ดะ เดี๋ยวก่อน คุณเซลิสครับ เลิกตามผมสักทีเถอะครับ - ตอนที่ 02 คุณเซลิสเทียคือนักล่าจริง ๆ ด้วย 2024
- Home
- ดะ เดี๋ยวก่อน คุณเซลิสครับ เลิกตามผมสักทีเถอะครับ
- ตอนที่ 02 คุณเซลิสเทียคือนักล่าจริง ๆ ด้วย 2024
ตอนที่ 02 คุณเซลิสเทียคือนักล่าจริง ๆ ด้วย
ในห้องสมุด
“…”
ช่วงเวลาระหว่างพักกลางวัน
ผมนั่งจดจ้องมองคุณเซลิสเทียตลอดเวลา นั่งจดจ้องมองคุณเซลิสเทียกำลังนั่งอ่านหนังสือ อะ ที่ผมนั่งจดจ้องมองแบบนี้ มันไม่ใช่เพราะว่าผมสนใจหรือคิดอะไรเป็นอื่นนะ
แค่ระมัดระวังตัวเองไว้ก็เท่านั้น ระมัดระวังตัวนะ อย่าได้เข้าใจผิดล่ะ
“…”
“น่าสงสัย”
“…”
ยิ่งนานเข้ายิ่งน่าสงสัย
มีแนวคิดหนึ่งผุดเข้ามาในหัวสมองของผม บางทีนะ คุณเซลิสเทียอาจไม่ได้ต้องการเข้ามาในห้องสมุดเพื่ออ่านหนังสือก็ได้ บางทีจุดประสงค์หลักของการเข้ามาในห้องสมุด
อาจมาเพื่อติดตามเหยื่อตัวน้อยอย่างผม ถามว่าทำไมผมถึงคิดแบบนั้น คำตอบของคำถามมันค่อนข้างเป็นอะไรที่ง่ายมากครับ เพราะตลอดเวลาที่ผมนั่งอยู่ในห้องสมุด
อยู่มันมาตั้งแต่ต้นเทอม ผมยังไม่เคยเห็นหน้าคุณเซลิสเทียโผล่เข้ามา จวบจนกระทั่งเมื่อไม่กี่วันก่อนที่คุณเซลิสเทียเริ่มเข้ามาใช้ห้องสมุดจริงจัง เข้ามาช่วงกลางวันเป็นประจำ
บอกกล่าวตามตรงไม่ว่าจะมองยังไงมันก็น่าสงสัย
“…”
ปลายนิ้วมือจับปากกา
ขณะบันทึกทุกสิ่งอย่างที่คิดว่าเป็นประโยชน์ บางทีสิ่งที่ผมทำมันอาจเป็นอะไรที่เปล่าประโยชน์ก็ได้ แต่การรับรู้ความเคลื่อนไหวนักล่า มันก็ทำให้เหยื่ออย่างผมรู้สึกปลอดภัยยิ่งขึ้น
อย่างน้อยที่สุดก็รู้ว่าเวลาไหนควรไปไหน เวลาไหนควรถอยห่าง
“อ่านหนังสือ…”
“นอกจากอ่านหนังสือ…”
“ก็อ่านหนังสือ…”
“…”
“มีแต่อ่านหนังสืออย่างเดียวนิ?”
ผมเลิกคิ้วมองข้อความที่บันทึกในสมุด
คุณเซลิสเทียครับ คุณไม่คิดจะทำอย่างอื่นที่มันแตกแยกแตกต่างสักหน่อยเหรอ เอาแต่อ่านหนังสืออย่างเดียวผมก็ตรวจจับพฤติกรรมไม่ได้สิ อะ เหมือนจะมีผู้ชายเข้ามาคุยด้วย
แบบนี้ต้องจด แน่นอนว่าเหตุการณ์สถานการณ์ลักษณะเฉกเช่นนี้ล้วนมีมาให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง ด้วยความสวยของคุณเซลิสเทียที่มีมากมายมหาศาล เลยทำให้ช่วงเวลาส่วนใหญ่ ช่วงเวลาพักเที่ยงของเธอ มักจะมีผู้ชายรุ่นพี่หรือชั้นปีเดียวกันเข้ามาพูดคุยเสมอ
วันนี้เองก็เป็นอีกวันที่มีเข้ามาพูดคุย
“คุณเซลิสเทียครับ”
“พอจะมีเวลาว่างไหมครับ?”
“มีอะไรึเปล่าคะ?”
“…”
“ส่วนใหม่จะใช้เวลาพูดคุยอยู่ประมาณ 5 นาที”
เพียงแค่ 5 นาทีเท่านั้นก่อนผู้ชายจะลุกเดินจากไป
เท่าที่สังเกตมาตลอดหลายต่อหลายวัน ผมยังไม่เคยเห็นผู้ชายใครคนไหนสามารถพูดคุยกับคุณเซลิสเทียได้เกิน 5 นาทีเลย ซึ่งเป็นอะไรที่แปลกมาก หรือจะเป็นวิธีการของนักล่า
เป็นวิธีการสนทนาเลือกเหยื่อเลือกเป้าหมายต่อ อือออออ~ เป็นไปได้แฮะ แต่สำหรับผมที่ไม่กล้าสนทนากับคุณเซลิสเทียเกิน 3 ประโยค การพูดคุยยาวถึง 5 นาที จึงเป็นอะไรที่
เหยื่อตัวน้อยอย่างผมคงจินตนาการไม่ออกเลย
“คุณเซลิสเทียคะ?”
“อาจารย์มีเรื่องไหว้วานนิดหน่อย?”
“พอจะมีเวลาไหมคะ?”
“…”
“ไม่มีปัญหาค่ะ”
คุณเซลิสเทียตอบรับคำขอจากอาจารย์ห้องสมุด
หลังจากนั้นคุณเซลิสเทียก็ลุกจากเก้าอี้ ดะ เดี๋ยวก่อนนะ ทะ ทำไมถึงต้องมองผมด้วยล่ะ ในช่วงจังหวะที่คุณเซลิสเทียลุกออกจากเก้าอี้เตรียมเดินเข้าไปรับเรื่องจากอาจารย์
มันมีช่วงวูบที่เหมือนเธอจะเหลือบหันสายตามาทางผม นะ นี่มันไม่ดีเลย หรือว่าสัญชาตญาณของนักล่าจะทำงานได้ยอดเยี่ยม ทำงานได้ยอดเยี่ยมจนถึงขนาดรับรู้
รับรู้ว่าเหยื่อตัวน้อยอย่างผมกำลังจับจ้องมองอยู่
…‘เป็นไปไม่ได้หรอก’
“…”
ใช่ เป็นไปไม่ได้หรอก
ไม่มีทางเป็นไปได้อยู่แล้ว เห็นแบบนี้ แต่ผมก็ขึ้นชื่อว่าเป็นมนุษย์ล่องหนเลยนะ ขอเพียงผมปิดปากพยายามตัวให้นิ่งเงียบที่สุด ก็ไม่มีใครเข้ามาคุยกับผมแล้ว เป็นไงล่ะ เจ๋งใช่ไหม
อะ เหมือนจะมีน้ำตาหน่อย ๆ นะ ทะ ที่คนอื่นเมินผมไม่เข้ามาพูดคุย ไม่ใช่เพราะผมไม่มีเพื่อนนะ ผมก็แค่ฝึกฝนพรางตัวเท่านั้น แค่ฝึกฝนลอดเวลาเพื่อเตรียมพร้อมเตรียมตัวรับมือกับนักล่าอย่างคุณเซลิสเทียต่างหาก วะ ว่าแต่ทำไมยิ่งพูดผมยิ่งดูแย่นะ
หลังจากคุณเซลิสเดินเข้าไปช่วยเหลืออาจารย์
ผมก็บันทึกเขียนข้อความลงไปในสมุด
[ สวย / เก่ง / และชอบช่วยเหลือคนอื่น ]
[ สวยมาก / หุ่นดีอีกต่างหาก ]
[ นักล่า / เหยื่อ ]
[ วิธีการหลบหนีจากนักล่า ]
“…”
ว่าแต่ เอาตามตรงนะ
ไอ้ที่ผมทำนี่
มัน โคตรจะโรคจิตเลยไม่ใช่เหรอ?!
อ๊ากกกกก!
.
.
.
น่าอายจัง
เลิกดีกว่า
เลิกเขียน
—
ตอนเย็น
“…”
หลังเพื่อนร่วมห้องของผมกลับไปกันหมดแล้ว
แต่ผมก็ยังไม่ได้กลับหรอกนะ ถามว่าทำไมเหรอ อืออออ อาจจะเพราะแสงอาทิตย์ยามเย็นบวกกับบรรยากาศเงียบงันของห้องเรียนยามเย็น มันเป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมละมั้ง
ฮ่าฮ่าฮ่า เอาเป็นว่าปล่อยผ่านเมื่อกี้ไปเถอะ ผมล้างมือหลังจากเข้าห้องน้ำเสร็จ พอเงยหน้ามองกระจกก็เห็นเด็กน้อยคนหนึ่งที่ตัวไม่สูงมากนัก มีเส้นผมสีดำปิดทั้งหน้า จนแทบมองอะไรไม่เห็น ใช่ เจ้าคนที่อยู่ในกระจกก็คือผมเองแหละ
ผมสะบัดน้ำออกจากมือ
“…”
ก่อนจะเดินออกจากห้องน้ำไป
ระหว่างทางกลับห้องน้ำมันก็เงียบเหงาตามระเบียบ ปราศจากเพื่อนร่วมชั้นเรียนไม่มีแม้แต่คนเดียว ซึ่งมันก็ไม่ได้แปลกแยกอะไรออก ออกจะสบายใจด้วยซ้ำที่ได้อยู่คนเดียว
แต่พอเปิดประตูกลับเข้าไปในห้องเท่านั้นแหละ
“…”
“!!!”
“…”
ดวงตาของผมพลันเบิกกว้าง
เบิกกว้างแสดงอาการตื่นตระหนกตกใจให้เห็น มีใครบางคนยังอยู่ในห้องไม่จากหายไปไหน อีกทั้งคนที่หลงเหลืออยู่ยังเป็นคุณเซลิสเทีย คนที่ผมหวาดระแวงขั้นสุดอีกต่างหาก
แต่ที่ทำให้ผมดวงตาเบิกกว้างตื่นตระหนกตกใจ ไม่ใช่แค่คุณเซลิสเทียที่อยู่ในห้องอย่างเดียว แต่เป็นสิ่งที่เธอกระทำในห้องเรียนต่างหาก ฝ่ามือขาวเนียนหยิบจับหลอดปริศนา
เป็นหลอดที่บรรจุของเหลวสีแดงสด ก่อนเธอจะดูดดื่มเจ้าของเหลวสีแดงสดผ่านริมฝีปาก สีหน้าหอมหวานรื่นรมย์ทำเอาผมที่เปิดประตูเข้ามาพานพบเห็นถึงกับสั่นสะท้าน
อะ ไอ้ที่อยู่ในหลอด มะ มันคือเลือดใช่ไหม
“…”
คุณเซลิสเทียที่รู้สึกตัวเหลือบหันมองมาที่ผม
ดวงตาสีดำที่เคยดึงดูดสายตาใครคนอื่นให้เหลือบหันมอง ตอนนี้มันแปรเปลี่ยนกลายเป็นสีแดงสดไปแล้วเรียบร้อย เป็นสีแดงสดดุจของเหลวที่บรรจุอยู่ในหลอดปริศนา
แดงเปรียบเสมือนกับเลือดที่ไหลออกจากร่างกายเวลาเกิดบาดแผล ผะ ผมที่เห็นถึงกับมือไม้สั่นไปหมด ยิ่งเห็นสายตาอันสุดแสนสยองที่เธอมองมา ผมยิ่งสั่นหนักหน่วงเข้าไปใหญ่
กว่าจะรู้สึกตัวอีกทีผมก็วิ่งออกมานอกห้องไปแล้วเรียบร้อย
…‘มะ เมื่อกี้มันคืออะไร’
“…”
อาจจะเป็นเลือด
หรือเป็นอย่างอื่น
ละ แล้วถ้าเป็นเลือดล่ะ
ถ้าเป็นเลือดแล้ว ทะ ทำไม
คุณเซลิสเทียถึง…
.
.
.
เอาเป็นว่าอย่าพึ่งไปคิดเรื่องอื่น
ตอนนี้เอาตัวให้รอดก่อน
วิ่งไปเลยเจ้าขาทั้งสองข้างของผม
—
ในห้องเรียน
“…”
“ตายจริง”
“…”
เซลิสเทียกะพริบตามอง
ขณะเก็บหลอดปริศนาเข้ากระเป๋า สายตาสีแดงสดของหล่อนเหลือบมองตำแหน่งเดิม ตำแหน่งที่ชายหนุ่มร่างเล็กที่พึ่งวิ่งหนีหายจากไป ริมฝีปากคลี่รอยยิ้มเบาบาง
เสมือนกับกำลังพึ่งพอใจกับอะไรสักอย่าง
“…”