ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ - ตอนที่ 862 ฉันคิดถึงคุณมากๆ
เมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น ไป๋ยี่เฟยก็ลูบหัวเธอเบาๆอีกครั้งและพูด:“ศิษย์น้องเล็ก ฉันขอโทษ”
เหลียงยู่มองไป๋ยี่เฟยด้วยความมึนงง
เธอไม่เข้าใจ ทำไมถึงเป็นอย่างนี้?
“คุณขอโทษฉันทำไม?”เหลียงยู่ถาม“คุณควรด่าฉันต่างหาก!”
“ฉันเป็นคนจับตัวหลิวเสี่ยวอิง และฉันกำลังจะฆ่าเธอ ฉันเป็นคนข่มขู่คุณ และฉันก็เป็นคนบอกเรื่องทั้งหมดให้หลี่เสว่ได้รับรู้ คุณต้องฆ่าฉันสิ!”เหลียงยู่ตะโกนด้วยความโกรธ
“คุณ……ควรฆ่าฉันสิ……”เหลียงยู่ตะโกนด้วยความโกรธและน้ำตาก็ไหลอย่างควบคุมไม่ได้ ดูเหมือนเธอกำลังตีโพยตีพาย
อย่างไรก็ตาม ในสายตาของไป๋ยี่เฟยไม่ได้ตำหนิเธอเลย เขาแค่ยิ้มให้เธอและพูดว่า:“คุณคือศิษย์น้องเล็กของฉัน!”
เหลียงยู่อึ้งไปเลย“อะไรนะ?”
“คุณเป็นศิษย์น้องเล็กของฉัน” ไป๋ยี่เฟยพูดเบาๆ“ทั้งหมดเป็นความผิดของศิษย์พี่เอง เป็นเพราะศิษย์พี่ไม่ได้ใส่ใจเธอ”
เหลียงยู่มองไป๋ยี่เฟยอย่างงุนงง ดูเหมือนเขาจะไม่ค่อยเข้าใจ
ไป๋ยี่เฟยพูดอีกครั้ง:“ฉันขอโทษ!”
“คุณ……ทำไมคุณไม่ด่าฉันละ?”เหลียงยู่ถามอย่างสงสัย
ไป๋ยี่เฟยส่ายหัวและพูด:“คนที่ควรโกรธคือคุณต่างหาก ถ้าคุณจะด่าฉัน มันก็เป็นเรื่องปกติ”
เหลียงยู่ตกตะลึง
ไป๋ยี่เฟยพูด:“อันที่จริงฉันรู้มาโดยตลอดว่าคุณช่วยเหลือฉันอย่างลับๆ รู้ว่าคุณแอบส่งข้อความมาเตือนฉัน และรู้ว่าคุณช่วยขัดขวางหนึ่งในตระกูลใหญ่เพื่อช่วยฉัน จนทำให้คุณได้รับบาดเจ็บสาหัส”
“เรื่องทั้งหมดนี้ ฉันอยากขอบใจเธอมากจริงๆ”
เหลียงยู่กลั้นน้ำตาที่ไหลไว้ไม่อยู่
“อันที่จริง คุณไม่ได้ต้องการทำร้ายผม และไม่ได้อยากฆ่าเสี่ยวอิง คุณแค่บังเอิญเจอคนที่อยากให้คุณทำสิ่งนั้น คุณก็เลยทำตาม”
“คุณก็แค่อยากให้ทุกคนสนใจและเอาใจใส่คุณเท่านั้น”
ไป๋ยี่เฟยพูดไปด้วยและลูบหัวของเหลียงยู่ไปด้วย และพูดปลอบใจเธอ“ศิษย์น้องเล็ก ฉันรู้มาตลอดว่าคุณอยู่ข้างๆฉัน ฉันขอบใจเธอมากๆ”
“นอกจากนี้ ฉันเข้าใจมาโดยตลอด คุณรักฉันเหมือนคนในครอบครัว ไม่ใช่ความรักของหนุ่มสาว คุณแค่อยากให้คนใกล้ชิดห่วงใยคุณ อยากให้ทุกคนใส่ใจคุณ”
เมื่อพูดเช่นนี้ ทำให้เหลียงยู่ทนไม่ไหว ร้องไห้ออกมา
“ฮือๆๆ……”
ไป๋ยี่เฟยถอนหายใจเบาๆ กอดเหลียงยู่ไว้ในอ้อมแขน และตบหลังของเธอเบาๆ
ท้ายที่สุดเหลียงยู่ก็เป็นแค่เด็กผู้หญิงอายุยี่สิบ หลังจากพ่อของเขาถูกฆ่า และคุณอาที่รักเธอที่สุดได้กลายเป็นศัตรูที่ฆ่าพ่อของตัวเอง ทำให้เธอไม่เหลือใครเลย
ในเวลานี้ เธอเป็นคนที่ไวต่อความรู้สึก และอารมณ์ของเธอก็อ่อนไหวได้ง่าย ดังนั้นเมื่อเธอรู้สึกว่าตัวเองถูกละเลย เธอจึงต้องการพิสูจน์ตัวเอง และต้องการความเอาใจใส่ของคนอื่น
และคนๆนั้นก็คือไป๋ยี่เฟย
เพราะเธอได้ทำหลายสิ่งหลายอื่นเพื่อเขาอย่างเงียบๆ แต่กลับโดนเขาละเลยและไม่สนใจ
ในที่สุด การต้องการความเอาใจใส่ของเธอ ทำให้เธอแยกไม่ออกว่าตัวเองขาดความรักหรือชอบไป๋ยี่เฟยจริงๆ
เมื่อความรู้สึกของเธอสับสนไปหมด บวกกับเธอยึดติดกับความคิดตัวเองมากเกินไป ทำให้เธอขาดสติและทำเรื่องเลวร้ายขึ้นมา
“ฮือๆ……”
เหลียงยู่ไม่ได้ร้องไห้เสียงดังแบบนี้มานานแล้ว
หลังจากร้องไห้เป็นเวลานาน ในที่สุดเหลียงยู่ก็ค่อยๆสงบลง จากนั้นเธอก็สังเกตเห็นว่าไป๋ยี่เฟยตัวสั่น และในขณะเดียวกันเธอก็ได้กลิ่นเลือด
“ศิษย์พี่!”เหลียงยู่เงยหน้าขึ้นมา มองเห็นใบหน้าที่ขาวซีดของไป๋ยี่เฟย
ไป๋ยี่เฟยส่ายหัวและพูด:“ฉันไม่เป็นไร”
เมื่อเห็นว่าเหลียงยู่ไม่เป็นไรแล้ว เขาก็ปล่อยมือที่กอดเธออยู่ หันหลังและเดินไปทางหลิวเสี่ยวอิง
ในขณะนี้เหลียงยู่ตระหนักได้ว่า มือของเธอเปื้อนเลือดอยู่ เพราะเมื่อสักครู่มือของเธอจับเสื้อของไป๋ยี่เฟย
เหลียงยู่หันหน้าไปมองไป๋ยี่เฟย เห็นว่าแผ่นหลังของไป๋ยี่เฟยมีกิ่งไม้เล็กๆปักอยู่!
เหลียงยู่มองเห็นแผ่นหลังของไป๋ยี่เฟย ทำให้เธออึ้งไปเลยและมือของเธอก็สั่นโดยไม่รู้ตัว
หลิวเสี่ยวอิงเผชิญหน้ากับไป๋ยี่เฟยด้วยความประหม่า
เพราะเธอคิดว่าไป๋ยี่เฟยไม่มาแน่นอน
แต่ว่า เขามาจริงๆ
ตอนนี้ความรู้สึกของหลิวเสี่ยวอิงสับสนขึ้นมาทันที เมื่อเห็นไป๋ยี่เฟยที่กำลังใกล้เข้ามา หลิวเสี่ยวอิงรู้สึกน้อยใจ ตาของเธอก็แดงขึ้นมาทันที“คุณมาทำไม คุณไม่ควรมาที่นี่”
จากนั้นไป๋ยี่เฟยก็ยืนอยู่ตรงหน้าของเธอและพูด:“ฉันจำเป็นต้องมาที่นี่”
หลิวเสี่ยวอิงมองเห็นใบหน้าอันแน่วแน่ของไป๋ยี่เฟย ทำให้เธอตะขิดตะขวงใจ เธอรีบหลับตาทันที เมื่อเธอลืมตาขึ้นอีกครั้ง ดูเหมือนจิตใจของเธอจะสงบมากขึ้น“ไม่ คุณไม่ควรมาที่นี่ คุณมาแล้วจะทำให้เรื่องทุกอย่างมันยุ่งยากขึ้น”
“ถ้าเสว่เอ๋อรู้เรื่องทั้งหมด เธอก็จะเสียใจมากๆ และคุณก็จะรู้สึกผิด!”
ไป๋ยี่เฟยส่ายหัวและพูด:“ไม่ใช่อย่างที่คุณคิด เรื่องทุกอย่างดูเหมือนจะจัดการยาก แต่ถ้าฉันไปเผชิญหน้ากับมัน อันที่จริงมันก็ไม่ได้ยากขนาดนั้น”
“คุณดูสิ”ไป๋ยี่เฟยชี้ไปที่เหลียงยู่“เรื่องของศิษย์น้องเล็ก ฉันก็จัดการเรียบร้อยแล้ว?”
“ตอนนี้ฉันมาเพื่อชดเชยให้คุณ มาเพื่อแก้ปัญหาของพวกเราและเรื่องทั้งหมดก็จะจบลง”
“สำหรับเสว่เอ๋อ มันอาจจะเป็นเรื่องยากหน่อย ถ้าฉันจัดการเรื่องทั้งหมดจนเสร็จ ฉันจะอธิบายกับเธอเอง ฉันจะไม่หนีปัญหาแน่นอน”
“ดังนั้นพวกเราควรจัดการปัญหาที่ยุ่งเหยิงพวกนี้ให้เสร็จ เรื่องทั้งหมดจะได้กลายเป็นเรื่องง่ายเอง”
เมื่อหลิวเสี่ยวอิงได้ยินคำพูดเหล่านี้ก็ขมวดคิ้ว แววตาของเธอมีความทุกข์และสับสนเล็กน้อย สุดท้ายเธอก็ส่ายหัวและพูด:“ไม่ต้องการ !ฉันไม่ต้องการให้คุณชดเชย!”
ไป๋ยี่เฟยกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่จู่ๆเขาก็ล้มลงกับพื้นและหมดสติไป
“ไป๋ยี่เฟย!”หลิวเสี่ยวอิงตะโกนออกมาด้วยความตกใจ
เหลียงยู่ที่อยู่ข้างๆก็รีบวิ่งเข้ามา
หลังจากที่ไป๋ยี่เฟยหมดสติไป หลิวเสี่ยวอิงกับเหลียงยู่พึ่งสังเกตเห็น มีเลือดไหลลงพื้นตลอดทางที่ไป๋ยี่เฟยเดินผ่าน
มันเป็นเลือดของไป๋ยี่เฟย
เขาเลือดไหลลงพื้นตลอดทาง
และแผ่นหลังของเขามีกิ่งไม้ปักอยู่ และมีเลือดไหลออกมาไม่หยุด
“ศิษย์พี่!”
เหลียงยู่วิ่งเข้าไปและอุ้มไป๋ยี่เฟยขึ้น หลิวเสี่ยวอิงนั่งยองๆลงที่ข้างๆเขา มองเขาด้วยความเป็นห่วง
ไป๋ยี่เฟยหมดสติและไม่รู้สึกตัว
……
เมื่อไป๋ยี่เฟยรู้สึกตัวอีกครั้ง เขารู้สึกว่าร่างกายของตัวเองอ่อนแอมากๆ
เขารู้สึกว่าตัวเองคงหมดสติไปนานมาก
หลังจากนั้นเขาก็ลืมตา มองเห็นคนที่เขาห่วงใยและคิดถึงมากๆ
หลี่เสว่นั่งอยู่ข้างเตียงใช้มืออันเล็กๆของตัวเองลูบแก้มของไป๋ยี่เฟย และดวงตาของเธอแดงก่ำและบวมด้วย ดูเหมือนเธอจะร้องไห้มากเกินไป
ไป๋ยี่เฟยพยายามลืมตาตัวเอง เอียงศีรษะเล็กน้อย จากนั้นเขาก็เห็นท้องอันโตๆของหลี่เสว่ ความอ่อนล้าของร่างกายและจิตใจก็ดูมลายหายไปเกือบทั้งหมด
ไป๋ยี่เฟยอยากจะเอื้อมมือไปลูบท้องของหลี่เสว่ เนื่องจากร่างกายของเขาไม่มีแรง ทำให้เขาขยับไม่ได้
หลี่เสว่มองเห็นเขาได้สติก็ไม่ได้ตื่นตระหนก เธอค่อยๆจับมือของเขาและวางลงบนหน้าท้องของเธอและพูด:“ที่รัก คุณตื่นแล้วเหรอ”
ไป๋ยี่เฟยอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เมื่อเอ่ยปากกลับพบว่าตัวเองคอแห้งมากๆ และไม่สามารถพูดออกมาได้
เมื่อหลี่เสว่เห็นดังนั้นก็รีบยกน้ำที่วางอยู่ข้างๆ ใช้ช้อนป้อนน้ำให้เขา
หลังจากไป๋ยี่เฟยดื่มน้ำเสร็จก็รู้สึกสบายคอ มองหลี่เสว่และพูดด้วยรอยยิ้ม:“ที่รัก ฉันคิดถึงคุณมากๆ”
เดิมทีดวงตาที่แดงก่ำของหลี่เสว่ เมื่อได้ยินคำพูดนี้ก็แดงมากขึ้นอีก จากนั้นเธอก็เอนศีรษะลงมาซบบนหน้าอกของไป๋ยี่เฟย
ไป๋ยี่เฟยรู้สึกว่าร่างกายของตัวเองมีเรี่ยวแรงนิดหน่อย และเขาก็ยกมือขึ้นมาโอบเอวของหลี่เสว่ไว้
ทั้งสองคนโอบกอดกันอย่างเงียบๆ
ไม่รู้เวลาผ่านไปนานแค่ไหน หลี่เสว่ก็ลุกขึ้นนั่งอีกครั้ง ตั้งแต่ต้นจนจบเธอก็ไม่ได้ถามถึงเรื่องของหลิวเสี่ยวอิงกับเหลียงยู่เลย
ไป๋ยี่เฟยรู้สึกว่าร่างกายมีเรี่ยวแรงมากขึ้น เขาอยากจะลุกขึ้นนั่ง หลี่เสว่ก็เลยยื่นมือออกไปประคองเขา
ไป๋ยี่เฟยปฏิเสธทันที“ฉันลุกขึ้นเอง ถ้าเธอช่วยอาจจะกระทบโดนลูก”
หลี่เสว่มองไป๋ยี่เฟยลุกขึ้นนั่งด้วยตัวเอง เธอก็เลยไม่ขยับและใช้มือขยี้ตาและพูด:“ฉันไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้น”