ซาลาเปาตัวน้อย ทะลุมิติมามีระบบทำฟาร์มยุค 70 จนร่ำรวย - บทที่ 190 หลิวเยว่หมกมุ่นกับการถักไหมพรม
- Home
- ซาลาเปาตัวน้อย ทะลุมิติมามีระบบทำฟาร์มยุค 70 จนร่ำรวย
- บทที่ 190 หลิวเยว่หมกมุ่นกับการถักไหมพรม
บทที่ 190 หลิวเยว่หมกมุ่นกับการถักไหมพรม
…………….
บทที่ 190 หลิวเยว่หมกมุ่นกับการถักไหมพรม
เย่จวินและหลิวเยว่ออกไปจดทะเบียนสมรส อีกทั้งยังใช้เงินไปกับการถ่ายรูปด้วย
เมื่อได้รับรูปถ่าย มันก็เป็นรูปครึ่งตัวขาวดำหลายใบ
ทั้งสองคนในรูปต่างมีรอยยิ้มแห่งความสุขบนใบหน้า
หลิวเยว่มองเย่จวิน “ต่อไปนี้เราเป็นสามีภรรยากันแล้ว”
“ภรรยาจ๋า” เย่จวินก้มหน้ายิ้มเขินๆ
ทั้งสองคนต่างเขินอาย
“วันนี้พอดีมีตลาดนัด ผมจะพาคุณไปซื้อของนะ” เย่จวินเก็บใบทะเบียนสมรสและรูปถ่ายด้วยใบหน้าแดงเรื่อ “คุณอยากได้เสื้อผ้าใหม่ไหม? เราไปดูที่ร้านสหกรณ์กัน”
“แล้วก็ ผมได้ยินมาว่าสาวๆ ในเมืองใช้สบู่หอมชนิดหนึ่งอาบน้ำ…”
“ผมจะซื้อให้คุณด้วย เพื่อนผมบอกว่ามันหอมมาก ผู้หญิงชอบกันทั้งนั้น”
หลิวเยว่หน้าแดงระเรื่อ “คุจะมายุ่งว่าฉันหอมหรือไม่หอมทำไม”
เย่จวินรีบโบกมือ “คุณอย่าเข้าใจผิดสิ ผมไม่ได้หมายความอย่างนั้น…”
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันรู้ว่าคุณเป็นสุภาพบุรุษ ฉันแค่แกล้งคุณเล่นน่ะ”
“งั้นพวกเราไปดูที่ร้านสหกรณ์กันเถอะ ตอนนี้เป็นฤดูใบไม้ร่วงแล้วใช่ไหม? งั้นพวกเราลองไปดูกันเถอะว่ามีผ้าสวยๆ บ้างไหม จะได้ซื้อกลับไปตัดเสื้อผ้าใหม่”
เย่จวินเตือน “ที่ร้านสหกรณ์ก็มีเสื้อผ้าสำเร็จรูปขายนะ”
“โอ๊ย ที่บ้านมีจักรเย็บผ้าอยู่แล้ว จะไปซื้อเสื้อผ้าสำเร็จรูปทำไมกันคะ? เสียเงินเปล่าๆ”
“ตอนนี้ฉันใช้จักรเย็บผ้าได้ดีแล้วนะ เวลาว่างๆ ก็ตัดเสื้อเอง ไม่เสียแรงอะไรมากหรอกค่ะ”
พอไปถึงร้านสหกรณ์ หลิวเยว่ก็มองดูเสื้อผ้าสำเร็จรูปในร้าน จดจำแบบเหล่านั้นไว้ พลางคิดในใจว่าจะตัดเย็บอย่างไร จากนั้นก็ซื้อผ้าตามแบบเหล่านั้น
หล่อนไม่ได้ซื้อมากเกินไป แค่คิดว่าจะเอาไปตัดเสื้อผ้าให้เย่จวิน จึงซื้อผ้าสีเข้มมาบ้าง
เย่จวินเห็นว่าหล่อนซื้อผ้ามาให้ตัวเอง ก็รู้สึกปลื้มใจ
แล้วเขาก็เห็นหล่อนไปที่ร้านขายไหมพรม
“คุณจะถักเสื้อไหมพรมเหรอ?”
“ใช่ค่ะ ฉันเห็นว่าจิ่นเป่าไม่มีเสื้อผ้าที่เหมาะสำหรับใส่ในฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วง แล้วเด็กผู้หญิงก็ควรใส่เสื้อผ้าสวยๆ บ้าง”
“เมื่อไม่กี่วันก่อนฉันเห็นคนถักเสื้อไหมพรม ถักออกมาสวยมากเลย”
“คุณดูสิ ไหมพรมสีเหลืองอ่อนนี้ถ้าเอามาถักเสื้อให้จิ่นเป่าจะเหมาะกับหล่อนไหมคะ?”
หลิวเยว่จับไหมพรมดู นึกถึงเย่เสี่ยวจิ่นที่มีผิวขาวนวล คงจะเหมาะสมที่สุด
เย่จวินเห็นหล่อนลังเล จึงพูดว่า “งั้นก็ซื้อเยอะๆ หน่อยสิ มันไม่ได้แพงอะไร เผื่อคุณจะทำเสื้อผ้าใส่เองด้วย ก็จะได้ใช้”
หลิวเยว่คิดเสียดายเงินอยู่บ้าง
ส่วนเย่จวินหยิบลูกบอลไหมพรมมาหลายลูก ทั้งหมดเป็นสีสดใส
ทั้งสองคนไปจ่ายตลาดและซื้อลูกอมนมและเนื้อหมูเพิ่มเติม แล้วรีบกลับมาอย่างรวดเร็ว
เย่เสี่ยวจิ่นอยู่บ้านดูแลดอกไม้และต้นไม้ของตัวเอง
ดอกไม้คุณภาพดีที่ปลูกไว้ก่อนหน้านี้ ต่างออกดอกกันหมดแล้ว
โดยเฉพาะดอกเบญจมาศที่บานสะพรั่งสวยงามเป็นพิเศษ
หยางเจวียนแวะมาที่บ้านตระกูลเย่ “ฉันเห็นกอดอกไม้ใหญ่ที่บ้านพวกเธอตั้งแต่ไกลๆ แล้ว มันสวยมากจริงๆ เธอแบ่งให้ฉันบ้างได้ไหม ฉันอยากเอากลับไปปลูกที่บ้าน”
“ถ้าแบ่งดอกไม้ตอนนี้มันก็คงไม่รอดหรอก” เย่เสี่ยวจิ่นกล่าว “รอถึงเดือนกุมภาหรือมีนาคมปีหน้า แล้วคุณป้ามาขอต้นกล้าจากหนูนะคะ”
“ตอนนั้นฉันจะให้ต้นกล้าดอกไม้หลายพันธุ์ รับรองว่าคุณจะทำสวนดอกไม้เล็กๆ ได้แน่นอน”
หยางเจวียนยิ้มและพูดว่า “ตกลงจ้ะ”
เย่เสี่ยวจิ่นหยิบกรรไกรมาตัดดอกไม้เป็นช่อ แล้วยื่นให้หยางเจวียน “ป้าเจวียน เอากลับไปปักแจกันที่บ้านนะคะ มันจะสวยได้อีกพักใหญ่เลย”
ขณะที่พวกเขากำลังคุยกันอยู่นั้น ก็ได้ยินเสียงจักรยาน
หยางเจวียนมองเห็นแล้วพูดล้อเลียนว่า “โอ้โห คู่รักน้อยวันนี้ไปตลาดนัดมา ซื้อของมาเยอะแยะเลยนะ?”
“สมกับเป็นคู่แต่งงานใหม่จริงๆ ช่างน่ายินดีจริง”
“ฉันเห็นสีหน้าของพวกเธอแดงระเรื่อ ดูดีจังเลย”
หลิวเยว่รู้สึกเขินอาย “ป้าเจวียน อย่าล้อเล่นกับพวกเราสิคะ พวกเราแค่ซื้อผ้ากับไหมพรมมานิดหน่อยเท่านั้นเอง”
“พูดถึงเรื่องนี้ ฉันก็นึกขึ้นได้ ไหมพรมที่ซื้อมาเมื่อปีที่แล้วยังไม่ได้ใช้เลย” หยางเจวียนตบขาตัวเองพลางพูดอย่างจนปัญญา “ฉันถักได้แค่ลายเดียว ลูกชายกลับไม่ชอบเอาเสียเลย”
หลิวเยว่พูดอย่างจนใจ “ฉันก็ถักไม่ค่อยเป็นเหมือนกัน เมื่อสองสามวันก่อนเพิ่งเห็นพี่หลี่กำลังทำอยู่น่ะค่ะ”
เย่เสี่ยวจิ่นนึกถึงทักษะในระบบของตัวเอง
“พี่เยว่ ปกติพี่ชอบทำเสื้อผ้าใช่ไหมคะ ฉันมีความคิดอย่างหนึ่ง พี่อยากลองเรียนรู้เรื่องการออกแบบและตัดเย็บเสื้อผ้าไหมคะ?”
“ก็คือ…ทำเสื้อผ้าด้วยตัวเอง”
“เมื่อทำเสื้อผ้าได้ดีขึ้นแล้ว ก็นำออกไปขายได้นะ”
หลิวเยว่ลังเลเล็กน้อย “นี่…ฉันแค่จะทำเสื้อผ้าให้คนในครอบครัวสวมใส่เอง มันจะนำออกไปขายได้หรือ?”
“ต่อให้ทุกคนต้องการซื้อเสื้อผ้าสำเร็จรูป พวกเขาก็ซื้อที่ร้านสหกรณ์กัน”
“ฉันไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยว่า เสื้อผ้าที่ทำเองสามารถนำออกไปขายได้”
เย่เสี่ยวจิ่นยิ้มเล็กน้อย “พี่ไม่ต้องคิดไกลเกินไปหรอกค่ะ ขอให้เรียนรู้ทักษะการตัดเย็บเสื้อผ้าให้ดีก่อน ว่าแต่พี่สนใจเรื่องนี้ไหม?”
หลิวเยว่พยักหน้า “ฉันคิดว่ามันน่าสนใจมาก ฉันก็ชอบทำอะไรแบบนี้เหมือนกัน”
หลี่ชุ่ยชุ่ยตัดเย็บเสื้อผ้าได้ดี แต่หลิวเยว่ทำได้ดีกว่าเล็กน้อย
ทั้งสองคนชอบทำอะไรแบบนี้เป็นประจำ
เย่เสี่ยวจิ่นลูบคางพลางคิด “การเรียนออกแบบเสื้อผ้าก็เป็นทางเลือกที่ดีนะ”
เธอรีบแลกเปลี่ยนหลักสูตรเทคนิคการออกแบบและตัดเย็บเสื้อผ้าในคืนนั้นเลย
เธอไม่อยากเรียนเอง จึงกรอกชื่อหลิวเยว่ในชื่อผู้เรียนหลักสูตร
ระบบได้ออกแบบกระบวนการเรียนรู้ที่สมบูรณ์สำหรับหลิวเยว่โดยเฉพาะ
เย่เสี่ยวจิ่นอดชื่นชมไม่ได้ “ละเอียดจริงๆ สมแล้วที่เป็นระบบ ฉันก็สามารถเรียนได้นะ”
เธอลงทะเบียนเรียนภาษาต่างประเทศหนึ่งวิชาให้ตัวเองไปด้วย
ระบบกลับเตือนว่า [โฮสต์ชำนาญภาษาอังกฤษแล้ว ระบบแนะนำให้คุณเรียนภาษาญี่ปุ่น ดูจากแผนการพัฒนาแล้วเหมาะกับคุณมากกว่านะ]
ความสามารถภาษาอังกฤษของเย่เสี่ยวจิ่นไม่ต้องสงสัยเลย แต่เธอไม่รู้ภาษาญี่ปุ่น
ถ้าต้องทำธุรกิจในอนาคต ภาษาต่างประเทศอย่างภาษาญี่ปุ่นจะมีประโยชน์มากกว่า
ทั้งการชักชวนการลงทุน และการเรียนรู้เทคโนโลยีขั้นสูง ล้วนต้องใช้ภาษานี้
เวลาช่างยาวนานเหลือเกิน เธอยังมีเวลาอีกมากมายที่จะเรียนรู้ภาษาต่างๆ เพิ่มเติม
“ได้ ถ้าอย่างนั้นช่วยลงทะเบียนหลักสูตรเทคนิคภาษาญี่ปุ่นให้ฉันด้วย”
หลักสูตรเริ่มต้นขึ้นอย่างรวดเร็ว
เนื่องจากระบบไม่สามารถแชร์ข้อมูลได้ หลักสูตรของหลิวเยว่จึงเป็นการวางแผนการสอนจากตำราเรียน
ส่วนของเย่เสี่ยวจิ่นเป็นการเรียนออนไลน์
เธอรู้สึกว่าการเรียนรู้แบบนี้ช่างมีประสิทธิภาพจริงๆ เป็นสิ่งที่ดีมากทีเดียว
หลิวเยว่ตื่นขึ้นมาเพราะเสียงเคาะประตู
กว่าหล่อนจะทำงานจัดเรียงไหมพรมเสร็จก็ดึกมากแล้ว ได้แต่คิดว่าจะทำอะไรที่ทันสมัยและสวยงามให้เย่เสี่ยวจิ่น
ติดที่ว่าในหัวหล่อนกลับว่างเปล่า พยายามคิดอยู่นานก็ไม่ได้แนวคิดอะไรออกมา ในขณะที่ทำเสื้อผ้าให้เย่จวินได้อย่างง่ายดาย
เมื่อชำนาญการใช้จักรเย็บผ้าตัดเย็บเสื้อผ้าแล้วความเร็วจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก
โดยเฉพาะเสื้อผ้าผู้ชาย
“จิ่นเป่า ตอนเช้าตรู่แบบนี้มาหาฉันทำไมหรือ? อยากให้ฉันพาไปเข้าห้องน้ำหรือ?”
“ไม่ใช่หรอกค่ะ หนูมีของมาให้พี่”
เย่เสี่ยวจิ่นหยิบหนังสือออกมากองหนึ่ง มีประมาณสิบกว่าเล่มเลยทีเดียว
หนังสือทั้งหมดที่เธอนำมาให้ล้วนเป็นความรู้พื้นฐานภาคปฏิบัติทั้งนั้น
“นี่คือตำราเรียนการออกแบบและตัดเย็บเสื้อผ้า ทั้งหมดนี้เป็นระดับเริ่มต้น พี่ลองดูได้นะคะ”
หลิวเยว่รับหนังสือมา พบว่าทั้งหมดเป็นหนังสือภาพสี มีรูปภาพประกอบมากมาย
หล่อนประหลาดใจมาก “หนังสือพวกนี้คุณภาพดีจริงๆ มีภาพประกอบด้วย แถมยังเป็นสีทั้งหมด”
“หนังสือพวกนี้คงไม่ถูกแน่ๆ ทำไมเธอถึงให้หนังสือแบบนี้กับฉันล่ะ?”
หลิวเยว่ชอบพวกมันมาก แต่แค่กลัวว่ามันจะแพงเกินไป
“หนังสือพวกนี้ไม่ต้องเสียเงินเลยสักแดงเดียว พี่วางใจได้ค่ะ” เย่เสี่ยวจิ่นยิ้มน้อยๆ แล้วก็เตรียมจะไปหยิบตะกร้าปลาหนีชิว
หลังหลิวเยว่ได้รับหนังสือกองนี้มา หล่อนก็เริ่มอ่านอย่างไม่เป็นอันกินอันนอน
มีเวลาว่างเมื่อใดก็จะก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสืออยู่ในห้อง
เย่จวินมาที่หน้าประตูห้องของหล่อน “เสี่ยวเยว่ เป็นอะไรไป? ทำไมอยู่แต่ในห้องไม่ออกไปไหนทุกวันเลย?”
“คุณดูหนังสือนี่สิ มันน่าสนใจมากเลย” หลิวเยว่หยิบลวดลายที่ถักด้วยไหมพรมจากตะกร้าเข็มด้ายออกมา “คุณดูสิ มีลวดลายมากมายใช่ไหม? แต่ละอันไม่เหมือนกันเลย สวยๆ ทั้งนั้น”
“ทั้งหมดนี้มาจากในหนังสือ มีคำอธิบาย มีรูปภาพด้วย สวยจริงๆ”
“คุณว่าฉันควรใช้ลายไหนทำเสื้อผ้าให้จิ่นเป่าดีล่ะ?”
หล่อนลังเลอยู่บ้าง ถือลายมาเทียบกันอยู่นาน “อันไหนสวยที่สุดนะ?”
“ผมว่ามันสวยทั้งหมดนั่นแหละ” เย่จวินไม่เข้าใจเรื่องพวกนี้
ในความคิดเขา ขอแค่อุ่นและใส่ได้ก็พอแล้ว อีกอย่างจิ่นเป่าก็ไม่เคยเลือกมาก ตอนที่แม่เริ่มต้นใช้จักรเย็บผ้าตัดเย็บเสื้อผ้า ถึงรูปแบบจะดูหยาบๆ อยู่บ้าง แต่หล่อนก็ใส่มันทุกวัน
“คุณก็ดูไปเรื่อยๆ ขอแค่ใส่ได้ก็พอแล้ว เราไม่ต้องคิดมากหรอก”
“จะเป็นไปได้ยังไงล่ะ?” หลิวเยว่มองค้อนเขา “จิ่นเป่าตอนนี้ต้องไปที่สำนักงานประจำตำบลนะ ถ้าแต่งตัวไม่ดี คนอื่นเขาก็จะดูถูกเอาได้ ยังไงก็ควรมีเสื้อผ้าสักหนึ่งหรือสองชุดที่ดูดีหน่อย จะได้ใส่ออกงานได้”
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
เหมือนมอบความรู้ให้ถูกคนมาก ต่อไปหลิวเยว่น่าจะตัดเย็บเสื้อผ้าได้ดีทีเดียว
ไหหม่า(海馬)
…………….