ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ - ตอนที่ 214
บทที่ 214
หญิงสาวเห็นแบบนี้ก็ด่าออกมาชุดใหญ่“พวกแกมันไอ้พวกชั่วหน้าไม่อาย ยังกล้ามัดฉันอีก? พวกแกเตรียมตัวตายได้เลย!รู้ไหมว่าฉันเป็นใคร? ฉันเป็นน้องสาวแท้ๆของไอ้หัวล้านหลิว หลิวเสีย!”
“ถ้าพี่ชายฉันรู้ล่ะก็ พวกแกได้รับผิดชอบสิ่งที่พวกแกได้ทำลงไปแน่!”
ลูกพี่นั่นได้ฟังแล้วก็หยุดชะงักไป ไอ้หัวล้านหลิว เขารู้จัก แต่พอนึกถึงคำสั่งของลูกพี่ตัวเองแล้ว ก็สบถหึออกมาหนึ่งที“มัดเดี๋ยวนี้!”
“พวกแกจะทำอะไร?”หญิงสาวอึ้งตะลึง“ให้ตายสิ!พวกแกกล้ามัดฉันจริงๆ? พวกแกไม่กลัวพี่ของฉันสับหัวหรือไง?”
“พูดมากจริงๆ ทำให้มันเงียบปากซะ!”ลูกพี่ขมวดคิ้วพูดสั่งขึ้น
“อื้อๆ……”
หลิวเสียถูกคนใช้ผ้าอุดปากไว้ พูดไม่ออก ในขณะเดียวกันก็ถูกคนจับมัดแขวนไขว้หลังเอาไว้
……
ไป๋ยี่เฟยและหลิวเสี่ยวอิงมาถึงร้านสะดวกซื้อบริเวณใกล้ๆร้านหนึ่ง ไป๋ยี่เฟยเข้าไปซื้อสายไหมให้กับหลี่เสว่
หลิวเสี่ยวอิงนั่งรออยู่ในรถ
ไม่นาน ก็มีเงาหนึ่งเงาโผล่ขึ้นมาที่กระจกรถ เคาะๆประตู
หลิวเสี่ยวอิงไม่ได้คิดเยอะ ลดกระจกลงทันที กำลังจะพูดขึ้น คนนั้นก็ยื่นมีดปอกผลไม้ออกมา จี้ลงที่คอของเธอทันที“อย่าร้อง ไม่อย่างฉันฆ่าแกตายแน่!”
หลิวเสี่ยวอิงในใจรู้สึกกลัวมาก ไม่กล้าพูดอะไร
ในขณะนี้เอง ไป๋ยี่เฟยเดินออกมา เห็นผู้ชายสูงใหญ่คนหนึ่งยืนอยู่ข้างๆกระจกรถ สวมเสื้อผ้าที่ดูหรูหราเกินจริง ทำให้ไป๋ยี่เฟยใจเต้นขึ้นมาทันที รีบเดินเข้าไปอย่างรวดเร็ว“คุณ……”
ยังไม่ทันพูดจบ ไป๋ยี่เฟยก็เห็นหลิวเสี่ยวอิงที่อยู่ในรถ ถูกคนใช้มีดปอกผลไม้จี้ที่คออยู่ ในตอนนี้เอง มืออีกข้างของคนคนนั้น ก็ถือมีดปอกผลไม้มาจี้ที่คอของไป๋ยี่เฟย
“มีเรื่องอะไรก็คุยกันดีๆสิ”
“หยุดพูดไร้สาระ ไปที่รถตู้คันนั้นเดี๋ยวนี้”
ทั้งสองคนขึ้นไปบนรถตู้อย่างเชื่อฟัง
เพิ่งจะขึ้นไปนั่ง ก็มีคนมัดมือเท้าของเขาไว้ ในขณะเดียวกันยังถูกถุงสีดำคลุมหัวเอาไว้ด้วย ภาพตรงหน้ามืดมนไปหมด มองไม่เห็นอะไร
แค่รู้สึกได้ว่ารถกำลังสตาร์ท
……
หลี่เฉียงตงกับหลิวจื่อหยุนกำลังยุ่งอยู่ ส่งนายท่านหลี่กลับมายังบ้านวิลล่าที่หลันโปกั่ง
นายท่านหลี่เดินเข้าไปในบ้านวิลล่า ในใจก็รู้สึกตื่นตัวขึ้นมาไม่น้อย
บ้านวิลล่าหลันโปกั่งเป็นความฝันของคนเมืองเทียนเป่ยทุกคน!
ตระกูลหลี่ของเขาก็ไม่เว้น ล้วนแต่มีเป้าหมายนี้เหมือนกัน ใครจะไปรู้ว่าตัวเองสามารถมาอยู่บ้านวิลล่าหลันโปกั่งจะเป็นภาพแบบนี้?
ตัวเองไม่ได้ซื้อเอง แต่เนื่องจากลูกที่ตัวเองดูถูกดูแคลนของตนเอง จึงทำให้เข้ามาอยู่ภายในนี้ได้
“พ่อ จากนี้ไปที่นี่เป็นบ้านของพ่อแล้วนะ”หลิวจื่อหยุนพูดยิ้มๆ“เท้าของพ่อไม่ค่อยดี พักอยู่ชั้นหนึ่งก็แล้วกันนะคะ!”
พวกเขาเก็บกวาดห้องรับรองแขกที่ชั้นหนึ่งเพื่อให้เป็นห้องนอนของนายท่านหลี่โดยเฉพาะ
นายท่านหลี่พยักหน้าด้วยน้ำตาคลอเบ้า“อื้ม อื้ม ลำบากแล้ว……”
“ไม่ลำบากเลยค่ะ”หลิวจื่อหยุนยิ้มๆ จากนั้นก็พานายท่านหลี่ไปที่ห้องนอนของเขา
ในห้องรับแขกเหลือแค่พวกของหลี่เฉียงตงสามคน โจวฉวี่เอ๋อรู้สึกว่าตัวเองเป็นส่วนเกินอยู่ไม่น้อย“ลุง ดึกแล้ว หนูขอตัวกลับไปก่อนนะคะ พรุ่งนี้ค่อยมาหาเสว่เอ๋อก็แล้วกัน”
หลี่เฉียงตงกำลังที่จะพยักหน้า แต่หลี่เสว่รั้งโจวฉวี่เอ๋อไว้ ไม่ให้เธอไป
โจวฉวี่เอ๋อก็หมดหนทาง“อีกเดี๋ยวคุณลุงก็จะกลับแล้ว เดี๋ยวเขาจะมาอยู่เป็นเพื่อนหนูเองนะ”
“แต่ว่าคุณลุงยังไม่กลับมา”หลี่เสว่พูดด้วยท่าทางน่าสงสาร ความหมายก็คือต้องรอให้ไป๋ยี่เฟยกลับมาก่อน ถึงจะยอมปล่อยโจวฉวี่เอ๋อไป
……
ไป๋ยี่เฟยกับหลิวเสี่ยวอิงรู้สึกสับสนมึนงง ถูกพามาถึงห้องห้องหนึ่ง จากนั้นก็ถูกคนผลักเข้าไปข้างใน ก่อนจะปิดประตูลง
ผ่านไปนาน ก็ไม่ได้ยินเสียงอะไร ไป๋ยี่เฟยจึงตะโกนขึ้นมา“หลิวเสี่ยวอิง?”
“อยู่นี่!”หลิวเสี่ยวอิงตอบกลับไป
ไป๋ยี่เฟยเห็นว่านานขนาดนี้ยังไม่มีเสียงอะไรเกิดขึ้น ก็คิดว่าไม่มีคนแล้ว จึงใช้มือหยิบถุงที่คลุมหัวอยู่ออก
ในขณะนี้เอง หลิวเสี่ยวอิงก็เอาถุงดำที่อยู่ที่หัวของตัวเองออกเหมือนกัน
ทั้งสองสบตากันหนึ่งที ก่อนจะหันไปมองรอบๆห้อง
นี่มันเป็นห้องว่างเปล่าหนึ่งห้อง นอกจากพวกเขาสองคน แล้วก็โต๊ะเก้าอี้ที่วางอยู่ไม่ไกลฝั่งตรงข้ามแล้ว ก็ไม่มีอะไรอีก
โคมไฟที่อยู่บนหัวก็ดูเก่าโทรม ไฟก็ไม่ใช่จะเพียงพอ แถมยังเป็นแสงสีส้มอ่อนๆ ทำให้ทั้งห้องดูสลัวๆเล็กน้อย
“ไม่สนใจพวกเราแล้วเหรอ?”
ไป๋ยี่เฟยมองเธอด้วยความแปลกใจ“คุณไม่กลัวเหรอ?”
หลิวเสี่ยวอิงกลอกตามองบนหนึ่งที จากนั้นก็บอกเป็นนัยว่าให้ไป๋ยี่เฟยแก้มัดให้กับตัวเอง ไป๋ยี่เฟยใช้มือของตัวเองแก้เชือกให้กับหลิวเสี่ยวอิงทีละนิดๆ
หลังจากที่เชือกที่มือของทั้งสองคนถูกแก้หมดแล้ว หลิวเสี่ยวอิงจึงพูดขึ้น“เจอครั้งแรกแปลกตา เจอครั้งต่อมาเริ่มคุ้นชิน”
พอได้ยินเธอพูดแบบนี้ ไป๋ยี่เฟยจึงนึกขึ้นมาได้ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่หลิวเสี่ยวอิงถูกมัด ครั้งที่แล้วก็ยังถูกคนขังไว้ตั้งนานขนาดนั้นเหมือนกัน
หลิวเสี่ยวอิงถามไป๋ยี่เฟย“ทำไมคุณถึงไม่กลัว?”
นี่มันเป็นการลักพาตัวเลยนะ!เขาเป็นทายาทมหาเศรษฐีที่อ่อนปวกเปียก ควรจะรู้สึกกลัวสิถึงจะถูก
“เพราะว่าผมรู้ดีว่าพวกเราจะปลอดภัยยังไงล่ะ”ไป๋ยี่เฟยพูดตอบกลับ ไป๋หู่มีตำแหน่งมือถือของเขา ถ้าเกิดเขาหายตัวไป ไป๋หู่จะต้องมาหาเขาแน่นอน ดังนั้นเขาจึงไม่รู้สึกกลัวเลยแม้แต่นิดเดียว
จริงๆแล้ว ต่อให้ไม่มีไป๋หู่ เขาก็ไม่กลัว ถึงยังไงก็วนเวียนอยู่ใกล้ความตายอยู่หลายต่อหลายครั้ง ภาพแบบนี้มันก็ไม่ได้ถือว่าอะไรมากมายแล้ว
หลิวเสี่ยวอิงกลับรู้สึกอยากรู้อยากเห็น“คุณรู้ได้ยังไง?”
“ถึงตอนนั้นก็รู้เอง”
ในขณะนี้เอง จู่ๆประตูห้องก็ถูกเปิดออก ผู้หญิงที่ถูกถุงดำคลุมหัว สองมือถูกมัดไว้ถูกผลักเข้ามาข้างในเช่นกัน
ในขณะเดียวกัน ผู้หญิงก็พูดสบถคำด่าสารพัด
“ฉันบอกแล้วว่าฉันเป็นน้องสาวแท้ๆของไอ้หัวล้านหลิว พวกแกหูหนวกเหรอ?”
“ถ้าพี่ของฉันรู้ว่าฉันถูกจับมา พวกแกเตรียมตัวถูกสับหัวได้เลย!”
“ฉันแนะนำให้พวกแกปล่อยฉันไปจะดีกว่านะ บางทีพี่ชายของฉันอาจจะเมตตา ไว้ชีวิตพวกแกก็ได้!”
“เบาๆหน่อย พวกแกทำอะไรเนี่ย?”
ไป๋ยี่เฟยกับหลิวเสี่ยวอิงมองหน้ากันหนึ่งที เพราะว่าพวกเขาคุ้นกับเสียงเสียงนี้เป็นอย่างดี นี่มันหญิงสาวที่หลอกพวกเขาคนนั้นไม่ใช่เหรอ? แต่สภาพในตอนนี้ดูไม่เหมือนกับตอนนี้ที่ถูกกลั่นแกล้งรังแกเมื่อตะกี้แล้ว แต่กลับดูเหมือนเป็นนายหญิงใหญ่คนหนึ่ง
หลังจากที่หลิวเสียถูกคนผลักเข้ามา ประตูก็ปิดลงอีกหนึ่งครั้ง
หลิวเสียพูดใส่ประตู“เห้ย!พวกแกรีบปล่อยฉันไปสิ!มาขังพวกเราไว้เพื่ออะไร?”
ผ่านไปนานสองนาน ไม่มีใครตอบกลับมา
หลิวเสียพูดพึมพำอยู่สองสามประโยค ก่อนจะใช้มือดึงถุงที่หัวออก จากนั้นก็เห็นใบหน้าของคนที่เธอไม่อยากเห็นที่สุด
ต่อมา ทั้งสามคนก็มองหน้ากัน
หลิวเสียเห็นแบบนี้ก็หัวเราะแห้งๆออกมาสองที“บังเอิญจัง……”
“บังเอิญจังเลยนะ!”หลิวเสี่ยอิงตอบกลับไปหนึ่งประโยค
หลิวเสียหัวเราะแห้งๆออกมาอีกสองที ลูกตาหันไป“พวกมันสนใจในเงินของพวกคุณใช่ไหม? แล้วพวกมันจับฉันมาทำไม? ฉันไม่มีเงิน!เงินก็พวกคุณให้มา!จับพวกคุณก็พอแล้วนี่นา!”