยู่แล้ว "
ซ่งอวิ้นอันเหยียบคันเร่งและแล่นรถออกไปอย่างรวดเร็ว ไม่นาน ก็ถึงร้านอาหารที่จองไว้ล่วงหน้า
พอทานข้าวเสร็จ ซ่งอวิ้นอันดึงตัวหร่วนซือซือให้ไปเปลี่ยนชุดที่ห้องน้ำ หร่วนซือซือไม่มีทางเลือกอื่น ทำได้เพียงเปลี่ยนเป็นชุดเดรสตามความต้องการของเธอ ถึงเสื้อคอวีตัวนี้คอจะไม่กว้างมากนัก แต่แค่เธอก้มก็สามารถทำให้เห็นร่องหน้าอกของเธอ กระโปรงสีเขียวอ่อนตัวนี้เผยให้เห็นขาที่เรียวยาวของเธอได้พอดี
หร่วนซือซือเดินออกจากห้องน้ำ เธอรู้สึกไม่ค่อยเป็นตัวเองเท่าไหร่ เธออยากจะใช้มือดึงกระโปรงลงและปิดหน้าอกของเธออยู่ตลอดเวลา
ซ่งอวิ้นอันที่ยืนอยู่ข้างทนดูไม่ได้อีกต่อไป เขาดึงมือเธอมาจับไว้แน่น ไม่ให้เธอขยับ " ซือซือ เธอคงไม่รู้ตัวว่าตอนนี้เธอน่าหลงใหลขนาดไหน ต้องมั่นใจในตัวเอง ต้องมั่นใจในตัวเองนะเข้าใจไหม! อีเดี๋ยวถ้าเจอซ่งฉี เราต้องฆ่าเธอให้ตายในชั่ววินาที ให้เธอรู้สึกแพ้อย่างราบคาบ! "
น้ำเสียงของซ่งอวิ้นอันทำให้หร่วนซือซือขำจนหัวเราะออกมา และเธอก็รีบตอบว่า " ได้ๆๆ จะทำตามที่เธอพูดนะ "
เธอรู้ว่าตอนนี้ในใจของซ่งอวิ้นอันมีความโกรธพลุ่งพล่านมาก ถ้าไม่ให้เธอระบายออกมา ก็เกรงว่าเธอจะไม่มีความสุข
ทั้งสองคนเดินออกจากร้านอาหาร สายตาของผู้ชายมากว่า 90% จับจ้องมาที่ตัวของพวกเธอทั้งสอง ความงามของทั้งสองน่าอัศจรรย์ขนาดนี้ อีกคนสวยแบบร้อนแรงและมีสีสัน อีกคนก็สวยใสและไร้เดียงสา แน่นอนว่าต้องเป็นที่ดึงดูดความสนใจ
สิบนาทีต่อมา ทั้งคู่มาถึงที่หมายของคืนนี้—–เวสเกอร์
ที่นี่เป็นไนท์คลับที่ใหญ่ที่สุดในเมืองเจียงโจว สินค้าที่ต้องการมีจำหน่ายที่นี่ทุกประเภท
หร่วนซือซือยืนอยู่หน้าประตู มองดูแสงสีระยิบระยับแวววาวตรงหน้า เธอรู้สึกไม่ค่อยสบายใจ เธอดื่มแอลกอฮอล์ก็ไม่เก่ง เล่นเกมส์ก็ไม่เป็น ถ้าเธอเข้าไปก็คงอึดอัดเปล่าๆ
ซ่งอวิ้นอันเดินเข้าไป และรู้สึกได้ว่าไม่มีคนเดินตามมา เธอรีบเดินกลับไปดึงหร่วนซือซือเดินตามมาและพูดขึ้นว่า " ซือซือ เธอคงไม่ได้จะเปลี่ยนใจใช่ไหม? "
" เปล่าสะหน่อย ฉันก็รู้สึกกังวลนิดหน่อย "
" ตื่นเต้นอะไร มีฉันอยู่ทั้งคน รีบเข้าไปเถอะ พวกเขาต่างก็ถึงกันแล้ว! "
หร่วนซือซือได้ยินแบบนั้น เธอรู้ว่าถ้าจะปฏิเสธก็ไม่ทันแล้ว ทำได้เพียงเดินตามซ่งอวิ้นอันเข้าประตูเวสเกอร์ไป
ทันทีที่เข้าไป เธอก็ตกอยู่บรรยากาศที่มืดสลัวแสงสีต่างๆระยิบระยับ เสียงเพลงดังเสนาะหู และทั้งชายที่หล่อเหลาและสาวสวยต่างก็ขยับโยกเต้นกันไปตามจังหวะเพลงอยู่ที่ฟลอร์เต้นรำ
ซ่งอวิ้นอันจูงมือซือซือเดินผ่านโซฟาหลายตัว โดยมุ่งไปที่โซฟาที่ใหญ่ที่สุดในโซนด้านใน
จากที่ไกลๆ หร่วนซือซือเห็นกลุ่มชายหญิงกลุ่มหนึ่งนั่งอยู่ตรงนั้น พอเดินเข้าไปดูใกล้ๆ ที่แท้ก็เพื่อนสมัยมหาวิทยาลัยของพวกเธอนี่เอง ในพวกเขา ซ่งฉีนั่งตรงกลางด้วยชุดเดรสสีแดงที่ร้อนแรงและสีปากที่แดงร้อนแรงมากเช่นกัน ดูไฮโซสุดๆ เธอยักคิ้วแล้วมองมาทางซ่งอวิ้นอันและหร่วนซือซือแวบหนึ่ง ก่อนจะละสายตาไปมองทางอื่นอย่าเย่อหยิ่ง
ทันทีที่พวกเธอมาเธอก็กลายเป็นจุดศูนย์กลางของผู้คน ไม่ได้เจอกันสองปี เพื่อนๆต่างก็มีการเปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อย แต่พวกเขาก็ทักทายกันและกันอย่างสนิทสนม
พอทุกคนพูดทักทายขึ้น ซ่งอวิ้นอันก็จูงมือหร่วนซือซือให้ไปนั่งลงตรงโซฟาที่มีที่ว่างอยู่ และบังเอิญนั่งลงตรงข้ามซ่งฉีพอดี
ทันทีที่หร่วนซือซือนั่งลง ผู้ชายคนหนึ่งก็เปลี่ยนที่นั่งมานั่งข้างๆเธอทันที และเริ่มพูดคุยกับเธอว่า " ซือซือ ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ "
เจิเค๋อหลินสวมแว่นตากรอบสีทอง แววตาภายใต้เลนส์แว่นของเขาทั้งสุภาพและอ่อนโยน เขาพูดขึ้นว่า " ทำไมเธอถึงไม่เข้าร่วมงานปาร์ตี้รุ่นครั้งก่อนล่ะ? หลังจากนั้นฉันก็ค้นหาช่องทางในการติดต่อเธอจนเจอ แต่เธอเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ไปสะก่อน……"
พอคิดถึงเรื่องตอนนั้น หลังจากจบปีหนึ่งเธอก็เปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ไปเลยเพราะว่าเธอได้เลิกรากับฉินเสี่ยนหลี่แล้ว และเธอก็ไม่ได้ติดต่อกับใครอีกเลยนอกจากเพื่อนที่ค่อนข้างที่สนิทกัน
หร่วนซือซือชะงักไปชั่วขณะและไม่ได้ตอบอะไร เจอเค๋อหลินเองก็ดูออก เลยไม่ได้ถามอะไรมากไปกว่านี้
ซ่งฉีที่นั่งอยู่ตรงข้ามพอเห็นว่าทันทีที่หร่วนซือซือและซ่งอวิ้นอันปรากฏตัวขึ้น สายตาของผู้ชายเกือบทุกคนถูกพวกเธอดึงดูดไปเธอก็ไม่พอใจอย่างมาก ทั้งๆที่เธอเป็นคนที่คิดจะจัดงานนี้ขึ้นมานะ เธอควรต้องเป็นจุดศูนย์กลางของทุกคนสิ แต่คิดไม่ถึงว่าพวกเธอทั้งสองจะแย่งตำแหน่งนี้ของเธอไป!
สีหน้าของซ่งฉีไม่สบอารมณ์สุดๆ เธอยกแก้วไวน์บนโต๊ะแล้วกระดกเข้าปาก
เมื่อซ่งอวิ้นอันเห็นการกระทำของเธอที่ไม่พอใจแบบนั้น เธอก็ยักคิ้วแล้วหัวเราะ และตั้งใจพูดขึ้นอย่างเยาะเย้ย " คุณซ่งเป็นอะไรไปคะเนี่ย? ใครทำให้คุณไม่พอใจหรือคะ? ฉันดูจากตรงนี้แล้วคุณโกรธจนจมูกเบี้ยวไปหมดแล้วนะคะเนี่ย "
พอซ่งฉีได้ยินแบบนั้น สีหน้าเธอก็ยิ่งไม่พอใจ และมองแรงใส่เธอไปหนึ่งที " แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเธอไม่ทราบ? "
น้ำเสียงที่ทั้งสองคนคุยกันเหมือนหนามที่คอยทิ่มแทงกัน ราวกับว่าทุกครั้งที่เจอหน้ากันต้องมีผู้แพ้ชนะให้ได้ คนข้างๆของทั้งสองต่างก็รีบห้ามปราม " พอได้แล้วๆ ทุกคนต่างก็เป็นเพื่อนจากสถาบันเดียวกัน ดื่มด้วยกันสักแก้วแล้วก็ถือสะว่าไม่เคยมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นแล้วกันนะ "
ซ่งฉีไม่ใช่คนที่จะเชื่อฟังอะไรแบบนี้ง่ายๆ เธอยักคิ้วและจ้องไปที่ซ่งอวิ้นอันแล้วพูดขึ้นว่า " ซ่งอวิ้นอัน ฉันได้ยินมาว่าเธอไปเรียนดนตรีที่ต่างประเทศมา นี่มันก็สองปีเข้าไปแล้ว ทำไมไม่เห็นได้ยินชื่อเสียงเรียงนามของเธอบ้างเลยล่ะ? หาเงินที่ต่างประเทศมันยากใช่ไหมเลยต้องวิ่งหนีบหางกลับมาประเทศจีน? "
พอซ่งอวิ้นอันได้ฟังแบบนั้น เธอก็วางแก้วไวน์ในมือลงอย่างไม่สบอารมณ์ สีหน้าของเธอไม่พอใจสุดสุด
กระแสของเธอในต่างประเทศค่อนข้างดีเลยทีเดียว เธอเรียนรู้กับอาจารย์อยู่สองปีและเคยเข้าร่วมเวทีระดับนานาชาติมาก็ไม่น้อย ก็ถือว่ามีชื่อเสียงอยู่พอสมควร แต่พอกลับมายังประเทศจีนแล้ว สังคมจีนเป็นสังคมที่ใหญ่ กระแสของเธอเลยไม่ดีมากนัก อีกทั้งช่วงนี้เธอก็ไม่ได้รับงานด้วย
พอซ่งฉีพูดขึ้นก็ทำให้ไฟโกรธในใจซ่งอวิ้นอันประทุออกมา เธอมองผู้หญิงตรงหน้าที่ท่าทีของเขาเหยียดหยามและหยิ่งผยอง เธอลุกยืนขึ้นและที่จ้องหน้าเธอ " ซ่งฉี เธอจงใจหาเรื่องฉันใช่ไหม? "
ทันใดนั้นบรรยากาศก็เริ่มตึงเครียด หร่วนซือซือที่อยู่ข้างๆเห็นเข้า ก็รีบคว้าแขนเธอเอาไว้ " อันอัน ใจเย็นๆก่อน "
เธอกับซ่งอวิ้นอันพึ่งมาที่นี่ได้ยังไม่ถึงสิบนาทีเลย ถ้าเธอทะเลาะกับซ่งฉีขึ้นมาจริงๆ จะทำให้ทุกคนหมดอารมณ์ที่จะสนุกได้