ซวยจริง กลายเป็นสาวน้อยไม่พอยังเจอเหล่าเจ้าหญิงของโรงเรียนมาจีบอีก - ตอนที่ 7
“ใช่ครับ เราจะมาคุยเรื่องยาที่จะทำให้คุณกลับสู่เพศชายได้ไงล่ะ”
ได้ยินแค่นี้หูผมก็ผึ่งออกมาพร้อมกับจิตใจที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น… ว่าไงนะ มีทางที่ผมจะกลับเป็นร่างเดิมได้แล้วงั้นเหรอ
“นี่พูดจริงใช่ไหม มันมีทางที่เรา…ที่ผม…จะกลับร่างเดิมน่ะ”
“แหม จะเรียกแทนตัวเองว่าหนูหรือฉันให้เหมาะสมกับร่างทางผมก็ไม่ว่าอะไรหรอก….แอ้กก”
ตุบ
คุณเลขาจู่ ๆ ก็ใช้แฟ้มในมือตบเข้าที่หัวของท่านประธานอย่างแรง จนเขาร้องออกมาแถมด้วยสายตาดุประดุจแม่กำลังลงโทษลูก
“ท่านประธานคะ ช่วงเวลานี้ควรเป็นเวลาจริงจังถูกไหมคะ”
คุณเลขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือกจนผมรู้สึกหนาวไปทั่วทั้งสันหลังเมื่อได้ฟังเสียงสุดน่ากลัวของเธอ แต่กระนั้นท่านประธานก็ยังคงยิ้มและหัวเราะออกมาแบบที่แทบไม่ได้สนใจการกระทำเมื่อครู่นี้เลยสักนิด
“ใจร้ายกันจังเลยนะ อีฟ นี่ผมแค่อยากให้บรรยากาศมันกดดันน้อยลงก็เท่านั้นเอง”
“ถ้านั่นเป็นมุกล่ะก็… นับว่าเป็นมุกที่เห่ยมากเลยค่ะ”
“ใจร้ายจริง ๆ”
คุณเลขาชื่ออีฟอย่างงั้นเหรอเนี่ย…
หากมองดูแล้วเธอนั้นก็เป็นหญิงวัยทำงานที่น่าจะยังอายุไม่ถึงสามสิบ ใบหน้ายังคงความเยาว์วัยและความสวยเอาไว้ ดวงตาของเธอนั้นคมกริบ ผมสีดำที่ยาวก็ถูกรวบเป็นหางม้าอย่างเป็นระเบียบจนรู้สึกว่าเป็นคนที่เนี๊ยบเอามาก ๆ คนหนึ่ง
“ก็ตามที่พูดนั่นล่ะคุณฟ้า… เรียกแบบนี้แล้วกันคุณจะได้ชินกับชื่อนี้”
“เอ่อ ยังไงก็ได้แหละครับ”
ไม่รู้ว่าผมควรจะตอบกลับท่านประธานคนนี้ไปอย่างไรดี แต่เพื่อให้เรื่องมันดำเนินต่อไปได้ก็เลยปล่อยผ่านคำพูดสุดไร้สาระของเขาไปซะ
“เอาล่ะมาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า… ใช่ อย่างที่ผมบอกไปว่าคุณมีสิทธิ์กลับร่างเดิมได้”
“สรุปว่าจริงใช่ไหมครับ งั้นตอนนี้เลยได้ไหมครับ”
ท่านประธานยิ้มกลับมาก่อนจะส่ายหัวช้า ๆ ทำเอาใจที่ฟูฟ่องของผมเริ่มกลับไปห่อเหี่ยวลงตามเดิม
“นั่นล่ะข่าวร้าย เนื่องจากว่าทั้งสูตรและก็ตัวคนสร้างดันหายไปด้วยกันทั้งคู่เนี่ยสิ”
“หายไปงั้นเหรอ….? ไม่มีบันทึกในคอมงั้นเหรอครับ”
“นั่นก็น่าเศร้าอีกเรื่อง เพราะคนที่สร้างดันลบไฟล์ทั้งหมดก่อนหนีออกจากบริษัทมาน่าสิ”
“หนีเหรอ…เดี๋ยวนะ บริษัทคุณไม่ใช่ว่าทำอะไรไม่ดีใช่ไหมครับ”
จู่ ๆ นักวิจัยของบริษัทยาอันดับต้น ๆ ของโลกดันมาหนีไปพร้อมกับสูตรยาแล้วก็ตัวยาแบบนี้ จะให้มองอย่างไรมันก็มีอะไรผิดสังเกตอยู่เต็มไปหมด นั่นเองที่ทำให้ผมเริ่มหรี่ตามองพวกเขาทั้งสองอย่างระแวดระวัง
“ไม่ได้…ทดลองสร้างปีศาจอะไรแบบนั้นใช่ไหม”
“เลอะเทอะน่ะครับ พวกเราก็แค่บริษัทยาธรรมดาจากต่างชาติเท่านั้นเอง ไม่ใช่องค์กรลึกลับแบบพวกหนังแปลงร่างหรือฮีโร่อะไรหรอก”
“แล้วทำไม…”
“เรื่องนั้นพวกเราก็ยังสงสัยเหมือนกันว่าทำไมเธอถึงทำอะไรแบบนั้น เพราะจะบอกว่าดูแลไม่ดีก็ไม่ใช่ ทุนก็สนับสนุนตลอด งานก็ไม่ได้เร่ง แต่จู่ ๆ ก็หนีไปแบบนี้ ทำเอาบริษัทเราวุ่นกันไปหมดเลย”
“เธองั้นเหรอครับ?”
“ใช่ เธอ….”
ท่านประธานพูดพลางหันไปทางคุณอีฟซึ่งถือแฟ้มเล่มหนึ่งอยู่ เธอเดินมาหาผมพร้อมกับเปิดแฟ้มที่แสดงรูปถ่ายของหญิงสาวคนหนึ่ง เธอคนนั้นมีผมสีดำแบบชาวไทยแล้วก็ดวงตาสีน้ำตาล สวมชุดกาวน์สีขาวแบบพวกนักทดลองสารเคมี ดูแล้วอายุของเธอคนนี้แทบไม่ต่างจากคุณอีฟเท่าไหร่นัก ทว่าอารมณ์ที่ให้นั้นดูเป็นกันเองกว่ามาก
“ดอกเตอร์วิริยาหรือที่พวกเราเรียกกันว่าดอกเตอร์เฟรย์ นี่คือคนที่จะเป็นคำตอบในการกลับร่างของคุณ”
“แล้ว… ทำไมถึงมาบอกผมล่ะ อย่างผมจะทำอะไรได้”
ใช่ กับแค่นักเรียนธรรมดาคนหนึ่งที่แทบไม่ได้มีอะไรพิเศษนัก เทียบกับบริษัทยายักษ์ใหญ่แล้ว สิ่งที่ทำได้มันช่างต่างกันมากมายนัก
“ก็เพราะว่าคุณอยู่ในโรงเรียนวราพิทย์อย่างไรล่ะ..”
“หือ นั่นมันเกี่ยวอะไรกันงั้นเหรอ”
“เกี่ยวมาก ๆ เลยล่ะ”
พอประธานพูดแบบนั้น คุณอีฟก็พลิกหน้ากระดาษหนึ่งไป มันเป็นภาพจากกล้องวงจรปิดที่แสดงให้เห็นว่าเฟรย์นั้นกำลังขับรถเข้าไปในโรงเรียนวราพิทย์
“ที่สุดท้ายที่เราพบว่าเธอไปก่อนจะหาตัวไม่เจออีกคือโรงเรียนแห่งนี้ แถมนี่ก็เป็นโรงเรียนเก่าของเธอด้วย ดังนั้นเราคิดว่าเธอคงหลบซ่อนอยู่ในนี้พร้อมกับสูตรยานั่นล่ะ”
“ที่คุณส่งผมเข้ามาเรียนที่นี่ก็เพราะ…”
“ใช่ เพราะที่นั่นการรักษาความปลอดภัยนั้นเข้มงวดมาก คงมีแต่นักเรียนแล้วก็บุคลากรเท่านั้นที่เข้าไปได้ ดังนั้นเราถึงได้เลือกคุณที่เธอน่าจะยังไม่รู้จักในการตามเธอกลับมา”
“เป็นอย่างนี้นี่เอง”
ก็ว่าอยู่ว่าทำไมพวกเขาถึงลงทุนให้ผมมาเรียนถึงโรงเรียนเอกชนอันดับต้น ๆ แบบนี้ นั่นก็เป็นเพราะว่าพวกเขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากใช้ผมเท่านั้น
พอรู้แบบนี้แล้วผมก็ยิ่งรู้สึกกดดันเข้าไปใหญ่… เพราะนั่นหมายความว่าการกลับร่างเดิมของผมนั้นมันขึ้นกับตัวผมเอง และสิ่งที่ต้องทำในโรงเรียนก็มีมากขึ้นอีกหนึ่งคือการตามหาเบาะแสของดอกเตอร์เฟรย์
“เข้าใจแล้ว ผมจะพยายามดูก็แล้วกัน”
ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องลงมือทำด้วยตัวเอง ก็ไม่รู้ว่าจะทำได้ไหมแต่ถ้าไม่ทำอะไรเลยมันก็คงไม่มีทางทำสำเร็จ… แต่จะไหวไหมเนี่ย
“เยี่ยมมากครับ….. ถ้างั้นอีฟ ที่เหลือก็ฝากด้วยนะ”
“เข้าใจแล้วค่ะประธาน ถ้าเช่นนั้น…..”
คุณเลขาอีฟเดินเข้ามาใกล้ผมก่อนที่จะโค้งหัวให้เล็กน้อยแล้วก็พูดขึ้นมา
“ฝากตัวด้วยนะคะ คุณน้องสาว”
“หา…. อะไรนะครับ”
“ค่ะ ตั้งแต่นี้ไปคุณคือน้องสาวของดิฉันค่ะ และเพื่อดูแลความปลอดภัยและสุขภาพร่างกายคุณ จากนี้ไปดิฉันจะมาอยู่ที่บ้านแห่งนี้ด้วยค่ะ”
แค่ได้ยินแบบนี้ผมก็ถึงกับชะงักไปชั่วขณะ นี่มันอะไรกัน ที่โรงเรียนก็เจอสาวสวยสองคนมายุ่งวุ่นวายจนแทบไม่ได้พักผ่อน พอกลับบ้านมาก็ยังมีคุณเลขาจอมเฮี๊ยบจับตามองอีก ชีวิตผมมันจะสงบสุขไหมเนี่ยยยย
“จะดีเหรอครับ แบบนี้มันจะไม่เป็นการรบกวนมากไปเหรอ”
“ไม่หรอกค่ะ นี่ก็เป็นส่วนหนึ่งของการวิจัยและการรับผิดชอบ”
“แต่ว่าผมเป็นผู้ชายนะ”
ผมพยายามเถียงสู้กลับแต่ก็สะดุ้งเมื่อเจอสายตาดุส่งกลับมา
“แต่ตอนนี้เป็นผู้หญิงนี่คะ”
“แต่ยังไงมันก็…ไม่สบายใจอยู่ดีน่ะครับ!”
“ไม่ต้องกังวลค่ะ ดิฉันมีประสบการณ์ดูแลสุขภาพและชีวิตส่วนตัวอย่างมืออาชีพ คุณจะได้รับการดูแลอย่างดี ราวกับเป็น…ตุ๊กตาตัวน้อยของดิฉันเลยล่ะค่ะ”
คำพูดฟังดูชวนใจเต้น แต่สีหน้าที่นิ่งและน้ำเสียงที่ไร้ซึ่งอารมณ์นั้นทำให้มันไม่ได้ดูเบาใจได้เลยสำหรับคำพูดของเธอ
“แหม ๆ ผมเข้าใจคุณอยู่นะคุณฟ้า แต่ว่าการมีครอบครัวอยู่ด้วยมันง่ายกว่าเวลาที่มีใครมาถามหาประวัติคุณ พอมีคนที่ยืนยันให้ได้มันจะได้น่าสงสัยน้อยลงไงล่ะครับ”
“มันก็จริง.. แต่เอ่อ แบบนี้มันออกจะ….”
“ไม่ต้องกังวลอะไรทั้งนั้นค่ะ…คุณน้องสาว”
“นี่สนุกอยู่ใช่ไหมครับเนี่ย?”
“ไม่หรอกค่ะ ทั้งหมดก็แค่หน้าที่นั่นล่ะค่ะ คุณน้องสาว”
สนุกอยู่ชัวร์ ถึงหน้าจะนิ่งแบบไม่แสดงอารมณ์อะไร แต่แม่นางกำลังสนุกกับการแกล้งผมอย่างแน่นอน
“เห้ออ.. เข้าใจแล้วครับ เอ่อฝากตัวด้วยนะครับ คุณอีฟ”
“เรียกว่าพี่สาวสิค่ะ”
“ฝากตัวด้วยครับ…..พี่สาว”
“เป็นสาวเป็นนางควรพูดลงท้ายว่าค่ะ นะ ไม่งั้นความลับแตกจะทำอย่างไรคะ…น้องฟ้า”
อึ๋ยยยยยยยย
“เข้าใจแล้ว…ค่ะ”
“ดีมากค่ะ”
และแล้ว วันอันแสนวุ่นวายในการใช้ชีวิตในฐานะสาวน้อยสุดน่ารักของผมก็ยังคงดำเนินต่อไป วันนี้มันวุ่นวายมากแล้ว หวังว่าพรุ่งนี้มันจะสงบสุขนะ