ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ - ตอนที่ 866 จะกระโดดตึก
ไป๋ยี่เฟยครุ่นคิดอย่างจริงจัง เขาชอบหลิวเสี่ยวอิงจริงๆหรือเปล่า?
ตั้งแต่หลิวเสี่ยวอิงติดตามอยู่ข้างกายเขา เธอทำเพื่อเขามาหลายอย่าง ยังช่วยชีวิตเขาครั้งแล้วครั้งเล่า ไป๋ยี่เฟยก็รู้ว่าหลิวเสี่ยวอิงคิดกับเขายังไง
ไป๋ยี่เฟยรู้สึกซาบซึ้งกับเธอมากกว่า ส่วนเรื่องชอบเธอ……
ไป๋ยี่เฟยถอนหายใจ เขาไม่อยากโกหกหลี่เสว่ และไม่มีเหตุผลที่ต้องโกหกหลี่เสว่ ก็เหมือนความรักที่เขามีต่อหลี่เสว่ มันเป็นความรักหมดใจและไม่มีคำโกหก
“เสว่เอ๋อ” ไป๋ยี่เฟยพูด“อันที่จริง ฉันก็ไม่รู้ว่าชอบเธอหรือเปล่า แต่วันนั้นฉันคิดว่าเธอตายแล้ว และฉันก็เสียใจมากๆด้วย”
ถ้าเป็นหลี่เสว่ในสมัยก่อน คงจะถามเพิ่มอีก แต่ตอนนี้เธอไม่ถามอะไรเลย
ตอนนั้นที่ไป๋ยี่เฟยหมดสติ เหลียงยู่เป็นคนโทรหาหลี่เสว่ ตอนที่หลี่เสว่มาถึงโรงพยาบาล ไป๋ยี่เฟยก็นอนอยู่ห้องผู้ป่วยแล้ว
และหลิวเสี่ยวอิงนั่งเฝ้าไป๋ยี่เฟยอยู่ข้างเตียง ในขณะเดียวกันก็รอหลี่เสว่ด้วย
หลี่เสว่เห็นสีหน้าที่โดดเดี่ยวของหลิวเสี่ยวอิง แค่ไม่ได้เจอเธอเพียงสองสามเดือน ดูเหมือนเธอเปลี่ยนไปเป็นคนละคนเลย เธอดูไม่ค่อยมีชีวิตชีวาเหมือนเมื่อก่อน
จากนั้นหลิวเสี่ยวอิงก็บอกหลี่เสว่เรื่องที่ไป๋ยี่เฟยถูกวางยาจนเกือบจะเสียชีวิต
“ในขณะที่เขากำลังจะตาย เขาก็มีคุณคนเดียวอยู่ในใจ และคิดถึงคุณเพียงคนเดียว”
เมื่อเธอพูดคำเหล่านี้จบ หลิวเสี่ยวอิงไม่รอให้หลี่เสว่ตอบอะไรเลย เธอรีบจากไปทันที
หลิวเสี่ยวอิงตั้งใจรอเธออยู่ที่นี่ เพื่อต้องการบอกให้หลี่เสว่รับรู้ ครั้งนั้นมันเป็นเพียงความผิดพลาด ในใจของไป๋ยี่เฟยมีเพียงหลี่เสว่คนเดียว
เธออยากให้หลี่เสว่สบายใจและเข้าใจไป๋ยี่เฟยบ้าง
แต่มันกลับทำให้หลี่เสว่รู้สึกไม่สบายใจมากขึ้น
หลี่เสว่พูดเบาๆ:“ฉันไม่เคยทำอะไรเพื่อคุณเลย และเธอทำได้ดีกว่าฉัน คุณควรดีกับเธอมากๆ”
เมื่อไป๋ยี่เฟยได้ยินคำพูดเหล่านี้ เขาก็ใจสั่นทันที
หมายความว่าไง?
“เธอเคยอธิบายกับฉันแล้ว ฉันรับรู้ เธอไม่อยากให้คุณลำบากใจ ในขณะเดียวกันก็อยากให้ฉันเข้าใจคุณมากขึ้น”หลี่เสว่พูดเบาๆ
เมื่อไป๋ยี่เฟยได้ยินเช่นนั้น ก็รีบกอดหลี่เสว่ไว้แน่น เขารู้สึกตื่นตระหนกตกใจทันที
ไป๋ยี่เฟยถอนหายใจเบาๆและพูด:“ที่รัก คุณคือคนที่ดีที่สุดสำหรับฉัน คุณไม่ต้องเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับใคร”
“ถึงแม้ฉันจะไม่รู้ว่าตัวเองชอบเธอหรือเปล่า แต่ฉันแน่ใจว่าฉันรักคุณมากๆ”
“เรื่องที่เกิดขึ้นมันเป็นความผิดของฉันเอง คุณจะลงโทษฉันยังไงก็ได้ ฉันยอมรับผิด”
เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ หลี่เสว่มองหน้าเขาและพูดด้วยรอยยิ้ม:“คุณเป็นคนพูดเองนะ ถ้างั้นคุณต้องให้ฉันจัดการเรื่องนี้ ไม่ว่าสุดท้ายเรื่องจะเป็นยังไง คุณก็ต้องฟังที่ฉันพูด”
“ได้”ไป๋ยี่เฟยพยักหน้า“ไม่ว่าคุณจะให้ฉันทำอะไร ฉันก็เต็มใจที่จะทำ ”
หลี่เสว่เห็นสีหน้าที่จริงจังของเขา อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา และเธอก็รีบแสดงสีหน้าปกติและพูด:“พูดจากะล่อน!”
ไป๋ยี่เฟยพูดด้วยรอยยิ้ม“ฉันพูดจริงๆนะ”
หลี่เสว่จ้องมองเขาและไม่พูดอะไรอีก
ไป๋ยี่เฟยเห็นดังนั้นก็รีบกอดหลี่เสว่ไว้แน่น จู่ๆเขาก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมา
แน่นอน ถ้าคุณกล้าเผชิญหน้ากับปัญหาทุกอย่าง เรื่องยากก็จะกลายเป็นเรื่องง่าย
หลายวันนี้ที่อัดอั้นตันใจ ตอนนี้มันได้มลายหายไปแล้ว ทำให้เขาอารมณ์ดี
จากนั้น
“ดูเร็วๆ!มีคนจะกระโดดตึก!”
“อะไรนะ?อยู่ที่ไหน?”
“อยู่ตรงนั้นไง!โอ้พระเจ้า ตึกมันสูงมากจริงๆ!”
เสียงเอะอะโวยวายดังมาจากห้องโถง
เมื่อไป๋ยี่เฟยได้ยินคำพูดเหล่านี้ ก็ขมวดคิ้วขึ้นมาทันที เพราะที่นี่เป็นโรงพยาบาลของเขา ทำให้พวกเขาสองคนสบตากันและลุกขึ้นเดินไปยังที่เกิดเหตุ
เมื่อพวกเขาสองคนเดินออกมาจากห้องโถงมาถึงประตูทางเข้า และพบผู้คนจำนวนมากยืนอยู่ตรงนั้นแล้วเงยหน้าขึ้นมอง
ไป๋ยี่เฟยกับหลี่เสว่ก็มองขึ้นไปด้วย
โรงพยาบาลมีทั้งหมดหกชั้น บนดาดฟ้าของอาคาร มีผู้หญิงใส่เสื้อผ้าของผู้ป่วยยืนอยู่ เธอไม่แสดงสีหน้าใดๆออกมาเลย ดวงตาของเธอเหม่อลอย ดูเหมือนว่าเธอกำลังจะกระโดดลงมาจากตึก
ไป๋ยี่เฟยมองปุ๊บก็รู้ได้ทันทีว่าผู้หญิงที่กำลังจะกระโดดตึก เป็นผู้ป่วยที่อยู่ห้องเดียวกับเขา
ไป๋ยี่เฟยมองหน้าหลี่เสว่ และเธอก็มองหน้าเขาและพูด:“คุณไปเถอะ ไม่ต้องเป็นห่วงฉัน”
ไป๋ยี่เฟยพูดว่า“คุณระวังตัวด้วย”จากนั้นก็วิ่งเข้าไปในตึก
เขาเข้าไปได้ไม่นาน ก็เห็นภรรยาของเหล่าสวีนั่งร้องไห้อยู่ ดูเหมือนเธอจะไม่สนใจเรื่องที่เกิดขึ้น
เนื่องจากคนที่กำลังจะโดดตึกเป็นเรื่องเร่งด่วนกว่า ไป๋ยี่เฟยก็ไม่ได้คิดอะไรมาก รีบนั่งลิฟต์ขึ้นไปยังดาดฟ้า
เมื่อเขาถึงชั้นดาดฟ้าก็พบว่าชายหนุ่มที่มาดูแลเธอ ตอนนี้กำลังคุกเข่าต่อหน้าผู้หญิงคนนั้นด้วยสีหน้าขมขื่น กำลังพูดโน้มน้าวผู้หญิงคนนั้น“ฉันขอร้อง อย่าทำเรื่องโง่ๆแบบนี้เลยนะ!”
“ซือซือ คุณใจเย็นๆ!”ชายหนุ่มคนนั้นพูดอ้อนวอนอยู่“เขาไม่ต้องการคุณ แต่ฉันต้องการ ฉันไม่สนใจว่าคุณเคยผ่านอะไรมาบ้าง ขอแค่คุณอย่าทำเรื่องโง่ๆแบบนี้ก็พอ”
แต่ผู้หญิงคนนั้นไม่สนใจในสิ่งที่เขาพูด ราวกับว่าเธอไม่ได้ยินอะไรเลย
ในขณะเดียวกัน ด้านล่างตึกก็มีเสียงไซเรน
จู่ๆผู้หญิงก็พูด:“มันไม่ใช่แบบนั้น”
“คุณไม่เข้าใจหรอก”
“คุณปล่อยให้ฉันตายเถอะ”
“พวกเราชาติหน้าค่อยอยู่ด้วยกัน”
เมื่อไป๋ยี่เฟยได้ยินคำพูดของพวกเขา ก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา
ถ้าเมื่อก่อนเขาเจอเรื่องแบบนี้ เขาก็คงดูถูกพวกเขาสองคน ในความเห็นของเขา พวกเธอไม่รักชีวิตตัวเองเลยและทำให้พ่อแม่ต้องผิดหวัง
แต่ตอนนี้ความคิดของเขาได้เปลี่ยนไปแล้ว
เพราะทุกคนมีปัญหาของตัวเองเสมอ ถ้าเราไม่ได้เผชิญปัญหานั้นด้วยตัวเอง ก็คงพูดอะไรไม่ได้
อาจจะเป็นเพราะพวกเขายังอายุน้อยเกินไป มีประสบการณ์น้อย จิตใจไม่เข้มแข็งพอ ดังนั้นพวกเขาจึงใช้วิธีที่รุนแรงในการแก้ไขปัญหา
ไป๋ยี่เฟยเดินเข้าไป และพูดกับผู้ชายคนนั้นว่า:“คุณลุกขึ้นมาก่อน”
ผู้ชายคนนั้นเหลือบมองไป๋ยี่เฟย เขาอึ้งไปชั่วครู่ จากนั้นก็ตะโกนด้วยความโกรธ:“คุณไปให้พ้น!”
ดูเหมือนเขาจะเข้าใจผิด นึกว่าไป๋ยี่เฟยต้องการให้เขามองดูซือซือกระโดดตึก
หลังจากผู้หญิงคนนั้นได้ยินคำพูดเหล่านี้ เธอแค่หันหน้าเหลืองมองที่เขา จากนั้นก็หันหน้ากลับไป
ไป๋ยี่เฟยพูดเบาๆว่า:“คนที่อยากจะฆ่าตัวตาย คุณจะรั้งเขายังไงก็รั้งไม่อยู่หรอก”
เมื่อพูดจบ ผู้ชายคนนั้นก็ตกตะลึงอยู่กับที่ ส่วนผู้หญิงคนนั้นก็ก้มหน้าและร้องไห้
หลังจากได้สติ ผู้ชายคนนั้นดูเหมือนอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เมื่อเขาอ้าปาก กลับไม่รู้ว่าจะพูดอะไรออกมา
ไป๋ยี่เฟยไม่ได้สนใจเขา เดินไปยังขอบดาดฟ้า
เมื่อผู้หญิงได้ยินเสียง ก็หันกลับมาและตะโกนด้วยความตื่นเต้น:“อย่าเดินเข้ามา!ไม่งั้นฉันจะกระโดดลงไปเดี๋ยวนี้เลย!”
ไป๋ยี่เฟยไม่ได้เดินเข้าไปใกล้ผู้หญิงคนนั้น และพยายามรักษาระยะห่างกับเธอ แต่พวกเขาก็ยืนอยู่ที่ขอบดาดฟ้าด้วยกัน เขากระโดดขึ้นไปนั่งที่ขอบดาดฟ้า สองขาห้อยอยู่ในอากาศ
คนที่อยู่ด้านล่างตะโกนออกมาทันทีเมื่อเห็นสิ่งที่เขาทำ
“มีคนจะกระโดดตึกอีกคนหนึ่งแล้ว!”
“วันนี้มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?”
“ทำไมมีแต่คนอยากกระโดดตึก?”
เมื่อไป๋ยี่เฟยได้ยินเสียงตะโกนจากด้านล่างตึก ถึงแม้เขาก็พูดอะไรไม่ออก แต่ตอนนี้เขาไม่มีเวลาไปสนใจคนพวกนั้น เขาหันหน้าและยิ้มให้ผู้หญิงคนนั้นแล้วพูดว่า:“ก่อนที่คุณจะตาย ช่วยฟังฉันเล่าเรื่องก่อนได้ไหม”
ผู้หญิงมองไป๋ยี่เฟยด้วยความงุนงง
ไป๋ยี่เฟยหันหน้ากลับมา มองไปยังที่ห่างไกล“เมื่อก่อนมีผู้ชายคนหนึ่ง เขามาจากชนบท เพื่อดูแลน้องสาวของตัวเอง เขายอมแต่งเข้าตระกูลที่ร่ำรวย และเป็นลูกเขยของตระกูลนั้น”
“เขาโชคดีมากๆ เพราะภรรยาของเขาสวยมากๆ และทุกคนก็อิจฉาเขา”
“แต่ความโชคร้ายของเขาคือ ภรรยาไม่ยอมให้เขาแตะเนื้อต้องตัวเธอเลย”
เมื่อเขาเล่าเรื่อง ทำให้ผู้หญิงคนนั้นอยากรู้อยากเห็นและถาม“ผู้ชายคนนั้นก็เปรียบเสมือนหมาวัดที่อยากจะเด็ดดอกฟ้าใช่ไหม?”
ไป๋ยี่เฟยไม่ได้ตอบคำถามของเธอ แต่ยังคงพูดอีกว่า:“งานแต่งของพวกเขายิ่งใหญ่อลังการ แต่พวกเขาสองคนไม่ได้รู้สึกดีใจเลย”