ซาลาเปาตัวน้อย ทะลุมิติมามีระบบทำฟาร์มยุค 70 จนร่ำรวย - บทที่ 29 วิกฤตการณ์โหยวไช่ฮวา (รีไรต์)
- Home
- ซาลาเปาตัวน้อย ทะลุมิติมามีระบบทำฟาร์มยุค 70 จนร่ำรวย
- บทที่ 29 วิกฤตการณ์โหยวไช่ฮวา (รีไรต์)
บทที่ 29 วิกฤตการณ์โหยวไช่ฮวา (รีไรต์)
บทที่ 29 วิกฤตการณ์โหยวไช่ฮวา (รีไรต์)
เซี่ยวเยว่เป็นคนมีการศึกษา หล่อนสวมเสื้อผ้าทันสมัย ผมสีดำขลับถูกรวบเป็นเปียสองข้าง ส่วนจ้าวหลินหลินก็มีฐานะทางบ้านไม่เลว สวมชุดกระโปรงลายดอกไม้ ใบหน้าอ่อนเยาว์ดูมีชีวิตชีวา
ทั้งสองยืนตัวตรง องอาจผึ่งผาย
หลี่ชุ่ยชุ่ยยืนหน้าซีดเผือดอยู่ตรงหน้าพวกหล่อน
หล่อนเม้มริมฝีปากแน่น ก่อนจะรีบร้อนเดินจากไป ท่าทางราวกับว่าถ้าทะเลาะกันจริง ๆ หล่อนก็คงเอาชนะทั้งสองคนไม่ได้
เมื่อกลับถึงบ้าน เย่จื้อผิงทำอาหารเสร็จเรียบร้อยแล้ว เขาทอดไข่ให้หล่อนเป็นพิเศษด้วย
เย่เสี่ยวจิ่นปิดเล้าไก่เรียบร้อย มองดูไก่ที่แข็งแรงขึ้นทุกวันด้วยความสุขใจ
หลี่ชุ่ยชุ่ยนั่งลง แล้วหยิบเงินออกมาจากอกเสื้อ
“วันนี้ผู้ใหญ่บ้านคืนเงินให้พวกเราหมดแล้ว”
เย่จื้อผิงยิ้ม “เรื่องดีนี่ ถือว่าไม่เป็นหนี้ใคร จิตใจก็สบาย”
“จริงอย่างที่พูด” หลี่ชุ่ยชุ่ยไม่ได้เล่าเรื่องที่ไปทำให้ครอบครัวลู่เฟิงขุ่นเคือง
หลี่ชุ่ยชุ่ยเรียกเย่เสี่ยวจิ่นมากินข้าว ล้างหน้าล้างมือให้
“ในหมู่บ้านบอกว่า คืนนี้จะมีประชุม กินข้าวเสร็จก็ไปหาผู้ใหญ่บ้านกัน”
“คาดว่าคงเป็นการปรึกษาเรื่องต้นโหยวไช่ฮวาปีนี้”
เย่จื้อผิงขมวดคิ้ว “งั้นเดี๋ยวกินข้าวเสร็จก็ไปด้วยกัน”
“คุณขาก็ไม่ค่อยดี อยู่บ้านเถอะ เดี๋ยวฉันไปเอง”
เย่เสี่ยวจิ่นรีบพูดทันที “แม่ หนูไปด้วย”
“ดี ๆๆ จิ่นเป่าของพวกเราก็ไปด้วย”
เย่จื้อผิงยิ้มตาม
ส่วนอีกด้าน
หลี่กุ้ยฮวาทำกับข้าวที่มีเนื้ออยู่นิดเดียว แถมยังให้เย่เหวินชางกินคนเดียวอีก
เขากินผักกาดขาวจนเบื่อไปหมด รู้สึกจืดชืดไปทั้งปาก
“ไม่อยากกินก็ไม่ต้องกิน”
เย่จื้อเฉียงพูดเสียงอู้อี้ “ไม่ใช่แบบนั้นหรอก แค่ปีนี้ไปดูดอกโหยวไช่ฮวาแล้วรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่”
หลี่กุ้ยฮวาพูด “น้ำมันที่บ้านเราก็หมดแล้ว”
“ดูสิ น้ำมันในถังคงเหลือใช้ได้อีกไม่เกินเดือน”
“นั่นก็ต้องประหยัดกันสุด ๆ แล้วนะ”
“ปีนี้โหย่วไช่ฮวาให้น้ำมันไม่ค่อยดี คุณไปถามแม่ดูสิ ว่าพอจะมีแบ่งมาให้เราบ้างไหม”
เย่จื้อเฉียงทำท่าจะพูดแต่ก็หยุด “แล้วพวกเขามีน้ำมันมาจากไหนกัน น้ำมันน่ะแบ่งกันตามคนเท่านั้น คนหนึ่งก็ได้แค่นี้”
“ฉันไม่สนหรอก คนแก่อยากกินน้ำมันหรือไม่กินก็เรื่องของเขา แต่คนหนุ่มสาวอย่างเราน่ะต้องกิน”
“เหวินชางและพวกเราก็น่าสงสารจะแย่อยู่แล้ว ไม่มีน้ำมันจะอยู่กันยังไง”
เย่จื้อเฉียงได้แต่เงียบ ไม่พูดอะไรต่อ
หลี่กุ้ยฮวามองเขาอย่างตำหนิ รอให้กินข้าวเสร็จแล้วจึงออกไปประชุม
เมื่อหล่อนเจอหลิวต้าเม่ยก็รีบเดินเข้าไปหา
“แม่คะ ได้ยินว่าปีนี้ทุกคนไม่มีน้ำมันใช้กันแล้ว ที่บ้านเรายังมีเหลืออยู่บ้างไหมคะ”
หลิวต้าเม่ยกลอกตาไปมา “ไม่มี ๆ”
ตอนนี้เรื่องน้ำมันทำเอาผู้คนกังวลใจกันไปหมด
ใครจะกล้าแบ่งน้ำมันของตัวเองออกไปข้างนอกกัน
หลี่ชุ่ยชุ่ยอุ้มเย่เสี่ยวจิ่น ทักทายหลิวต้าเม่ย
หลิวต้าเม่ยทำราวกับมองไม่เห็นหลี่ชุ่ยชุ่ย
หลี่กุ้ยฮวายิ้มแล้วถามว่า “น้องสาว ที่บ้านยังมีน้ำมันเหลืออยู่ไหม”
“ไม่มีแล้วค่ะ” หลี่ชุ่ยชุ่ยตอบพร้อมกับยิ้มอย่างจนใจ
หล่อนไม่ได้ล้อเล่น แต่มันหมดเกลี้ยงจริง ๆ
อย่าว่าแต่อดทนไปจนถึงเดือนพฤษภาคมเลย แค่สิ้นเดือนมีนาคมนี้ก็คงไม่ไหวแล้ว
หล่อนคิดว่า ถึงตอนนั้นคงต้องทำขนมแป้งทอดเยอะ ๆ จะได้ไม่ต้องผัดกับข้าว
เอาจริง ๆ ถึงแม้ว่าพวกเขาจะต้องกินแต่อาหารจืด ๆ ก็คงพอประทังชีวิตไปได้
“งั้นชีวิตพวกเธอก็ลำบากแย่เลยสิ” หลี่กุ้ยฮวาแสร้งทำเป็นตกใจ “สามีเธอก็ทำงานไม่ได้”
“ลูกก็ยังป่วย ต้องกินยาตลอดทุกเดือนอีก”
“บ้านเธอนี่ลำบากจริง ๆ เลยนะเนี่ย”
หลี่ชุ่ยชุ่ยรู้สึกเจ็บปวดหัวใจ
สภาพครอบครัวของหล่อนในตอนนี้ช่างยากจนข้นแค้น
เย่เสี่ยวจิ่นซุกตัวอยู่ในอ้อมกอดของแม่ เธอกะพริบตาปริบ ๆ “แม่คะ ถ้าโหยวไช่ฮวาให้ผลผลิตไม่ดี ทุกคนก็จะไม่มีน้ำมันกินเหรอคะ”
“เรายังใช้น้ำมันเมล็ดทานตะวัน น้ำมันเมล็ดชา น้ำมันถั่วเหลือง หรืออะไรทำนองนั้นได้…”
หลี่ชุ่ยชุ่ยลูบหัวลูกสาวอย่างเอ็นดู ไม่รู้ว่าทำไมเด็กคนนี้ถึงมีความคิดแปลก ๆ มากมายขนาดนี้
“น้ำมันเมล็ดชาใช้ได้ แต่ที่เหลือใช้ไม่ได้”
“แต่เมล็ดชาจะสกัดน้ำมันได้ก็เดือนพฤศจิกายนโน่น 1 ชั่งก็ได้น้ำมันแค่ 1 เลี่ยง*[1]”
ดวงตาของเย่เสี่ยวจิ่นมีแววสับสน
เธอใช้มือนับนิ้วพลางครุ่นคิด
เมล็ดชา 1 ชั่ง ได้น้ำมัน 1 เลี่ยง เมล็ดโหยวไช่ฮวา 1 ชั่ง ได้น้ำมัน 1.5 เลี่ยง…
ทำไมในคู่มือเครื่องสกัดน้ำมันถั่วลิสงของเธอถึงบอกว่า ถั่วลิสงกะเทาะเปลือก 1 ชั่ง ได้น้ำมันตั้ง 2.5 เลี่ยง
เป็นปัญหาทางเทคนิค หรือเป็นปัญหาของชนิดกันนะ
เย่เสี่ยวจิ่นไม่เข้าใจ เธอส่ายหน้าตัดสินใจว่าจะลองดูทีหลัง
ตอนประชุม ผู้ใหญ่บ้านพูดถึงเรื่องโหยวไช่ฮวา
พวกเขาต้องระดมความคิดเพื่อแก้ปัญหาเรื่องนี้
“ผู้ใหญ่บ้าน จะปลูกซ่อมอีกครั้งได้ไหมครับ”
“ไม่ได้หรอก อีกไม่กี่วันก็ต้องปลูกข้าวแล้ว จะชักช้าไม่ได้”
“ใช่ ๆ ไม่อย่างนั้นก็ไปขอเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลสิ”
ใคร ๆ ต่างก็พูดกันไปต่าง ๆ นานา
แต่ถ้าทำได้ง่าย ๆ แบบนั้นจริง ๆ ผู้ใหญ่บ้านก็คงไม่ต้องมาประชุมหรอก
ปีนี้อากาศไม่ดี หลาย ๆ ที่ กระทั่งที่อื่นที่ดียิ่งกว่าที่นี่ยังพืชผลเสียหายหมด แม้แต่ต้นโหยวไช่ฮวาก็โดนน้ำแข็งกัดตาย สุดท้ายก็เก็บเกี่ยวอะไรไม่ได้เลย
เห็นได้ชัดว่าพวกเขาต้องการความช่วยเหลือมากกว่า
รัฐบาลเองก็มีงบประมาณจำกัด จะไปช่วยทั้งหมดได้อย่างไร
ไม่งั้นก็คงจะไม่มีข่าวภัยแล้ง ขาดแคลนอาหารทุกปีแบบนี้หรอก
เย่เสี่ยวจิ่นนอนซบอยู่บนตักแม่ของเธอ ได้ยินแต่เสียงถอนหายใจของผู้คนรอบข้าง
ความรู้สึกวิตกกังวลแผ่กระจายไปทั่ว
“แล้วแบบนี้จะทำยังไงดีเนี่ย ถ้าต้องรอจนถึงปลายปีถึงจะมีน้ำมันโหยวไช่ฮวา ก็ต้องอยู่แบบไม่มีน้ำมันกินไปตั้งครึ่งค่อนปีเลยนะ”
“ทุกวันนี้กับข้าวก็ไม่ได้มีอะไรอร่อยอยู่แล้ว ตอนนี้ยังจะไม่มีน้ำมันอีก”
“ปลูกข้าวก็เหนื่อยแสนสาหัส ไม่มีน้ำมันกินแบบนี้มันลำบากนะ”
“ใครจะไปรู้ว่าครึ่งปีหลังอากาศจะเป็นยังไงอีก…”
หลี่ชุ่ยชุ่ยไม่พูดอะไร เพียงแค่ลูบหลังเย่เสี่ยวจิ่นเบา ๆ
หลังจากการประชุมจบลง ทุกคนก็แยกย้ายกันกลับบ้าน
เย่เสี่ยวจิ่นฟังไปฟังมาจนเผลอหลับไป หลี่ชุ่ยชุ่ยจึงอุ้มเธอกลับบ้านแล้ววางลงบนเตียง
เย่จื้อผิงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “พวกเราก็เหลือน้ำมันไม่มากแล้วเหมือนกัน”
“ต่อไปนี้ก็ให้ใส่น้ำมันแค่ตอนทำกับข้าวให้จิ่นเป่ากินก็พอ”
“พวกเรากินอะไรก็ได้ กินได้หมดนั่นแหละ”
“ลำบากยังไงก็อย่าให้ลูกสาวต้องลำบาก”
หลี่ชุ่ยชุ่ยพยักหน้า “ใช่แล้ว เด็ก ๆ อาจจะเรื่องมากหน่อย”
หล่อนคิดว่าต่อไปจะไปหาชิงเฮา*[2]มาทำขนมกินก็แล้วกัน
อย่างน้อยก็ประหยัดน้ำมันด้วย
เย่เสี่ยวจิ่นนอนอยู่บนเตียง ได้ยินพ่อกับแม่คุยกัน
เธอแอบลืมตาข้างหนึ่ง มองพ่อกับแม่ที่ดูกังวล
หลี่ชุ่ยชุ่ยจับได้ทันที
“จิ่นเป่าแกล้งหลับเหรอ”
เย่เสี่ยวจิ่นลุกขึ้นนั่งจากเตียง ยิ้มกว้าง “พ่อคะ แม่คะ…ที่บ้านเรายังมีถั่วลิสงเหลืออีกเท่าไหร่คะ”
เย่จื้อผิงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ถั่วลิสงเหรอ ในยุ้งฉางน่าจะยังเหลืออีกสักยี่สิบกว่าชั่งมั้ง”
“ไม่ใช่แค่นั้นหรอกน่า!” หลี่ชุ่ยชุ่ยพูดอย่างไม่สบอารมณ์ “ปีที่แล้วแม่คุณบอกว่าถั่วเหลืองบำรุงสมอง จะเอาไปทำเต้าหู้ให้เหวินชางกิน”
“ให้ถั่วลิสงเรามาตั้งห้าสิบชั่ง แล้วยังมีบ้านพี่ใหญ่ของคุณอีกตั้งห้าสิบชั่งที่ให้เรามา”
“วันแบ่งถั่วเหลือง คุณก็เอาถั่วเหลืองร้อยชั่งของเราไปแลกมาหมดแล้ว”
เย่จื้อผิงยิ้มแห้ง ๆ “ถั่วลิสงกับถั่วเหลืองก็เหมือนกันนั่นแหละ”
หลี่ชุ่ยชุ่ยรู้ดีว่ามันไม่เหมือนกัน
ถั่วเหลืองสามารถเอาไปทำเต้าหู้ได้ เต้าหู้ก็สามารถเอาไปทำเต้าหู้ทอดและเต้าหู้อ่อนได้อีก
แบบนั้นมันจะเหมือนกับถั่วลิสงได้ยังไงกัน?
“ตอนนี้ยังกินไปไม่เท่าไหร่เลย!”
เย่เสี่ยวจิ่นพอได้ยินเช่นนั้น ดวงตาก็เป็นประกาย
ถั่วลิสง 200 ชั่ง เท่ากับน้ำมัน 100 ชั่งเชียวนะ
ถ้าประหยัดหน่อย กินได้เป็นปีเลยละ
[1] เลี่ยง (两) 1 เลี่ยง หนักประมาณ 50 กรัม
[2] ชิงเฮา (青蒿) เป็นพืชสกุลโกฐจุฬาลัมพา มีสรรพคุณทางยา คือระบายความร้อน ลดความร้อนในร่างกาย ขับลม แก้คัน