ดะ เดี๋ยวก่อน คุณเซลิสครับ เลิกตามผมสักทีเถอะครับ - ตอนที่ 4 น้องแมว
ตอนที่ 4 น้องแมว
หลังจากเลิกเรียนทุกคนต่างแยกย้ายกันกลับบ้าน
ผมอาศัยความเร็วยอดเยี่ยมหลบหนีทุกสิ่งอย่าง
จนสามารถสลัดคุณเซลิสมาได้อย่างง่ายดาย
ไม่อยากจะคุยหรอกนะครับ
ถ้าผมเอาจริง
คุณเซลิสไม่มีทางจับผมได้แน่นอน
ถ้าไม่ติดว่าอยู่ในห้องเรียน
ถ้าอยู่ในห้องเรียนผมต้องทำตามกฎระเบียบ
จะหลบหนีไปไหนก็ไม่ได้ด้วย
ต้องกลายเป็นหนูน้อยในกรง
วิ่งดิ้นไปเรื่อยเปื่อย
ก่อนหมดเรี่ยวแรง
ปล่อยให้นักล่าอาศัยจังหวะอ่อนล้า
เข้ามากลืนกินอร่อย
เพียงแค่คิดก็หนาวแล้ว
กลับเข้าเรื่องปัจจุบันดีกว่าครับ
สถานการณ์ของผมในตอนนี้เหรอ?
ถ้าจะสรุปให้เข้าใจง่ายดายที่สุด
ผมกำลังคุยกับน้องแมวครับ
ไม่ใช่คนที่ว่า “แมว”
แต่เป็นแมวตัวจริง
น้องขนนุ่มตัวสีขาวน่ารัก
“เมี๊ยวววว~” เห็นดวงตากลมโตจดจ้องมอง
ผมก็เผลอตอบกลับไปเสียแล้ว
แน่นอนว่าไม่ได้ตอบกลับไปด้วยเสียงปรกติธรรมดา
แต่เป็นเสียงเมี๊ยวแบบเดียวกับน้องแมว
“เมี๊ยววววววววว~”
“เมี๊ยวววว~”
“อือออ เมี๊ยววววววววว~” เห็นน้องตอบกลับมาด้วย
ผมก็ดีใจหนักเข้าไปใหญ่
กว่าจะรู้สึกตัวพวกเราก็ร้องแบบนั้นอยู่หลายนาที
“เมี๊ยวววว~”
“เมี๊ยวววว~ เมี๊ยวววว~” ไม่มีพูดคุยเป็นอย่างอื่น
เพียงแค่ส่งเสียงร้องเหมียวไปมาเท่านั้น
ระหว่างกำลังเล่นอยู่กับน้องแมว
ผมไม่ได้รู้สึกตัวเลยว่า
กำลังมีนักล่าคนใหม่จดจ้องมอง
ทั้งยังไม่ใช่เพียงแค่คนสองคน
แต่เยอะแยะเป็นสิบ
“น่ารัก”
“คุยภาษาแมวกันด้วยละ”
“ถ่ายคลิปเอาไว้เร็วเข้า”
เหมือนน้องแมวจะรับรู้ว่าสถานการณ์กำลังสุ่มเสี่ยงไม่ปลอดภัย
น้องรีบวิ่งหนีหายไปในทันที
ก่อนจะวิ่งจากน้องยังส่งสายตา
คล้ายบอกให้ผมตามไปด้วย
ด้วยความใจง่ายของผม
ผมไม่มีทีท่าลังเลให้เห็น
“เมี๊ยววววววว”
“อะ”
“อย่าพึ่งไป” รีบวิ่งตามไปทันที
“รอผมด้วย”
ผ่านตรอกซอยมากมาย
น้องแมวเหมียวยังไม่ล้มเลิกหยุดวิ่ง
ยังคงวิ่งต่อ
นอกเหนือจากน้องแมว
ก็ยังมีผมตามมาอีกด้วย
“เมี๊ยวววววววว”
“จะพาไปไหนเหรอ?”
“เมี๊ยวววววววววววววว” ใช้เวลาไม่ถึงห้านาที
น้องแมวกับผมก็พุ่งออกมาจากตรอกซอยมืดมิด
กลับสู่แสงสว่างยามเย็น
กลับมาโลกภายนอกอีกครั้ง
น้องแมวยังคงวิ่งต่อ
ครั้งนี้ไม่ได้พาไปสถานที่อื่น
แต่ไปหาใครคนหนึ่งต่างหาก
“เมี๊ยวววว~”
“ฟางข้าว?”
“!!!” ใครเรียกผม ผมเงยหน้ามอง
ก็เห็นหญิงสาวกำลังวิ่งตรงเข้ามาหาน้องแมว
พร้อมกับร้องเรียกชื่อซึ่งน่าจะเป็นชื่อน้องแมว
แต่ แต่
ทำไมชื่อของน้องมันดูคุ้นหูจัง
ครับ
มันคือชื่อของผมเอง
ทำไมชื่อของเราเหมือนกัน
อะไรนะ ผมชื่อกรก่อนหน้า
กรตายไปตั้งนานแล้วครับ
ตอนนี้มีเพียงฟางข้าวเท่านั้น
ฟางข้าว (แมว) วิ่งเข้าไปหาหญิงสาวใหญ่ทันที
หมายถึงอายุนะครับ
ไม่ใช่น้ำหนัก
ถะ แถมเธอยังสวยอีกด้วย
จัดได้ว่าเป็นสาวงามหยดย้อย
ไม่รู้ทำไมพอผมมองเธอ
ถึงได้มีภาพของคุณเซลิสซ้อนทับ
แต่คุณผู้หญิงคนนี้ผมสีดำนะ
ไม่ใช่ผมสีฟ้าสักหน่อย
ไม่มีทางหรอกน่า~
“…” ต้องรีบไล่ความคิดไร้สาระพวกนั้นก่อน
หันกลับมาจดจ้องปัจจุบันดีกว่า
“ฟางข้าวมาหาแม่เร็วเข้า”
“ฟางข้าว”
“เมี๊ยววววว~” ทั้งสองกอดกันกลม
ปล่อยให้ผมซึ่งเป็นคนนอกยืนนิ่ง
ไม่ใช่ว่าเหงาหรือว่าอะไร
แต่มันแค่รู้สึกแปลกนิดหน่อย
“…” เหงาก็ได้ครับ
เธอวางฟางข้าว (แมว) ลงกับพื้นจดจ้องมองคล้ายต้องการมองสิ่งผิดปรกติ
อาจจะกำลังหาบาดแผลหรือว่าสิ่งแปลงปลอมก็ได้
โดยปล่อยให้ผมยืนนิ่งอยู่แบบนั้น
ผมไม่ได้เหงานะที่เห็นน้องแมวไปเล่นกับคนอื่น
“…” เสียงถอนหายใจเหนื่อยอ่อนดังขึ้น
ก่อนตัดสินกลับยอมกลับบ้านมือเปล่า
ยอมกลับไปคนเดียว
“เมี๊ยวววว~” น้องแมวร้องขึ้นมาหนึ่งครั้ง
ก่อนจะหันหลังให้กับพี่สาวเจ้าของ
เดินไปยังทิศทางหนึ่ง
“มาหาแม่เร็ว” สีหน้าของพี่สาวเจ้าของตกใจมาก
“ฟางข้าว”
“ฟางข้าวลูกแม่”
“เมี๊ยวววววววว~” เสียงน้องแมวขยับเข้ามาใกล้
ใกล้จนผิดสังเกตพอหันกลับไปมอง
ก็พบว่าน้องแมวกำลังเดินเข้ามาหาผม
ด้านหลังน้องแมว
ก็ยังมีพี่สาวเจ้าของวิ่งตามติดไม่ขาดสาย
และแล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น
เมื่อฟางข้าว (แมว) กระโดดขึ้นจากพื้น
“ดะ เดี๋ยวก่อน” ขึ้นมาบนไหล่ของผม
พระเจ้าช่วยมันกะทันหันเกินไปแล้วครับ
“คือ”
“ฟางข้าว!”
“…” ตื่นตระหนกตกใจกันหมดไม่มียกเว้น
ผมเองก็ตกใจ
พี่สาวเจ้าของก็ตกใจ
ไม่สิเหมือนพี่สาวเจ้าของ
จะตกใจยิ่งกว่าผมอีก
มือไม้ของเธอสั่นสะท้านไปหมด
ไม่กล้ายื่นเข้าหาฟางข้าว (แมว)
“…” น้องแมวฟางข้าวยังคงยึดเกาะไหล่ผมเอาไว้แน่น
ราวกับกลัวว่าผมจะหนีหายไปไหน
ระหว่างบรรยากาศมืดมนไม่รู้ว่าจะทำยังไง
ผมก็เอ่ยถามขึ้นมาเสียงเบาบาง
“แมวของพี่สาวเหรอครับ?”
“พี่สาว?”
“คะ คือถ้าไม่สะดวก—” พอทักทายไปหลายคำ
แล้วไม่ได้รับการตอบรับกลับมา
ผมเองก็ทำอะไรไม่ถูก
จนกระทั่งพี่สาวเจ้าของกลับมาได้สติอีกครั้ง
เธอรีบตอบกลับมาทันที
น้ำเสียงยังมีร่องรอยตื่นตระหนกให้เห็น
“ไม่เป็นไรจ๊ะ พอดีตกใจนิดหน่อย”
“ไม่คิดว่าจะโดนเรียกพี่สาว” เดี๋ยว! ตกใจเรื่องนั้นเองเหรอ
ไอ้เราก็นึกว่าจะตกใจเรื่องแมวของเธอวิ่งมาเกาะไหล่เรา
ผมมึนงงไปชั่วขณะ
รีบกลับมาตั้งสติอีกครั้ง
ผมสูดลมหายใจก่อนถามเรื่องราวสำคัญ
เรื่องราวที่ต้องรับรูัให้ได้
“ว่าแต่แมวของพี่สาว—”
“เธอชื่อฟางข้าวเหรอครับ?”
“ครับ?” พี่สาวไม่ตอบคำถามโดยตรง
กลับมุ่งเน้นมายังประโยคลงท้ายของผม
แค่เห็น
ผมก็เข้าใจได้ทันทีว่าเธอกำลังสงสัยเรื่องอะไร
ศักดิ์ศรีลูกผู้ชายกำลังถูกกรีดด้วยคมมีด
เธอต้องสงสัยว่าผมเป็นผุ้หญิงทำไมต้องลงท้ายด้วย “ครับ” แน่นอน
“…” ด้วยการถามแทรกกะทันหันมันได้ทำร้ายทำลายจิตใจของผมไปทันที
ผมนิ่งเงียบปล่อยให้ฟางข้าว (แมว) นอนแน่นนิ่งบนหัวไหล่ต่อไป
ขณะพี่สาวเจ้าของเริ่มครุ่นคิดหนักหน่วงเข้าไปใหญ่
“อย่าบอกว่ารสนิยมแปลกใหม่อยากเป็นผู้ชาย”
“เด็กสมัยนี้ช่างแปลกคน”
“ปะ เปล่า ผมเป็นผู้—” ยังไม่ทันได้พูดจบหยดน้ำหนึ่งหยดก็ตกลงมาตรงแก้มผม
พร้อมกับเสียงฟ้าร้องกะทันหัน
ไม่เปิดโอกาสให้ทำใจเลยแม้แต่นิดเดียว
คลึงงงงงงงงงง!!
“ฝนตก?”
“เมี๊ยวววววว” น้องแมวยังไม่คิดจากไปไหน
ยังยึดไหล่ผมตามเดิม
ถ้าเป็นแบบนี้ต้องแย่แน่
ไม่ว่าจะทั้งผมหรือว่าฟางข้าว (แมว)
ขณะหัวสมองกำลังคิดหาวิธีการ
วิธีการคืนน้องแมวให้กับพี่สาวเจ้าของ
เป็นพี่สาวเจ้าของลงมือจัดการรวดเร็วยิ่งกว่า
“คิดออกละ”
“ถ้างั้น” เหมือนหัวสมองหล่อนจะคิดอะไรออก
คิดหาทางวิธีจัดการกับสถานการณ์เบื้องหน้า
“เข้าบ้านเถอะจ๊ะ” หะ! เดี๋ยวก่อน!
“ถ้ายืนอยู่ด้านนอกระวังจะเป็นหวัดเอานะ” ไม่พูดเปล่าเธอกระชากตัวผมเข้าบ้านของเธอทันที
พระเจ้าช่วยไม่ปล่อยให้ผมได้เตรียมใจสักนิด
แต่น้องแมวบนไหล่ของผมยังทรงตัวได้ยอดเยี่ยม
“เมี๊ยววววว” พลังการทรงตัวแบบนี้
โดนดึงกระชากไปมายังรักษาสมดุลเอาไว้
ผมจะเรียนรู้พลังแบบเดียวกับน้องแมวได้รึเปล่า
ถ้าได้เรียนรู้มันต้องใช้ประโยชน์ได้ในอนาคตแน่นอน
…
..
.
หัวสมองผมคงตื่นตระหนกเต็มที่
จนส่งผลกระทบต่อความคิดโดยตรง
เลยเพ้อไปถึงเรื่องอื่น
ไม่เป็นไร
ตอนนี้กลับมาตั้งสติได้แล้ว
“บ้านของพี่สาวอาจแคบไปหน่อยนะ”
“แต่ไม่ต้องห่วง”
“มีพื้นที่ให้น้องสาววิ่งเล่นแน่นอน” ผมได้แต่ยิ้มแห้ง
ตอบอะไรไม่ถูก
ไม่สิต้องบอกว่าพูดอะไรออกไปไม่ได้เลย
ไม่ว่าจะพูดอะไรออกไป
ก็โดนเธอแทรกลับมาตลอด
เหมือนกับจงใจยังไงก็ไม่รู้
“เมี๊ยวววววววว” คุณฟางข้าวคล้ายต้องการบอกให้ผมยอมแพ้เหรอ
ผมเข้าใจภาษาของน้องแมวด้วยล่ะ
ก่อนผมจะเพ้อหนักไปกว่านี้
“…” ว่าแต่ผมควรจะทำยังไงดีครับ
จะโดนพี่สาวไม่รู้จักพาเข้าบ้านแล้วเนี่ย!