ช่วยทีครับ ใจผมรับคุณมาเฟียไม่ไหว - ตอนที่ 94
เขายั่วผมครับ! อึนฮันไม่ได้พูดอะไรตอนที่ซ็องฮันตะโกนออกไปแบบนั้น เพราะเขารู้สึกผิดที่ตัวเองไม่เคยเอ่ยปาก ไม่เคยแนะนำ และไม่เคยมีปฏิกิริยาอะไรต่อการกระทำของซ็องฮันเลยสักครั้งทั้งที่รู้ดีว่าซ็องฮันรู้สึกกับเขาอย่างไร อีกเหตุผลหนึ่งก็เพราะอึนฮันมักจะแอบหัวเราะเยาะการกระทำไร้สาระของซ็องฮันที่ทำให้คนในครอบครัวเหนื่อยหน่ายอยู่เสมอแม้ว่าจะเป็นหลานชายคนโตก็ตาม
“ฉันขอเตือนนายเป็นครั้งสุดท้าย ฟังให้ดีนะ ยุนซ็องฮัน ไม่สิ ไม่ต้องฟังหรอก ใช้ชีวิตตามที่นายต้องการก็พอ แค่ถือว่าเป็นน้ำใจครั้งสุดท้ายจากฉันก็แล้วกัน ถ้าขืนนายยังโผล่มาให้ฉันเห็นอีกละก็ ชีวิตนายจะต้องทุกข์ทรมานแน่ รู้ไว้ซะ”
อึนฮันพูดก่อนจะกระชากคอเสื้อซ็องฮัน โดยปกติแล้วเรี่ยวแรงของซ็องฮันย่อมสะบัดเขาออกไปได้อย่างง่ายดาย แต่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความเจ็บปวดหรือตกใจจนพูดไม่ออก อีกฝ่ายถึงทำได้แค่ยืนมองอึนฮันอยู่เฉย ๆ เท่านั้น
“ข้อแรก นายเป็นเกย์ เกย์แท้ ๆ ไม่ใช่ไบเซ็กชวล ข้อสอง วาซีลี อีวาโนวิช คามินสกีเป็นผู้ชายที่น่ากลัวมากจริง ๆ เขาทรมานคนมามากมายนับไม่ถ้วนแล้ว ข้อสาม รีบขับรถไปสนามบินเดี๋ยวนี้เลย เลือกเที่ยวบินที่เร็วที่สุดออกไปจากไมแอมีให้ได้ก่อนแล้วค่อยต่อเครื่องกลับเกาหลี อย่ากลับมาที่นี่อีก”
“…นายรู้ความรู้สึกของฉันอยู่แล้วงั้นเหรอ”
ซ็องฮันถาม อึนฮันตอบอย่างเด็ดขาดไม่สั่นไหวแม้จะเห็นแววตาตกตะลึงของอีกฝ่ายอย่างชัดเจน
“ใช่”
“แต่…ก็ไม่เคยมองฉันแบบนั้นเลยสักครั้งเหรอ”
“ก็บอกไปแล้วไงว่าฉันไม่ชอบนาย ไม่เคยชอบเลยสักครั้ง ส่วนตัวแล้วฉันไม่ได้ชอบผู้ชายสไตล์นาย เพราะฉะนั้นอย่ามาหาฉันอีก”
อึนฮันพูดก่อนจะสะบัดแขนซ็องฮันออกแล้วเริ่มวิ่งออกไป ทว่าเมื่อรู้สึกว่าสายตาของซ็องฮันยังคงมองตามมาอย่างเหม่อลอย อึนฮันก็หันกลับไปตะโกนใส่อีกครั้ง
“รีบไปซะก่อนที่ตัวนายจะพรุนเป็นรังผึ้ง!”
จากนั้นอึนฮันก็ไม่หันหลังกลับมามองอีกเลย
ความสัมพันธ์ของทั้งสองคนบิดเบี้ยวมาตั้งแต่แรก อึนฮันยังคงคิดว่าเขาเป็นเหยื่อในคดีข่มขืนและคิดว่าคนในครอบครัวทำกับเขาเกินไป ซึ่งนอกจากการข่มขืนแล้วเขายังคิดว่าตัวเองเป็นเหยื่อของการคุกคามทางเพศอีกด้วย คิดกระทั่งว่าที่ตัวเขาเป็นเกย์ก็อาจเป็นเพราะซ็องฮันเช่นกัน
แต่อึนฮันไม่คิดจะใช้ชีวิตไปกับความเกลียดชังที่มีต่อซ็องฮัน เขาถึงได้ตัดสินใจว่าจะไม่พูดอะไรกับอีกฝ่าย แม้จะรู้ตัวว่าซ็องฮันยังคอยมองเขาด้วยสีหน้าเศร้าโศกแต่เขาก็ทำเมินเฉยเสมอมา ‘ดูซิว่านายจะทำยังไง’ อึนฮันคิดเช่นนี้ทั้งที่รู้ดีว่าคนหยิ่งในศักดิ์ศรีอย่างซ็องฮันต้องเป็นบ้าแน่นอน
สิ่งที่อึนฮันทำลงไปอย่างการเมินเฉยต่อความรู้สึกของซ็องฮันนั้นมีราคาที่ต้องจ่ายรออยู่ ซึ่งเขาก็จ่ายไปแล้ว เพราะฉะนั้นมันควรจะจบลงไปทั้งแบบนั้น อึนฮันจึงอดทนกับอดีตที่ผ่านมา
ทว่าซ็องฮันกลับไม่อาจลืมรอยด่างพร้อยในอดีตของตนเองได้ ยิ่งนับวันรอยด่างนั้นก็มีแต่จะหยั่งรากลึกลงไปในใจซ็องฮันและคอยกวนใจเขาอยู่เสมอ เขาทั้งสร้างชื่อเสียงและเลือกที่จะแต่งงานเพื่อตัวเอง แต่รอยด่างในประเทศอันแสนไกลก็ยังกวนใจเขาอยู่ตลอด ซ็องฮันจึงตัดสินใจว่าจะกำจัดรอยด่างพร้อยที่ว่านั้นทิ้งไปเสีย ‘แค่ครั้งสุดท้ายนี้เท่านั้น’ ในเมื่อรอยด่างพร้อยยังไม่ยอมหายไป ซ็องฮันจึงตรงดิ่งมายังไมแอมีทันทีโดยไม่คิดหน้าคิดหลังให้ดีเสียก่อน
ความสัมพันธ์ที่แสนเลวร้ายถึงคราวสิ้นสุดลงเสียที ซ็องฮันกัดฟันกรอด
“ฉันไม่ได้ชอบนาย…!”
ซ็องฮันพูดกับตัวเอง ไม่ได้ชอบเสียหน่อย ไม่มีทางชอบเด็ดขาด ฉันก็แค่อยากลองเสียบไอ้เด็กอย่างนายดูก็แค่นั้นละ แต่ฉันไม่เคยชอบนายเลยนะโว้ย จะไปตายที่ไหนก็ไปเถอะ ไอ้หน้าหมา! กล้าทำแบบนี้กับฉันได้ไงวะ!
เขาย้ายตัวเองไปนั่งประจำตำแหน่งคนขับก่อนจะเหยียบคันเร่งเพื่อมุ่งหน้าไปยังสนามบิน คนอย่างหมอนั่นน่ะเหรออุปสรรคในชีวิตเขา เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด เขาคงจะประเมินผู้ชายชื่อยุนอึนฮันสูงเกินไป กลับโซลดีกว่า อย่างน้อยคู่หมั้นก็รออยู่
รถเปิดประทุนที่ซ็องฮันนั่งอยู่ด้านในหายลับไปแสนไกล
++++++++++++++++++++++++++++++
หลังจากเข้าไปในโรงแรมแล้ว อึนฮันได้แต่กดปุ่มลิฟต์อย่างร้อนใจ เขาต้องรีบขึ้นไปให้เร็วที่สุด อึนฮันไม่รู้ว่าวาซีลีเข้าไปในห้องนั้นจริงรึเปล่าเพราะเขายังเห็นทั้งเซียร์เกย์และนีโคไลอยู่ที่คฤหาสน์ ถ้าอย่างนั้นก็หมายความว่าวาซีลีบุกเข้าห้องในโรงแรมที่มีเจ้าหน้าที่เอฟบีไออยู่ด้านในเพียงลำพังน่ะสิ โอ๊ย ถึงจะเป็นจอมล้างแค้นแต่ทำแบบนี้ได้ที่ไหนกัน อึนฮันรีบพุ่งเข้าไปทันทีที่ประตูลิฟต์เปิดออก ก่อนจะหันไปห้ามคนอื่น ๆ ที่กำลังจะเดินตามเข้ามา
“ไว้รอขึ้นตัวอื่นนะครับ”
จากนั้นประตูลิฟต์ก็ปิดลง อึนฮันเปิดโน้ตบุ๊กอยู่ภายในลิฟต์ซึ่งมุ่งหน้าขึ้นไปยังชั้นแปด เขาพยายามควบคุมลมหายใจขณะเคาะนิ้วลงบนโน้ตบุ๊กที่คุ้นเคย จนเมื่อประตูลิฟต์เปิด เขาก็รีบวิ่งออกไปเคาะประตูห้องแปดสี่ห้าทันที
“ออกไป!”
เสียงนี้เป็นเสียงเคย์แน่นอน ถ้าอย่างนั้นแล้ววาซีลีล่ะ