ซวยจริง กลายเป็นสาวน้อยไม่พอยังเจอเหล่าเจ้าหญิงของโรงเรียนมาจีบอีก - ตอนที่ 35
เรื่องจริงใช่ไหมเนี่ย….. เมื่อวานนี้เราไม่ได้ฝันไปใช่ไหมนะ
“เฮ้อ…. เรื่องจริงใช่ไหมนะ”
ผมนั่งอยู่บนเตียง มือลูบแก้มข้างที่เมื่อคืนยังรู้สึกถึงสัมผัสอุ่นๆ จากริมฝีปากของคุณน้ำ ภาพเหตุการณ์เมื่อคืนยังคงวนเวียนอยู่ในหัว… เสียงหัวใจที่เต้นรัว แสงเทียนอ่อนๆ และคำพูดที่บอกว่าจะไม่มีวันปล่อยมือ
“งื้อออออออ”
คิดแล้วก็ได้แต่เขินกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่บนเตียงเพื่อกลบความเขินอาย ที่จริงสภาพแบบนี้ก็เป็นมาตั้งแต่เมื่อวานแล้วหลังจากที่คุณน้ำส่งผมกลับบ้าน
“คุณฟ้าคะ ไม่ทราบว่าจะกลิ้งตัวไปมาแล้วถอนหายใจแบบสาวน้อยช่างฝันไปถึงเมื่อไหร่เหรอคะ”
“มะ…ไม่ใช่สาวน้อยซะหน่อย”
“ถ้าหากคุณเรียกการกระทำอันแสนน่ารักนั่นไม่ใช่การกระทำของสาวน้อยแล้ว ดิฉันเกรงว่าบางทีดิฉันอาจเป็นผู้ชายโดยที่ไม่รู้ตัวเองแน่ ๆ ค่ะ”
“โถ่…พี่อีฟแซวเราอะ”
“แค่พูดไปตามสภาพที่เห็นเท่านั้นเอง”
คุณพี่สาวขยับแว่นหนึ่งทีก่อนจะกวาดตามองตัวผมที่นอนมุดอยู่ในผ้าห่มแล้วถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง
“แล้วนี่จะมุดไปถึงเมื่อไหร่เหรอคะ ไม่ใช่ว่าคุณเจ้าชายจะมารับตอนสาย ๆ เหรอคะ”
“อ๊ะ….ลืมเลย!!!”
มัวแต่เขินเรื่องเมื่อวานไปหน่อย ลืมแต่งตัวเลย…. พอคิดได้แบบนั้นก็รีบไปอาบน้ำแต่งตัวแล้วเตรียมใส่ชุดที่พี่อีฟเตรียมไว้ให้แต่ว่า….
“พี่อีฟ…แน่ใจนะว่าชุดนี้จะดีจริง ๆ”
“แน่สิคะ”
“มะ…มันไม่ เอ่อ ดูแปลกไปหน่อยเหรอ…”
ผมพูดเสียงอ่อย พลางมองเจ้าชุดที่อยู่ตรงหน้าอย่างเกร็ง ๆ เพราะถ้าบอกว่าชุดเมื่อวานสุดหวานว่าหนักแล้ว เจ้าชุดนี่มันหนักกว่าอีก….
“ไม่ค่ะ มองอย่างไรก็เข้ากับคุณฟ้าแน่ ๆ ถ้ายังเถียงอีก พี่สาวคนนี้จะเข้าไปแต่งให้แล้วนะคะ”
“ไม่ต้องนะ!! เราแต่งเองก็ได้ พี่อีฟไม่ต้องเข้ามาเลย”
แม้จะชินกับการเห็นร่างของตัวเองแล้วแต่การให้คนอื่นมาเห็นอย่างไรก็เป็นอะไรที่ยังไม่ชินและเขินอายอยู่ดี เพราะงั้นสุดท้ายก็เลยจำใจคว้าชุดตรงหน้ามาใส่
“แอบใส่ยากอยู่แหะ… เขาแต่งกันแบบนี้จริง ๆ งั้นเหรอ”
ผมมองชุดที่พี่อีฟเตรียมไว้ให้อย่างอึ้งๆ … เสื้อเชิ้ตสีขาวทรงหลวมตัวยาวทับด้วยคาร์ดิแกนถักสีดำ ที่ดูเหมือนจะใหญ่กว่าตัวไปนิด กระโปรงพลีทสีดำที่พองฟูแบบนี้… แต่นั่นยังไม่ใช่ประเด็น…
ประเด็นมันยังมีถุงน่องสีดำที่ต้องใส่คู่กันจนตัวเองมองแล้วก็ได้แต่อ้าปากค้างก่อนจะหันไปถามพี่อีฟแบบกล้า ๆ กลัว ๆ
“ตะ..ต้องใส่เจ้านี่จริง ๆ เหรอ”
“แน่นอนสิคะ หรืออยากเปิดโชว์ขาขาวล่ะคะ…ก็อาจเข้าดีนะคะ แต่ว่าแบบนี้น่าจะดีกว่าค่ะ”
“เปลี่ยนไปใส่กางเกงตอนนี้ทันไหมอะ”
“ให้ถามอีกครั้งค่ะ”
จู่ ๆ ใบหน้าที่นิ่งไร้อารมร์ก็ขยับแว่นหนึ่งทีก่อนจะมองเขม็งด้วยแววตาสุดน่ากลัวเข้าใส่จนตัวผมสะดุ้งโหยงและรีบก้มไปใส่เจ้าถุงน้องทันที
“มันจะไม่ขาดใช่ไหมนะ…..”
ระหว่างใส่ พอคิดว่าเจ้าถุงน่องนี้มันขาดแล้วเผยโชว์ขาขาวเนียนของตัวเองให้คนอื่นเห็นก็พลันทำเอาหน้าแดงขึ้นมาเพราะสภาพน่าอายนั่น
แต่วิบากกรรมการแต่งตัวมันยังไม่จบ เพราะที่ข้าง ๆ โต๊ะนั้น พี่อีฟยังเตรียมของอื่นเอาไว้รอให้อีกด้วย นั่นคือจี้หอยคอสีเงินกับโบว์สีดำน่ารักที่มองแล้วก็ได้แต่ถามว่า
“ต้องใส่จริง ๆ เหรอพี่อีฟ”
“ใส่ค่ะ”
“ตะ..แต่ไม่ใส่ก็ไม่น่าจะมีปัญ….อึย ใส่ก็ได้!!!”
กำลังจะเถียงไปแต่สุดท้ายก็เจอสายตาสังหารจ้องมาอีกที สภาพก็เหมือนหนูแฮมสเตอร์เจอกับหมาป่า สุดท้ายก็เลยยอมใส่ไปแต่โดยดี
พอแต่งองค์ทรงเครื่องทุกอย่างเรียบร้อย ตอนนั้นเองที่พี่อีฟก็เดินมาชมผลงานของตัวเองอย่างมีความสุข ถึงแม้ใบหน้าจะนิ่งสงบแต่ผมดูออกได้อย่างชัดเจนว่าเจ้แกพอใจในผลงานของตัวเองมาก ๆ
“แบบนี้ล่ะค่ะ ใช่เลย เหมาะกับคุณเจ้าชายอย่างแน่นอน”
ว่าแล้วคุณพี่สาวก็จับผมมาส่องกระจกเพื่อให้ชมผลงานของตัวเองอย่างมีความสุข และเมื่อมองภาพในกระจกนั้นสิ่งที่เห็นก็ทำเอารู้สึกหน้าแดงร้อนขึ้นมา
เด็กสาวในกระจกสวมชุดสีดำสนิท ผมยาวสีดำประบ่าถูกถูกติดโบว์ผูกผมสีดำที่ข้างหัวเสริมความน่ารักของใบหน้าเล็กๆ ที่ขาวผ่องซึ่งกำลังแดงระเรื่อด้วยความเขินอาย
เสื้อเชิ้ตสีขาวตัวหลวมกับคาร์ดิแกนถักสีดำช่วยพรางรูปร่างได้พอสมควร แต่กระโปรงพลีทสั้นที่พองฟูกับถุงน่องสีดำกลับทำให้ช่วงขายิ่งดูบอบบางขึ้น สร้อยสีเงินทำให้ลุคโดยรวมดูมีความน่าสนใจยิ่งกว่าเดิม
บรืนนนนนน
เสียงรถยนต์หลายคันแล่นเข้ามาในซอย ตามด้วยเสียงประตูรถเปิดปิดดังขึ้นพร้อมๆ กัน ผมแอบชะโงกมองลงไปจากหน้าต่างก็เห็นขบวนรถสีดำหรูหราจอดเรียงกันเป็นแถว ชายฉกรรจ์ในชุดสูทดำสวมแว่นกันแดดกว่าสิบคนลงจากรถมาตั้งแถวเป็นระเบียบ
“โอ้โห… อย่างกับในหนังเลย” ผมหันไปมองพี่อีฟด้วยสายตาตื่นๆ
จากนั้นประตูรถหรูสีดำคันตรงกลางก็เปิดออก…
คุณบีมสวมชุดสูทเซ็ตสีเบจที่ดูแพงและมีระดับ เสื้อเบลเซอร์ตัวสั้นแบบคร็อปที่ตัดเย็บพอดีตัว ปกเสื้อกว้างแบบคลาสสิก กระดุมสองแถวสีน้ำตาลเข้มที่ดูเข้ากันอย่างลงตัว ด้านในสวมเสื้อคอเต่าสีดำรัดรูปที่เน้นให้เห็นลำคอขาวนวลซึ่งสวมจี้ห้อยคอสีเงิน
กระโปรงทรงเอสั้นสีเบจแบบอสมมาตรที่มีดีไซน์พิเศษ ด้านหน้าพับทบเฉียงสวยงาม ถ้าจำไม่ผิดเหมือนจะเรียกว่า แวรพ สก๊อต (wrap skort) ด้วยความสั้นของกระโปรงเผยให้เห็นเรียวขายาวในบูทหนังสีดำ ทั้งชุดถูกตัดเย็บจากผ้าคุณภาพดีที่ทิ้งตัวสวย ทำให้ทุกการเคลื่อนไหวดูสง่างาม
“น่าจะบอกก่อนนะคะว่าจะมากันขนาดนี้…เพื่อนบ้านตกใจแน่ ๆ ” พี่อีฟส่ายหน้าเบาๆ
“ฟ้า มารับแล้วนะ” เสียงห้าวนุ่มของคุณบีมดังขึ้นจากด้านล่าง
“งะ…งั้นเราไปก่อนนะ พี่อีฟ” ผมหันไปบอกลาพี่อีฟ พยายามสะกดความประหม่าเอาไว้ ที่จริงแค่ไปเที่ยวกับคุณบีมก็ประหม่าแย่แล้ว แต่นี่เล่นยกพวกมันเป็นกองทัพเลยยิ่งประหม่ากว่าเก่า
“อย่าพลาดท่าโดนถ่วงอ่าวนะคะ…ที่เหลือก็ขอให้สนุกนะคะ” พี่อีฟยิ้มให้กำลังใจแต่ประโยคแรกนี่ไม่รู้ทำไมมันอย่างกับคำแช่งเสียเหลือเกิน
ทุกย่างก้าวลงบันไดมาผมรู้สึกเหมือนหัวใจจะหยุดเต้น… เมื่อเห็นว่าลูกน้องทุกคนก้มหัวให้พร้อมกันตอนที่ผมเดินผ่าน ส่วนคุณบีมที่ยืนรออยู่นั้น… ดวงตาคมเบิกกว้างขึ้นเล็กน้อยตอนที่เห็นผมในชุดวันนี้
“น่ารัก…” บีมเผลอพูดออกมาเบาๆ ก่อนจะรีบกระแอมกลบเกลื่อน ใบหน้าขึ้นสีเล็กน้อย “เอ่อ… วันนี้ฟ้าน่ารักมากเลยนะ”
“มะ…ไม่หรอก คุณบีมต่างหากที่ดูดีมาก ๆ เลย”
“ขอบคุณนะ แต่ดูแล้วเราก็เข้าคู่กันดีนะว่าไหม”
“งะ…งั้นเหรอ”
“เพิ่งเคยเห็นฟ้าใส่แบบนี้ครั้งแรกเลย ดูเหมาะดีนะ”
“ฝะ..ฝีมือพี่อีฟน่ะ”
“คงต้องขอบคุณ คุณพี่สาวแล้วสินะแต่ว่าได้เวลาแล้ว เราไปกันเถอะ”
คุณเจ้าชายเปิดประตูรถให้ผมอย่างสุภาพ ขณะที่ลูกน้องยังคงยืนก้มหัวเป็นระเบียบ… ผมได้แต่คิดในใจว่านี่มันเกินคาดไปไกลแล้ว อย่างกับหลุดเข้ามาในหนังมาเฟีย… ไม่สิ ไอ้ที่เราไปเที่ยวด้วยนี่มันมาเฟียจริง ๆ นี่หว่า
ระหว่างคิดเตลิด คุณบีมก็ยิ้มให้แล้วพูดออกมาด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยเสน่ห์เหลือจะเกินใครต้าน
“ไม่ต้องห่วงนะฟ้า เดี๋ยวเราไปเที่ยวกันแบบสบาย ๆ ฉันวางแผนไว้ให้หมดแล้วล่ะ”
แบบนี้มันเลยคำว่าสบายไปไกลหลายกิโลเมตรแล้วคุณบีมมมมมม