ช่วยทีครับ ใจผมรับคุณมาเฟียไม่ไหว - ตอนที่ 25
อึนฮันรู้ดีว่าวาซีลี คามินสกีนั้นเป็นทั้งพ่อค้าอาวุธ ประธานบริษัททหารรับจ้าง เรดมาเฟีย ฆาตกรต่อเนื่อง และคนบ้า แต่เขาคิดไม่ถึงจริง ๆ ว่าวาซีลีจะขโมยรถด้วย อึนฮันได้แต่มองวาซีลีขึ้นไปบนรถเปิดประทุนที่จอดอยู่ข้างถนนแล้วเปิดประตูฝั่งข้างคนขับออก เมื่อเห็นอึนฮันเอาแต่ลังเล เขาก็มองมาไม่วางตา ทำให้อึนฮันต้องรีบขึ้นรถโดยเร็ว กะ…การขโมยรถถือเป็นความผิดอาญาของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ เขาไม่ควรมาข้องเกี่ยวกับเรื่องแบบนี้เลย อึนฮันอยากร้องไห้ก็อยาก แต่วาซีลีวันนี้ก็น่ากลัวเหลือเกิน เขาจึงไม่อาจร้องไห้ออกมาได้
วาซีลีสตาร์ตรถได้อย่างง่ายดาย รถจึงพุ่งทะยานออกไปแทบจะทันที
“เราไปที่ใกล้ ๆ นี้กันเถอะ”
วาซีลีพูด
ที่ใกล้ ๆ ที่ไหนกันล่ะ อึนฮันหยุดหายใจเมื่อคิดว่าตัวเขาอาจถูกฝังทั้งเป็น จากนั้นก็เริ่มสะอึกตามมาจนไม่อาจหยุดได้ ถึงอย่างนั้นวาซีลีกลับทำเป็นทองไม่รู้ร้อนกับอาการของอึนฮันแล้วเอาแต่ขับรถต่อไปด้วยความเร็วสูง
“ลงมา”
อึนฮันที่เอาแต่นั่งก้มหน้าก้มตาคิดถึงฉากต่าง ๆ จากหนังสยองขวัญซ้ำไปซ้ำมาในหัวเงยหน้าขึ้นทันที สิ่งที่เขาได้เห็นเมื่อเงยหน้าขึ้นมาก็คืออาคารแสนหรูหราสุดอลังการ
“ยินดีต้อนรับครับ”
ชายในชุดเครื่องแบบของสถานที่นี้กล่าวทักทายพวกเขาพร้อมรอยยิ้มสุภาพและเป็นมิตร อึนฮันแหงนหน้าขึ้นเพื่อมองตัวตึกให้ชัดเจน แต่เขาไม่แน่ใจว่าที่นี่คือที่ไหน สิ่งเดียวที่แน่ใจได้คือมันดูเหมือนทางเข้าโรงแรม
“คะ…คือ คะ…คุณคามินสกี คือว่า…”
“เรียกฉันว่าวาซีลี”
วาซีลีพูดแบบนั้นพลางดึงอึนฮันลงมาจากรถด้วย อึนฮันพยายามเกาะเบาะที่นั่งไว้ แต่กลับถูกวาซีลีดึงไปได้อย่างง่ายดายจนต้องมายืนอยู่ข้างเขาในที่สุด วาซีลีลากอึนฮันไปจนถึงเคาน์เตอร์ต้อนรับอย่างไม่ยากเย็น
“สวีต” เขายื่นการ์ดไปพร้อมระบุห้องที่ต้องการ เมื่อเห็นแบบนั้น พนักงานต้อนรับก็ฉีกยิ้มสดใสทันที วาซีลีขมวดคิ้วใส่พนักงานที่บอกให้เขารอสักครู่ อย่างนี้นี่เองสินะ
การต้องมายืนหน้าเคาน์เตอร์ทั้งที่โดนวาซีลีจับข้อมืออยู่แบบนี้ทำเอาอึนฮันอยากตายให้รู้แล้วรู้รอด ผู้คนมากมายพากันเหลือบมองพวกเขาทั้งสองคนอยู่เนือง ๆ แม้อเมริกาจะเป็นประเทศที่เสรีสุด ๆ ถึงอย่างนั้นการที่ผู้ชายคนหนึ่งลากผู้ชายอีกคนเข้ามาขอห้อง ‘สวีต’ หน้าเคาน์เตอร์ก็ยังไม่ถือว่าเป็นเรื่องปกติอยู่ดี อึนฮันหลับตาแน่น เขาไม่อาจตั้งสติรับสายตาของผู้คนรอบตัวได้จริง ๆ
ถึงอย่างไรที่นี่ก็คือโรงแรม นี่ไม่ใช่ว่าเขาจะถูกข่มขืนแทนที่จะถูกฆ่าหรือไง! โอ๊ย บ้าเอ๊ย ชีวิตนี้ถูกผู้ชายข่มขืนแค่ครั้งเดียวก็พอแล้ว แน่นอนว่าเขาไม่ได้หมายความว่าถูกผู้หญิงกระทำหลายครั้งแทนแล้วจะโอเค เขาต้องโดนแบบนี้ตั้งสองครั้งเชียวเหรอ ยิ่งไปกว่านั้นครั้งแรกยังซวยถูกเจ้าพี่ชายนั่นทำ ทว่าครั้งนี้อีกฝ่ายดันเป็นถึงจอมล้างแค้น เรื่องขืนใจก็เรื่องหนึ่ง แต่อึนฮันจะรอดชีวิตมาได้ยังไงเล่า! ไม่สิ ไม่ใช่ว่าจะถูกทารุณกรรมทางเพศจนต้องเอ่ยปากขอร้องให้เขาฆ่าแทนเลยเหรอ อึนฮันทำหน้าเหยเก
ทางโรงแรมก็หาห้องพวกเขาได้รวดเร็วเสียเหลือเกิน อึนฮันถูกวาซีลีลากไปที่ห้องทันที พนักงานผู้ดูแลแขกที่เข้าพักห้องสวีตเริ่มอธิบายว่าห้องนี้ดีเพียงใด บอกว่านี่เป็นห้องสวีตแบบเพนต์เฮาส์ มีสระว่ายน้ำส่วนตัวแยกต่างหากมีพ่อครัวคอยดูแล…แต่แล้วจู่ ๆ วาซีลีก็ขมวดคิ้ว อึนฮันตกใจรีบสังเกตสีหน้าวาซีลี เพราะชีวิตเขาขึ้นอยู่กับอารมณ์ของผู้ชายคนนี้ว่าจะถูกตัดสินให้เป็นหรือตาย วาซีลีเอ่ยปากว่า
“ถ้าอยากได้อะไรจะเรียกเอง อย่าให้ใครเข้ามาแล้วกัน”
ปะ…เป็นไปไม่ได้! อึนฮันร้องประท้วงอยู่ในใจ การรับฟังคำอธิบายเกี่ยวกับห้องพักเป็นหน้าที่ของลูกค้านะ! พูดต่อสิครับคุณพนักงาน! ห้องนี้ไม่มีประวัติอะไรบ้างเหรอ หรือจะเล่าช่วงเวลาสำคัญของห้องนี้ บุคคลผู้น่าจดจำที่เข้าพัก หรือจะร่ายรายชื่อคนที่เคยเข้าพักตลอดห้าปีที่ผ่านมาก็ยังได้! แต่พนักงานกลับยิ้มกว้าง
“ถ้าอย่างนั้นผมจะคอยดูแลไม่ให้ใครเข้ามารบกวนได้ครับ” เขาพูด
อึนฮันยังคงโวยวายในใจไม่เลิกว่าเป็นพนักงานประสาอะไรเนี่ย!
วาซีลีมองอึนฮัน อึนฮันอ่านความหมายออกจึงเดินตามเขามาอย่างระมัดระวังทั้งที่ข้อมือก็ยังถูกจับไว้ อีกฝ่ายก้มหน้าก้มตา แถมยังทำหน้าเหมือนคิดไม่ตก ทั้งที่ยังไม่หยุดสะอึกดังอึ้ก ๆ แต่ก็ไม่ยอมเงยหน้าขึ้นเช่นกัน วาซีลีได้แต่เดาะลิ้นอย่างไม่พอใจเมื่อเห็นสีหน้าของอีกฝ่ายที่ดูสับสน บอกไม่ได้ว่าชอบหรือไม่ชอบกันแน่ ทันใดนั้นอึนฮันก็เหลือบตาขึ้นมองเขา แต่พอได้สบตากันก็กลับรีบหลุบตาลงไปอีกครั้ง นี่มันสัญญาณอะไรกัน เขาไม่ชอบอะไรซับซ้อนนะ วาซีลีมองสำรวจเรือนร่างอึนฮันโดยพยายามไม่เพิ่มแรงจับที่ข้อมือ กระเป๋าสะพายสีดำตรงสะโพกอึนฮันตรึงสายตาเขาไว้ เหมาะจริง ๆ กระเป๋าใบนี้เหมาะกับอึนฮันมากกว่าพวกข้าวของแบบเด็กน้อยที่เจ้าตัวชอบเลือกใส่ทุกวันเป็นไหน ๆ
“ถ้าอย่างนั้นขอให้ทั้งสองท่านมีช่วงเวลาที่มีความสุขนะครับ”