ช้าก่อนคุณป๋อ! ครั้งนี้ขอเป็นรักสุดท้าย - ตอนที่ 729 อย่ามาประชดเพื่อยั่วประสาทกันนะ / ตอนที่ 730 เข้าส้วมหลุม
- Home
- ช้าก่อนคุณป๋อ! ครั้งนี้ขอเป็นรักสุดท้าย
- ตอนที่ 729 อย่ามาประชดเพื่อยั่วประสาทกันนะ / ตอนที่ 730 เข้าส้วมหลุม
ตอนที่ 729 อย่ามาประชดเพื่อยั่วประสาทกันนะ
เฉินฝานซิงกรีดยิ้มเย็น สามีภรรยาคู่นี้มีใช้โทรจิตเชื่อมถึงกันรึไงนะ
“มีอะไร” เฉินฝานซิงรับโทรศัพท์
“คืนนี้ฉันจะเข้าสกุลซูแล้ว พี่ กลับมาเถอะนะคะ” น้ำเสียงนั้นอัดแน่นไปด้วยความยั่วยุ เห็นได้ชัดว่าตอนนี้เฉินเชียนโหรวอยู่ตัวคนเดียว
“เธอคิดว่าจะเป็นไปได้เหรอ” เฉินฝานซิงยิ้มหยัน
“เธอไม่คิดอะไรกับซูเหิงแล้วนี่ เธอกลัวอะไรล่ะ”
“อย่ามาประชดเพื่อยั่วประสาทกันนะ ฉันน่ะไม่มีอะไรให้กลัวหรอก แค่ไม่อยากเห็นขี้หน้าพวกเธอสองตระกูลก็เท่านั้น รู้ทั้งว่ามันเป็นส้วมหลุม หากฉันยังเหยียบเข้าไปอีก ไม่เท่ากับบ้าแล้วงั้นเหรอ”
คำพูดของเฉินฝานซิงทำเอาเฉินเชียนโหรวโมโหจนกัดฟันกรอด “เฉินฝานซิง แก…แกได้ใจไปเถอะ สักวันแกจะต้องน้ำตาเช็ดหัวเข่า!”
เฉินฝานซิงเงียบลงไปชั่วขณะ
เฉินเชียนโหรวพลันตีคิ้วขมวด “ทำไมไม่พูด”
“…ฉันกำลังคิดอยู่ว่า ฉันจะควรเข้าไปชื่นชมดีรึเปล่า ว่าคืนนี้เธอจะหน้าชื่นตาบานสักแค่ไหนแบบไหน”
“หึ…” เฉินเชียนโหรวขำเยาะ “สรุปว่า คืนนี้เธอคิดจะมา”
เฉินฝานซิงครุ่นคิด “ไม่ละ ฉันบอกไปแล้วว่ามันเป็นส้วมหลุม…”
“พรืด…”
ความเจ้าเล่ห์ของเฉินฝานซิงที่ยากจะได้เห็นเช่นนี้ ทำเอาสวี่ชิงจือที่กำลังจดจ่ออยู่กับนิตยาสารงานแต่งอยู่ข้างๆ กันพลันหลุดขำออกมา เฉินฝานซิงช้อนตาขึ้นมองเธอ พร้อมที่หรี่ดวงตาให้เล็กลง
ไม่รอฟังว่าเฉินเชียนโหรวจะพูดอะไรต่อ จากนั้นเฉินฝานซิงก็กดตัดสายไป
“อะไร” เฉินฝานซิงโยนมือถือไปอีกฝั่ง
รอยยิ้มบนใบหน้าของสวี่ชิงจือไม่จางไป เธอทำเสียงจุ๊ๆ อย่างชื่นชม “ผู้หญิงอินเลิฟคนนี้เปลี่ยนไปแล้ว แสบขึ้นทุกวันนะเธอเนี่ย พอมีผู้ชายคอยหนุนหลัง ก็พูดจาอย่างกับพวกนักเลงอย่างงั้นแหละ หืม?”
เฉินฝานซิงเองก็ไม่ปฏิเสธ “เธอเองก็ใช่ว่าจะไม่มีแฟน”
ใบหน้าของสวี่ชิงจือแข็งทื่อลง เธอยิ้มจางๆ แล้วก้มหน้าลงมองนิตยสารในมือใหม่อีกครั้ง
-
กลับจากบ้านของสวี่ชิงจือมายังบริษัท หลังจากที่จัดการกับเองสารหลายฉบับของเมื่อวันนั้นเสร็จ ก็เลยเวลาเลิกงานไปแล้ว
ขณะที่ออกจากบริษัท สวี่ชิงจือก็ได้โทรมาปรึกษาว่าดอกกุหลาบในงานแต่งควรใช้เป็นเป็นสีแดง สีขาว หรือแชมเปญโรสดี เฉินฝานซิงจึงเดินไปพลางพูดขึ้นอย่างครุ่นคิดว่า
“พอคิดไปถึงแสงไฟในงาน ไหนจะโทนสีที่ตกแต่งทั้งงานแล้วอีก สีแดงมันจะดูโดดไปหน่อย แถมยังดูฉาบฉวยและอาจจะดูไร้รสนิยมด้วย หากเป็นสีขาว…มันก็อาจจะไปกลืนกับชุดเจ้าสาวและการตกแต่งในงานของเธออีก แชมเปญโรสเถอะ เหมาะสมพอดี…”
“โอเค ฉันเชื่อเธอ งั้นก็เอาเป็นแชมเปญโรส!”
เฉินฝานซิงระอาใจ “เรื่องแบบนี้ เธอยังต้องจัดการด้วยตัวเองอีกเหรอ ชิงจือ วันนั้นเธอควรจะเป็นแค่เจ้าสาวที่สวยที่สุดเท่านั้นนะ…สกุลหลีจะปฏิบัติต่อเธออย่างไม่ยุติธรรมในสถานที่แบบนี้…”
“อื้ม...ก็ชีวิตหนึ่งฉันมีงานแต่งแบบนี้แค่ครั้งเดียวนี่นา ให้คนอื่นคิดให้ ฉันก็ไม่วางใจอีก…หากพอถึงตอนนั้นเกิดรู้สึกไม่พอใจขึ้นมาทีหลัง สู้ฉันจัดการด้วยตัวเองตั้งแต่ต้นยังดีซะกว่า อีกอย่างฉันก็มีความสุขที่จะทำเรื่องพวกนี้…”
เฉินฝานซิงผ่อนลมหายใจแผ่วออกมาเฮือกหนึ่ง “แต่ตอนนี้เธอกำลังท้องกำลังไส้ อย่าฝืนเกินไปล่ะ สุขภาพของตัวเองสำคัญที่สุด!”
“อืม เข้าใจแล้วล่ะ!”
“ยังมีตรงไหนไม่เข้าใจ ฉันจะช่วยเธอศึกษาอีกที…”
เฉินฝานซิงก้าวเท้าออกจากตึกสูงตระหง่าน ขณะที่กำลังจะเดินไปเปิดรถที่ลานจอดรถ รถยนต์แสนคุ้นตาคันหนึ่งก็ได้เคลื่อนตัวมาจอดลงตรงหน้าเธอ
หน้าต่างตรงเบาะหลังลดต่ำลง ภาพที่ปรากฏออกมานั่นก็คือใบหน้าอันเคร่งขรึมของเจียงหรงหรง
เฉินฝานซิงหันขวับมาทันที นัยน์ตาสุกใสเต็มไปด้วยความเย็นชาและเหลืออด
“คุณมาทำอะไรที่นี่”
“ขึ้นรถซะ คืนนี้ส่งเชียนโหรวเข้าสกุลซู”
ตอนที่ 730 เข้าส้วมหลุม
“ขึ้นรถซะ คืนนี้ส่งเชียนโหรวเข้าสกุลซู”
“ไม่ได้ตกลงว่าจะไป”
“จองหอง! อย่าทำเป็นไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี หากไม่ใช่เพราะเฉินเชียนโหรวคิดแต่จะไว้หน้าแกให้ได้ แกคิดเหรอว่าแกจะได้มีโอกาสนี้!”
เฉินฝานซิงขำเยาะ “ช่างเป็นเกียรติจริงๆ”
เจียงหรงหรงพ่นหายใจต่ำ “ต่อให้ไม่ยอมยังไง แกก็ต้องไว้หน้าฉันบ้าง”
“ฝานซิง เป็นไรไป ใช่ย่าเธอรึเปล่า…”
“ไม่มีอะไร เธอพักผ่อนก่อนเถอะ ฉันวางก่อนละ!”
“นี่…”
หลังจากที่วางสายโทรศัพท์ลง เฉินฝานซิงก็ลู่สายตาลงมองเจียงหรงหรงในรถไปวูบหนึ่ง หลังจากที่เงียบไปสักพัก สุดท้ายเธอก็เปิดประตูรถออกแล้วขึ้นรถไป
“ไปเถอะ”
ไม่เข้าใจว่าทำไมจู่ๆ เฉินฝานซิงถึงได้เปลี่ยนใจได้ไวขนาดนี้ เจียงหรงหรงจึงเริ่มไม่สบายใจขึ้นมาอีกครั้ง
“ฉันขอเตือนแกไว้ก่อนนะ ครั้งนี้เป็นเพราะความใจดีของเฉินเชียนโหรวล้วนๆ ถึงตอนนั้นแกอย่าได้ทำอะไรแผลงๆ ขึ้นมาเด็ดขาด!”
เฉินฝานซิงเอ่ยตอบอย่างเยือกเย็น “ในเมื่อไม่สบายใจขนาดนี้ งั้นฉันไม่ต้องไปแล้ว?”
เจียงหรงหรงที่อยู่ข้างหลังจ้องมองมายังเธออย่างดุดัน ก่อนที่หลังจากนั้นเสียงเย็นจะออกคำสั่งให้คนขับรถออกรถ
บ้านสกุลซู ดูจากเนื้อที่ที่คฤหาสน์ยึดครอง ก็นับได้ว่าใช่คฤหาสน์หลังเล็กๆ เลย
มันเพิ่งจะได้รับการปรับปรุงใหม่ไปเมื่อไม่กี่ปีมานี้ พื้นที่เขียวชอุ่มถูกออกแบบสไตล์ยุโรป ราวกับเป็นปราสาทแบบคลาสสิค
รถยนต์คันหรูจำนวนไม่น้อยจอดอยู่ตรงหน้าประตู เห็นได้ชัดว่าบรรดาญาติๆ และเพื่อนฝูงมาถึงกันมาบ้างแล้ว
ในตอนนี้เสียงหัวเราะอันครื้นเครงภายในตัวคฤหาสน์ ย้ำเตือนว่าวันนี้เป็นวันที่มีความสุขมากแค่ไหน
หลังจากที่เฉินฝานซิงลงมาจากรถ รถคันหลังที่เฉินเชียนโหรวนั่งมาก็ค่อยๆ จอดสนิทลง
ผ้าปิดแผลของหยางลี่เวยถูกดึงออกไป รอยแผลตรงดวงตาและริมฝีปากถูกปกปิดไว้ด้วยเครื่องสำอาง แต่ทว่าก็ยังดูขัดตาอยู่บ้างเล็กน้อย
วันนี้เฉินเชียนโหรวอยู่ในชุดสีแดงตลอดตัว ผมยาวถูกเกล้าเอาไว้ มุกหลายเม็ดถูกประดับลงไปบนนั้น เสื้อผ้าดูอ่อนโยนและเพียบพร้อมไปด้วยคุณธรรม
“อ่ายโย บ้านเจ้าสาวพาสะใภ้มาส่งแล้วค่ะ!”
เมื่อบ่าวรับใช้ที่รับหน้าที่เฝ้าดูแขกอยู่ตรงหน้าประตู เห็นเข้ากับคนของสกุลเฉิน ก็ร้องแรกแหกกระเชอเข้ามายังด้านใน
เสียงสรวลเสเฮฮาภายในคฤหาสน์เงียบลงในทันใด ไม่นาน ต่างคนก็ต่างทยอยเดินกันออกมายังหน้าประตูคฤหาสน์
จากทางเข้าไปตลอดจนถึงประตูคฤหาสน์ ถูกปูไปด้วยพรมสีแดงผืนยาว เห็นทีสกุลซูจะให้ความสำคัญและพอใจในการสู่ขอเฉินเชียนโหรวเข้าตระกูลมาได้เป็นอย่างมาก
ซูเหิงเดินนำออกมาก่อน เมื่อเห็นเฉินฝานซิง นัยน์ตาของเขาก็พลันพราวไปด้วยความประหลาดใจ
ทว่าเฉินฝานซิงกลับทำแค่เลิกคิ้วขึ้น เธอยืนอยู่ตรงนั้นโดยไม่แม้จะปลายตามองเขา
“พี่เหิง...”
เฉินเชียนโหรวหงุดหงิดที่สายตาของซูเหิงหันไปให้ความสนใจกับเฉินฝานซิงก่อนใคร จนร้องเรียกเขาออกมาอย่างอดไม่ได้
ซูเหิงละสายตากลับมา หันมาส่งยิ้มให้เธอ ก่อนจะหันไปทักทายกับเจียงหรงหรง เฉินเต๋อฝาน และหยางลี่เวย
โดยใช้คำเรียกแทนว่า คุณย่า คุณพ่อ และคุณแม่อย่างเป็นธรรมชาติ
“โย ปล่อยให้บ้านลูกสะใภ้ต้องรอซะแล้ว มาๆ มา รีบเข้าไปในบ้าน”
แม้ว่าเพราะเรื่องสินเดิมของเฉินเชียนโหรวก่อนหน้านี้ ไช่จิ้งอี๋จึงรู้สึกหงุดหงิดในใจอยู่เล็กน้อย ทว่าสินเดิมที่จัดสรรใหม่ก็พอไปได้ ถึงอย่างไรเธอก็ถูกชะตากับเฉินเชียนโหรว
ทว่าก่อนจะเข้าไป เมื่อได้เห็นว่าเฉินฝานซิงเองก็อยู่ตรงนั้นด้วย รสชาติบางอย่างที่ยากจะบรรยายก็ผุดขึ้นหัวใจของเธอ
โดยรวมแล้วมันก็คือความรู้สึกอึดอัด
หากไม่มีเชียนโหรว สะใภ้ของสกุลซูก็คือเธอ
รู้ทั้งรู้ว่าความสัมพันธ์ของเธอกับเฉินเชียนโหรวเป็นอย่างไร ครั้งนี้เธอก็ดันอยู่ด้วย มันช่าง…
ทำเอาใจเธออยู่ไม่สุข
เฉินเชียนโหรวคล้องแขนของซูเหิงเดินเข้าไปท่ามกลางบรรดาญาติๆ เฉินฝานซิงที่เดินตามหลังไปก็สงบนิ่งไม่พูดจา
จนกระทั่งเข้าไปยังห้องรับแขกในคฤหาสน์หลังงามนั้นแล้ว ญาติๆ ทุกคนต่างก็ตีวงเข้ามาห้อมล้อมรอบตัวเธอ