ช้าก่อนคุณป๋อ! ครั้งนี้ขอเป็นรักสุดท้าย - ตอนที่ 515 ปฏิบัติอย่างไม่ยุติธรรม / ตอนที่ 516 เก่งแต่กับคนไม่มีทางสู้
- Home
- ช้าก่อนคุณป๋อ! ครั้งนี้ขอเป็นรักสุดท้าย
- ตอนที่ 515 ปฏิบัติอย่างไม่ยุติธรรม / ตอนที่ 516 เก่งแต่กับคนไม่มีทางสู้
ตอนที่ 515 ปฏิบัติอย่างไม่ยุติธรรม
เจียงหรงหรงถูกแขวะจนใบ้กินไร้คำพูด เธอโกรธจนต้องหลับตาปี๋พลางกุมหัวใจที่โมโหจนเจ็บขึ้นมาไว้ จุกจนพูดไม่ออกไปครู่ใหญ่
เฉินเชียนโหรวเห็นดังนั้นก็รีบเข้าไปประคองเจียงหรงหรงไว้ พลันมองจี้อี้หน้านิ่วคิ้วขมวด น้ำเสียงที่เปล่งออกมาของเชียนโหรวแฝงความติเตียนชัดเจน
“จี้อี้ ไม่ว่ายังไงเธอก็เคยอยู่ในบริษัทมาหลายปี คุณย่าก็ไม่เคยปฎิบัติต่อเธออย่างไม่ยุติธรรม ตอนนี้เธอกลับจงใจยั่วโมโหคุณย่าแบบนี้ มันเกินไปหน่อยหรือเปล่า”
น้ำเสียงของเธอทั้งหมดฟังดูอ่อนโยน แต่ก็ดังพอสมควร
เสียงของกลุ่มแฟนคลับที่โดนบอดี้การ์ดกันไว้ด้านหลังค่อยๆ เบาลง พยายามแอบสอดส่องไปยังสถานการณ์ตรงหน้า
หลังจากที่แค่นหัวเราะออกมาเบาๆ หนึ่งที ก็ส่ายหน้าไปมา
แน่นอนว่าจี้อี้ดูออกว่าเชียนโหรวจงใจ เธอรู้สึกว่า ยิ่งเธอมองเฉินเชียนโหรวออกมากเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งรู้สึกรังเกียจเฉินเชียนโหรวมากเท่านั้น
นอกจากเรื่องดนตรี เธอก็รู้สึกพอใจในสิ่งที่ตัวเองมีอยู่เสมอ ทั้งยังไม่เคยสนใจที่จะศึกษานิสัยใจคอของมนุษย์อย่างจริงๆ จังๆ
เธอเพียงแต่คิดว่า คนคนหนึ่ง ไม่มีทางที่จะเลวจนถึงขั้นไร้เหตุผลได้ ต่อให้เธอทำเรื่องไม่ดีจริง ก็คงต้องมีเหตุผลจำเป็นบางอย่างที่ต้องทำแบบนั้นแน่
เธอเองก็ไม่เคยเข้าร่วมวงสนทนาวิจารณ์ศิลปินในบริษัทมาก่อนเลยสักครั้ง
ทว่า กลับคิดไม่ถึงว่าโลกที่เธอวาดฝันไว้นั้น มันสวยงามเกินไป
โลกใบนี้ คนเลวที่ไร้ซึ่งเหตุผลนั้นมีมากมายเต็มไปหมด
เพราะว่าความรู้สึกนึกคิดของพวกเขา มันชั่วร้ายมาตั้งแต่ในกมลสันดาน
“ฉันไม่คิดว่าคำพูดของฉันมีปัญหา ถ้าหากพวกคุณรู้สึกโกรธ ทำไมถึงไม่ลองคิดดูบ้างว่าทำไมพวกคุณถึงถูกยั่วให้โกรธได้ หรือว่าพวกคุณไม่รู้จักที่จะย้อนพิจารณาตัวเองสักนิดเลยเหรอ ไม่ว่าเรื่องอะไร พอพวกคุณรู้สึกไม่พอใจ ก็กลายเป็นความผิดของคนอื่นไปหมดงั้นเหรอ…
อีกอย่าง คุณเฉิน คำว่า ‘ปฏิบัติอย่างยุติธรรม’ ที่ออกมาจากปากคุณ คุณหมายความว่ายังไงกันแน่…
คุณที่เคยชินกับการทำอะไรก็ราบรื่นไปเสียหมดจนไม่เข้าใจอะไรเลย อย่ามาพูดอะไรแบบนี้เรื่อยเปื่อยดีกว่า…
ประธานเจียงเป็นคุณย่าของคุณ ไม่ใช่คุณย่าของฉัน เรื่องปฏิบัติอย่างยุติธรรมหรือไม่นั้น ในใจฉันย่อมตระหนักเข้าใจดีแน่นอน…
แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ความรู้สึกคิดเองเออเองของพวกคุณคนสกุลเฉินนี่ดีมากเลยจริงๆ แบบประมาณว่าให้เงินคนขอทานหนึ่งหยวน ก็รู้สึกราวกับว่าตัวเองได้ช่วยเหลือมวลมนุษยชาติเอาไว้!
เพราะอย่างนั้น ศิลปินในบริษัทของพวกคุณ ขอแค่รู้สึกว่าพวกเขาไม่ได้อดอยากปากแห้งตาย ก็เลยคิดว่าทั้งหมดเป็นผลสำเร็จของพวกคุณหมดเลยสินะ”
หลังจากที่พูดมายาวเหยียด จี้อี้ก็หยุดนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดต่อ
“เมื่อก่อน ฉันรู้สึกไม่ชอบท่าทางของประธานเฉินที่ปฏิบัติต่อพวกคุณมาตลอด แต่ว่าเมื่อไม่นานมานี้ฉันเพิ่งได้รู้ว่า ที่เธอทำแบบนี้ก็ใช่ว่าจะมีไม่เหตุผล ก็แค่อุดมการณ์ต่างกัน เลยคบหากันไม่ได้ก็เท่านั้น”
“แก…แกกล้าดีเกินไปแล้ว พวกเนรคุณ แก…”
เจียงหรงหรงโมโหจนเลือดขึ้นหน้า อยากจะฉีกปากของคนที่อยู่ตรงหน้าพวกนี้ให้รู้แล้วรู้รอด ไร้คุณสมบัติผู้ดีจริงๆ
ทว่าจี้อี้กลับเชิดปลายคางขึ้นเล็กน้อย สายตาเต็มไปด้วยความโอหังและเหยียดหยาม
“ถ้าหากฉันจำไม่ผิด เมื่อกี้ฉันพูดขอบคุณคุณไปแล้ว ถ้าหากประธานเจียงรู้สึกว่าไม่พอละก็…คืนนี้ก็กินตามสบายเลย แล้วลงบันทึกไว้ในชื่อของฉัน ถือซะว่าเป็นงานเลี้ยงขอบคุณที่หลายปีมานี้คุณไม่ปล่อยให้ฉันอดอยากตายไปเสียก่อน”
เจียงหรงหรงและเฉินเชียนโหรวโกรธหน้าเขียวปั้ด
เฉินเชียนโหรวยังคงรักษาท่าทางผู้หญิงใจดีแสนบอบบาง พยายามพูดอย่างผู้ที่รู้ผิดชอบชั่วดี
“เธอทำเกินไปแล้วหรือเปล่า ฉันก็แค่เตือนเธอด้วยความหวังดี ยังไงซะตอนนี้เธอก็เป็นบุคคลสาธารณะที่กำลังเป็นกระแสโด่งดังจนจับตัวได้ยาก อย่าพูดอะไรที่มันไม่น่าฟังนักเลย อย่าลืมเหลือทางถอยให้ตัวเองได้กลับตัว…”
“แต่ก็ต้องดูด้วยว่าพูดกับใคร คุณเฉิน คำพูดเดียวกันนี้ ฉันขอส่งคืนกลับไปให้คุณ ยังไงซะคุณก็เป็นคนของสาธารณชนมาตลอด อีกอย่าง ช่วงนี้ก็ชื่อเสียงกระฉ่อน เป็นกระแสโด่งดังจับตัวได้ยาก”
ตอนที่ 516 เก่งแต่กับคนไม่มีทางสู้
“แต่ก็ต้องดูด้วยว่าพูดกับใคร คุณเฉิน คำพูดเดียวกันนี้ ฉันขอส่งคืนกลับไปให้คุณ ยังไงซะคุณก็เป็นคนของสาธารณชนมาตลอด อีกอย่าง ช่วงนี้ก็ชื่อเสียงกระฉ่อน เป็นกระแสโด่งดังจับตัวได้ยาก”
หลังจากที่จี้อี้พูดจบ กลุ่มแฟนคลับที่ถูกบอดี้การ์ดกันอยู่หน้าประตูตลอดก็เริ่มส่งเสียงซุบซิบกันขึ้นมา
“นั่นมันเฉินเชียนโหรวไม่ใช่เหรอ แล้วยังมียายแม่มดของหลานอวิ้นนั่นอีกด้วย”
“พวกเขารังแกจี้อี้อีกแล้วเหรือเปล่า”
“ดูเหมือนว่าจะใช่นะ นั่นไม่ใช่ว่ากำลังยืนขวางทางเดินจี้อี้เอาไว้อยู่หรอกเหรอ”
“เฮ้ คุณบอดี้การ์ด พวกเราเป็นแฟนคลับที่รักจริงของจี้อี้ พวกเราไม่ทำร้ายเธอหรอก ตรงนั้นมีคนกำลังรังแกจี้อี้ พวกคุณรีบเข้าไปปกป้องเธอสิ”
บอดี้การ์ดสองคนหันไปมองด้านหลังแวบหนึ่ง พวกเขายืนฟังเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของเหล่าแฟนคลับมาตลอด ดังนั้นเมื่อเห็นภาพด้านหลัง พวกเขาจึงชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะหันไปมองกลุ่มแฟนคลับอีกครั้ง แฟนคลับเหล่านั้นต่างก็พากันก้าวถอยหลังไปตามๆ กันโดยอัตโนมัติ ต่างคนต่างก็พูดรบเร้าให้บอดี้การด์เข้าไปคุ้มครองจี้อี้
บอดี้การ์ดสองคนหันมามองหน้ากันปราดหนึ่ง จากนั้นก็หันกลับไป แล้วเดินย่างสามขุมไปทางจี้อี้
บอดี้การ์ดเดินเข้าไปตรงหน้าพวกเธอในทันที ก่อนจะดันเจียงหรงหรงและเฉินเชียนโหรวไปอีกทางอย่างไม่เกรงใจ
จากนั้นก็ใช้ร่างกายที่สูงใหญ่กำยำของพวกเขากั้นเจียงหรงหรงและเฉินเชียนโหรวไว้
จี้อี้ยกยิ้มมุมปาก ไม่หันไปสนใจเฉินเชียนโหรวที่กำลังโกรธจนตัวสั่นและสีหน้าที่ย่ำแย่ของเจียงหรงหรงอีก เธอเพียงแต่หันไปพูดกับฉีน่า
“พี่ฉี พวกเราไปกันเถอะ”
ฉีน่าเลิกคิ้วด้วยความประหลาดใจ ท่าทางแบบนี้ ไม่เลวเลยนี่
แต่ว่า นี่จี้อี้จะ…ติดตามชื่นชมประธานเฉินเกินไปหรือเปล่า ทั้งท่างทางคำพูดคำจา แทบจะถอดแบบกันออกมาแล้ว
“ได้สิ”
ฉีน่าไม่ลังเล เธอพาจี้อี้เดินอ้อมเจียงหรงหรงออกไปท่ามกลางการคุ้มกันของบอดดี้การ์ด
ทั้งคู่เดินเข้าไปอย่างสง่ามาดมั่น เจียงหรงหรงและเฉินเชียนโหรวที่ถูกดันเอาไว้พูดอะไรไม่ได้อีก
เหล่าแฟนคลับมองดูเจียงหรงหรงและเฉินเชียนโหรวพลางพูดจาถากถางขึ้นมา
“ดูสิ นี่แหละที่เขาเรียกว่าเก่งแต่กับคนที่ไม่มีทางสู้ แต่ไม่กล้ากับคนที่แข็งแกร่ง”
“ลอกผลงานคนอื่นแล้วแล้วยังจะอวดดีขนาดนั้นอีก โลกใบนี้ทำไมถึงได้มีคนที่หน้าด้านขนาดนี้อยู่ด้วย”
“ไปกันเถอะ ไม่อยากจะเห็นหน้าพวกนั้น”
กลุ่มแฟนคลับที่รวมตัวกันเฉพาะกิจ หลังจากที่จี้อี้ไปแล้วพวกเขาก็พากันแยกย้ายไปด้วย
เฉินเชียนโหรวกัดริมฝีปากแน่น เรื่องนี้ฝากไว้ก่อนเถอะ เธอเงยหน้าขึ้นไปมองทางซูเหิง กลับเห็นเขานิ่งอึ้งท่าทางเหม่อลอย ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่
“พี่เหิงคะ…”
ซูเหิงค่อยๆ ดึงสติกลับมา มองไปที่เธอแวบหนึ่ง สายตานิ่งเรียบไร้ซึ่งอารมณ์ใดๆ
เวลานี้ ไช่จิ้งอี๋ที่สีหน้ายังคงไม่สู้ดีนักเอ่ยปากขึ้นมาก่อน “เอาละ อย่ามัวยืนอออยู่ตรงนี้อีกเลย เข้าไปในห้องกันเถอะ”
แล้วทั้งหมดก็เข้าไปในห้องส่วนตัวที่จองไว้ พนักงานรีบนำน้ำชาเข้ามาเสิร์ฟก่อน
เป็นเพราะสถานการณ์วันนี้ ไช่จิ้งอี๋และซูปิ่งโย่วต่างก็มีสีหน้าไม่ดีเท่าไหร่นัก ครั้นแล้วจึงเริ่มเข้าประเด็นอย่างตรงไปตรงมา
พวกเขากำหนดฤกษ์พิธีหมั้นของเฉินเชียนโหรวและซูเหิงไว้ในวันที่สิบสี่เดือนมิถุนายน ซึ่งก็ตรงกับวันที่ยี่สิบเดือนห้าตามปฏิทินจันทรคติ
เวลาค่อนข้างกระชั้นชิด แต่นั่นก็เป็นความต้องการของเจียงหรงหรง
เพราะว่าฤกษ์วันที่ค่อนข้างดีในช่วงนั้นก็มีเพียงแค่วันนี้ ส่วนทะเบียนสมรส หลังจากที่หารือกันแล้วจึงตัดสินใจว่าจะจดทะเบียนในวันที่ยี่สิบเอ็ดเดือนห้าตามปฏิทินจันทรคติ ล้วนแต่เป็นวันยอดนิยมของหนุ่มสาว ต่อไปจะได้ฉลองวันครบรอบกันได้
เฉินเชียนโหรวหันกลับไปมองซูเหิงด้วยใบหน้าแดงระเรื่อจากความเขินอายและแฝงไปด้วยความประหม่า ทว่ากลับเห็นเขาท่าทางหม่อลอยจิตใจไม่อยู่กับเนื้อตัวตั้งแต่เมื่อครู่นี้แล้ว
สีหน้าของเฉินเชียนโหรวเปลี่ยนไปเล็กน้อย สายตาสะท้อนความน้อยอกน้อยใจ เธอพยายามจะฝืนข่มความรู้สึกบนใบหน้านี้เอาไว้ แต่กลับถูกไช่จิ้งอี๋ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามสังเกตเห็นเข้า