ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ - ตอนที่ 714 ผมแต่งงานแล้ว
ระหว่างทาง บางครั้งบางคราวหลิวจู๋จะจ้องมองไป๋ยี่เฟยหนึ่งที
ตอนที่ใกล้จะถึงโรงพยาบาล หลิวจู๋จึงอดไม่ไหวที่จะซุกไปยังข้างกายไป๋ยี่เฟย กลัวหลี่เฉียงตงได้ยิน ก็กระซิบพูดว่า “คุณรู้สึกว่าเสี่ยวอิงเป็นยังไงล่ะ?”
ไป๋ยี่เฟยสีหน้าแข็งทื่อทันที มีความอึดอัดเล็กน้อย
สภาพการณ์ในตอนนี้คืออยู่ดีๆน้องสาวของเขาไม่สบาย วิกฤติอย่างมาก กลับอยู่ในเวลาสำคัญนี้ ถามคำถามที่ไม่สำคัญอย่างนี้เลย นี่ถ้าเปลี่ยนเป็นคนอื่นๆเกรงว่าไป๋ยี่เฟยก็จะเปลี่ยนสีหน้าแล้ว
แต่คนคนนี้กลับเป็นคนที่ช่วยน้องสาวเขาได้ ไป๋ยี่เฟยไม่กล้าโมโห แต่อึดอัดจริงๆ
อีกทั้งหลิวจู๋คิดว่าหลี่เฉียงตงไม่ได้ยิน แต่หลี่เฉียงตงเป็นยอดฝีมือระดับที่หนึ่ง จะไม่ได้ยินได้ยังไงล่ะ?
หลี่เฉียงตงทั้งเป็นพ่อตาของไป๋ยี่เฟย อยู่ต่อหน้าต่อตาพ่อตา ถามคำถามอย่างนี้กับลูกเขยเขา ไป๋ยี่เฟยล้วนตึงเครียดขึ้นมาทั้งตัว
สุดท้ายไป๋ยี่เฟยได้เพียงแค่ตอบกลับเสียงเบาๆว่า “ผมแต่งงานแล้ว”
หลิวจู๋กลับไม่ค่อยเห็นด้วยเท่าไหร่พูดว่า “แต่งงานแล้วกลัวอะไรอีก? ไม่ใช่บางประเทศมีระบบที่หนึ่งชายหญิงหลายคนหรือ? อีกทั้งประเทศของเราแต่โบราณก็ไม่ใช่ระบบหนึ่งชายหญิงหลายคนเช่นกันหรือ? เพิ่มภรรยาอีกคนคุณยังจะไม่ดีใจหรือ?”
ไป๋ยี่เฟยอึดอัด ไม่รู้ว่าควรพูดอะไรแล้ว
หลิวจู๋กระซิบกับเขาอีกว่า “ฉันรู้ว่าเสี่ยวอิงเธอชอบคุณ คุณสามารถพิจารณาๆ หน้าตาเสี่ยวอิงก็ไม่เลว อีกทั้งคนก็ดีด้วย ยังมีวิชาแพทย์ในมือ นี่ไม่ใช่พอดีที่ ณ เวลาใดๆก็สามารถพบหมออยู่ข้างๆได้หรือ? สะดวกมากขนาดไหน!”
ระยะทางที่เหลือสิบกว่านาที ไป๋ยี่เฟยก็ฟังหลิวจู๋พูดกับเขาโดยตลอด หลิวเสี่ยวอิงดียังไงดีแบบไหน เขาแต่งกับหลิวเสี่ยวอิงจะมีผลดียังไงอีก?
ไป๋ยี่เฟยกลับแทบอยากจะไปถึงโรงพยาบาลเดี๋ยวนี้ใจจะขาด
ในที่สุดหลังจากไปถึงโรงพยาบาลแล้ว หลิวจู๋ไปยังห้องฉุกเฉิน
ไป๋ยี่เฟยและคนอื่นๆก็รออยู่ข้างนอก
หลังจากครึ่งชั่วโมงกว่า ในที่สุดประตูของห้องฉุกเฉินเปิดออกแล้ว
หลิวจู๋พูดว่า “ตอนนี้พ้นขีดอันตรายแล้ว ดูแลไว้ก่อน คืนนี้ผ่านไปก็ไม่เป็นแล้ว”
ได้ยินคำพูดนี้ ไป๋ยี่เฟยโล่งอกหนึ่งทีเป็นเวลาชั่วคราว แสดงความขอบคุณกับหลิวจู๋
หลี่เสว่ก็ขอบคุณตามด้วยเช่นกัน
หลิวจู๋จ้องมองหลี่เสว่หนึ่งที ถอนหายใจเล็กน้อย ก็เลยเดินผ่านข้างกายพวกเขา
ตอนที่เขาเดินถึงท้ายสุดของระเบียงทางเดิน ตอนที่เลี้ยวโค้งพบเจอกับหลี่เฉียงตง
หลิวจู๋ไม่คุ้นเคยกับหลี่เฉียงตงเลย เพียงแค่เคยเห็นไม่กี่ครั้งเท่านั้น แต่รู้ว่าเขาคือคนข้างกายของไป๋ยี่เฟย ดังนั้นพยักหน้าแล้วพยักหน้าอีกอย่างมารยาท ถือว่าเป็นการทักทาย
หลี่เฉียงตงเห็นแบบนี้ก็พยักหน้าแล้วพยักหน้าอีกอย่างมีมารยาทเช่นกัน ทั้งสองคนเดินผ่านไหล่กัน
แต่ว่าอยู่ในเวลานี้ หลี่เฉียงตงพูดเสียงเบาๆกับหลิวจู๋ว่า “ลูกสาวของผมหน้าตาดีกว่าหลานสาวของคุณ อีกทั้งความรักของเธอกับไป๋ยี่เฟยยิ่งลึกซึ้งกว่า”
พูดคำนี้จบหลี่เฉียงตงเดินตรงไปเลย
แต่หลิวจู๋ตื่นตะลึงหันหน้ามองไปยังหลี่เฉียงตง
“ทั้งๆที่พูดอย่างเบามากนะ เขาได้ยินได้ยังไงหรือ?” หลิวจู๋บ่นเสียงเบาอย่างอึดอัดมาก
……
ในห้องผู้ป่วย ไป๋ยี่เฟย หลี่เสว่ หลิวจื่อหยุนล้วนจ้องมองไป๋ยี่หลิงน้องสาวของไป๋ยี่เฟยอยู่หน้าเตียงผู้ป่วย
หลังจากหลี่เฉียงตงเข้ามาเห็นคนมากมายขนาดนี้ล้อมรอบอยู่ก็เลยพูดว่า “ยี่หลิงเพิ่งตื่นขึ้นมาร่างกายยังอ่อนแอมาก ก็อย่ารบกวนเธอเลย ให้เธอพักผ่อนดีๆก่อนเถอะ”
หลิวจื่อหยุนรู้สึกว่าหลี่เฉียงตงพูดถูกจากนั้นก็เลยบอกกับไป๋ยี่เฟยและหลี่เสว่ว่า “งั้นฉันกลับไปต้มโจ้กสักหน่อย พรุ่งนี้จะส่งเข้ามา พวกคุณดูแลยี่หลิงให้ดีๆ”
ไป๋ยี่เฟยห้ามทันทีพูดว่า “แม่ ไม่ต้องหรอก ผมสั่งซื้อข้างนอกก็ได้แล้ว”
ตาหลิวจื่อหยุนจ้องเขม็งหนึ่งที ไม่พอใจพูดว่า “ซื้อข้างนอกไม่มีอนามัยมากขนาดไหน? จะสั่งซื้อข้างนอกได้ยังไงหรือ ผู้ป่วยรับความทรมานไม่ไหว ฉันยังคงจะกลับไปต้มโจ้กดีกว่า พรุ่งนี้เช้าส่งเข้ามา?”
“จงอย่าสั่งซื้อข้างนอกอย่างเด็ดขาด!”
สุดท้ายก็กำชับอีกที หลิวจื่อหยุนก็จะออกไปแล้ว จากนั้นจ้องมองหลี่เฉียงตงที่อยู่ข้างๆหนึ่งที “ยังไม่ไปขับรถหรือ?”
หลี่เฉียงตงกลับส่ายหัวพูดว่า “คุณเรียกรถกลับไปเถอะ ผมมีธุระจะพูดกับไป๋ยี่เฟย”
หลิวจื่อหยุนไม่พอใจมาก เหลือบมองหลี่เฉียงตงหนึ่งที แต่เห็นลักษณะท่าทีที่จริงจังตั้งใจของหลี่เฉียงตง คิดว่าเขาน่าจะมีเรื่องสำคัญ ได้เพียงแค่ตัดพ้อคำหนึ่ง “ยุ่งยากจริงๆ!”
หลังจากพูดจบคำนี้ก็ออกไปคนเดียวเลย
ไป๋ยี่เฟยได้ยินว่าหลี่เฉียงตงมีเรื่องจะพูดกับเขา จริงจังขึ้นมาทันที หลี่เฉียงตงเป็นยอดฝีมือระดับที่หนึ่งนะ เขาย่อมรู้จักเรื่องมากมายอย่างแน่นอน
ตอนนี้ย้อนคิดอย่างละเอียด ไป๋ยี่เฟยรู้สึกว่าตนเองโง่มากจริงๆ
หลี่เฉียงตงถูกตระกูลไป๋ประคองขึ้นมา จากนั้นก่อตั้งเสี่ยวตงกรุ๊ป แต่ในคนมากมายขนาดนี้ ตระกูลไป๋ทำไมเลือกแต่หลี่เฉียงตงล่ะ?
ก่อนหน้านั้นไป๋ยี่เฟยไม่เคยนึกถึงจุดนี้เลย แต่ตอนนี้ดูแล้วจะไม่ใช่เนื่องเพราะโอกาสประจวบเหมาะอย่างแน่นอน ย่อมมีสาเหตุโดยเฉพาะอย่างแน่นอน
ไป๋ยี่เฟยพูดกับไป๋ยี่หลิงว่า “พักผ่อนให้ดีๆก่อน ผมจะออกไปสักหน่อย”
ไป๋ยี่หลิงจ้องมองพี่ชายของตนเองพยักหน้าเล็กน้อย
ไป๋ยี่เฟยจ้องมองหลี่เสว่หนึ่งที หลี่เสว่ก็เลยพูดว่า “มีฉันอยู่ วางใจเถอะ”
ไป๋ยี่เฟยตามหลี่เฉียงตงออกจากห้องผู้ป่วย
ในห้องผู้ป่วยเหลือเพียงแค่หลี่เสว่กับไป๋ยี่หลิง
ครั้งแรกที่ไป๋ยี่หลิงเจอกับหลี่เสว่ ยังมีความขี้ขลาดเล็กน้อย ในดวงตาเล็กๆแฝงไว้ด้วยความอยากรู้อยากเห็นกับเตรียมป้องกันตัวเล็กน้อย
หลี่เสว่ยิ้มแล้วยิ้มอีกพูดว่า “มีที่ไหนไม่สบายไหม? อยากดื่มน้ำหรือไม่?”
ไป๋ยี่หลิงส่ายหัวเล็กน้อย
หลี่เสว่ยื่นมือลูบหน้าผากของไป๋ยี่หลิงลูบแล้วลูบอีกอย่างเบาๆ ยิ้มอย่างอ่อนโยนมาก “งั้นก็นอนสักตื่นเถอะ พี่สะใภ้จะอยู่ที่นี่เป็นเพื่อนคุณ”
ไป๋ยี่หลิงกะพริบตาจ้องมองหลี่เสว่ อยู่ดีๆก็ร้องไห้ขึ้นมาแล้ว ไม่ใช่ ร้องไห้ฟูมฟาย แต่น้ำตาไหลอย่างเงียบๆ
หลี่เสว่ตื่นตกใจหนึ่งที หยิบกระดาษออกมาเช็ดน้ำตาออกอย่างเบาๆ แต่วินาทีถัดมาก็มีน้ำตาไหลออกจากนัยน์ตาของไป๋ยี่หลิง
“เป็นยังไงแล้วหรือ? คือเจ็บที่ไหนหรือ? อย่าทำให้พี่สะใภ้ตกใจ” หลี่เสว่ถามอย่างเป็นห่วง
“พี่สะใภ้……” ไป๋ยี่หลิงสะอึกสะอื้นเรียกไปเสียงหนึ่ง
คิดว่าน่าจะอยู่ในวินาทีนี้ เธอยอมรับพี่สะใภ้คนนี้แล้ว เพราะว่าเธอสัมผัสถึงความอ่อนโยนกับความห่วงใยที่มาจากหลี่เสว่
“พี่สะใภ้อยู่ สะใภ้อยู่ พี่สะใภ้อยู่เป็นเพื่อนแกล่ะ พักผ่อนดีๆเถอะ อย่าร้องไห้อีกเลย” หลี่เสว่ปลอบโยนพูดอย่างเบาๆ
หลังจากไป๋ยี่หลิงร้องไห้สักพักเงียบสงบลงมา ถามหลี่เสว่ว่า “เนื่องเพราะฉันพี่จึงไม่ไปเมืองหลวง ฉันล้วนรู้ พวกคุณไปเถอะ ไม่ต้องสนใจฉัน”
“พูดโง่ๆอะไรล่ะ?” หลี่เสว่มีความประหลาดใจในคำพูดที่ไป๋ยี่หลิงพูดเล็กน้อย แต่จะให้เธอคิดอย่างนี้ได้ยังไงล่ะ “ไม่ได้เนื่องเพราะแกอย่าคิดสุ่มสี่สุ่มห้า”
ไป๋ยี่หลิงส่ายหัวเล็กน้อยพูดว่า “พี่สะใภ้ไม่ต้องปลอบโยนฉัน ฉันล้วนรู้”
หลี่เสว่รีบปลอบโยนพูดว่า “ไม่ได้เป็นอย่างที่แกคิดจริงๆ อย่าคิดสุ่มสี่สุ่มห้าเลย พักผ่อนให้ดีๆเถอะ”
ไป๋ยี่หลิงเห็นแบบนี้ กะพริบตา อยู่ดีๆถามว่า “พี่สะใภ้ ฉันเป็นโรคอะไรหรือ? จะได้ออกจากโรงพยาบาลเมื่อไหร่ล่ะ?”
“อีกสักครู่พี่สะใภ้จะไปถามให้ แกพักผ่อนก่อน” หลี่เสว่ตอบกลับเสียงเบาๆ
ไป๋ยี่หลิงกลับพูดว่า “พี่สะใภ้ไปถามตอนนี้ได้ไหม?”
“ได้ ตอนนี้ฉันจะไปถามให้ แกรีบพักผ่อนเถอะ”
ไป๋ยี่หลิงพยักหน้าแล้วพยักหน้าอีก หลี่เสว่ก็เลยออกจากห้องผู้ป่วย ไปหาหลิวเสี่ยวอิงเลย
……
ไป๋ยี่เฟยตามหลี่เฉียงตงมาถึงบนดาดฟ้าของโรงพยาบาล
อารมณ์ของไป๋ยี่เฟยในเวลานี้สลับซับซ้อนมาก ในที่สุดน้องสาวก็พ้นขีดอันตรายเขาโล่งอกหนึ่งที จากนั้นก็คือสถานะของหลี่เฉียงตงอีก เขาไม่รู้จะไปเผชิญหน้ายังไงเล็กน้อย
“พ่อ”
ไป๋ยี่เฟยเรียกเสียงเบาๆหนึ่งที
หลี่เฉียงตงจ้องมองที่ไกลๆอยู่ พูดเบาๆว่า “ผมรู้ว่าแกมีข้อสงสัยมากมายที่อยากจะถาม ผมก็มีเช่นกัน ผมเพียงแค่รู้ว่าแกคือคนที่ถูกเลือก แต่ไม่รู้ว่าทำไมต้องเลือกแก”
ไป๋ยี่เฟยถามทันทีว่า “ถูกเลือกอะไร ถูกเลือกจะทำอะไรหรือ?”
หลี่เฉียงตงส่ายหัวเล็กน้อย ถอนหายใจหนึ่งทีพูดว่า “ในตอนนี้คุณยังไม่เหมาะที่จะรู้สิ่งเหล่านี้”
“ทำไมล่ะ?”
ไป๋ยี่เฟยไม่เข้าใจ ถ้าหากว่าคนอื่นๆไม่บอกกับเขา เขาก็เข้าใจ แต่หลี่เฉียงตงทำไมไม่บอกกับเขาล่ะ? หลี่เฉียงตงเป็นพ่อตาของเขานะ!
งั้นพูดได้ชัดว่าความลับนี้น่าจะตื่นตระหนกมากใช่หรือไม่ เพราะว่าแม้แต่ยอดฝีมือระดับที่หนึ่งอย่างหลี่เฉียงตงล้วนไม่กล้าบอกกับเขา
ไป๋ยี่เฟยไม่เข้าใจถามว่า “ท่านกำลังกลัวอะไรอยู่หรือ?”