ช้าก่อนคุณป๋อ! ครั้งนี้ขอเป็นรักสุดท้าย - ตอนที่ 721 ต้องการให้อยู่เป็นเพื่อนไหมคะ / ตอนที่ 722 ลูกค้า
- Home
- ช้าก่อนคุณป๋อ! ครั้งนี้ขอเป็นรักสุดท้าย
- ตอนที่ 721 ต้องการให้อยู่เป็นเพื่อนไหมคะ / ตอนที่ 722 ลูกค้า
ตอนที่ 721 ต้องการให้อยู่เป็นเพื่อนไหมคะ
ป๊อก ป๊อก ฝาเหล้าทั้งสองขวดถูกเปิดออก
ก่อนจะเทให้กับทุกคนตรงนั้นกันคนละแก้ว แล้วหันมาเทให้ตัวเองไปหนึ่งแก้ว จากนั้นจึงยกมันขึ้นมาแล้วกล่าวกับอินรุ่ยเจวี๋ยด้วยรอยยิ้มว่า
“สุขสันต์วันเกิดนะคะคุณชายอิน”
อินรุ่ยเจวี๋ยไปไม่ถูกเล็กน้อย เยี่ยชิงชิวกระตุกยิ้มจางๆ เธอเชิดหน้าขึ้นกระดกดื่มเหล้าในแก้วนั้นจนไม่เหลือสักหยด
จากนั้น เธอยังไม่ได้วางแก้วใสในมือลง ทว่ากลับนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะหันไปพูดกับอินรุ่ยเจวี๋ยต่อว่า
“คุณชายอิน ต้องการให้อยู่เป็นเพื่อนไหมคะ”
เมื่อคำพูดนั้นหลุดออกมา ทั้งห้องก็ตกอยู่ในความเงียบสงัดอีกครั้ง
ท่ามกลางความมืด นัยน์ตาของลี่ถิงเซินหดเล็กลงทันใด
ขณะที่อินรุ่ยเจวี๋ยตกอยู่ในความตะลึง เขาก็ยังพอที่จะดึงสติกลับมาได้ สายตากวาดมองไปยังลี่ถิงเซินที่อยู่ในมุมมืด พบว่าเขาไม่แม้แต่จะไหวติง เดาไม่ออกว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่กันแน่
ในตอนนั้นเองเยี่ยชิงชิวก็ได้เดินอ้อมโต๊ะตัวนั้นไป นั่งลงข้างกายของอินรุ่ยเจวี๋ย เธอเทเหล้าให้ตัวเองพลางเอ่ยขึ้นว่า
“วันเกิดคุณชายอินทั้งที ควรมีใครสักคนคอยอยู่เคียงข้างนะคะ ให้เป็นฉันเอง หรือจะให้ฉันไปหาคนอื่นให้คุณกับเพื่อนๆ คุณดีคะ”
หนังตาของอินรุ่ยเจี๋ยกระตุกวูบ “เยี่ยชิงชิว…”
“คุณชายอิน ที่นี่ไม่มีคนชื่อนี้ค่ะ มีแค่หมิงเยียน”
“หมิงเยียน?” อินรุ่นเจี๋ยฉงน
“ฉายา…ของฉันเองค่ะ” เยี่ยชิงชิวอธิบายอย่างสบายใจ
อุณหภูมิในห้องลดต่ำลงอย่างน่าประหลาด ความเย็นกัดกินขั้วกระดูกแผ่ขยายออกมาจากมุมหนึ่ง จนแทบจะแช่อากาศให้กลายเป็นน้ำแข็ง
“เธออยู่ที่นี่…” อินรุ่นเจวี๋ยกลืนน้ำลายไปเฮือกหนึ่ง ด้วยความระมัดระวัง
“เชียร์เบียร์ค่ะ คุณชายอิน คุณอย่าได้เข้าใจผิดเชียว”
เชียร์เบียร์มีอะไรให้น่าเข้าใจผิด สมัยนี้เชียร์เบียร์กับนั่งดริ๊งค์มันความหมายเดียวกันไม่ใช่รึไง
“คุณชายอิน เกรงว่าเหล้าสองขวดไม่น่าจะพอนะคะ ให้ฉันเอามาเพิ่มให้ไหม”
ตอนนี้อินรุ่ยเจวี๋ยยากจะลงจากหลังเสือ ถึงอย่างไรเยี่ยชิงชิวก็ถือว่าเป็นคนเคยรู้จักกัน อย่างไรก็ต้องไว้หน้ากันสักหน่อย แต่ที่มานั่งข้างๆ ตรงนี้…
ปลายหางตาหรี่มองไปยังชายหนุ่มตรงมุมห้องวูบหนึ่ง เยี่ยชิงชิวกลับคว้าแขนของอินรุ่ยเจวี๋ยเอาไว้ แล้วพูดเองเออเองว่า
“เปิดอีกสักสิบขวดดีไหมคะ”
เสียงละมุนดังขึ้นตรงใบหูของเขาพอดี เสียงสั่นเครือตรงช่วงท้ายฟังออกได้อย่างชัดเจน แม้แต่ลมหายใจแผ่วๆ ก็ยังเป่ารดลงมาบนแก้มของเขา
หัวใจของอินรุ่ยเจวี๋ยกระตุกวูบ น้ำเสียงนั้นไร้ซึ่งจริตมารยาแต่อย่างใด ทว่ากลับประทับลงในจิตใจคนฟังได้
อินรุ่ยเจวี๋ยเองก็หาใช่พวกธรรมะธรรมโมอะไร ตั้งแต่สมัยเรียน ซุปเปอร์คาร์ของเขาแทบจะไม่เคยขาดสาวๆ เลย
หรือจะให้พูดตามตรงก็คือ เขาเองก็เคยควงผู้หญิงมาแล้วไม่น้อย
เรื่องผู้หญิงแบบนี้ เขาเองก็ไม่เคยคิดที่จะหักอกหักใจหรือทำร้ายจิตใจตัวเองสักครั้ง
เยี่ยชิงชิวเองก็สวยเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว นิสัยก็ไม่เหมือนกับผู้หญิงคนอื่นๆ บอบบางทว่าแฝงไปด้วยความเอาแต่ใจ ท่าทีอ่อนแอ เข้มแข็งและเย่อหยิ่งเช่นนั้น เป็นสิ่งที่ดึงดูดสายตาชายหนุ่มได้มากที่สุด
เมื่อนึกไปถึงสมัยเรียน เธอเองก็เป็นหนึ่งในผู้หญิงที่เขาหวังจะได้เชยชมคนหนึ่งเช่นกัน
เดิมก็เคยคิดไว้อยู่แล้ว ตอนนี้ดันได้มาอยู่ใกล้กันขนาด…
ทว่าเขาไม่ได้ดีใจเลยแม้แต่น้อย แต่กลับขนลุกชันไปทั้งตัว
ผู้หญิงคนนี้คิดจะฆ่าเขารึไง
ขืนเป็นเช่นนี้ต่อไป ไม่ช้าก็เร็วเขาคงได้ถูกสายตาดั่งห้าม้าแยกศพนั้น[1]ฉีกจนร่างกระจุยเป็นหมื่นชิ้นแน่
สายตาเหลือบมองไปยังมุมมุมหนึ่งอีกครั้ง แต่ครั้งนี้กลับได้พบว่า นัยน์ตาเรียวเหี้ยมโหดคู่นั้นช้อนขึ้นมาตั้งแต่ตอนไหนแล้วก็ไม่รู้ ในตอนนี้ความเยือกเย็นอย่างแท้จริงกำลังจดจ้องมายังเขา
อินรุ่ยเจวี๋ยชาวาบไปทั้งหนังศีรษะ เขารีบมุดร่างเข้าหาโซฟา เพื่อหนีห่างจากเยี่ยชิงชิว
“แล้ว…แล้วแต่คุณ”
ตอนที่ 722 ลูกค้า
เยี่ยชิงชิวระบายยิ้ม ก่อนจะกดกระดิ่งเรียกหาบริกรให้นำหลุยส์สิบสามขึ้นมาอีกสิบขวด
เธอนั่งดื่มข้างๆ อินรุ่ยเจวี๋ยมาแล้วสองแก้ว ขณะนี้ใบหน้าของเยี่ยชิงชิวเริ่มจะซับสีเลือดฝาด
เดิมก่อนหน้านี้เธอดื่มเหล้าไม่เป็น แค่แก้วเดียวก็เมาแล้วด้วยซ้ำไป
แม้ว่าตอนนี้จะดีขึ้นแล้ว ทว่าความแรงของเหล้า…
อาจเป็นเพราะแต่เดิมเธอไม่ใช่พวกคอแข็งอยู่แล้ว
ฝืนได้อย่างมากที่สุดก็แค่สองแก้ว
เธอดื่มเหล้าแล้วใบหน้าจะขึ้นสีแดงง่าย สมองที่มึนเมาด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์เองก็ขยายตัวจนปวดหนึบ
ใครๆ ก็บอกว่าคนที่ดื่มเหล้าแล้วหน้าแดงง่ายจะเมายาก ไม่รู้ว่าคำพูดเช่นนี้จะเป็นจริงหรือไม่
ทว่าทุกครั้งที่ดื่มเสร็จ กลับรู้สึกเหมือนตัวเองถึงขีดจำกัดไปเรียบร้อยแล้ว ศีรษะเองก็ปวดอย่างรุนแรง ทว่าความคิดกลับกระจ่างชัดขึ้นทุกชั่วขณะ
อินรุ่ยเจวี๋ยกำลังสนุกอยู่กับคนอื่นๆ เธอจึงเองตัวแนบอยู่กับโซฟาแล้วหันไปเสวนากับเฉินฝานซิง
ไม่ว่าจะเรื่องสัพเพเหระอะไร เธอก็เอามาเป็นหัวข้อสนทนาได้ทั้งนั้น
แม้ว่าเธอจะเป็นฝ่ายถามเสียส่วนใหญ่ เฉินฝานซิงก็จะคอยตอบคำถามเธออย่างเรียบๆ กลับมาหนึ่งประโยค
อินรุ่ยเจวี๋ยที่ดื่มมากไปหน่อยกลับมานั่งลงบนโซฟา เยี่ยชิงชิวขยับกลับมานั่งข้างๆ เขาอีกครั้ง
แล้วจัดการนำเหล้าที่วางอยู่อีกด้านหนึ่งส่งไปในมือของอินรุ่นเจวี๋ย
อินรุ่ยเจวี๋ยเข้าใจจุดประสงค์ของเยี่ยชิงชิวแล้ว เธอก็แค่ต้องการจะหาเงินเท่านั้นเอง
“เยี่ยชิงชิว คุณคิดจะกรอกเหล้าผมให้ตายเลยรึไง”
อินรุ่ยเจวี๋ยหันหน้าไปมองเธอ ผู้หญิงเลือดเย็นคนนี้
แม้จะย้ำไปหลายครั้งว่าตอนนี้เธอชื่อหมิงเยียน ทว่าไม่ว่าอย่างไรตอนนี้อินรุ่นเจวี๋ยก็แก้ความชินปากของตัวเองไม่ได้แล้ว เยี่ยชิงชิวจึงปล่อยเขาไปเช่นนั้น
“คุณชายอิน หากมีคนดื่มจนตายคาร้าน ยังไงฉันก็ต้องรับผิดชอบค่ะ ฉันหนีความรับผิดชอบไม่ได้หรอกนะคะ ฉันขี้ขลาดแบบนั้นเสียที่ไหน”
หลอกลวง!
อินรุ่ยเจวี๋ยเบ้ปาก
ในโลกใบนี้ยังมีเรื่องที่เธอ เยี่ยชิงชิว ไม่กล้าทำอีกเหรอ
ทว่าเขาก็ไม่ได้ใส่ใจในเรื่องนี้มากนัก
จัดการนำเหล้าในมือกรอกเข้าปากไปนึ่งคำ จากนั้นจึงหันไปถามเธอว่า “คุณไม่มีเงินขนาดนั้นเลยเหรอ”
เยี่ยชิงชิวจิบเหล้าในมือไปอีกคำหนึ่ง ก่อนจะขำออกมาเบาๆ ไหล่ข้างหนึ่งค้ำลงไปบนโซฟา นัยน์ตาเมามายระเรื่อสีแดงเล็กน้อย กลับเพิ่มเสน่ห์ให้ดูขี้อาย
“ไม่มีสิ ถ้าไม่ต้องการเงินใครจะมาทำอะไรแบบนี้”
ความไม่สะทกสะท้านของเธอ ทำเอาทุกคนที่อยู่ตรงนั้นรับรู้ได้ว่า คนตรงหน้าคือ หมิงเยียนแห่งคฤหาสน์หมายเลขแปด ไม่ใช่เยี่ยชิงชิว
เยี่ยชิงชิวก่อนหน้านี้ ทำตามอำเภอใจได้ต่อหน้าคนอื่น ทุกคำพูดล้วนแล้วแต่ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของเธอ
ทว่าแค่เพียงต่อหน้าของลี่ถิงเซินคนเดียวเท่านั้น ที่ทำไม่ได้
อินรุ่ยเจวี๋ยเริ่มสงสัยอีกครั้ง เขาพบว่าตนไม่เคยเข้าใจผู้หญิงคนนี้ที่ชื่อว่าเยี่ยชิงชิวเลยตั้งแต่ต้น
“เยี่ยชิงชิว คุณยังจำได้อยู่ไหมว่าพวกเราเป็นใคร”
คำถามนี้ทำให้คนทั้งห้องวีไอพีเงียบกริบลงอีกครั้ง
ยังจำได้อยู่ไหมว่าพวกเขาเป็นใครงั้นเหรอ
คำถามที่เกี่ยวข้องถูกถามออกไป
แม้แต่เฉินฝานซิงเองก็ยังหันไปมองอินรุ่ยเจวี๋ย พร้อมกับหัวคิ้วที่ขมวดเข้าหากันน้อยๆ
ชายหนุ่มตรงมุมห้องเองก็ค่อยๆ ช้อนสายตาขึ้น มองตรงไปยังเธอภายใต้แสงไฟสลัว
เยี่ยชิงชิวกะพริบตาปริบๆ นัยน์ตาที่ขึ้นสีแดงจางๆ เสมองไปยังใบหน้าของอินรุ่ยเจวี๋ยรอบหนึ่ง
บรรยากาศในห้องเงียบสงัดจนหน้าแปลกใจ
จู่ๆ เยี่ยชิงชิวก็ขำเสียงเย็นขึ้นมาเสียงหนึ่ง น้ำเสียงละมุนเจือไปด้วยความประหลาดใจ
“ก็ต้องเป็นลูกค้าสิคะ”
“…”
บรรยากาศกลับเข้าสู่ความเงียบวังเวงอีกครั้ง
ตอนนี้ ในสายตาของเธอ พวกเขาไม่ใช่ทั้งเพื่อน ไม่ใช่ทั้งเพื่อนร่วมชั้น และไม่ใช่ทั้งคนรักเก่า เป็นแค่…ลูกค้าเท่านั้น
ทุกคนเองก็ไม่รู้ว่าเมื่อครู่นี้พวกเขาคาดหวังอะไรกันแน่ แต่ถึงอย่างไรคำตอบนี้ ก็เป็นคำตอบที่แย่ที่สุดเลย
ใบหน้าของเธอยิ่งเห่อร้อนเข้าไปทุกที เยี่ยชิงชิววางแก้วเหล้าลง เธอค่อยๆ หยัดกายลุกขึ้นแล้วพูดว่า
“ขอโทษทีนะคะ คุณชายอิน ฉันคงต้องขอตัวไปห้องน้ำสักหน่อย”
[1]ห้าม้าแยกศพ การประหารชีวิตสมัยโบราณ ที่ใช้ม้าห้าตัวดึงเชือกห้าเส้นที่ผูกกับอวัยวะต่างๆ ของนักโทษไว้ (หัว1 แขน2 ขา2)เพื่อให้มันขาดออกจากร่างกาย