ซาลาเปาตัวน้อย ทะลุมิติมามีระบบทำฟาร์มยุค 70 จนร่ำรวย - บทที่ 38 สองโฉมหน้าของจ้าวหลินหลิน (รีไรต์)
- Home
- ซาลาเปาตัวน้อย ทะลุมิติมามีระบบทำฟาร์มยุค 70 จนร่ำรวย
- บทที่ 38 สองโฉมหน้าของจ้าวหลินหลิน (รีไรต์)
บทที่ 38 สองโฉมหน้าของจ้าวหลินหลิน (รีไรต์)
บทที่ 38 สองโฉมหน้าของจ้าวหลินหลิน (รีไรต์)
วันนี้อากาศแจ่มใสอีกแล้ว
จ้าวหลินหลินมาถึงสวนผลไม้ พบกับเซี่ยวเยว่
เซี่ยวเยว่เป็นหัวหน้าที่ดูแลคนงานมากมายในสวนผลไม้ แถมยังเป็นปัญญาชนอีกด้วย
ถึงแม้ทั้งคู่จะเป็นคนหัวสูง แต่ก็ยังถือว่ามองเห็นซึ่งกันและกัน
เซี่ยวเยว่ยื่นเงินและรายชื่อให้จ้าวหลินหลิน “นี่คือรายการสั่งซื้อน้ำมันของสวนผลไม้เรา เธอนับเงินดูสิ”
“ไม่ต้องนับหรอก” จ้าวหลินหลินพูดพร้อมกับยิ้ม “เสี่ยวเยว่ ไม่ว่าเธอทำอะไร ฉันก็วางใจ”
หลังจากที่หล่อนโฆษณาไปรอบหนึ่งแล้ว ของที่ควรจะขายก็ขายได้หมด
หล่อนจึงขอให้เซี่ยวเยว่ช่วยรวบรวมคน โดยให้กำไรจากน้ำมันกับเซี่ยวเยว่สองเฟินต่อ 1 ชั่ง
ส่วนเรื่องเงินค่อยให้เซี่ยวเยว่เป็นการส่วนตัวทีหลัง
“มีเงินแบบนี้จะไม่หารได้ยังไง” เซี่ยวเยว่ตอบรับทันที
“พวกเธอในสวนผลไม้นี่ซื้อกันหมดแล้วเหรอ” จ้าวหลินหลินยิ้มกว้าง “อิทธิพลของเธอนี่แรงจริง ๆ”
“หลัก ๆ เลยคือทุกคนเขามีความต้องการน่ะ” เซี่ยวเยว่ไม่กล้าพูดพล่อย ๆ ต่อหน้าทุกคน
จ้าวหลินหลินกวาดสายตามองรายชื่อ คนในสวนผลไม้สิบกว่าถึงยี่สิบคน รวมกันแล้วก็ซื้อน้ำมันไปทั้งหมด 300 ชั่ง
เธอแสดงสีหน้าประหลาดใจออกมา “ก่อนหน้านี้ฉันได้ยินหยางเจวียนบอกว่าจะซื้อ ไม่ซื้อแล้วเหรอ”
จริง ๆ แล้วเซี่ยวเยว่ไม่ชอบหยางเจวียนอยู่แล้ว
หล่อนจึงตอบแบบไม่ใส่ใจ “หล่อนจะซื้อไม่ซื้อก็เรื่องของเธอสิ”
จ้าวหลินหลินจำได้ว่าก่อนหน้านี้หยางเจวียนบอกว่าอยากซื้อสักยี่สิบสามสิบชั่ง หล่อนจะปล่อยเงินก้อนนี้ไปได้อย่างไร
ดวงตาของหล่อนเป็นประกาย เห็นหยางเจวียนที่กำลังนั่งคุยกับคนอื่นอยู่ในกลุ่มคนที่กำลังนั่งพักอยู่ในสวนผลไม้
หล่อนเดินตรงเข้ามาหาหยางเจวียน คุ้นเคยกันมากถึงขนาดตบไหล่หยางเจวียน
“หยางเจวียน เธอก็จะมาซื้อน้ำมันไม่ใช่เหรอ? ทำไมไม่ซื้อล่ะ?”
หยางเจวียนอึ้งไปครู่หนึ่ง มองไปที่จ้าวหลินหลินที่ยิ้มอย่างกระตือรือร้นแล้วรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย
“ฉันไม่ซื้อแล้ว ลูกชายคนโตที่บ้านต้องการใช้เงินเร่งด่วน พวกเราประหยัดหน่อยดีกว่า”
“โอ๊ย พูดแบบนี้ได้ยังไง?” จ้าวหลินหลินดึงแขนหยางเจวียน “ถูกขนาดนี้ วันนี้ไม่ซื้อกับฉัน วันหลังอยากได้ ก็ไม่ใช่ราคาแบบนี้อีกแล้ว!”
คนอื่น ๆ ก็พากันพูดคุยกัน
“น้ำมันถูกขนาดนี้ ถ้าไม่ใช่คนบ้านเดียวกัน หลินหลินคงไม่ยุ่งวุ่นวายให้ทุกคนมาซื้อหรอก”
“ใช่ น้ำมันห้าเหมาต่อชั่ง เธอจะเอาอะไรนักหนา”
“แบบนี้ยังไม่ซื้อก็โง่เกินไปแล้ว พลาดครั้งนี้ไปต้องเสียใจแย่”
หยางเจวียนได้ยินแล้วก็รู้สึกรำคาญเล็กน้อย
แต่ก็ไม่อาจปริปากเล่าเรื่องที่หลี่ชุ่ยชุ่ยจะเข้าเมืองไปสกัดน้ำมันให้หล่อนได้
หล่อนหัวเราะแห้ง ๆ ออกมาสองเสียง ก่อนจะปฏิเสธออกไปอีกหลายครั้ง “คือที่บ้านฉันขัดสนจริง ๆ …”
“…ก็พวกเธอสองคนเป็นเพื่อนรักกัน ใครจะไปรู้ว่าแอบตกลงอะไรกันไว้ลับหลัง”
พอได้ยินชื่อของหลี่ชุ่ยชุ่ยเท่านั้น สีหน้าของจ้าวหลินหลินก็เปลี่ยนไปในทันที ท่าทางก็พลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ
“ที่แกไม่ซื้อเพราะหลี่ชุ่ยชุ่ยสอนแกมาแบบนี้นี่เอง!”
“ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ต้องซื้อ! ต่อไปให้หลี่ชุ่ยชุ่ยเข้าเมืองไปซื้อให้แกก็แล้วกัน!”
“คอยดูแล้วกันว่าพวกแกได้ราคามาแบบไหน”
“เอาเถอะ… ฉันว่านะ… อย่าไปคบค้าสมาคมกับพวกขัดสนเลยจะดีกว่า ระวังความจนจะติดตัวมาด้วย!”
จ้าวหลินหลินพูดด้วยน้ำเสียงประชดประชัน สายตาก็เอาแต่จ้องมองหล่อนไม่วางตา
ดวงตาราวกับดูเหมือนจะมองทะลุทุกสิ่งได้
เซี่ยวเยว่ยืนอยู่ข้าง ๆ จ้าวหลินหลิน พูดพร้อมกับหัวเราะว่า “อย่าไปพูดกับหล่อนเลย พูดไปหล่อนก็ซื้อไม่ไหวหรอก”
หยางลี่ลี่เดินเข้ามาในสวนผลไม้ เห็นจ้าวหลินหลินกำลังพูดจาดูถูกแม่ของหล่อน
ทันใดนั้นในใจของหล่อนก็รู้สึกแย่มาก
หยางเจวียนเป็นคนซื่อตรง หล่อนลุกขึ้นยืนพร้อมกับปัดฝุ่นที่ก้น “อย่าพูดแบบนั้น ชุ่ยชุ่ยเป็นคนยังไง ฉันรู้ดี”
“ฉันไม่ได้อยากได้น้ำมัน แค่ซื้อไม่ไหว พวกเธอเก็บไว้เองเถอะ”
หยางเจวียนพูดจบ ก็ดึงหยางลี่ลี่เดินจากไป
หยางลี่ลี่เดินตามหลังแม่ของหล่อน ในใจรู้สึกไม่ค่อยดี “แม่ ทำไมพวกหล่อนถึงพูดจาแย่แบบนั้น”
หยางเจวียนส่งเสียง ‘หึ’ ในลำคอเบา ๆ “ก็พวกเดียวกันนั่นแหละ เซี่ยวเยว่ถึงขั้นลงแรงช่วยขายน้ำมันขนาดนี้ คิดว่าไม่ได้เงินหรือไง คิดว่าคนอื่นโง่หรือยังไงกัน”
หลังจากกลับถึงบ้าน หยางลี่ลี่ก็เศร้าซึมตลอด
หล่อนอายุแค่แปดขวบ แน่นอนว่าย่อมไม่มีทางเข้าใจเรื่องผลประโยชน์อันซับซ้อนเช่นนี้ได้
เดือนมีนาคมยามใบไม้ผลิ บรรยากาศอบอวลไปด้วยเสียงนกร้องและกลิ่นหอมของดอกไม้
เย่เสี่ยวจิ่นนั่งอยู่ริมธาร
เธอวางลอบดักปลาไว้ในลำธาร แต่กลับจับปลาได้ไม่มากนัก
นับว่าเป็นครั้งที่ได้ผลตอบแทนน้อยที่สุดในช่วงนี้เลยทีเดียว
เธอตัดสินใจว่าควรจะวางลอบดักปลาไว้ในนาข้าวดีกว่า
ขณะกำลังเก็บกวาดเศษหญ้าในลอบดักปลา ก็เห็นหยางลี่ลี่เดินตรงมา
“พี่สาวลี่”
“จิ่นเป่า…” หยางลี่ลี่ทิ้งตัวนั่งลงบนพื้นข้าง ๆ เย่เสี่ยวจิ่น
ริมธารมีดอกไม้ป่าขึ้นอยู่มากมาย หยางลี่ลี่เด็ดดอกไม้ขึ้นมาหนึ่งดอกแล้วหมุนเล่นในมือ
เย่เสี่ยวจิ่นสังเกตเห็นว่าหล่อนมีเรื่องไม่สบายใจจึงตบบ่าเธอเบา ๆ แล้วถามว่า “เป็นอะไรไป พี่ไม่สบายใจเหรอ”
“บอกฉันมาสิ ฉันจะทำให้พี่อารมณ์ดีขึ้น เอาไหม”
หยางลี่ลี่หลุดขำออกมา “จิ่นเป่า เธอน่ะอายุน้อยกว่าฉัน เธอเป็นน้องสาวนะ”
“พี่สาวควรจะเป็นคนปลอบใจน้องสาว ไม่ใช่น้องสาวปลอบใจพี่สาว”
เย่เสี่ยวจิ่นหัวเราะตาม “แต่พี่สาวลี่ดูไม่มีความสุขเลยนะ”
หยางลี่ลี่ถอนหายใจ หล่อนเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในสวนผลไม้ให้เย่เสี่ยวจิ่นฟัง แล้วพูดอย่างขุ่นเคือง “หัวหน้าเซี่ยวคนนั้นนิสัยไม่ดีเลย วัน ๆ คอยแต่รังแกแม่ฉัน!”
เย่เสี่ยวจิ่นพยักหน้า “แค่เรื่องน้ำมัน ทำเป็นโมโหขนาดนี้เลยเหรอ”
“เรื่องแบบนี้มันเป็นเรื่องของความสมัครใจในการซื้อขาย เธอจะทำแบบนี้ได้ยังไง”
เย่เสี่ยวจิ่นทำท่าทางสงสัย แต่ในใจเธอรู้ดีว่าเกิดอะไรขึ้น
ถ้าไม่ใช่เพราะผลประโยชน์ล่ะก็ จ้าวหลินหลินไม่กระตือรือร้นขนาดนั้นหรอก
ขายน้ำมันไม่ได้ก็โกรธจนหน้าดำหน้าแดง แสดงว่าผลประโยชน์มันเยอะมากเลยสิเนี่ย
“เธออย่าเสียใจไปเลย เชื่อฉันสิ พวกเราจะเข้าเมืองกันภายในสองสามวันนี้”
“ถึงตอนนั้น น้ำมันของพวกพี่ก็คงสกัดเสร็จพอดี”
“ฉันรับประกันเลย น้ำมันที่ฉันสกัดเองหอมกว่าน้ำมันของพวกนั้นเยอะ พวกพี่ต้องชอบแน่ ๆ”
หยางลี่ลี่ยิ้ม “ดีขนาดนั้นเลยเหรอ ดีกว่าน้ำมันโหยวไช่ฮวาที่แบ่งกันในหมู่บ้านอีกเหรอ”
“แน่นอนสิ” เย่เสี่ยวจิ่นพยักหน้า “ทั้งหอมทั้งอร่อยเลยละ”
หยางลี่ลี่คุยกับเย่เสี่ยวจิ่นอยู่พักหนึ่ง อารมณ์ก็ดีขึ้นมาก
หล่อนหยิบลอบดักปลาไหลที่ตกอยู่บนพื้นขึ้นมา “ไปกันเถอะ ฉันช่วยถือกลับบ้านเอง”
“จิ่นเป่าแขนเล็กขาเล็กแค่นี้ จะถือไหวได้ยังไง”
เย่เสี่ยวจิ่นมองหยางลี่ลี่ที่อายุแค่แปดขวบ แต่กลับมีท่าทางเหมือนพี่สาวคนโต
อีกด้านหนึ่ง
ตอนกลางวันเซี่ยวเยว่ทานข้าวเที่ยงที่บ้านของจ้าวหลินหลิน
หล่อนช่วยขายน้ำมันไปได้ทั้งหมด 300 ชั่ง
จ้าวหลินหลินนับเงินแบ่งให้หล่อนหกหยวน แล้วพูดพร้อมรอยยิ้มว่า “เสี่ยวเยว่ยังเก่งเหมือนเดิม แค่ไม่กี่วันก็ขายได้ตั้ง 300 ชั่ง”
“ฉันให้เธอสองเฟิน ส่วนอีกหนึ่งเฟินฉันไม่ให้แล้วนะ เพราะต้องจ้างคนขนมาที่หมู่บ้าน”
เซี่ยวเยว่ยิ้ม “รู้แล้วน่าว่าเธอหวังดี อยากให้ทุกคนได้ประโยชน์”
“พี่ชายของเธอไว้ใจได้ใช่ไหม ฉันใช้ชื่อเสียงของตัวเองรับประกันกับทุกคนนะ ถ้าเกิดเรื่องขึ้นมาแย่เลย”
“ญาติ ๆ ของฉันก็น่าจะซื้ออีกกว่า 100 ชั่ง”
แววตาของจ้าวหลินหลินดูไม่เป็นธรรมชาติเล็กน้อย ก่อนจะแสร้งยิ้มออกมาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น “เธอวางใจได้ ถ้าเกิดเรื่องขึ้น คนแรกที่จะถูกตามหาคือฉัน แน่นอนว่าจะไม่มีปัญหา”
จ้าวหลินหลินเปลี่ยนเรื่องคุย “รีบกินข้าวเถอะ วันนี้ตั้งใจเลี้ยงรับรองเธอเป็นพิเศษ เลยทำของอร่อย ๆ มาเยอะแยะ”