ช้าก่อนคุณป๋อ! ครั้งนี้ขอเป็นรักสุดท้าย - ตอนที่ 533 คนไร้ยางอาย / ตอนที่ 534 ของประมูลลึกลับ
- Home
- ช้าก่อนคุณป๋อ! ครั้งนี้ขอเป็นรักสุดท้าย
- ตอนที่ 533 คนไร้ยางอาย / ตอนที่ 534 ของประมูลลึกลับ
ตอนที่ 533 คนไร้ยางอาย
ไฮไลท์สำคัญของงานเลี้ยงการกุศลคืนนี้ก็คือแขกผู้ที่มาร่วมงานจะให้ของติดตัวของตัวเองหรือเครื่องประดับอัญมณีมาประมูล เงินที่ได้จากการประมูลแน่นอนว่าต้องมอบให้กับองค์กรการกุศลทั้งหมด
นี่ถือเป็นงานเลี้ยงการกุศลที่มองข้ามไม่ได้เลยงานหนึ่ง แค่สถานะของคนที่มาร่วมงานเลี้ยงการกุศลครั้งนี้ก็ล้วนมาเพื่อหน้าตา ศักดิ์ศรี และมาดแห่งความสูงส่ง ต่างก็ไม่อาจยินยอมให้งานนี้ต้องจบลงด้วยเพียงราคาแค่ไม่กี่ล้านแน่
ไฮไลท์สำคัญอีกอย่างของงานเลี้ยงการกุศลคืนนี้ก็คือเจ้าภาพในการจัดงาน ทุกปีเจ้าภาพจัดงานจะต้องพยายามหาหนทางนำสิ่งของที่ดึงดูดความสนใจของผู้คนมาจัดประมูลให้ได้
ส่วนใหญ่ล้วนแต่เป็นของแชมป์ระดับโลกท่านใดท่านหนึ่ง หรืออาจจะเป็นอย่างอื่น
อย่างเช่น ก่อนหน้านี้เคยมีอัญมณีหินเรืองแสง เสื้อผ้าจากดีไซน์เนอร์ชั้นนำระดับโลก ภาพวาดของจิตรกรร่วมสมัยชื่อดัง ผลงานที่เป็นที่หมายตาและชื่นชอบของเหล่านักออกแบบอัญมณี
ส่วนงานเลี้ยง Red Carpet ในค่ำคืนนี้มีการประกาศข่าวประชาสัมพันธ์ออกไปตั้งนานแล้ว ประกาศใช้คำเพียงแค่หกคำก็ดึงดูดความสนใจของผู้คนได้โดยสิ้นเชิง
หนึ่งเดียว ลึกลับ หอมหวน
–
ณ โรงแรมผิงเฉิงตี้เหอ
งานเลี้ยงการกุศล Red Carpet ระดับสูง
เนื่องจากกลยุทธ์ในการประชาสัมพันธ์ที่ดูลึกลับของผู้จัดครั้งนี้ ทำให้ดึงดูดเหล่าสุภาพบุรุษและสุภาพสตรี กลุ่มคนวงศ์ตระกูลชั้นสูงมาร่วมได้ไม่น้อย
ซูเหิงเองก็พาเฉินเชียนโหรวมาร่วมงานเลี้ยงการกุศลค่ำคืนนี้เช่นกัน
นั่นคือครั้งแรกที่เธอปรากฏตัวสู่สาธารณชนหลังจากผ่านวิกฤต “ลอกผลงาน” ไป
หลังจากเกิดเรื่องขึ้นแล้ว เธอยังคงหมั่นช่วยงานการกุศลไม่หยุดหย่อน ซึ่งแน่นอนว่าทำให้คนจำนวนไม่น้อยให้อภัยเธอไปโดยปริยาย
ประกอบกับท้ายที่สุดแล้วหลินสื่อเจียยอมรับทุกอย่างเอง ทั้งยังไม่ได้ลากเฉินเชียนโหรวเข้าไปเกี่ยวพันด้วย ถึงกับให้เฉินเชียนโหรวอยู่ในตำแหน่งของผู้ที่ไม่รู้เรื่องอะไรด้วย สุดท้ายเฉินเชียนโหรวถูกหลอก และกลายเป็นผู้เสียหายในเรื่องนี้เช่นกัน
ถึงแม้จะไม่อาจให้อภัยเรื่องที่ผลงานต้นฉบับของจี้อี้ถูกขโมยได้ แต่ตอนนี้ ดูเหมือนจะมีผู้รับผิดครั้งนี้ไปแล้ว ทำให้เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเฉินเชียนโหรวผู้เป็นผู้เสียหายเช่นกันเท่าไรนัก ปัญหาครั้งนี้ถือว่าผ่านไปได้แล้ว
วันนี้เฉินเชียนโหรวยังคงแต่งตัวด้วยเดรสสีขาวราวกับเทพธิดา แต่งหน้าอ่อนๆ ให้ความรู้สึกที่ต่างออกไป
รอบตัวเธอยังคงมีผู้คนมากมายรายล้อมดังเดิม มีหญิงสาวรูปร่างเย้ายวนแต่งตัวดูสะดุดตาคนหนึ่งเข้ามาคล้องแขนเฉินเชียนโหรวด้วยท่าทางสนิทสนม
ผู้หญิงที่ตามมาข้างๆ หัวเราะพลางพูดอะไรบางอย่าง
การแต่งตายที่ฉูดฉาดโดดเด่น ท่าทางหัวเราะคิกคักนั้น ดึงดูดสายตาชายหนุ่มจำนวนไม่น้อย
“เชียนโหรว เธอนี่หุ่นดีจริงๆ ใส่เดรสที่ดูเรียบง่ายขนาดนี้ก็ยังสวยได้ขนาดนี้”
“นั่นสิ ถ้าเป็นฉัน คงไม่มีออร่าของความสวยงามเรียบร้อยออกมาแน่”
“รูปร่างดี หน้าตาสวย ใส่อะไรก็ดูดีเป็นธรรมดา”
คำพูดแบบนี้ได้ยินบ่อยที่สุด
แต่สำหรับผู้หญิงแล้ว คำพูดแบบนี้ไม่ว่าจะฟังเป็นหมื่นรอบก็รู้สึกว่าไม่พอ
เฉินเชียนโหรวยิ้มบางๆ ใบหน้าบริสุทธิ์ดูซีดเซียวไร้เรี่ยวแรงเพราะสไตล์การแต่งหน้า
ถึงแม้จะไม่พูดอะไร แต่หลายคนก็ดูออกอย่างง่ายดายว่าช่วงนี้เฉินเชียนโหรวถูกปัญหารุมเร้าไม่เบาเลยจริงๆ
“เชียนโหรว ช่วงนี้เธอคงลำบากแย่”
“ทั้งๆ ที่เป็นผู้เสียหายแท้ๆ แต่กลับถูกคนด่าเสียๆ หายๆ ขนาดนั้น ทั้งยังเสียงานละครกับพรีเซนเตอร์ไปตั้งเยอะ สังคมนี้ช่างไม่ยุติธรรมเอาเสียเลย”
“แต่ว่าก็ไม่เป็นไรหรอกนะ เรื่องร้ายๆ เดี๋ยวก็ผ่านไป อีกอย่าง เฉินเชียนโหรวของพวกเราก็ออกจะมีความสามารถขนาดนี้ จะต้องมีโอกาสอีกเยอะ พี่หรูอวิ๋น พี่ว่าไหม”
แต่ละคนพยายามจะหาคำพูดที่น่าฟังมากที่สุดออกมา สุดท้ายถึงกับยกยอผู้หญิงที่โอบเฉินเชียนโหรวไว้ตลอดคนนั้นตามไปด้วย
ฟ่านหรูอวิ๋น เป็นศิลปินในหลานอวิ้นที่หากไม่นับเฉินเชียนโหรวก็เป็นคนที่มีความก้าวหน้ามากที่สุดคนหนึ่ง
เป็นเพราะพี่สาวของฟ่านหรูอวิ๋นเป็นคุณนายผู้กว้างขวาง หลายปีมานี้ละครภาพยนตร์ที่มีชื่อเสียงหลายเรื่องล้วนแต่มีเธอร่วมแสดงด้วย โดยพื้นฐานแล้วเป็นการเสียเงินสนับสนุนเพื่อให้ได้เข้าร่วมแสดงแทบทั้งสิ้น มีความก้าวหน้าทางหน้าที่การงานถือเป็นเรื่องที่แน่นอนอยู่แล้ว
ตอนนี้ยิ่งเป็นช่วงวิกฤตครั้งใหญ่ของหลานอวิ้น เธอเป็นผู้หยิบยื่นความช่วยเหลือให้ในยามลำบาก เกลี้ยกล่อมให้พี่เขยมอบเงินลงทุนให้หลานอวิ้นหนึ่งก้อน ทำให้หลานอวิ้นพออยู่รอดต่อไปได้บ้าง
เดิมทีก็เป็นศิลปินที่พัฒนาได้ไม่เลวในหลานอวิ้น ตอนนี้ยังมากลายเป็น “ผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิต” หลานอวิ้นเอาไว้อีก การปฎิบัติต่อฟ่านหรูอวิ๋นของหลานอวิ้นในตอนนี้ แน่นอนว่าราวกับเป็นเฉินเชียนโหรวคนที่สองไปแล้ว
ปล่อยปะละเลยไม่ได้เช่นกัน
“นั่นก็แน่อยู่แล้ว เฉินเชียนโหรวมากความสามารถ เพียงแต่ว่าช่วงนี้ดวงไม่ดี ต้องเจอกับคนไร้ยางอายก็เท่านั้น…”
เมื่อได้ยินฟ่านหรูอวิ๋นพูดแบบนี้ ทุกคนต่างก็พากันเสริมรับ
“เฮ้อ พูดถึงคนไร้ยางอาย คนไร้ยางอายก็มาเลย ดูสิ นั่นไม่ใช่เฉินฝานซิงกับจี้อี้หรอกเหรอ”
ตอนที่ 534 ของประมูลลึกลับ
“เฮ้อ พูดถึงคนไร้ยางอาย คนไร้ยางอายก็มาเลย ดูสิ นั่นไม่ใช่เฉินฝานซิงกับจี้อี้หรอกเหรอ”
ระหว่างที่คนกลุ่มนั้นกำลังพูดคุยกันอยู่ หน้าประตูก็มีเสียงฮือฮาดังขึ้นมา เมื่อทุกคนเงยหน้ามองก็เห็นเฉินฝานซิงกำลังพาจี้อี้เดินเข้ามา
เมื่อพวกเธอสองคนเดินเข้ามาถึงก็ถูกผู้คนมากมายรายล้อมในทันที ส่วนใหญ่ล้วนแต่เป็นคนที่มีสัญญาร่วมกันระหว่างซิงเฉินกั๋วจี้แล้ว หรือไม่ก็เป็นคนที่ต้องการจะเข้ามาผูกสัมพันธ์กับซิงเฉินกั๋วจี้
ได้ยินคำยกย่องเยินยอเฉินฝานซิงและจี้อี้ของคนเหล่านั้นอยู่เบาๆ
สีหน้าของเฉินเชินโหรวก็เฉยชาลงไปทันที เธอกัดฟันกรอด จ้องเขม็งไปทางเฉินฝานซิงตา ความเกลียดแค้นแทบจะไหลทะลักออกมาจากขอบตาคู่นั้น
แต่ว่าเธอกลับปิดบังมันเอาไว้ได้อย่างดี
ผ่านเรื่องลำบากมามาก แน่นอนว่าเธอไม่มีทางทำอะไรหุนหันพลันแล่นไปตามอารมณ์โดยไม่คิดให้รอบคอบแน่ สิ่งที่ควรจะอดทนไว้ก็ต้องอดทน
สิ่งที่เธอต้องทำตอนนี้ มีเพียงคำเดียวคือ ทน!
ได้เห็นท่าทางที่นิ่งสงบ และรอยยิ้มที่ดูภาคภูมิใจของเฉินฝานซิงนั้น เธอก็รู้สึกเกลียดจนเข้ากระดูกดำ
อยากจะสับอีกฝ่ายจนแหลกละเอียดให้รู้แล้วรู้รอด
ฟ่านหรูอวิ๋นที่อยู่ข้างๆ แสยะหัวเราะเยือกเย็นออกมา “นี่เพิ่งจะเริ่มต้น อยู่ที่สูง ตกลงมาก็ย่อมแรงกว่าด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อัตราในการตกลงมาตายนั้นมีสูงที่สุดเลย”
หลังจากประโยคนี้พูดออกมา ก็มีคนรีบพูดรับทันที
“ใช่แล้ว เชียนโหรว พวกเธอทั้งคู่ไม่ใช่ว่าต้องเข้าร่วมการแข่งขันปรุงน้ำหอมรอบนานาชาติด้วยกันเหรอ ถึงเวลานั้นจะต้องจัดการนางให้สาสมไปเลย”
“ใช่ ฉันก็รู้ ทางที่ดี ถึงเวลานั้นก็ทำให้นางอับอาย ขายหน้าคนทั้งโลกไปเลย ฉันอยากจะเห็นว่านางจะยิ้มได้อย่างตอนนี้ไปอีกนานเท่าไร”
“ไม่รู้จักเจียมตัวจริงๆ ทั้งๆ ที่รู้ดีอยู่แล้วเฉินเชียนโหรวเธอคือ Rosanna ยังจะกล้าดวลกับเธออีก ฮ่า ฮ่า ฉันอยากจะเห็นท่าทางตอนที่นางพลาดท่าเสียหน้าจริงๆ ขอแค่นางล้มลงไป ฉันจะดูว่าจี้อี้จะไปได้ไกลอีกแค่ไหน”
ได้ยินดังนั้น สีหน้าของเฉินเชียนโหรวก็ค่อยๆ กลับมาดูอุ่นใจอีกครั้ง
นั่นสิ
ยิ่งอยู่ที่สูง ความเสี่ยงในการตกลงมาตายก็ยิ่งเยอะ
จะว่าไปแล้ว ทั้งหมดนี่ก็เป็นเพราะเฉินฝานซิงเองทั้งนั้น
ก่อนหน้านี้เธอเคยเหยียบย่ำเฉินฝานซิงให้จมดินได้ ต่อไปเธอก็ต้องทำได้เหมือนกัน
หลังจากที่เฉินฝานซิงและจี้อี้กล่าวทักทายกับคนเหล่านั้นเรียบร้อยแล้วก็เดินเข้าไปกลางงาน
จากนั้นก็ได้เห็นเฉินเชียนโหรวและคนกลุ่มหนึ่งทอดมองมาทางเธอพร้อมกันด้วยสีหน้าไม่เป็นมิตรอย่างที่คิดเอาไว้
เฉินฝานซิงแอบถอนหายใจอย่างเอือมระอาไปทีหนึ่ง
วงการนี้ ช่างเล็กเสียจริง
“คางคกขึ้นวอ ดูสิว่าพวกเธอจะได้ใจไปอีกสักกี่น้ำ ชิ”
หญิงสาวคนหนึ่งในนั้นสบถขึ้นมาหนึ่งประโยคก่อนจะเดินไปข้างหน้าเพื่อขวางทางเฉินฝานซิงและจี้อี้ไว้
ฟ่านหรูอวิ๋นเห็นดังนั้นก็ยกยิ้มมุมปากส่งเสียงจิ๊จ๊ะเบาๆ แล้วเอ่ยขึ้น
“เชียนโหรวของพวกเราตอนนี้ก็ไม่แย่นะ ถึงแม้เรื่องงานอาจจะไม่ค่อยราบรื่นเท่าไร แต่เรื่องความรักกลับทำให้ใครๆ ที่เห็นต่างก็อิจฉา พรุ่งนี้ พรุ่งนี้แล้วสินะ รู้กันหรือยังว่าวันอะไร”
“รู้แล้ว รู้แล้ว ทั้งเมืองนี้ใครไม่รู้บ้าง พรุ่งนี้จะเป็นวันจัดงานหมั้นของเทพบุตรรูปหล่อบ้านรวยสุดเพอร์เฟกต์อย่างประธานซูกับเฉินเชียนโหรวไงล่ะ ยินดีด้วยนะ เชียนโหรว”
เฉินเชียนโหรวเหลือบสายตาไปมองเฉินฝานซิงแวบหนึ่ง เมื่อเห็นแววตานิ่งเฉยของเฉินฝานซิงที่มองมาทางเธออยู่ก็ยิ้มมุมปากออกมาก่อนจะส่งสายตาที่มีเพียงเฉินฝานซิงคนเดียวเท่านั้นเข้าใจกลับไป
บนใบหน้าท่าทางดูอ่อนโยนเขินอาย แต่ภายในแววตากลับเต็มไปด้วยความกระหยิ่มยิ้มย่องและความท้าทายที่มาจากผู้ชนะ
เฉินฝานซิงจ้องมองเธอด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ ไม่มีความเปลี่ยนแปลงทางสีหน้าเลยแม้แต่น้อย ความผิดหวังและโศกเศร้ายิ่งไม่ต้องพูดถึง
ทำไมต้องทำหน้าท้าท้ายด้วย
จะท้าทายต้องมีสิ่งต่อรองสิ
สิ่งต่อรองคืออะไร
ความรักของซูเหิงงั้นเหรอ
ฉันโยนทิ้งไปให้หมากินตั้งนานแล้ว!
เฉินฝานซิงอดยกยิ้มมุมปากไม่ได้
ต้องทำอย่างไรกันแน่ถึงจะส่งสัญญาณไปถึงเฉินเชียนโหรวได้ว่า ในสายตาของเธอ ซูเหิงนั้นไร้ค่าเทียบไม่ได้กับเงินสักแดงเดียวไปตั้งนานแล้ว
ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรกับเธอเลย แต่เมื่อได้เห็นเฉินเชียนโหรวผู้โง่เขลาที่ทำทีเหมือนตัวเองฉลาดครั้งแล้วครั้งเล่า เธอก็อดเก้อเขินไม่ได้
ฟ่านหรูอวิ๋นที่เห็นรอยยิ้มมุมปากของเฉินฝานซิงคิดว่าเธอกำลังฝืนยิ้มมีความสุขอยู่จึงเอ่ยปากพูดต่อด้วยท่าทางมีลับลมคมใน
“จริงสิ พวกเธอรู้หรือเปล่าว่าของประมูลลึกลับชิ้นสุดท้ายในงาน Red carpet คืนนี้ที่บอกว่า ‘หนึ่งเดียว ลึกลับ หอมหวน’ นั้นคืออะไร”