ซาลาเปาตัวน้อย ทะลุมิติมามีระบบทำฟาร์มยุค 70 จนร่ำรวย - บทที่ 173 เก็บไข่เป็ด
บทที่ 173 เก็บไข่เป็ด
……….
บทที่ 173 เก็บไข่เป็ด
เย่เสี่ยวจิ่นถือตะกร้า เดินตรงไปยังบริเวณที่ฝูงเป็ดอยู่ใต้เล้า
ในทุ่งนามีน้ำไม่มากนัก เพราะเป็ดชอบมาเล่นน้ำที่นี่ เย่จวินจึงตั้งใจมาอุดปากท่อระบายน้ำไว้
ในทุ่งนามีตอข้าวเหลืออยู่มากมาย
พืชน้ำในนาถูกเป็ดกินจนหมดเกลี้ยง
หญ้าป่าริมคันนาขึ้นเขียวชอุ่ม มีดอกไม้ป่าสีเหลืองที่ไม่รู้จักชื่อบานอยู่หลายดอก
เย่เสี่ยวจิ่นพับขากางเกงขึ้น แล้วลงไปในน้ำ
ฝูงเป็ดค่อยๆ ว่ายหนีไป
เธอเห็นไข่เป็ดสีขาวขนาดใหญ่หลายฟองอยู่กลางทุ่งนา
เมื่อหยิบขึ้นมาดู ก็พบว่าเป็นไข่เป็ดขนาดใหญ่มาก ดูแล้วน่าจะกินได้อิ่มทีเดียว
“พวกแกเป็นเป็ดนะ ฉันตั้งใจไม่กินพวกแกให้หมดเชียวนะ พวกแกต้องพยายามออกไข่ให้ดีๆ ล่ะ”
ตอนนวดข้าว คนเหนื่อยมาก ต้องการอาหารมากขึ้นด้วย
เป็ดสองรุ่นนี้ถูกฆ่าไปแล้ว จนเหลือแค่ 20 กว่าตัวที่เป็นเป็ดใหญ่ตัวใหม่
เป็ดแก่เหลือแค่ 15 ตัวแล้ว
มีแต่เป็ดแก่เท่านั้นที่จะออกไข่ได้
แม่บอกว่าจะเก็บไว้ฆ่ากินตอนปีใหม่ทั้งหมด
แต่จะเหลือไว้ 5 ตัวเพื่อใช้ออกไข่ฟักเป็นลูกเป็ดในปีหน้า
แบบนี้ต่อไปก็ไม่ต้องเสียเงินซื้อลูกเป็ดอีกแล้ว
ตะกร้าของเย่เสี่ยวจิ่นเต็มไปด้วยไข่อย่างรวดเร็ว
“เอาล่ะ พวกแกเล่นต่อไปได้” เย่เสี่ยวจิ่นขึ้นฝั่ง ในตะกร้ามีไข่เป็ด 11 ฟอง
เธอกลับมาถึงบ้าน ในครัวมีโอ่งใบหนึ่งที่ปูด้วยหญ้า ข้างในมีไข่เป็ดอยู่ 60-70 ฟองแล้ว
เย่เสี่ยวจิ่นหยิบออกมา 19 ฟอง ทำให้ครบจำนวน 30 พอดี
จากนั้นเธอก็หยิบตะกร้าที่เต็มไปด้วยไข่เป็ด สวมหมวกฟาง เตรียมตัวออกจากบ้าน
“จิ่นเป่า เธอจะเอาไข่เป็ดมากมายขนาดนี้ไปไหนล่ะ?”
“ฉันจะไปบ้านของรุ่ยเป่า เอาไข่เป็ดไปให้พวกเขาน่ะ”
“ฉันจะไปกับเธอด้วย ก่อนหน้านี้พวกเขาให้เป็ดมาเยอะแยะ เอาไข่ไก่ไปให้พวกเขาด้วยดีกว่า” เย่ฉางอันวางชามตะเกียบลง “ไข่ไก่พวกนี้เรากินไม่หมดแล้ว จะล้นบ้านอยู่แล้ว”
“ถ้าไม่ใช่เพราะแม่เอาไปขายที่ตลาดในเมืองทุกครั้งที่ไปก็คงจะเน่าเสียหมด”
เย่เสี่ยวจิ่นรอเขา แล้วหยิบตะกร้าอีกใบมาใส่ไข่ไก่ 30 ฟอง
เย่ฉางอันก็สวมหมวกฟาง ตรวจดูประตูหน้าต่างว่าปิดดีแล้วหรือไม่ จากนั้นก็ตามเย่เสี่ยวจิ่นออกจากบ้าน
พี่น้องทั้งสองเดินตามกันไปคนละคน
เย่ฉางอันถือตะกร้าไข่สองใบในมือ เดินอย่างมั่นคง
เสื้อผ้าที่เขาสวมใส่เผยให้เห็นแขนที่แข็งแรงทั้งสองข้าง แม้ว่าผิวจะคล้ำขึ้นเล็กน้อย แต่ก็ดูแข็งแรงมาก
ด้านหลังของทั้งสองคน มีลูกสุนัขตัวหนึ่งที่โตขึ้นไม่น้อยแล้ว กำลังส่ายร่างกลมป้อมเดินตามหลังมา
ผู้คนบนถนนเห็นของในมือพวกเขา ต่างก็อดไม่ได้ที่จะมองด้วยความอิจฉา
“จิ่นเป่า ฉางอัน พวกนายถือไข่มากมายขนาดนี้ไปขายเหรอ?”
“ครอบครัวของพวกนายเก่งจริงๆ เลี้ยงไก่เป็ดไว้มากมายขนาดนี้ ดูแลไหวจริงๆ”
เย่ฉางอันยิ้มพลางตอบว่า “นี่เป็นของสำหรับครอบครัวโจวน่ะครับ”
โจวเหวินรุ่ยนั่งอยู่ใต้ต้นลูกพลับที่บ้าน กำลังเก็บลูกพลับกับพี่ชาย
เมื่อได้ยินเสียงประตูเปิด ทั้งสองคนจึงหยุดทำงาน
โจวเหวินรุ่ยดีใจทันที “จิ่นเป่า เธอมาหาฉันเสร็จแล้วเหรอ?”
“พวกเรามาส่งดอกเบี้ยให้นายแล้ว” เย่เสี่ยวจิ่นพูดพลางยิ้ม แสงแดดจ้าส่องกระทบใบหน้าขาวผ่องของเธอ “นายดูสิ ไข่เป็ดและไข่ไก่”
โจวเหวินรุ่ยดีใจมาก “จิ่นเป่า เธอช่างดีจริงๆ ปีหน้าฉันจะเลี้ยงเป็ดให้เธอกินนะ”
เย่เสี่ยวจิ่นรีบปฏิเสธ “ไม่ต้องหรอก ที่บ้านฉันเลี้ยงไว้เยอะแล้ว”
โจวเซียวรับตะกร้าสองใบมา กล่าวด้วยความซาบซึ้ง “ทำไมพวกเธอถึงเอามาให้เยอะขนาดนี้? ที่บ้านพวกเธอยังมีพอกินไหม? พวกเรามีกันแค่สองคนเอง ปกติก็กินไม่ได้มากหรอก”
เย่ฉางอันรู้ว่าเขาพูดแบบนี้เพราะเกรงใจ
ถ้าพูดกันตามจริง โจวเหวินรุ่ยกำลังอยู่ในช่วงเจริญเติบโต ส่วนโจวเซียวก็ต้องใช้แรงงานมาก จะกินไม่หมดได้อย่างไร?
“คุณไม่ต้องเกรงใจหรอก ที่บ้านเรามีพอแล้ว”
“นี่เป็ดก็เริ่มออกไข่แล้ว มีเยอะมากเลย กินไม่หมดหรอก”
โจวเซียวยิ้มพลางกล่าว “งั้นก็ขอบคุณพวกเธอมากนะ”
เขาเข้าบ้านไปเก็บไข่ไก่และไข่เป็ด แล้วเอาตะกร้าของพวกเขามาคืน
โจวเซียวชี้ไปที่ต้นไม้แล้วพูดว่า “ลูกพลับในสวนนี้ปีนี้มีเยอะมาก ฉันกำลังเก็บลูกพลับกับรุ่ยเป่า จะเอามาปอกเปลือกแล้วตากแห้งทำเป็นลูกพลับแห้งไว้กิน”
“ตอนนี้เก็บมาได้หลายร้อยลูกแล้ว พอตากแห้งเสร็จ ฉันจะเอาไปให้พวกเธอกินสักหลายสิบลูก”
เย่เสี่ยวจิ่นพยักหน้า “ดีเลย งั้นฉันจะรอนะคะ”
“อีกไม่กี่วันแม่ของฉันจะทำไข่เค็ม ฉันจะเอาไปให้พวกคุณด้วย”
ตอนนี้โจวเหวินรุ่ยก็ต้องยุ่งกับการทำลูกพลับแห้ง แม้จะอยากไปเล่นกับจิ่นเป่ามาก แต่ก็ไม่มีเวลา
“จิ่นเป่า พรุ่งนี้ฉันจะไปเล่นกับเธอนะ”
“ได้เลย”
โจวเซียวมองน้องชายของตัวเองแล้วอดไม่ได้ที่จะเอามือเท้าสะเอวพลางพูดอย่างรำพึงรำพันว่า “นายนี่นะ เป็นผู้ชายตัวน้อย ๆ แต่ชอบไปเล่นกับเด็กผู้หญิงตลอด”
“ไม่ใช่สักหน่อย ผมเล่นกับจิ่นเป่าคนเดียวเท่านั้น จิ่นเป่าฉลาดและน่ารักขนาดนั้น ผมก็ชอบหล่อนสิ”
โจวเซียวส่ายหน้า “ไอ้หนูน้อย รู้อะไรเรื่องชอบกันล่ะ?”
เย่เสี่ยวจิ่นและพี่ชายไปที่บ้านของพี่สาวลี่ลี่
หลินลี่ลี่กำลังทำงานบ้านอยู่ เมื่อเห็นเธอมา ก็ยิ้มอย่างอ่อนโยนและพูดว่า “หัวหน้าทีม คุณมาดูต้นกล้าแตงโมใช่ไหม?”
“ทุกอย่างเติบโตได้ดีมาก ต้นกล้าแตงโมก็ดีด้วย”
“มาดูสิ รับรองว่าดีกว่าครั้งก่อนแน่นอน”
พ่อแม่ของหลินลี่ลี่ยังคงสนับสนุนให้หล่อนทำงานหลายอย่าง พวกเขาคิดว่าการทำงานมากและอดทนต่อความยากลำบากคือคนดี
และเมื่อก่อนเป็นเพราะหลินลี่ลี่ช่วยเพาะต้นกล้า เมื่อถึงเวลาแบ่งผลผลิต ครอบครัวของหล่อนก็ได้รับส่วนแบ่งมากขึ้นด้วย
“ฉันรู้ว่าพี่ลี่ลี่เป็นคนที่ไว้ใจได้”
หลังจากคุยกันสักพัก เย่เสี่ยวจิ่นและพี่ชายก็ไปที่บ้านของลุงใหญ่
ครั้งนี้เย่เหวินชางก็อยู่ที่บ้านเช่นกัน
เมื่อเย่เหวินชางเห็นเย่ฉางอัน ท่าทีของเขาก็เปลี่ยนไปบ้าง
ตอนนี้ครอบครัวของเย่เหล่าซานเป็นอย่างไร ยิ่งใหญ่โตแค่ไหน เขาก็เห็นอยู่กับตา
เห็นอีกฝ่ายแต่งตัวดี บ้านก็หรูหรา เป็นครอบครัวที่มีเงินด้วย
ความภาคภูมิใจที่เคยมีในใจของเขาก็เริ่มบิดเบี้ยวกลายเป็นความรู้สึกด้อยค่าโดยไม่รู้ตัว
เย่จู๋พูดอย่างกระตือรือร้น “พี่ พี่ฉางอันมากับจิ่นเป่าด้วย”
“พวกพี่นั่งก่อนสิ ฉันทำวุ้นเย็นมาให้พวกพี่กิน”
เย่เหวินชางลุกพรวดขึ้นมาทันที
“พวกเธอนั่งก่อนเถอะ ฉันจะกลับห้องไปอ่านหนังสือแล้ว”
สีหน้าของเขาเย็นชา ดูไม่ต่างจากเมื่อก่อนเลย
แต่มีเพียงเขาเท่านั้นที่รู้ดีว่า แต่ก่อนเขาดูถูกพวกนั้นจริงๆ แต่ตอนนี้เขาแค่แสร้งทำเป็นดูถูกเท่านั้น
เย่ชางอันชินกับท่าทีของเย่เหวินชางแล้ว “คนมีการศึกษาก็ต้องอ่านหนังสือและเรียนรู้ให้มาก เป็นเรื่องปกติ”
เย่จู๋นำวุ้นเย็นสองชามมาเสิร์ฟ “วันนี้ฉันทำได้ดีมาก ฉันขูดให้ละเอียดมาก กินแล้วจะรู้สึกเย็นสบาย”
เย่เสี่ยวจิ่นและเย่ชางอันไม่ได้เกรงใจหล่อน
พวกเขาทั้งสองกินวุ้นเย็นและดูต้นกล้าเสร็จแล้วก็จากไป
เย่จู๋จึงมีเวลาไปหาพี่ชาย หล่อนยืนอยู่ที่ประตู ขมวดคิ้วพลางพูดว่า “พี่ ทำไมพี่ถึงมีท่าทีแบบนี้กับพวกเขาตลอดเลยล่ะ?”
“ตอนนี้พ่อแม่ก็ไม่ได้มีท่าทีแบบนี้แล้วนะ”
“พวกเขาเป็นคนดีมาก และยังเก่งอีกด้วย”
เย่เหวินชางหัวเราะเยาะ “ฉันกำลังจะย้ายทะเบียนบ้านเข้าเมืองแล้ว ทำไมฉันต้องไปคบหากับพวกชาวนาด้วยล่ะ?”
เย่จู๋อยากจะพูดอะไรแต่ก็หยุดไว้ สุดท้ายก็พูดออกมาอย่างโกรธๆ “แต่พ่อแม่และฉันก็เป็นชาวนานะ!”
เย่เหวินชางไม่ได้พูดอะไร แต่ท่าทางของเขาเย็นชาอย่างเห็นได้ชัด
ผ่านไปครู่หนึ่ง เขาจึงจ้องมองเย่จู๋อย่างนิ่งๆ แล้วพูดว่า “แต่ก่อนเธอไม่เคยพูดกับฉันแบบนี้เลย เธอคงเรียนรู้นิสัยดื้อรั้นมาจากเย่เสี่ยวจิ่นสินะ”
………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
เป็ดออกไข่กันดกมากเลย แสดงว่าเลี้ยงดีมาก
เห็นบ้านสามเริ่มเด่นกว่าตนแล้วมันทนไม่ได้ใช่ไหมล่ะเหวินชาง
ไหหม่า(海馬)
……….