ซาลาเปาตัวน้อย ทะลุมิติมามีระบบทำฟาร์มยุค 70 จนร่ำรวย - บทที่ 124 ทีมก่อสร้างมาแล้ว
บทที่ 124 ทีมก่อสร้างมาแล้ว
……….
บทที่ 124 ทีมก่อสร้างมาแล้ว
หลี่ชุ่ยชุ่ยและเย่จื้อผิงต่างตะลึงงัน
คนสิบกว่าคนแบกเครื่องมือและไม้เข้ามาอย่างคึกคัก
ยังมีคนอีกมากมายที่แบกอิฐแดง เหล็กเส้น และปูนซีเมนต์
ในหมู่บ้านที่สร้างบ้านไม้กันทั้งหมด มีแต่ที่ทำการหมู่บ้านเท่านั้นที่จะได้รับการปฏิบัติแบบนี้
คนธรรมดาย่อมไม่มีปัญญาซื้ออิฐมาสร้างบ้านสองชั้นได้
มีแต่คนในเมืองเท่านั้นที่จะอยู่บ้านที่สร้างด้วยอิฐได้!
“พวกคุณมากันแต่เช้าเชียวนะ” หลิวต้าเม่ยรีบเข้าไปขวางคนที่นำหน้า “พวกคุณมาผิดที่แล้ว ทางโน้นต่างหาก บ้านลูกชายคนรองของฉันอยู่ทางโน้น”
“ทางนี้เป็นบ้านลูกชายสามของฉัน พวกคุณมาผิดที่แล้ว”
“พวกคุณแบกของมากันมากมายขนาดนี้ มันหนักมากเลยนะ”
หลิวต้าเม่ยเห็นว่ามีคนมากถึง 10 กว่าคน อดไม่ได้ที่จะรู้สึกอึ้งไปเล็กน้อย
ในใจเริ่มคำนวณแล้วว่า คนมากขนาดนี้จะต้องจ่ายค่าแรงเท่าใด…
พอคิดแล้วก็รู้สึกเจ็บปวดใจอย่างบอกไม่ถูก
นางจำได้ว่าไฉกุ้ยบอกว่าจ้างช่างมาแค่ 3 คน แต่นี่กลับพาคนมามากมายขนาดนี้…
คงตั้งใจจะมาขอส่วนแบ่งค่าแรงสินะ?
หลิวต้าเม่ยรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย “พวกคุณ พวกคุณไม่ได้มากันแค่ 3 คนเหรอ? พาคนมาเยอะขนาดนี้ อย่าโทษฉันที่พูดไม่เพราะนะ”
“ค่าใช้จ่ายในการทำงานของพวกเราก็แค่นี้ ถึงจะพาคนมาเยอะ ก็ไม่ได้จ่ายเงินเพิ่มหรอก”
“พวกเราตกลงกันไว้ก่อนแล้ว เปลี่ยนใจทีหลังไม่ดีนะ!”
แต่คนพวกนั้นไม่สนใจนางเลยสักนิด
คนที่เป็นหัวหน้ามองดูหลิวต้าเม่ย แล้วหยิบกระดาษแผ่นหนึ่งออกมาจากกระเป๋า “เย่เสี่ยวจิ่น คุณจะสร้างบ้านหรูหราแบบครอบครัวใช่ไหม?”
“เย่เสี่ยวจิ่น?” หลิวต้าเม่ยขมวดคิ้ว “อะไรกัน วันนี้เย่ไฉกุ้ยลูกชายฉันต่างหากที่กำลังสร้างบ้าน”
“พวกเรารู้จักแต่เย่เสี่ยวจิ่นเท่านั้น”
“เป็นเสี่ยวจิ่นของพวกเราหรือ?” หลี่ชุ่ยชุ่ยงุนงง “แต่พวกเรา…พวกเราไม่ได้จะสร้างบ้านนะ”
“ที่นี่เป็นบ้านของเย่เสี่ยวจิ่นใช่ไหม?”
หลี่ชุ่ยชุ่ยพยักหน้า “ใช่ค่ะ”
คนพวกนั้นไม่พูดอะไรอีก
พวกเขาเริ่มวัดและออกแบบรอบๆ บ้านของพวกเขาทันที
เพื่อให้สอดคล้องกับความหรูหราในการอยู่อาศัย จึงต้องทำเป็นบ้านสไตล์ตะวันตกขนาดเล็ก
แต่เพื่อให้เข้ากับสภาพแวดล้อมการใช้ชีวิตในท้องถิ่น ก็จำเป็นต้องเพิ่มไม้บางส่วนเข้าไปด้วย เพื่อทำให้เป็นสไตล์จีน
ทุกคนปรึกษาหารือกัน วัดขนาดพื้นที่ว่าจะสร้างบ้านหลังใหญ่ให้หรูหราและน่าอยู่ได้อย่างไรโดยไม่ให้แตกต่างจากสภาพแวดล้อมเดิมมากนัก
พวกเขาเป็นวิศวกรจากในเมือง ปกติทำงานสร้างบ้านอยู่แล้ว
แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ได้รับงานใหญ่มาสร้างบ้านในชนบท
เจ้าของโครงการต้องการบ้านหรูหราแบบครอบครัว
สำหรับพวกเขาแล้ว นี่เป็นงานที่ค่อนข้างเป็นนามธรรมและยากลำบาก
“จื้อผิง ครอบครัวแกจะสร้างบ้านจริงๆ เหรอ?” หลิวต้าเม่ยถามอย่างไม่อยากเชื่อ “ก่อนหน้านี้ยังไม่ยอมออกเงินให้เหวินชางเรียนหนังสือสักแดงเดียว แต่ตอนนี้กลับมีเงินสร้างบ้านแล้วเหรอ?”
เย่จื้อผิงในตอนนี้งุนงงไปหมด
หลี่ชุ่ยชุ่ยยังไม่ทันได้ตั้งตัว ก็ได้ยินพวกเขาพูดถึงการรื้อถอนและการก่อสร้างแล้ว
หลี่ชุ่ยชุ่ยรีบพูดว่า “รีบไปเรียกจิ่นเป่ามาถามหน่อย…”
เย่จื้อผิงและหลี่ชุ่ยชุ่ยเข้าไปในบ้าน
หลิวต้าเม่ยถูกทิ้งไว้ข้างนอก
นางกระทืบเท้า “เกิดอะไรขึ้นกันแน่เนี่ย!”
หลี่ชุ่ยชุ่ยปลุกเย่เสี่ยวจิ่นให้ตื่น
เย่เสี่ยวจิ่นตื่นขึ้นมาก็เห็นสายตาสงสัยของพวกเขา
เธอรู้ตัวอย่างรวดเร็ว “พ่อแม่คะ ทีมก่อสร้างมาแล้วเหรอคะ?”
“จิ่นเป่า เกิดอะไรขึ้นกันแน่?” หลี่ชุ่ยชุ่ยกำลังจะเป็นบ้าอยู่แล้ว ถามเสียงเบา “พวกเขากำลังจะรื้อบ้านของเราแล้วนะ ลูกยังนอนหลับได้อีกเหรอ? อีกเดี๋ยวเราก็จะไม่มีบ้านแล้ว”
“ถึงตอนนั้น แสงแดดก็จะส่องก้นของลูกได้เลยนะ”
พูดถึงตรงนี้ หลี่ชุ่ยชุ่ยก็รู้สึกขำ
หล่อนกลัวว่าตัวเองจะดูไม่จริงจังพอ จึงทำหน้าเคร่ง “รีบบอกแม่มาเร็ว”
“ไม่มีอะไรหรอก หนูบอกแล้วว่าเราจะสร้างใหม่”
“พ่อกับแม่ออกไปทำงานตามปกติก็พอ” เย่เสี่ยวจิ่นเกาหัว “นี่คือทีมก่อสร้างที่ฉันจ้างมาจากในเมือง พวกเราปล่อยให้พวกเขาทำงานไปตามปกติก็พอ”
“พวกเขามืออาชีพมาก เก่งมาก พวกเราแค่รอตรวจรับบ้านในขั้นสุดท้ายก็พอ”
เย่เสี่ยวจิ่นดูใจเย็นมาก
เย่จื้อผิงก็สงบลงแล้ว “ทั้งหมดนี้เป็นการตัดสินใจของจิ่นเป่าเอง เมื่อคืนหล่อนบอกพวกเราแล้ว แต่ไม่มีใครเชื่อหล่อน”
หลี่ชุ่ยชุ่ยพยักหน้า “ใช่ เมื่อคืนฉันก็ไม่เชื่อหล่อนจริงๆ”
เย่เสี่ยวจิ่นเห็นว่าพ่อแม่ยังดูรับไม่ได้
เธอโบกมือ ไม่ได้อธิบายอะไรเพิ่มเติม “เอาละ ต้องไปปลุกพี่ชายทั้งหลายแล้ว”
ต่อไปเรื่องแบบนี้จะยังมีอีกเยอะ อธิบายทีละคนก็ยุ่งยากเกินไป
เย่จวินและเย่ฉางอันหลับลึกกว่า
เย่หวายและหลิวเยว่ต่างก็ออกไปดูคนอื่นทำงานแล้ว
เย่ฉางอันลุกขึ้นจากเตียง “เสียงดังจังเลย ใครกำลังรื้อหลังคาบ้านกันนะ?”
“ลูกพูดถูกแล้ว” เย่จื้อผิงยิ้มอย่างจนใจ “รีบเก็บข้าวของของตัวเองแล้วเอาออกไปเร็ว คืนนี้พวกเราจะไปพักที่บ้านป้าหยางเจวียนกันสักคืน”
“บ้านของพวกเราถูกรื้อแล้วสร้างใหม่น่ะ”
เย่ฉางอันเบิกตากว้าง “ว้าว ที่จิ่นเป่าบอกว่าวันนี้จะสร้างบ้านนี่เป็นเรื่องจริงเหรอ? ผมนึกว่าหล่อนแค่พูดเล่นแกล้งทำให้ลุงรองโกรธซะอีก”
เย่ฉางอันเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น รีบสวมเสื้อผ้าแล้ววิ่งออกไปดูความคึกคักข้างนอก
เย่จวินก็ตามออกไปติดๆ
หลี่ชุ่ยชุ่ยกระซิบกับเย่จื้อผิง “ฉันเห็นพวกเขาแบกทรายมาอีกเยอะเลย กำลังผสมปูนซีเมนต์อยู่ตรงนั้น”
“บ้านของพวกเราจะสร้างเป็นแบบบ้านในเมืองเหรอ?”
“ช่างหรูหราและสวยงามอะไรเช่นนั้น”
หลี่ชุ่ยชุ่ยก่อนหน้านี้รู้สึกกังวล แต่ตอนนี้ในใจกลับมีความรู้สึกคาดหวังอย่างเต็มเปี่ยมผุดขึ้นมา
เย่จื้อผิงตบไหล่ของหล่อนเบาๆ “แน่นอนอยู่แล้ว คนเขาบอกว่าเป็นบ้านหรูหรา…”
“บ้านหรูหราแบบนั้นต้องดูดีและสบายมากแน่ๆ”
“บางทีอาจจะปูพื้นด้วยซีเมนต์ให้พวกเราด้วยก็ได้”
หลี่ชุ่ยชุ่ยขมวดคิ้ว “เป็นไปได้ยังไง? ซีเมนต์ไม่ต้องเสียเงินหรือไง? ปูพื้นบ้านด้วยซีเมนต์ มันไม่สิ้นเปลืองเกินไปหรือ?”
ทั้งครอบครัวเตรียมตัวกินอาหารเช้า
หลี่ชุ่ยชุ่ยตัดสินใจว่าจะเสียเวลาครึ่งวัน
หล่อนเตรียมจะจัดเก็บข้าวของในบ้านกับหลิวเยว่ แล้วนำไปฝากไว้ที่บ้านของหยางเจวียน
ถึงอย่างไรก็มีจักรเย็บผ้าและจักรยานในบ้าน ถ้าปล่อยไว้ที่นี่แล้วเกิดเสียหายจะทำอย่างไร?
ทีมก่อสร้างได้ออกแบบแผนการก่อสร้างตามสถานการณ์ของครอบครัวพวกเขาแล้ว
อีกด้านหนึ่ง
หลิวต้าเม่ยมาถึงบ้านของลูกชายคนรอง
“เรากินข้าวกันเสร็จแล้ว!” เย่ไฉกุ้ยเริ่มหงุดหงิด “คนไปไหนกันหมด? นี่มันกี่โมงแล้วทำไมยังไม่มา?”
สีหน้าของหลิวต้าเม่ยดูซับซ้อน “ไม่ใช่อย่างนั้นนะเจ้ารอง เจ้าสามกำลังสร้างบ้านจริงๆ…”
“ตอนนี้เริ่มรื้อถอนแล้ว”
“พวกเขาไม่ได้ต่อเติม แต่รื้อทั้งหมดแล้วสร้างใหม่น่ะ!”
“คนงานมากันกว่า 10 คนเลย พวกเขาขนไม้ อิฐ และปูนซีเมนต์มาด้วยเยอะแยะ”
“แม่ เป็นไปได้ยังไง?” เย่ไฉกุ้ยตกตะลึง “พวกเขามีเงินขนาดนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่? บอกว่าจะสร้างบ้านก็สร้างใหม่เลยเหรอ?”
“สร้างใหม่เนี่ยต้องใช้เงินเท่าไหร่กัน!”
“แถมยังใช้อิฐด้วยเนี่ยนะ ครอบครัวของพวกเขาไม่มีเงินมากขนาดนั้นหรอก”
“ไม้ทั้งหมดก็ต้องซื้อมา ตอนนี้แลกด้วยคะแนนแรงงานไม่ได้แล้ว”
หลิวต้าเม่ยรีบพยักหน้าทันที “ใช่แล้ว จริงๆ นะ ฉันเห็นกับตาตัวเองชัดๆ เลย ถ้าแกไม่เชื่อก็ไปดูเองสิ”
“คนพวกนั้นทำงานเร็วมาก เดี๋ยวเดียวก็ปรับพื้นที่เรียบร้อยแล้ว”
“พวกเขายังใช้กระดาษวาดแบบ…วาดรูปบ้านออกมา”
“ยังไงฉันก็เห็นมากับตาจริงๆ นะ”
เซี่ยวเฟินฟางหน้าบึ้งเดินออกมาจากบ้าน “บ้านที่สร้างด้วยอิฐเหรอ? แบบที่มีในเมืองน่ะหรือ?”
“ญาติของฉันเคยบอกว่า บ้านแบบนั้นแค่สร้างชั้นเดียวก็ต้องใช้เงินเยอะมากแล้ว”
“พวกเขาคงไม่อยากมาทำงาน เลยแกล้งแสดงละครหลอกพวกเราต่างหาก!”
หลิวต้าเม่ยเบิกตากว้าง รู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย “ฉันจะโกหกพวกแกทำไม? ฉันยังไม่ได้แก่จนสมองเสื่อมนะ!”
“ในเมื่อพวกแกทางนี้เสร็จธุระกันหมดแล้วก็ตามฉันไปดูหน่อย แล้วพวกแกจะเข้าใจเอง”
“ยังไงบ้านพวกแกก็มีช่างมาทำอยู่แล้ว ให้ว่านหยวนคอยดูแลก็พอ”
เย่ว่านหยวนกำลังคุยอยู่กับหญิงม่ายเซี่ยหลิน
ตอนนี้หล่อนตั้งท้องแล้ว ตระกูลเย่จึงจำใจต้องยอมรับหล่อน
แม้จะรู้สึกโมโหทุกครั้งที่เห็นหน้าหล่อน แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะลูกชายดื้อ ยืนกรานจะเอาหญิงม่ายคนนี้และลูกในท้อง
จึงได้แต่ต้องยอมตามใจเขา
“ว่านหยวน เซี่ยหลิน พวกเธออยู่เฝ้าบ้านนะ ถ้ามีอะไรก็บอกพวกเรา”
เซี่ยวเฟินฟางจ้องเซี่ยหลินตาขวาง “อย่าทำตัวขี้เกียจนะ ถ้าเห็นช่างทำงานไม่ขยันก็ให้เร่งพวกเขาหน่อย”
“คอยดูให้ดีๆ ต่อไปคนที่จะอยู่บ้านหลังนี้ก็คือพวกเธอสองคนนะ!”
เซี่ยหลินแค่นเสียง “รู้แล้วค่ะ”
หล่อนยังจำได้ดีถึงตอนที่เคยถูกเซี่ยวเฟินฟางชี้หน้าด่า มันเป็นความแค้นที่ฝังใจมาตลอด
หล่อนจึงไม่มีทีท่าเป็นมิตรกับเซี่ยวเฟินฟางเลยแม้แต่น้อย
หล่อนตบหัวเย่ว่านหยวนทันทีพร้อมกับพูดว่า “คุณจำคำที่แม่พูดได้หรือยัง?”
“จำได้แล้วครับ จำได้แล้ว”
เซี่ยวเฟินฟางมองดูด้วยความเจ็บปวดใจ ยายตัวดีนี่กล้าตบลูกชายของหล่อนด้วย! แม้แต่หล่อนเองยังไม่กล้าตีเลย!
“พวกไร้ประโยชน์!”
…………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
เดี๋ยวเจอบ้านครอบครัวสามก่อนแล้วจะอึ้ง คราวนี้จะรู้สึกว่าบ้านตัวเองกลายเป็นเถียงนาหลังน้อยไปเลย
ไหหม่า(海馬)
……….