ดั่งรักบันดาล - ตอนที่ 149
ผู้จัดการเฝิงขมวดคิ้วพร้อมกับชำเลืองตามองไปที่หญิงสาวตรงหน้า ในใจเขารู้สึกสับสนเล็กน้อย
หร่วนซือซือคนนี้ไม่ได้อ่อนแออย่างที่เฉิงเหยียนพูดไว้ แต่เขากลับรู้สึกว่าเขาทั้งอ่อนโยนและหนักแน่นและแข็งแกร่ง อีกทั้งจะกาเรื่องเธอมันไม่ใช่เรื่องง่าย
เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว เขาจะยึดติดกับเรื่องนี้ไม่ยอมปล่อยแบบนี้ไม่ได้ เขาจะทำตามที่หร่วนซือซืออยากให้เป็น " ครั้งนี้ฉันจะเซ็นอนุมัติให้ก่อน แต่ถ้าครั้งหน้าเอกสารของพวกเธอไม่ครบอีก ต่อให้เธอจะพูดยังไงก็ไม่มีประโยชน์! "
หร่วนซือซือโค้งคำนับให้เขาเล็กน้อย และตอบกลับอย่างพอใจว่า " ได้ค่ะ ขอบคุณมากนะคะผู้จัดการเฝิง "
พอเอกสารทุกใบได้รับอนุมัติแล้ว หร่วนซือซือก็เดินออกจากแผนกการเงิน มือข้างที่เธอถือเอกสารสั่นเล็กน้อย
เมื่อกี้เธอเองก็ไม่ได้แน่ใจอะไรมาก ที่เธอเอ่ยถึงประธานบริษัทก็เพียงแค่อยากลองใจผู้จัดการเฝิงดูก็เท่านั้นเอง ถ้าเอกสารมีปัญหาและเป็นกฎใหม่ของบริษัทจริงอย่างที่เขาพูด เขาก็คงจะไม่ยอมเซ็นอนุมัติง่ายๆแน่นอน
แต่สุดท้ายเขาก็ยอมถอย นี่เห็นได้ชัดว่ามันมีเงื่อนงำ……
หรือว่านี่จะเป็นกลวิธีของเฉิงเหยียนจริงๆ?
ครั้งนี้เฉิงลู่ต้องรับบทเป็นคนใบ้ไม่มีแม้แต่โอกาสจะอธิบาย เขาต้องเกลียดเธอมากแน่ๆ ไม่แน่เธออาจจะไปบอกบางอย่างให้ญาติตัวเอง ถ้าเธอพูดเรื่องเธอให้เฉิงเหยียนฟัง เฉินเหยียนต้องเล่นงานเธอแน่ๆ
แต่ไม่ว่าจะยังไง ปัญหาตรงหน้าก็ผ่านไปได้ด้วยดี อย่างน้อยกลับไปที่แผนกก็มีข่าวดีไปบอกกับเพื่อนร่วมงาน ส่วนเรื่องที่จะเกิดขึ้นตามมาเธอคงต้องระมัดระวังมากเป็นพิเศษ
กลับไปที่แผนก ทันทีที่เธอมาถึงโซนห้องทำงาน เพื่อนร่วมงานต่างก็พากันยืนขึ้นและรีบลุกมาถามเธอ
หร่วนซือซือยิ้มให้พวกเขา และยกเอกสารในมือขึ้น " ทุกคนสบายใจได้ ได้รับอนุมัติเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ว่าแผนกการเงินได้พูดไว้อย่างชัดเจนแล้วว่าครั้งต่อไปเอกสารต้องครบถึงจะได้รับการอนุมัติ "
ทุกคนต่างถอนหายใจด้วยความโล่งอกทีที่ได้ยินว่าได้รับการอนุมัติแล้ว สีหน้าของทุกคนยิ้มออกมาอย่างมีความสุข
เสี่ยวหานวิ่งเข้ามาหาเธออย่างมีความสุข เธอเข่าแขนหร่วนซือซือและพูดอย่างดีอกดีใจ " ซือซือ เธอสุดยอดมาก! "
เพื่อนร่วมงานที่อยู่บริเวณนั้นต่างก็พยักหน้าและกล่าวชื่นชมหร่วนซือซือ
อีกด้านหนึ่ง เมิ่งจื่อหันที่ยืนอยู่ที่มุมห้อง พอเห็นว่าทุกคนรอบข้างกล่าวชื่นชมหร่วนซือซือ สีหน้าเธอก็เศร้าหมองมากราวกับว่าน้ำตาแทบจะร่วง
เธอไม่คาดคิดเลยว่าแค่หร่วนซือซือไปที่แผนกการเงินก็จะจัดการเรื่องทุกอย่างได้ อีกทั้งยังได้รับการยอมรับจากผู้คนมากมายขนาดนี้
ผู้หญิงที่ยืนอยู่ข้างๆเมิ่งจื่อหันเธอชื่อเจียฉี พอเธอเห็นว่าสีหน้าเมิ่งจื่อหันดูไม่ค่อยดีนัก เธอก็รีบพูดปลอบว่า " พี่จื่อหัน อย่าใส่ใจเลยที่เธอได้รับคำชมเชยในตอนนี้ ความสามารถด้านการทำงานของเธอเนี่ยเทียบพี่ไม่ติดเลยสักนิด ทุกคนก็ยังคงให้การยอมรับพี่มากที่สุดอยู่ดี! "
คำพูดประสบสอพลอพวกนี้ ไม่เพียงแต่ทำให้เมิ่งจื่อหันอารมณ์ดีมากขึ้น แต่เธอกลับมีความรู้สึกกลัวอยู่ลึกๆ สายตาเธอจ้องไปที่หร่วนซือซือ และพูดออกมาเสียงแข็ง " ฉันเกรงว่ามันคงไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก! "
ปกติเธอจะคอยสั่งอาหาร ชานม ให้เพื่อนร่วมงานอยู่ประจำ แต่พอมาถึงตอนนี้ แค่เรื่องนี้เรื่องเดียวมุมมองของพวกเขาที่มีต่อหร่วนซือซือได้เปลี่ยนไปแล้ว แล้วเธอจะแน่ใจได้ยังไงว่าในอนาคตจะเกิดอะไรขึ้น?
ถ้าถึงเวลาที่คุณหลานได้เลื่อนตำแหน่งแล้ว ตำแหน่งผู้จัดการประจำแผนกก็ต้องเลือกหนึ่งคนระหว่างเธอและหร่วนซือซือ ตอนนี้เธอยิ่งรู้สึกว่าเธอตกอยู่ในสภาวะที่น่าเป็นห่วงมาก
ถ้าเธอไม่รีบคิดหาวิธี ไม่วันใดก็วันหนึ่ง หร่วนซือซือต้องเหยียบหลังเธอเลื่อนตำแหน่งเพิ่มเงินเดือนแซงหน้าเธอไปแน่!
เมิ่งจื่อหันกำหมัดแน่น สายตาที่มองหร่วนซือซือมีประกายของความอิจฉาตาร้อน เธอกัดฟันด้วยความโกรธอย่างเงียบๆ และพูดกับตัวเองอย่างมั่นใจว่า เธอจะไม่ยอมให้มีวันนั้นเด็ดขาด!
วันต่อมา ภารกิจการทำงานของแต่ละแผนกก็สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี โครงการของฝ่ายบริหารก็ได้มาตรฐาน ทุกคนก็ต่างโล่งอก
ในเวลานี้ ทุกคนก็ต่างตั้งหน้าตั้งตารอเงินโบนัสโอนเข้าบัญชี บรรยากาศการทำงานของแผนกก็ดูมีความสุขมากกว่าทุกวัน
การทำงานในหนึ่งวัยสิ้นสุดลง หร่วนซือซือหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู ก็เห็นว่าซ่งอวิ้นอันโทรหาเธอหลายสายมาก
เธอเหลือบมองเวลา และถึงเวลาเลิกงานแล้ว หร่วนซือซือกังวลว่าเธอจะมีเรื่องสำคัญจึงรีบโทรกลับหาเธอทันที
" ฮัลโหล? อันอัน มีอะไรรึเปล่า? "
" คืนนี้ออกไปเที่ยวกันนะ เมื่อวานฉันไปเจอเพื่อนสมัยมหาลัยมา เรานัดกันว่าจะไปเที่ยววันนี้ พวกเขาบอกให้ฉันต้องชวนเธอออกมาเที่ยวด้วยให้ได้ เธอจะผัดวันประกันพรุ่งไม่ได้อีกแล้วนะ! "
เมื่อฟังเสียงที่ดีใจของผู้หญิงปลายสาย หร่วนซือซือก็หัวเราะ สมัยก่อนตอนเรียนมหาลัย ซ่งอวิ้นอันถือเป็นเจ้าแม่แห่งวงการเที่ยวของกลุ่มเราเลยจริงๆ จนมาถึงตอนนี้ นิสัยชอบเที่ยวของเธอก็ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง
หร่วนซือซือคิดอยู่พักหนึ่ง และเธอก็ไม่อยากทำให้เพื่อนเสียน้ำใจ และหลังจากเลิกงานเธอก็ไม่มีธุระอะไรต้องทำอดี เธอจึงตอบตกลง " ก็ได้ๆ เธอพูดขนาดนี้แล้ว ฉันไม่ไปได้หรอ "
" ได้ งั้นตกลงตามนี้นะ เดี๋ยวฉันไปรับเธอเราไปกินข้าวกันก่อน! "
หลังจากวางสาย หร่วนซือซือก็คิดว่ากว่าซ่งอวิ้นอันจะมาถึงก็ต้องใช้เวลาสักพัก เธอจึงตัดสินใจทำแบบฟอร์มของสิ้นเดือนนี้ให้เสร็จก่อน เธอปิดคอม และเดินลงไปชั้นล่างของบริษัท ไม่นานก็มีรถสปอร์ตสีแดงคันหนึ่งขับผ่านมา
เสียงดังของเครื่องยนต์ทั้งดังและทรงพลัง ดึงดูดสายตาผู้คนได้ไม่น้อยเลยทีเดียว
หร่วนซือซือเงยหน้าขึ้นมอง เธอเห็นซ่งอวิ้นอันที่สวมชุดสีดำระยิบระยิบและทำผมลอนสวยนั่งอยู่ในตำแหน่งคนขับ เธอก็รู้สึกตกใจเล็กน้อย
เธอเดินเข้าไปพร้อมกับพูดว่า " อันอัน ทำไมวันนี้เธอดูไฮโซจัง? "
ซ่งอวิ้นอันใช้มือดันแว่นกันแดดขึ้นเผยให้เห็นดวงตามีเสน่ห์ของเธอ เธอพุดอย่างยิ้มแย้มว่า " วันนี้ไปเจอเพื่อนเก่า แน่นอนว่าต้องเอาหน้าสะหน่อย ซือซือ รีบขึ้นรถเร็ว! "
หร่วนซือซือเดินอ้อมมาขึ้นรถ ทันทีที่เธอขึ้นรถ ซ่งอวิ้นอันก็ขยับเข้ามาใกล้ๆเธอและกระซิบบอกเธอว่า " ประเด็นมันอยู่ที่วันนี้ซ่งฉีก็มาด้วย "
พอได้ยินเธอพูดแบบนี้ หร่วนซือซือก็เข้าใจทันที
ซ่งฉีเป็นเพื่อนต่างห้องแต่จบรุ่นเดียวกัน เธอคิดว่าตัวเองสวยเธอจึงหยิ่งยโสมาก ประกอบการฐานะทางบ้านเธอที่ดีมาก คุณพ่อของเธอเป็นถึงเจ้าหน้าที่ราชการของศาลากลางจังหวัด เธอเลยไม่เคยเห็นหัวคนอื่นเลย
แต่สมัยเรียนซ่งฉีกลับมาตกหลุมรักแฟนหนุ่มของซ่งอวิ้นอัน และเริ่มจีบเขาอย่างเปิดเผย ใช้เงินซื้อของขวัญต่างๆให้ ทำทุกวิถีทางให้ซ่งอวิ้นอันและแฟนหนุ่มเลิกกัน ถ้าให้พูดพวกเธอสองคนถือเป็นคู่แข่งในความรักของกันและกัน
โบราณท่านว่าไว้ศัตรูทางใจเผชิญหน้ากันต้องถึงกลับตาร้อนเป็นไฟ ซ่งฉีเป็นคนที่เย่อหยิ่ง แน่นอนว่าซ่งอวิ้นอันก็ไม่มีวันยอมอ่อนข้อให้เธอ สองสาวนามสกุลซ่งเผชิญหน้ากัน รับรองเกิดเรื่องสนุกแน่
พอพูดถึงซ่งฉี ซ่งอวิ้นอันก็เหยียบไปที่คันเร่งอย่างแรง และพูดขึ้นว่า " วันนี้ฉันจะคอยดู ว่าเธอยังจะอวดดีเหมือนเมื่อก่อนอยู่หรือเปล่า! "
หร่วนซือซือพูดโน้มน้าวเธอว่า " ช่างเถอะ อันอัน มันไม่ใช่เรื่องที่น่าสนใจอะไร "
ซ่งอวิ้นอันได้ยินแบบนั้นเข้า แววตาของเธอก็เปล่งประกายและคิดบางอย่างขึ้นได้ " พอพูดถึงเรื่องเก่าๆ วันนี้มีอีกคนที่จะมานะ ถือได้ว่าเป็นคนรักเก่าของเธอก็ว่าได้! "
คนรักเก่า?
หร่วนซือซือชะงักไป ทั้งชีวิตของเธอเคยมีแฟนแค่ครั้งเดียว และไม่ใช่ใครที่ไหนคนนั้นก็คือไอ้ผู้ชายสารเลวฉินเสียนหลี่นั่นเอง คนรักเก่าโผล่มาจากไหนกัน?
ไม่รอให้เธอถามซ่งอวิ้นอันก็หัวเราะและพูดขึ้น " ก็คนนั้นไง เคอเจ๋อหลิน เด็กเรียนในห้องที่ตามจีบเธอสามปีเต็ม! "
พอได้ยินชื่อนี้ หร่วนซือซือหยุดชะงักไปสักพัก และค่อยนึกถึงข้อมูลและเรื่องราวที่เกี่ยวกับคนๆนั้น
เคอเจ๋อหลิน เป็นเด็กเรียนในห้องของพวกเธอ เป็นคนที่มีคุณธรรมและซื่อสัตย์ สมัยก่อนเขาแอบรักซือซือมาโดยตลอด แต่ตอมาเธอไปคบกับฉินเสียนหลี่ เขาเลยไม่ได้สารภาพรักกับเธอ
ตั้งแต่จบมาจนถึงตอนนี้ พวกเขาก็ไม่ได้เจอกันมาสองปีกว่าแล้ว