ซาลาเปาตัวน้อย ทะลุมิติมามีระบบทำฟาร์มยุค 70 จนร่ำรวย - บทที่ 211 เย่ฉางอันกลายเป็นหนุ่มที่ได้รับความนิยมที่สุดในหมู่บ้าน
- Home
- ซาลาเปาตัวน้อย ทะลุมิติมามีระบบทำฟาร์มยุค 70 จนร่ำรวย
- บทที่ 211 เย่ฉางอันกลายเป็นหนุ่มที่ได้รับความนิยมที่สุดในหมู่บ้าน
บทที่ 211 เย่ฉางอันกลายเป็นหนุ่มที่ได้รับความนิยมที่สุดในหมู่บ้าน
…………….
บทที่ 211 เย่ฉางอันกลายเป็นหนุ่มที่ได้รับความนิยมที่สุดในหมู่บ้าน
เรื่องที่เย่ฉางอันขับรถบรรทุกคันใหญ่ได้แพร่สะพัดไปทั่วหมู่บ้านอย่างรวดเร็วราวกับติดปีก
หัวข้อสนทนาของทุกคนเปลี่ยนจากเรื่องแตงโมสุกแล้วจะขายได้หรือไม่ กลายเป็นเย่ฉางอันช่างเก่งจริงๆ ถึงกับขับรถบรรทุกคันใหญ่ขนาดนี้ได้
รถจอดอยู่บนพื้นที่ว่างข้างๆ สวนแตงโม
ผู้คนมากมายต่างพากันมาดูเพื่อสร้างสีสัน
เด็กบางคนเห็นแล้วยังอยากปีนขึ้นไปเล่นบนรถ
ทันใดนั้น ก็มีเด็กๆ มากมายมารุมล้อมเล่นรอบๆ รถคันใหญ่ไม่หยุด
กัวชิงซงก็มาดูรถคันใหญ่เป็นพิเศษ เขาจับเด็กคนหนึ่งขึ้นมาอย่างไม่เกรงใจแล้วตำหนิว่า “พวกเธอห้ามเล่นที่นี่ ใครแอบซ่อนอยู่ใต้ท้องรถ ถ้าฉันเห็นแล้วจะเอาไม้เรียวมาตีเลย”
“ถ้ารถคันใหญ่นี้ขับผ่านไป ใครที่ซ่อนอยู่ใต้ท้องรถก็จะถูกทับตายเอา ไม่ใช่เรื่องล้อเล่นนะ”
คำพูดนั้นไม่ผิดเลย
พ่อแม่ต่างก็พาลูกๆ ของตัวเองกลับบ้านไป
พวกเขากลับไปกำชับลูกๆ อย่างดีว่าอย่าเข้าใกล้รถใหญ่เด็ดขาด ไม่งั้นอาจถึงตายได้
เด็กๆ ต่างก็ตกใจกลัว เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้เห็นรถขนาดใหญ่ขนาดนี้ ดูน่ากลัวจริงๆ
ซูต้าเฉียงแบกแตงโมมาวางไว้ใต้ร้านขายแตงโม เขาใช้ผ้าขนหนูที่คอซับเหงื่อ แล้วพูดว่า “รถคันนี้ใหญ่จริงๆ”
“บรรทุกได้ 8,000 ชั่ง จะไม่ใหญ่ได้ยังไง?” ซุนเหล่าหู่ทำท่าชูนิ้วเป็นเลข 8 พลางทึ่งในใจ “ปีนี้ผลผลิตแตงโมของพวกเราคงมีประมาณ 100,000 ชั่ง ถ้าใช้รถแทรกเตอร์ขนส่งคงต้องวิ่งหลายวันเลย”
“แต่ถ้ามีรถบรรทุกคันใหญ่แบบนี้ ลองคิดดูสิ หนึ่งเที่ยวก็ 8,000 กิโลแล้ว มันจะสะดวกขนาดไหน”
“แถมด้านหน้ายังมีที่นั่งอีก นั่งได้หลายคนเลยนะ”
ซูต้าเฉียงรีบเข้าไปดูใกล้ๆ “โอ้โห มีที่นั่งจริงๆ ด้วย”
เย่ฉางอันรักรถคันนี้มาก ภายในรถสะอาดสะอ้าน แถมเขายังวางผ้าขนหนูไว้สำหรับเช็ดที่นั่งเป็นพิเศษอีกด้วย
แต่ก่อนซูต้าเฉียงไม่ชอบไปส่งแตงโมที่อำเภอ แต่คราวนี้กลับเกิดความคิดขึ้นมา “ไม่งั้นพวกเราไปส่งแตงโมที่ต้องส่งให้รัฐบาลที่อำเภอด้วยกันไหม?”
“ยังได้นั่งรถคันนี้ด้วยนะ นายเคยนั่งรถดีเซลแบบนี้มาก่อนไหม?”
ซุนเหล่าหู่ยิ้มแย้ม “ฉันเคยนั่งนะ แต่ไม่เคยนั่งคันใหญ่ขนาดนี้ ที่เคยนั่งมาก่อนอย่างมากก็บรรทุกได้ 2,000 ชั่ง ก็นั่งแค่ครั้งเดียวนั่นแหละ”
“รถคันนี้ใหญ่ขนาดนี้ นั่งคงจะกว้างขวางสบายกว่าแน่ๆ”
“งั้นนายไปบอกจิ่นเป่าหน่อยสิ ว่าพวกเราจะไปส่งของด้วย”
ซูต้าเฉียงตกลง แล้วก็อดบ่นไม่ได้ “ฉันเคยนั่งแต่รถแทรกเตอร์ ข้างคนขับมีแค่ม้านั่งเล็กๆ จะเรียกว่าที่นั่งก็ไม่ได้”
พวกเขาเดินกลับบ้านไปกินข้าวเที่ยง เหลียวหลังมองตั้งสามครั้ง
เย่ฉางอันได้เป็นดาวเด่นใหญ่โต
แต่ที่บ้านกลับไม่ให้แตะต้องแม้แต่ชามข้าว
เขายิ้มขื่นมองพ่อแม่ที่ซักไซ้ไล่เลียง แล้วสารภาพตามตรง “ผมไปเรียนงานเทคนิคในเมืองน่ะครับ ผมจ่ายเงินหาครูมาสอนขับรถ”
“รถเป็นของจิ่นเป่า ใบเสร็จการซื้อก็มีครบทุกอย่าง”
“รับรองว่าเป็นรถที่ได้มาอย่างถูกต้อง ไม่ใช่รถที่ผมขโมยมา พวกคุณคิดมากเกินไปแล้ว ผมเคยขโมยของใครที่ไหนกัน?”
เย่ฉางอันรู้สึกหมดปัญญา
เขาล้วงเอาใบเสร็จออกมาจากกระเป๋าจริงๆ และมีครบทุกอย่าง
หลี่ชุ่ยชุ่ยและเย่จื้อผิงเห็นราคาแล้วตกใจจนตาพองโต
“นี่มัน…”
พวกเขามองดูหลายครั้ง กลัวว่าตัวเองจะดูผิด
จากนั้นสามีภรรยาก็ส่งใบเสร็จคืนให้เย่ฉางอันอย่างพร้อมเพรียงกัน
เย่จื้อผิงเข้าใจแล้ว “เก็บให้ดีๆ นะ อย่าทำหาย”
“ผมรู้แล้วครับพ่อ” เย่ฉางอันยิ้มอีกครั้ง “ถ้าผมมีเวลาว่าง ผมตั้งใจจะไปเรียนซ่อมรถในเมือง เผื่อรถผมเสีย จะได้ไม่ต้องหาคนมาซ่อม”
“ได้ยินมาว่ามีแต่คนในเมืองเท่านั้นที่ซ่อมรถใหญ่แบบนี้ได้ มันยุ่งยากเหลือเกิน”
“ถ้าผมซ่อมเองได้ ก็คงไม่ต้องลำบากขนาดนี้”
เย่จื้อผิงรู้สึกว่ามีเหตุผล
“ลูกเรียนรู้ได้ไหมล่ะ? การซ่อมรถต้องยากแน่ๆ ดูสิ รถคันนี้ใหญ่ขนาดนี้ ข้างในคงมีชิ้นส่วนเยอะมาก”
เย่จื้อผิงครุ่นคิดแล้วพูดว่า “การซ่อมรถใหญ่ไม่เหมือนกับการซ่อมรถแทรกเตอร์หรอกนะ”
ถึงแม้เย่ฉางอันจะไม่ชอบเรียน แต่เขาเป็นคนที่อดทนได้
เขารักรถคันใหญ่นี้มาก ก็สามารถตัดสินใจจะเรียนรู้ได้
ตอนแรกเย่เสี่ยวจิ่นแค่มองดูเล่นๆ
แต่จู่ๆ ก็มีเสียงดังขึ้นข้างหู
ติ๊งต่อง
[ภารกิจการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างประเทศ
ชื่อ เย่ฉางอัน
ความสัมพันธ์ พี่ชาย
ความสำเร็จ ผ่านการเรียนรู้ทักษะการขับรถบรรทุก]
เย่เสี่ยวจิ่นรีบกลั้นหายใจและตั้งใจฟังเสียงของระบบอย่างจดจ่อ
[รางวัล อัพเกรดขั้นตอนการเรียนรู้ของบุคคลนี้ สามารถเลือกทักษะเพื่อรับการสอนแบบออฟไลน์ได้]
เย่เสี่ยวจิ่นชะงักไปครู่หนึ่ง พอมองดู ในระบบก็ปรากฏตัวเลือกทักษะมากมายทันที
เย่เสี่ยวจิ่นลองกดเลือกการซ่อมรถบรรทุกอย่างลังเล
จากนั้นผ่านไปประมาณ 30 วินาที
เสียงของระบบดังขึ้นอีกครั้ง [ได้จัดสรรครูผู้สอนแล้ว โปรดรอด้วยความอดทนนะ!]
เย่เสี่ยวจิ่นถามในใจว่า “หมายความว่าอะไร? จัดสรรครูอะไรกัน?”
แต่ระบบก็ไม่พูดอะไรอีก
อาหารบนโต๊ะกำลังจะเย็นชืดแล้ว
หลิวเยว่เตือนว่า “รีบกินข้าวเถอะ อาหารเย็นหมดแล้ว ตอนบ่ายยังมีงานต้องทำอีกนะ”
“แล้วเจ้ารองก็ต้องขับรถไปส่งแตงโมด้วย กินเยอะๆ หน่อย เดี๋ยวจะหิวท้องตอนนั้น”
เย่ฉางอันพูดว่า “ใช่แล้ว ผมขับรถมาจากในเมือง เหนื่อยจะตายอยู่แล้ว หลังกินข้าวเสร็จแล้วจะขอไปนอนสักสองชั่วโมงนะ ไม่งั้นผมคงไม่มีแรง”
หลี่ชุ่ยชุ่ยได้ยินแบบนี้ ก็ไม่คิดจะเถียงอะไรกับเขาอีก
รีบให้เขากินข้าวแล้วไปนอนเลย
เย่เสี่ยวจิ่นกินข้าวเสร็จแล้วก็กลับเข้าห้องของตัวเองไป
พอเข้าห้องถึงได้พบว่าบนเตียงมีของสิ่งหนึ่งเพิ่มขึ้นมา
ด้วยความอยากรู้อยากเห็น เธอเดินเข้าไปหยิบมันขึ้นมา ปรากฏว่าเป็นรองเท้าหนังคู่สวยคู่หนึ่ง และที่น่าแปลกใจคือมันพอดีกับเท้าของเธอเป๊ะ ไม่มีผิดเพี้ยนแม้แต่นิดเดียว
“รองเท้าสวยขนาดนี้ พี่รองซื้อให้ฉันเหรอ?”
เธอลองสวมรองเท้าเดินไปมาสองสามก้าว แล้วพูดพลางยิ้มว่า “หมอนี่เงียบๆ ไม่พูดไม่จา ที่แท้ก็แอบซื้อของสวยๆ แบบนี้ให้ฉันด้วยนะ”
“ไม่น่าเชื่อเลย สายตาเขาดีใช้ได้เลยนี่”
เย่เสี่ยวจิ่นลูบคางพลางพึมพำอีกสองสามประโยค
จากนั้นก็ถอดรองเท้าออก แล้วเก็บมันไว้อย่างดี
ในหมู่บ้านมีแต่ถนนดิน ถ้าใส่รองเท้าแบบนี้ออกไปทำงาน รับรองได้ว่าไม่ถึงครึ่งวันก็จะสกปรกเลอะเทอะแน่ๆ
เอาไว้ตอนที่ต้องไปในเมืองค่อยใส่ดีกว่า
ตอนบ่ายขณะที่กำลังยุ่งอยู่
เย่ฉางอันเห็นน้องสาวยังใส่รองเท้าผ้าอยู่ เขาจึงรีบถามว่า “ทำไมเธอไม่ใส่รองเท้าใหม่ล่ะ? เธอไม่ชอบหรือ?”
“ไม่ใช่หรอก แต่ต้องทำงานยุ่งๆ จะใส่รองเท้าใหม่ได้ยังไงล่ะ?”
“ถ้าทำพังไปจะน่าเสียดายมากไม่ใช่หรือ?”
เย่ฉางอันยื่นมือลูบหัวน้องสาว “เธอจะกลัวอะไร ตอนนี้พี่รองมีเงินในกระเป๋าบ้างแล้ว เธอใส่ได้อย่างสบายใจเลย ถ้าพังขึ้นมาเดี๋ยวฉันจะซื้อคู่ใหม่ให้เธอเอง”
“ต่อไปฉันยังตั้งใจจะไปรับงานขับรถขนของด้วย ฉันได้ยินมาว่ามันทำเงินได้ดีทีเดียว ตอนนั้นฉันก็จะซื้อรองเท้าและเสื้อผ้าให้เธอได้ระหว่างทางเลย”
“เธอคิดว่ามันสวยไหม? ยังชอบอยู่ไหม? คนที่ร้านสหกรณ์บอกว่านี่เป็นรองเท้าที่ฮิตที่สุดในปีนี้ นำเข้ามาจากข้างนอกเลยนะ”
เย่เสี่ยวจิ่นยิ้มพลางพูดว่า “แน่นอนว่าชอบสิคะ สวยมากๆ เลย”
เธอชูนิ้วโป้งขึ้น “เยี่ยมมากจริงๆ”
เย่ฉางอันก็ยิ้มออกมาทันที
“เธอชอบก็ดีแล้ว”
เขาพูดจบก็ไปช่วยทุกคนขนแตงโมขึ้นรถ
ผู้หญิงสาวหลายคนที่อยู่ข้างๆ มองเย่ฉางอันพลางยิ้มให้เขา
ตอนนี้เย่ฉางอันกลายเป็นหนุ่มที่มีอนาคตไกลที่สุดในหมู่บ้าน
ในชั่วพริบตา สาวๆ ที่อยากจะมาสู่ขอเขาก็มีมากมายเหลือเกิน
เขากลายเป็นที่ต้องการอย่างมากในทันที
ตอนนี้ยังไม่เห็นชัดเจน แต่อีกไม่กี่วัน คนที่จะมาสู่ขอก็จะมาเยือนบ้านไม่ขาดสาย!
ในรถบรรทุกก็ปูฟางข้าวนุ่มๆ เต็มไปหมด วางแตงโมเรียงกันอย่างระมัดระวัง กลัวว่าจะกระแทกกัน จึงจัดวางอย่างนุ่มนวลเป็นพิเศษ
เย่ฉางอันยืนอยู่ข้างล่าง ยกตะกร้าส่งขึ้นไปบนรถ
ซุนจ่างซุ่นเดินเข้ามา “ฉางอัน ไม่ต้องยุ่งหรอก นายยังต้องขับรถอีกหลายเที่ยว ถ้าเหนื่อยตอนนี้ เดี๋ยวก็ขับรถไม่ปลอดภัยหรอก”
“มานั่งพักข้างๆ นี่เถอะ รถคันนี้ก็จะเต็มแล้ว เดี๋ยวนายต้องออกเดินทางแล้ว”
เย่ฉางอันหัวเราะพลางกล่าวว่า “ขับรถนี่ยังดีนะครับ ไม่เหนื่อยมาก จากที่นี่ไปอำเภอปกติใช้เวลาเดินเป็นชั่วโมง”
“แต่ถ้าขับรถนี่ ไม่ถึง 20 นาทีก็ไปถึงแล้ว”
“แม้จะวิ่งสัก 7-8 เที่ยวก็ยังไหว แล้วแตงโมที่เก็บวันนี้ก็คงส่งแค่สองเที่ยวใช่ไหมครับ?”
ซุนจ่างซุ่นยิ้มแย้ม รู้สึกว่านี่สะดวกจริงๆ
เขาหยิบถุงยาสูบออกมาจากกระเป๋า แล้วดึงเงินย่อยออกมาจากในนั้น “นายเอาไปสิ”
“นี่…”
“นายเอาไปเถอะ!” ซุนจ่างซุ่นพูดพลางหัวเราะ “พวกเราเรียกรถแทรกเตอร์มาขนของก็ต้องจ่ายเงินนะ นายช่วยประหยัดเวลาไปได้มาก จะไม่ให้เงินนายได้ยังไง?”
“ถึงนายจะไม่คิดค่าแรง แต่ก็ต้องคิดค่าน้ำมันใช่ไหมล่ะ?”
“ฉันรู้ว่าตอนนี้ราคาน้ำมันดีเซลแพงมากเลยนะ”
“พวกเราก็ไม่ได้มีเงินมากมาย แต่อย่างน้อยก็ให้นายได้กำไรค่าน้ำมันบ้าง รับรองว่าไม่ให้นายทำงานฟรีแน่นอน”
ซุนจ่างซุ่นมอบเงินให้เย่ฉางอัน แล้วตบไหล่เขาเบาๆ พลางกล่าวว่า “นายมีความสามารถมากนะ ต่อไปถ้าหมู่บ้านต้องขนของ คงต้องมาหานายแล้วล่ะ”
เย่ฉางอันไม่มีข้อขัดข้องอะไร
เขามีจิตสำนึกเพื่อส่วนรวมมาก
“ได้ครับ ตราบใดที่ผมอยู่ที่นี่ รับรองว่าจะรับผิดชอบทุกอย่างเอง”
ในใจเขายังรู้สึกภาคภูมิใจอยู่บ้าง เพราะงานนี้มีแต่เขาเท่านั้นที่ทำได้ คนอื่นไม่มีใครขับรถบรรทุกขนาดใหญ่เป็น
แม้ว่าเมื่อก่อนเขาจะไม่เก่งเรื่องเรียน แต่ตอนนี้ก็มีโอกาสได้แสดงคุณค่าของตัวเองแล้ว
สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกดีใจมาก
เย่เสี่ยวจิ่นถือแตงโมชิ้นหนึ่งเดินมา “พี่รอง กินแตงโมเร็ว หวานอร่อยมากเลยนะ”
“แตงโมที่ปลูกครั้งนี้ไม่ได้ด้อยไปกว่าแตงโมฤดูร้อนเลย แถมเพราะอุณหภูมิกลางวันกลางคืนต่างกันมาก กลับยิ่งหวานขึ้นด้วยนะ”
………………………………………………………………………………………………………………………..
สารจากผู้แปล
ผลของการเรียนสิ่งที่ไม่มีใครทำได้ กลับมากลายเป็นหนุ่มป๊อบไปเลย
ไหหม่า(海馬)
…………….