ช่วยทีครับ ใจผมรับคุณมาเฟียไม่ไหว - ตอนที่ 67
อึนฮันหันไปหาคริสพลางส่งสายตาทักท้วงไปให้ เราเองก็ไม่ได้ชอบเซ็กซ์ครั้งนั้นกันสักหน่อยนี่ เรื่องเซ็กซ์นั่นฉันนึกไม่ออกด้วยซ้ำ นึกออกแต่ว่าเราต้องมาเช็ดรถนายกันทั้งคืน นายนั่นละลืมที่สาบานไว้ว่าจะเก็บเรื่องนี้เป็นความลับตลอดชีวิตได้ยังไงกัน ทว่าคริสก็ช่างเด็ดเดี่ยวเสียเหลือเกิน ท่าทางของคริสที่กล้าเลือกมิตรภาพอย่างอาจหาญทำให้อึนฮันอยากจะบ้าตาย
“ฉันละสิ”
กรมตำรวจไมแอมีเอายาบ้าให้นายกินยังไม่พอ ดูเหมือนจะสอนให้โกหกด้วยสินะ…
“เปล่า”
“…กลัวขนาดนั้นเลยเหรอ คามินสกีน่ะ”
“เรื่องนี้มันมาก่อนความกลัวอีกนะคริส เรื่องบางเรื่องมิตรภาพก็ช่วยปิดไม่ได้หรอก”
ยกตัวอย่างเช่นเรื่องที่ฉันต้องมาทำความสะอาดสิ่งที่นายทำไว้ไง เจ้าบ้านี่ ฉันบอกชัดเจนแล้วแท้ ๆ ว่าไม่ทำ! นายยังมาคะยั้นคะยอจนต้องมาเช็ดมาล้างด้วยกันจนได้ แค่คิดถึงเรื่องตอนนั้นขึ้นมา อึนฮันก็เป็นอันต้องกัดฟันกรอดก่อนจะพูดยืนยันด้วยสีหน้าแข็งกระด้าง คริสนิ่งคิดไปสักพักแล้วจึงหัวเราะแหะ ๆ ออกมาอย่างหมดแรง
“เรื่องนั้น…ประทับใจมากเลยใช่ไหมล่ะ”
“ตั้งแต่เกิดมาฉันยังไม่เคยเจอเรื่องไหนประทับใจเท่าเรื่องตอนนั้นเลย”
อึนฮันพูดเต็มปากเต็มคำ ได้ยินดังนั้นวาซีลีจึงจูบหลังมือเขาอีกครั้ง
“อย่าหนักแน่นนักสิยุน”
อึนฮันตัวแข็งทื่อทันทีที่นึกได้ว่าลืมปัญหาใหญ่ไปชั่วขณะ คงเพราะเขารู้จักวาซีลีดีถึงได้มองออกว่าชายหนุ่มเริ่มอารมณ์เสีย แม้น้ำเสียงของเจ้าตัวจะฟังดูอบอุ่นก็ตาม วาซีลีคือผู้ชายที่ทำเรื่องน่าจั๊กจี้หัวใจได้ราวกับไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร อึนฮันถึงกับพูดไม่ออกเพราะรู้สึกเหมือนเห็นภาพหลอนว่าวาซีลีฉีกยิ้มกว้างจนเห็นฟันแทบทุกซี่
“นายเองก็อย่าคิดว่าจะอยู่รอดปลอดภัยไปได้ตลอดล่ะ” คริสพูดขึ้น
อึนฮันส่งสายตาไปหาคริสอีกครั้งพลางสงสัยว่าเพื่อนเขาคงกินอะไรผิดสำแดงมาจริง ๆ ทว่าวินาทีที่ใบหน้าของวาซีลีเข้ามาในครรลองสายตา เขาก็คิดได้ว่าหากเขายังมองคริสอีก คราวนี้วาซีลีคงได้โกรธจริงแน่ คนหูตาไวอย่างอึนฮันจึงพยายามฉีกยิ้มสดใสให้วาซีลีโดยไม่ละสายตาไปจากใบหน้าของอีกฝ่าย แม้ผลลัพธ์ที่ได้จะดูเหมือนรอยยิ้มของคนทึ่ม แต่อึนฮันก็ภูมิใจที่อย่างน้อยเขาก็ยังยิ้มออก วาซีลีมองรอยยิ้มของเขาก่อนจะตอบคริสด้วยสีหน้าที่ดูผ่อนคลายลง
“นั่นละที่ฉันอยากพูด เพื่อนของนายเคยเอาตัวเข้าเสี่ยงเพื่อช่วยนายมาครั้งหนึ่งแล้ว แต่จะไม่มีครั้งที่สองอีก”
คริสมองอึนฮันทันที เพราะอยากรู้ว่าที่วาซีลีพูดนั้นหมายความว่าอย่างไรกันแน่ ทว่าอึนฮันไม่อาจละสายตาจากวาซีลีได้ ชายหนุ่มมองดูอึนฮันที่ไม่กล้าขยับตัวไปไหนราวกับมีปืนจ่ออยู่พลางเอ่ยถาม
“ใช่ไหม ยุน”
อึนฮันตอบไม่ได้ คำพูดของวาซีลีที่ว่าวิธีแบบนั้นจะใช้ไม่ได้ผลอีกในครั้งต่อไปกำลังบีบหัวใจเขา แต่ขณะที่อึนฮันเอาแต่มองหน้าวาซีลีเพราะไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรออกไปอยู่นั้น ใครบางคนก็ปรากฏตัวขึ้นพอดี
“ยุนอึนฮัน! รู้ไหมว่าฉันเที่ยวตามหานายมานานแค่…”
เสียงของซ็องฮันนั่นเอง ถึงแม้ว่าจะเป็นโชคชะตาที่ทั้งน่าเบื่อและน่ารำคาญ แต่ในตอนนี้ไม่มีใครอื่นที่จะช่วยชีวิตเขาได้อีกแล้ว ดังนั้นอึนฮันจึงหันไปและพยายามจะแสร้งทักอีกฝ่ายด้วยความยินดี ทว่าวาซีลีกลับรวบทั้งอึนฮันและเก้าอี้เข้าไปกอด ซ็องฮันที่กำลังเดินเข้ามาใกล้ถึงกับหยุดชะงัก
“วะ…วาซยา เขา…เป็นลูกพี่ลูกน้องผมนะครับ”
คำที่มักจะโผล่มาเฉพาะตอนที่อึนฮันเสียเปรียบอย่าง ‘ลูกพี่ลูกน้อง’ หลุดออกมาทันที
“อึนฮัน มาคุยกันสักเดี๋ยวสิ”
อึนฮันพยายามจะหยัดตัวลุกขึ้นหลังจากซ็องฮันพูดอย่างนั้น แต่วาซีลีกลับกอดแรงขึ้น ไม่ยอมปล่อยเขาไป
“วาซยา เขาเป็นพี่ชายผมจริง ๆ นะครับ ผมไม่มีหลักฐานอะไรให้คุณดูแต่เป็นเรื่องจริงครับ”
ชายหนุ่มอาจไม่เชื่อเพราะพวกเขาสองคนหน้าตาไม่ค่อยเหมือนกันเท่าไร แต่อึนฮันยังคงยืนยันว่าเขาพูดความจริง ตอนนี้เขาอยากหนีไปจากวาซีลีจะแย่ ทว่าถึงจะพูดอย่างนั้นก็เถอะ สุดท้ายสิ่งที่อึนฮันทำได้ก็แค่ออกไปคุยกับซ็องฮันสักพักแล้วค่อยกลับมาตรงนี้อีกครั้งเท่านั้น ทว่าวาซีลีกลับไม่ยอมปล่อยอึนฮันราวกับกลัวว่าอีกฝ่ายจะหนี
“คุยตรงนี้สิ มีความลับอะไรนักหนาถึงคุยต่อหน้าคนที่จีบนายไม่ได้”
ก็เพราะแค่จีบแต่ยังไม่ได้เป็นแฟนกันไงเล่า
อึนฮันกลืนคำที่พูดออกไปไม่ได้กลับลงคอแล้วหันมาแย้มยิ้มสดใสให้วาซีลี เขาพยายามจะอ้อนด้วยคำพูดอย่างขอร้องละ น่านะ…แต่แขนของวาซีลีกลับอ่อนแรงลงไปเสียก่อน อึนฮันจึงรีบลุกออกจากอ้อมแขนที่ไร้เรี่ยวแรงของอีกฝ่ายทันที
วาซีลีก้มลงมองแขนตัวเอง เขาแปลกใจที่จู่ ๆ แขนเขาก็เกิดหมดแรงเอาดื้อ ๆ ในวินาทีที่อึนฮันหันมายิ้มให้ ทำไมเป็นแบบนี้ล่ะ