จิ้นเย่วส่ายหน้าและตอบกลับด้วยความจริงใจ "ข้าเกิดและโตที่เหิงโจว ข้าไม่เคยไปเมืองหลวง"
กู้รั่วลี้เงยหน้ามองเธอ คิดว่าสีหน้าเช่นนี้คงไม่ได้โกหกเธออยู่ จึงยิ้มและตอบออกมา "ถ้าอย่างงั้นหากคุณหญิงห้าแวะเวียนมาเมืองหลวงต้องมาหาข้าให้ได้ ข้าจะพาเจ้าไปเดินเล่น ไปเดินดูทิวทัศน์ของเมืองหลวงกัน"
จิ้นเย่วไม่รู้จะตอบกลับเช่นใด
จิ้นเย่วพยักหน้า "ขอบพระทัยพระชายารองเพคะ!"
"ข้าว่าคุณชายห้าต้องเอาอกเอาใจเจ้าดีอย่างแน่นอน" กู้รั่วลี้จิบชาและพูดอย่างแผ่ว "ไม่ห่างกันไปไหน เสมือนจะเก็บไว้ในใจอย่างดี"
จิ้นเย่วยิ้มเจื่อน กุมไว้ในใจ ถ้าไม่ใช่ร้อนก็คือเจ็บตัว จะมีอะไรดี?
"องค์ชายเล็กต่างหากที่ดีกับพระชายารอง" จิ้นเย่วบีบถ้วยชาในมือแน่น
เมื่อได้ยินเช่นนี้กู้รั่วลี้ก็ยิ้มเบา ๆ ด้วยใบหน้าที่แดงเล็กน้อย "องค์ชายเล็กยุ่งกับหน้าที่งานราชการและพระชายารองอย่างข้าก็ไม่สามารถช่วยแบ่งเบาอะไรเขาได้ ภายในจวนก็ไม่มีพระชายาและสนมคนอื่น ร่างกายของฉันก็ไม่สู้ดีนัก จนถึงวันนี้ก็ไม่สามารถประสูติพระโอรสพระธิดาให้องค์ชายเล็กได้ ดังนั้นข้ารู้สึกผิดมาก!"
จิ้นเย่วอ้าปากค้าง ไม่รู้จะตอบกลับอย่างไร?
"พระชายารองทั้งอ่อนโยนทั้งมีความสามารถ เรื่องพระโอรสพระธิดาทรงไม่ต้องรีบร้อนไปหรอกเพคะ ถึงเวลาก็คงจะมีเอง อย่างที่พระชายารองทรงตรัส องค์ชายเล็กมีเพียงพระชายารองเพียงพระองค์เดียวข้างกาย พระองค์ไม่ต้องทรงคิดมากหรอกเพคะ?" จิ้นเย่วถอนหายใจเบา ๆ อย่างโล่งอก และแอบชื่นชมตัวเอง
ตอบสนองรวดเร็วนัก!
แต่…คำพูดของกู้รั่วลี้ เธอกลับรู้สึกแปลกใจ?
"ได้ยินมาว่านอกเมืองเหิงโจวออกไปมีวัดพระแม่เร่งกำเนิดที่ศักดิ์สิทธิ์ ไม่รู้ว่าคุณหญิงห้าสะดวกไหมที่จะไปเป็นเพื่อนข้า?" กู้รั่วลี้วางถ้วยชาในมือลง แววตาเฝ้าจับจ้องไปที่จิ้นเย่วเพื่อคาดหวังกับคำตอบ
จิ้นเย่วส่ายหน้า "ข้าถูกสั่งห้าม เกรงว่าจะไปกับพระชายารองไม่ได้เพคะ"
สั่งห้าม?
"นี่…" กู้รั่วลี้ครุ่นคิด "เรื่องนี้ง่ายมาก ข้าจะไปพูดกับนายท่านฟู่ให้ เขาจะต้องอนุญาติแน่!"
"ขอบพระทัยพระชายารอง แต่ข้าไม่คุ้นเคยกับวัดพระแม่เร่งกำเนิดนี้เลย พี่สะใภ้สองและพี่สะใภ้สามน่าจะรู้ดีกว่าข้ามากพอสมควร หากพระชายารองอยากจะเสด็จจริง ๆ ก็สามารถให้พี่สะใภ้ทั้งสองพาเสด็จได้" จิ้นเย่วยิ้มออกมา
กู้รั่วลี้กินน้ำชาลงคอ ไม่คาดคิดว่าจิ้นเย่วจะปฏิเสธเธอได้
ชานี้ มีรสฝาดเล็กน้อย
"พระชายารอง?" จิ้นเย่วขมวดคิ้ว "พระองค์เป็นอะไรหรือเพคะ?"
กู้รั่วลี้ส่ายหัวยิ้ม "ไม่มีอะไรจ่ะ ไม่มีอะไรจ่ะ!"
หลังจากนั้นกู้รั่วลี้ก็ลุกขึ้นเดินจากไป กล่าวเพียงโอกาสหน้าจะมาใหม่
จิ้นเย่วเดินมาส่งกู้รั่วลี้ถึงประตู พร้อมก้มโค้งทำความเคารพ "หม่อมฉันยังถูกสั่งห้าม ขอส่งพระชายารองที่นี่นะเพคะ!"
กู้รั่วลี้สูดหายใจเข้าเดินจากไปอย่างไม่หันหลังกลับมามอง ยิ่งเดินออกไปไกลรอยยิ้มจนใบหน้าของเธอก็จางลง เหลือเพียงใบหน้าที่เย็นชา
ไม่ใช่เธอหรือ?
แน่ใจว่าไม่ใช่หรือ?!
หลังจากปิดประตู ซวงจือไม่เข้าใจ "คุณหญิงข้าน้อยมองว่าพระชายารองเหมือนจะ…"
"ตั้งใจมาหาข้าน่ะ" จิ้นเย่วเดินไปยังเก้าอี้ชิงช้าและนั่งลงแกว่งไปแกว่งมา "แต่ละคำพูดของพระองค์มีแต่คำถามและความสงสัย คิดว่าข้าฟังไม่รู้รึ? ข้าไม่ใช่คนโง่นะ"
ซวงจือประหลาดใจ "คุณหญิง พระชายารองทำไมต้องทำเช่นนี้หรือ?"
"คงเป็นเพราะ…ข้าหน้าตาเหมือนใครบางคนเข้า พระองค์เลยรู้สึกคุ้นหน้า ก็เลยตั้งใจมาหาเพื่อสืบน่ะ" จิ้นเย่วแกว่งเก้าอี้ชิงช้า "แต่ตอนนี้ พระองค์คงเชื่อแล้ว!"
ซวงจือช่วยแกว่งชิงช้าเบา ๆ "คุณหญิงหมายความว่า พระชายารองจะไม่ทรงสงสัยในตัวคุณหญิงแล้วหรือเจ้าคะ?"
จิ้นเย่วพยักหน้า ลมพัดผ่านเข้าที่ใบหู ทำให้รู้สึกสดชื่นไม่น้อย "ตอนพระองค์เสด็จออกไป ข้าเห็นที่นิ้วโป้งของพระองค์ถูกกดไว้อย่างหนักด้วยนิ้วชี้ คงโกรธจัดน่ะ"
ฟู่จิ่วชิงไอกระแอ่มเบา ๆ อยู่นอกรั้ว
"คุณชาย พระชายารองเดินออกไปด้วยความรีบร้อน เหมือนกำลังโกรธ?" จวินซานขมวดคิ้ว
ฟู่จิ่วชิงที่ดวงตาของเขาเยือกเย็น พูดออกมาเบา ๆ "เสียเวลาและคำพูดกับคนที่ไม่เกี่ยวข้อง มันก็แน่อยู่แล้วที่จะโกรธ"
แต่ เรื่องนี้ยังไม่จบ!
จวินซานถามด้วยความประหลาดใจ "พระชายารองจะทรงตรัสบอกองค์ชายเล็กไหมขอรับ?"
"เจ้าล่ะว่ายังไง?" น้ำเสียงของฟู่จิ่วชิงดูปกติและเหมือนกำลังแอบยิ้มอยู่
จวินซานเดาไม่ถูก และไม่กล้สที่จะคาดเดา
"ให้หลีเซียงไปที่หลิ่วซื่อ!" ฟู่จิ่วชิงกล่าวเสร็จก็เดินออกไป
จวินซานพยักหน้าและเดินตามอย่างรวดเร็ว
กู้รั่วลี้เก็บอารมณ์ความรู้สึกของเธอ และเดินกลับไปยังเรือนหลิวหลี
ซ่งเยี่ยนยืนอยู่ภายในบริเวณของเรือน กำลังมองไปยังดอกไม่ใบหญ้าที่อยู่ในบริเวณ ด้วยสีหน้าหมองคล้ำ กล้วยไม้ที่เรียงกันเป็นแถว ใบที่ยาวเรียว เสมือนแขนที่เรียวยาวของหญิงสาว ลมที่พัดมา ทำให้ใบกล้วยไม้ปลิวไหวไปมา
"องค์ชายเล็ก!" กู้รั่วลี้ก้มคำนับ
"ไปไหนมาล่ะ?" ซ่งเยี่ยนยังคงอยู่หมักมุ่นอยู่กับดอกไม้ใบหญ้า โดยไม่ได้หันมามองเธอเลย
มองไปทางเดียวกับสายตาของซางเยี่ยน กู้รั่วลี้มองเห็นกล้วยไม้ที่เรียงราย เธอค่อย ๆ กุมมือแน่นภายใต้แขนเสื้อที่ยาว ใบหน้าอมรอยยิ้มพร้อมกล่าว "รั่วลี้เดินเล่นในจวน รู้สึกได้ว่าจวนฟู่ช่างใหญ่เหลือเกิน เดินจนรู้สึกปวดขาจนแทบเดินต่อไม่ไหว เลยกลับมา"
ซ่งเยี่ยนหันมามองหน้าเธอ "เหนื่อยก็ไม่ต้องเดิน นี่มันก็เป็นจวนของคนอื่น ไม่ใช่เรือนหลังจวนของข้า"
"เพคะ!" กู้รั่วลี้ยิ้มพร้อมกับพยักหน้า เธอเดินเข้าไปที่หน้าดอกกล้วยไม้ ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม "ดอกกล้วยไม้นี้เหมือนที่หม่อมฉันปลูกเลยเพคะ ไม่รู้ว่าเป็นสายพันธุ์ไหนกัน?"
ซ่งเยี่ยนขมวดคิ้วเล็กน้อย พร้อมกับถอนหายใจ "กลับเข้าไปพักผ่อนเถอะ!"
พูดจบซ่งเยี่ยนก็หันหลังไป
กู้รั่วลี้ลูบไล้ไปบนบนกล้วยไม้ด้วยปลายนิ้วของเธอ เปลือกตาค่อย ๆ คล้อยหย่อนลง และคล้ายจะสั่นสะเทือนเล็กน้อย
หลังจากนั้นไม่นาน เธอก็ค่อย ๆ ยืดอกและเดินยิ้มกลับไปยังห้อง
หลังจากอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ ภายในห้องอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมฟุ้ง
กู้รั่วลี้สวมเสื้อที่บางเบา มองไปยังองค์ชายเล็กที่นั่งอยู่หน้าแสงเทียนอย่างเงียบ ๆ
ซ่งเยี่ยนถือหนังสืออยู่ในมือ โดยไม่ได้รู้สึกถึงกู้รั่วลี้เลยแม้แต่นิดเดียว สองคิ้วขะมักเขม้นจดจ่ออยู่กับหนังสือที่อยู่ตรงหน้าราวกับถูกต้องมนต์
"องค์ชายเล็ก ดึกมากแล้ว!" กู้รั่วลี้กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงไพเราะและเป็นห่วง
ปลายนิ้วที่กำลังจะพลิกหน้าหนังสือก็หยุดลง ปิดหนังสือ เขาถอนหายใจออกมา
ขณะที่ซ่งเยี่ยนปลดเสื้อคลุมเพื่อจะนอน กู้รั่วลี้ที่กำลังจะขึ้นมาบนเตียง เขาก็พลิกตัวไปอีกฝั่ง บอกเพียงแค่ "นอนเถอะ!"
กู้รั่วลี้วางมือลงเบา ๆ และค่อย ๆ หลับตาลง
ในค่ำคืนที่หยาวเหน็บ
เช้าตรู่ ตระกูลฟู่คึกคักอลหม่าน
ขนาดเฉินเนี่ยงก็มาแต่เช้า วันนี้เป็นงานวันเทศกาลไหว้พระจันทร์ ผนวกกับองค์ชายเล็กแห่งจวนเยี่ยนอ๋องก็อยู่ร่วมด้วย งานนีี้มิอาจทำพลาดได้
หลิ่วซื่อจัดการให้สะใภ้ทั้งสองไปรอรับแขกที่หน้าเรือนหลิวหลี
ตระกูลฟู่ที่กำลังวุ่นวายกับการเตรียมงาน ไม่ได้มีผลอะไรกับองค์ชายเล็กแม้แต่นิดเดียว
เขาเป็นถึงองค์ชายเล็กแห่งจวนเยี่ยนอ๋อง อาหารงานพิธีในวังต่าง ๆ นา ๆ ล้วนเคยกินมาหมดแล้ว เขาไม่ได้แคร์อาหารพื้นเมืองพวกนี้ด้วยซ้ำ เพียงแค่คนที่เขาส่งไปสืบยังไม่กลับมา เขาเลยต้องอยู่ที่เมืองเหิงโจวไปอีก เลยไม่ได้ปฏิเสธน้ำใจของฟู่เจิ้งไป่!
"องค์ชายเล็ก!" เฉิงหนานโค้งคำนับ "สะใภ้ทั้งสองของตระกูลฟู่ที่ยืืนรับแขกอยู่ข้างหน้า บอกว่า…"
เฉิงหนานเงยหน้าขึ้น มองไปที่กู้รั่วลี้ที่นั่งเสวยเช้าข้างกายซ่งเยี่ยน พูดขึ้นด้วยเสียงเบา "พวกเขาบอกว่า เพื่อนำทางพระชายารองไป…วัดเจ้าแม่เร่งกำเนิด!"
หกคำสุดท้าย เฉิงพูดด้วยเสียงที่เบามาก ๆ
แต่กู้รั่วลี้ก็ได้ยินเข้า เหมือนฟ้าร้องลมพายุในฤดูหนาว เพียงพอที่จะทำให้ใบหน้าของเธอเปลี่ยนสี
"วัดเจ้าแม่เร่งกำเนิด?" ซ่งเยี่ยนบีบตะเกียบในมือจนมองเห็นสีขาวตามข้อนิ้วมือ เขามองย้อนไปที่เธออย่างช้า ๆ "เจ้าบอกกับคนของตระกูลฟู่ว่าจะไปวัดเจ้าแม่เร่งกำเนิด?"
กู้รั่วลี้สำลักซุปและไอขึ้นมาทันที ใบหน้าเริ่มแดงขึ้นอย่างน่าตกใจ "องค์ชายเล็ก หม่อมฉัน หม่อมฉัน…"
MANGA DISCUSSION