ซวยจริง กลายเป็นสาวน้อยไม่พอยังเจอเหล่าเจ้าหญิงของโรงเรียนมาจีบอีก - ตอนที่ 34
“นี่มัน…”
ผมอ้าปากค้างกับภาพตรงหน้า… ดาดฟ้าของห้างถูกตกแต่งด้วยแสงไฟระยิบระยับ โต๊ะไม้สีขาวถูกจัดวางอย่างสวยงามพร้อมเก้าอี้หรูสองตัว รายล้อมด้วยดอกกุหลาบสีขาวและแสงเทียนอ่อนๆ ที่ส่องสว่างเป็นระยะ
บรรยากาศโรแมนติกแบบนี้… คงเป็นความตั้งใจของคุณน้ำที่จะทำให้วันนี้พิเศษสุดๆ แน่ ๆ ผมรู้สึกประหม่าขึ้นมาทันทีกับบรรยากาศสุดแสนจะเต็มไปด้วยความปราถนาดีนี่
“ทางนี้ค่ะ”
คุณน้ำจูงมือผมไปที่โต๊ะ พนักงานในชุดสูทรีบเลื่อนเก้าอี้ให้เรานั่ง ผมทรุดตัวลงอย่างเกร็ง ๆ เพราะไม่เคยมาทานอาหารในที่หรูหราแบบนี้มาก่อน มือก็พยายามจัดกระโปรงลูกไม้ให้เรียบร้อย ในขณะที่หัวใจเต้นรัวด้วยความรู้สึกหลายอย่างที่ปะปนกัน
“สวยไหมคะ?” คุณน้ำถามพลางยิ้มอย่างอ่อนโยน “เราตั้งใจเลือกโต๊ะนี้เป็นพิเศษเลยนะคะ… เป็นจุดที่สามารถมองเห็นพระอาทิตย์ตกได้สวยที่สุด”
“สวยมากเลยค่ะ…”
ผมตอบเสียงแผ่ว มองวิวพระอาทิตย์ที่กำลังลาลับขอบฟ้า ย้อมท้องฟ้าให้เป็นสีส้มอมชมพูสวยงาม แสงสีส้มอ่อน ๆ นั่นสะท้อนเข้ากับผมสีทองของเธอจนเป็นประกายอ่อน ๆ จนผมไม่มั่นใจว่าสิ่งไหนที่สวยงามกว่ากัน ระหว่างทิวทัศน์หรือเด็กสาวตรงหน้า
คุณน้ำยิ้มกว้างด้วยความพอใจ “วันนี้เราเตรียมเมนูพิเศษไว้ให้ฟ้าด้วยนะคะ…. หวังว่าจะถูกใจนะ”
พนักงานเริ่มทยอยเสิร์ฟอาหารคอร์สแรก แต่ละจานถูกจัดแต่งอย่างประณีตราวกับงานศิลปะ หลาย ๆ อย่างนั้นผมเคยเห็นแค่เพียงในคลิปจากอินเตอร์เนตเท่านั้น ชีวิตนี้ไม่ฝันว่าจะได้สัมผัสกับมันด้วยตัวเอง
รสชาติสัมผัสของอาหารช่างสมกับเป็นร้านหรูบนห้างดังที่ราคาคงสูงประดุจทองคำ มันราวกับว่าร่างของผมนั้นกำลังลอยขึ้นไปในอากาศทว่าไม่ใช่แค่นั้น….
“รสชาติพวกนี้มัน….”
“ค่ะ ทั้งหมดปรุงมาเพื่อให้ถูกปากคุณฟ้าคนเดียวเลยนะคะ”
“ระ..เราคนเดียว”
“ใช่ค่ะ เราน่ะ สังเกตตลอดว่าคุณฟ้าชอบอะไร ปรุงเครื่องปรุงแบบไหน เลยบอกให้เชฟปรับอาหารที่เหมาะกับคุณฟ้าที่สุดค่ะ”
“คะ..คุณน้ำ”
ความรู้สึกอุ่นๆ แผ่ซ่านในอก… คุณเจ้าหญิงคอยดูแลและใส่ใจผมในทุกรายละเอียดแบบนี้เสมอ แต่ผมว่าตัวผมนั้นกลับรู้สึกว่าตัวเองนั้นได้รับความดูแลมากเกินไปจนรู้สึกว่าบางทีมันก็ไม่สมควรจะได้รับเท่าไหร่
“คุณน้ำนี่… สุดยอดไปเลยนะคะ” ผมพูดเบาๆ พยายามกลบเกลื่อนความสับสนในใจ
“ก็แค่อยากให้คุณฟ้ามีความสุขน่ะค่ะ” มือบางเอื้อมมาจับมือผมที่วางอยู่บนโต๊ะ “เวลาที่เห็นฟ้ายิ้ม… มันทำให้เรามีความสุขที่สุดเลย”
ผมได้แต่ก้มหน้างุด รู้สึกหน้าร้อนผ่าว… ทำไมกันนะ ทำไมหัวใจถึงได้เต้นแรงขนาดนี้ทุกครั้งที่อยู่กับเธอ?
“เอาล่ะค่ะ ทานข้าวกันดีกว่า เดี๋ยวอาหารจะเย็น” น้ำพูดพลางยกช้อนขึ้นมาในตอนที่ผมกำลังจะตอบกลับไป ช้อนนั่นมันใกล้ปากเพียงแค่เอื้อมเท่านั้น
“อ้ามมม… ให้เราป้อนไหมคะ?”
“คะ…คุณน้ำก็แกล้งกันอีกแล้ว!”
“ก็ใบหน้าคุณเวลาเขินอายมันน่ารักมาก ๆ เลยนี่นา”
เสียงหัวเราะใสของน้ำดังขึ้น ผสานกับแสงสีส้มของพระอาทิตย์ตกที่สาดส่องมา… ภาพตรงหน้าช่างสวยงามจนผมแทบลืมหายใจ
“วันนี้เป็นอย่างไรบ้างคะ สนุกไหม”
“อะ..อืม สนุกมาก ๆ เลยค่ะ ถึงจะไม่ชินกับเอ่อ…สถานที่เท่าไหร่ แต่ก็รู้สึกว่ามันสนุกจริง ๆ”
“งั้นเหรอคะ”
“ใช่ ทั้งขนมหวานตอนเช้าก็อร่อย ชาก็ด้วย ไหนยังช่วงที่ซื้อของด้วยกัน… นี่มัน…ครั้งแรกของเราเลยที่ได้ทำอะไรแบบนี้”
“ครั้งแรกเหรอคะ?” คุณน้ำเอียงคออย่างสงสัย คล้ายไม่ค่อยอยากเชื่อกับสิ่งที่ได้ยินสักเท่าไหร่นัก
“ทำไมงั้นเหรอคุณน้ำ”
“แปลกใจนิดหน่อยน่ะค่ะ”
“แปลกใจ?เรื่องอะไรงั้นเหรอ”
“เรื่องที่คุณฟ้าไม่เคยเที่ยวกับใครมาก่อนน่ะค่ะ” แววตาสีฟ้าทอประกายอย่างเป็นห่วงเป็นใยนั่นทำให้ผมต้องรีบพูดไปทันที
“กะ..ก็ไม่ได้ขนาดนั้นหรอกค่ะ มีเที่ยวกับพ่อแม่อยู่บ้างแต่ว่ากับเพื่อนเนี่ย เป็นครั้งแรกเลยนะคะ”
“น่าแปลกใจนะคะ คุณฟ้าทั้งน่ารักและเข้าหาง่ายขนาดนี้ เรานึกว่าตอนมอต้นจะมีเพื่อนมากมายซะอีกค่ะ”
“ตอนมอต้นงั้นเหรอ…”
เมื่อคุณน้ำพูดมาแบบนั้น ภาพความทรงจำหลาย ๆ อย่างมันก็วนเวียนเข้ามาในหัว ภาพของตัวเองที่โดดเดี่ยว ตัวเองที่ถูกกลั่นแกล้ง….ประสบการณ์เลวร้ายหลาย ๆ อย่างทำเอาผมก้มหน้าลงต่ำ
“ขะ..ขอโทษด้วยค่ะ ไม่ควรถามสินะคะ”
“มะ..ไม่หรอก คะ..แค่ว่า มันออกจะ..ไม่ใช่ประสบการณ์ที่ดีเท่าไหร่น่ะ”
แววตาของคุณน้ำเริ่มทอแววของความเห็นอกเห็นใจและความเป็นห่วงเป็นใย เพียงแค่มองก็พอแล้วที่จะทำให้จิตใจที่มืดหม่นนี้สว่างไสวขึ้นมา
“พอเล่าได้ไหมคะ เรายินดีรับฟังนะคะ”
“เรื่องนั้น…..”
จะให้เล่าอย่างงั้นเหรอ มันไม่ใช่เรื่องที่ควรเล่าในโต๊ะทานอาหารหรือในช่วงที่บรรยากาศกำลังดีแบบนี้เลยสักนิด และอีกอย่างเนื้อหาทั้งหลายนั้นมันก็ตอนที่ผมอยู่โรงเรียนชายล้วน จะให้เล่าออกไปหมดมันก็อย่างไรอยู่
ตอนนี้ผมกำลังรู้สึกได้ถึงบางอย่าง รู้สึกได้ถึงความรู้สึกผิดที่กำลังก่อตัวในใจ เพราะทั้งที่เด็กสาวที่อยู่ตรงหน้านั้นจริงอกจริงใจและเป็นห่วงผมถึงขนาดนี้ แต่ผมกลับไม่สามารถพูดความจริงอะไรกับเธอได้ มีแต่เก็บความลับ ซ่อนตัวเองไว้ใต้หน้ากากของเด็กสาวที่ชื่อว่าฟ้านี่…… มันไม่ยุติธรรมกับคุณน้ำจริง ๆ
“ที่จริงเราเองก็มีด้านเด็กไม่ดีอยู่นะคะคุณฟ้า”
“อ๊ะ…คุณน้ำหมายถึง?”
เด็กสาวผมทองตรงหน้าเงยหน้ามองท้องฟ้าที่เริ่มมืดลง ดวงตาสีฟ้าสะท้อนแสงไฟอ่อนๆ จากเทียนบนโต๊ะ ทำให้ผมเห็นแววตาที่อ่อนโยนแต่แฝงความเศร้าบางอย่าง
“หลายคนบอกว่าเราคือเจ้าหญิงที่สมบูรณ์แต่ว่าจริง ๆ แล้วไม่ใช่แบบนั้นหรอกค่ะ” คุณน้ำเสียงเบาลง “ตั้งแต่เด็กมา เรามีทุกอย่างที่อยากได้ จนบางทีก็แทบไม่รู้ว่าอะไรมันพิเศษกว่าอะไร… เหมือนทุกอย่างมันธรรมดาไปหมด…..และนั่นทำให้สิ่งที่สำคัญจริง ๆ กับเรามันมีเพียงแค่หยิบมือเท่านั้น”
คุณน้ำหยุดไปครู่หนึ่ง มือบางกำแก้วน้ำแน่นขึ้น ดวงตาสีฟ้าค่อย ๆ หม่นหมองลงจนผมสังเกตุเห็นได้
“กระทั่งวันที่เราเสียบางสิ่งที่สำคัญที่สุดไป… มันถึงทำให้เรารู้ว่า ความเจ็บปวดนั้นมันเป็นอย่างไร…. เราน่ะไม่อยากจะสูญเสียสิ่งสำคัญ…. ไม่อยากจะเจ็บปวดแบบนั้นอีกแล้วค่ะ…”
มือบางค่อย ๆ เคลื่อนมาสัมผัสที่มือของผมอย่างแผ่วเบา เธอจับมันอย่างทะนุถนอมราวกับมันเป็นสิ่งที่เปราะบางพร้อมที่จะแตกหักตลอดเวลาหากใส่แรงมากเกินไป
“เพราะฉะนั้นเราถึงได้หวงแหนและอยากปกป้องสิ่งสำคัญของเราค่ะ”
ผมมองเด็กสาวตรงหน้าอย่างตกใจ… นี่เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นด้านที่เปราะบางของคุณเจ้าหญิง ด้านที่ไม่เคยเปิดเผยให้ใครเห็น
“แบบนั้นเองงั้นเหรอคะ… “
“ใช่ค่ะ… บางทีเราก็รู้ว่าตัวเองหวงมากเกินไป.. เมื่อวานต้องขอโทษด้วยจริง ๆ ค่ะที่ทำให้ตกใจหรือกลัว แต่ว่า…” คุณน้ำจ้องตาผม ดวงตาสีฟ้าของเธอเริ่มทอประกายเจิดจ้าขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อมันสะท้อนภาพของเด็กสาวผมสีดำที่อยู่ตรงหน้า
“เราแค่ไม่อยากเสียคุณฟ้าไปเท่านั้นเองค่ะ”
“คุณน้ำ…” ผมรู้สึกได้ถึงมือที่สั่นเล็กน้อยของเธอ
“ขอโทษนะคะที่เราเป็นแบบนี้” คุณน้ำยิ้มเศร้าๆ “บางทีคุณฟ้าอาจจะรู้สึกอึดอัด…”
“ไม่หรอกค่ะ!” ผมรีบพูดขึ้น “ดีใจนะคะที่มีคนมาห่วงใยเราถึงขนาดนี้……แค่…เอ่อ แค่ไม่รู้ว่าจะรับมืออย่างไรก็เท่านั้นเอง เพราะนี่น่ะก็เป็นครั้งแรกของเราเลยที่มีคนมอบความรู้สึกแบบนี้กับเรา”
นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้เห็นด้านอ่อนไหวของคุณเจ้าหญิง… ด้านที่กลัวการสูญเสียจนต้องพยายามปกป้องสิ่งที่รักสุดหัวใจ แม้วันก่อนอาจจะบอกว่ามันน่ากลัวไปบ้าง แต่ต้องยอมรับว่าความปรารถนาดีที่เธอมอบให้ผมนั้นมันทำให้หัวใจดวงนี้อบอุ่น แต่ในขณะเดียวกันเองก็กังวล
กังวล… กังวลว่าความรู้สึกดีๆ เหล่านี้จะต้องพังทลายลงเมื่อความจริงถูกเปิดเผย
“เป็นอะไรไปคะคุณฟ้า?” คุณน้ำถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง มือบางของเธอบีบมือผมเบาๆ
“เปล่าค่ะ แค่…” ผมเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าที่เริ่มมืดสนิท ดาวดวงแรกเริ่มส่องแสงระยิบระยับ “แค่คิดว่าบางทีเราอาจจะไม่คู่ควรกับความรู้สึกดีๆ พวกนี้ก็ได้”
“ทำไมคิดแบบนั้นล่ะคะ?” คุณน้ำขมวดคิ้วน้อยๆ
“ก็…” ผมกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่แล้วก็ต้องกลืนคำพูดนั้นลงไป เพราะจะบอกได้อย่างไรว่าตัวตนที่แท้จริงของผมคือผู้ชายคนหนึ่ง… เป็นเด็กผู้ชายที่ไม่มีอะไรเลย…และก็ไม่ใช่เด็กสาวน่ารักที่เธอคนนี้คอยเป็นห่วงเป็นใย
“เราน่ะ…” ผมพูดเสียงสั่น มือกำชายกระโปรงแน่น ภาพในอดีตทั้งหลายค่อย ๆ ย้อนมาราวกับเป็นภาพหลอกหลอน “ไม่มีอะไรเลย ไม่สวย ไม่เก่ง ไม่มีอะไรพิเศษ… แถมยัง…”
ยังต้องโกหกคุณด้วย… คำพูดนั้นติดอยู่ในลำคอ ไม่อาจเอ่ยออกมาได้ ความจริงที่ซ่อนอยู่มันทำให้หัวใจปวดร้าวจนแทบทนไม่ไหว
“บางทีเราอาจกลัวก็ได้มั้งคะ” ผมพูดเสียงแผ่ว “กลัวว่าสักวันหนึ่งวันเวลาที่เหมือนความฝันนี่อาจจะสลายไปเหมือนกับภาพลวงตา… เพราะความจริงแล้ว เราอาจจะไม่ใช่คนที่คุณน้ำคิด”
“คุณฟ้าคิดมากเกินไปแล้วค่ะ” คุณน้ำลุกขึ้นจากเก้าอี้ เดินมาโอบกอดผมจากด้านหลัง กลิ่นหอมอ่อนๆ ของเธอเอื้อมมาแตะจมูก พร้อมกับไออุ่นที่แผ่ซ่านผ่านเสื้อบาง
“แต่ว่า…”
“ไม่มีแต่ค่ะ” เธอกระซิบข้างหู น้ำเสียงหวานละมุนทำเอาหัวใจเต้นรัว “สำหรับเรา คุณฟ้ายังไงก็คือคุณฟ้า… คนที่ทำให้หัวใจของเราเต้นแรงแบบนี้”
มือเรียวของเธอค่อยๆ ดึงศีรษะผมแนบกับอก ในความเงียบของราตรีที่กำลังย่างเข้ามา เสียงหัวใจของเธอดังชัดเจนราวกับเพลงรักบทหนึ่ง
“เสียงที่ได้ยินนี่… มันเต้นแบบนี้เพราะคุณฟ้าคนเดียวเท่านั้น ไม่ว่าคุณฟ้าจะเป็นใคร จะเป็นยังไง หัวใจดวงนี้ก็จะเต้นแบบนี้เสมอ”
ผมยิ้มออกมา รู้สึกราวกับภาพในอดีตอันดำมืดได้ถูกแสงสว่างสาดส่องจนเลือนหาย มีเพียงแค่รอยยิ้มและสัมผัสอ่อนโยนของเธอที่กำลังซึมซาบเข้าไปในความทรงจำ
“ยังคิดว่านี่เป็นภาพลวงตาอยู่ไหมคะ?”
ผมหลับตาลง ปล่อยให้ตัวเองดื่มด่ำกับจังหวะการเต้นของหัวใจที่สื่อถึงความรักอันบริสุทธิ์ จนความกลัวและความสงสัยทั้งหมดค่อยๆ สลายไป
“ไม่แล้วค่ะ” ผมกระซิบตอบ “เพราะสัมผัสและความรู้สึกทั้งหมดนี้… มันจริงเกินกว่าจะเป็นแค่ภาพลวงตา”
แสงดาวพราวระยับบนท้องฟ้ายามค่ำคืนสาดส่องลงมา ผสานกับแสงเทียนอ่อนๆ บนโต๊ะ ทำให้ช่วงเวลานี้งดงามราวกับภาพวาด ผมซบนิ่งอยู่ในอ้อมกอดของเธอ ปล่อยให้หัวใจเต้นตามจังหวะเดียวกัน
“ขอโทษนะคะคุณฟ้า”
จู่ๆ คุณน้ำก็ผละออก ก่อนจะเดินอ้อมมาหยุดตรงหน้าผม เธอก้มลงมาช้าๆ ริมฝีปากอุ่นๆ แตะลงเบาๆ ที่แก้มของผม… สัมผัสนุ่มนวลที่ทำเอาหัวใจแทบหยุดเต้น
“นี่คือความจริงนะคะ” เธอกระซิบเบาๆ พร้อมรอยยิ้มหวาน ใบหน้าแดงระเรื่อเล็กน้อยใต้แสงเทียน
ในวินาทีนี้ ความกังวลทั้งหมดถูกกลืนหายไปในความมืด เหลือเพียงความสุขและความอบอุ่นที่แผ่ซ่านอยู่ในใจ… พร้อมกับความรู้สึกใหม่ที่กำลังผลิบานในหัวใจ