วาซีลีขมวดคิ้ว สำหรับคนไม่ชอบของหวานอย่างเขา การไปซื้อขนมหรือเค้กนับว่าเป็นเรื่องทรมานใจเหลือเกิน วาซีลีไม่กินขนมและเค้กมาตั้งแต่เด็กดังนั้นแม้จะเห็นขนมหรือเค้กเขาก็ไม่รู้ว่ารสชาติเป็นอย่างไร ความเห็นของนีโคไลซึ่งแนะให้เขาซื้อของที่ตัวเองไม่ชอบไปให้ยุนฟังดูไม่ค่อยเข้าท่าเท่าไร วาซีลีจึงถามอย่างแคลงใจ
“ขนมหรือเค้กนี่มันง่ายจริง ๆ เหรอ”
‘ง่ายที่สุดแล้วครับ ว่าแต่วาซยา มันออกจะตลกอยู่นะที่คุณไปบ้านเขา ยิ่งซื้อขนมหรือเค้กไปด้วยก็ยิ่งตลกเข้าไปใหญ่ นี่คุณชอบยุนถึงขนาดยอมทุ่มสุดตัวแบบนี้เลยเหรอ’
นีโคไลถามอย่างไม่เข้าใจและวาซีลีเองก็ไม่เข้าใจเช่นกัน เขาจึงตอบกลับไปพลางหันมองรอบตัวว่ามีร้านขนมปังอยู่แถวนี้บ้างหรือไม่
“ก็คงงั้น”
‘คำตอบอะไรกันล่ะนั่น’
“ก็ฉันไม่รู้นี่หว่า ไม่รู้เหมือนกันว่าชอบยุนหรือเปล่า…”
แต่แล้ววาซีลีก็กลับสังเกตเห็นชายหนุ่มผู้เป็นเป้าหมายของเขาอยู่ที่ฝั่งตรงข้ามพอดี อีกฝ่ายซึ่งเดินคู่กับผู้ชายอีกคนอยู่หันไปมองกระจกหน้าร้านค้าแล้วตกใจสะดุ้งเฮือก ก่อนที่จู่ ๆ จะคว้าแขนผู้ชายคนนั้นพยายามลากหนีไปจากที่นั่น วาซีลีชี้นิ้วไปที่อีกฝ่าย อย่าหนีนะ ชายหนุ่มไม่กล้าพอจะวิ่งหนี เขาหยุดยืนมองวาซีลีผ่านกระจกร้านอยู่อย่างนั้นราวกับเข้าใจคำเตือนด้วยนิ้วเพียงนิ้วเดียวนั่น
“หรืออาจจะไม่ชอบก็ได้ ไม่รู้สิ”
‘ไม่ใช่ไม่ชอบหรอก เพราะถ้าไม่ชอบ คุณฆ่าเขาไปแล้ว’
วาซีลีมองชายหนุ่มฝั่งตรงข้าม เขามองเห็นกระเป๋าสีดำที่เขาซื้อให้อยู่ตรงสะโพกของชายหนุ่มซึ่งยังยืนละล้าละลัง จะสบตาวาซีลีก็ไม่กล้า จะหนีก็ไม่ได้อยู่อย่างนั้น กระเป๋าใบนั้นเหมาะกับเขามากอย่างที่วาซีลีคิดไว้ไม่มีผิด
“แค่นี้นะ”
‘เฮ้ย วาซยา เดี๋ยว…’
ถึงแม้จะได้ยินน้ำเสียงตื่นตระหนกของนีโคไล วาซีลีก็ยังทำเป็นไม่ได้ยินแล้วตัดสายทิ้ง
+++++++++++++++++++++++++++
วาซีลี คามินสกีเริ่มข้ามถนนใกล้เข้ามาแล้ว อึนฮันหันไปมองวาซีลีด้วยความตกใจ วาซีลีเดินทอดน่องข้ามถนนมาช้า ๆ อย่างกับนายแบบ รถราต่างพากันลดความเร็วลงอย่างกะทันหัน พร้อมบีบแตรเสียงดังลั่นไปหมดเพราะตกใจกับวาซีลี คนขับรถบางคนตะโกนออกมาว่า
“เฮ้ย ไอ้บ้านี่ อยากตายหรือไง!”
วาซีลีที่เดินล้วงกระเป๋าเข้ามาเหลือบตาไปมองคนขับคนนั้น สีหน้าของเขาคล้ายจะบอกว่า แกเหรอจะฆ่าฉัน คนอย่างแกน่ะเหรอ
“คะ…คุณคามินสกี! ทางนี้ครับ!”
ตอนนั้นเองอึนฮันก็ร้องตะโกนพลางโบกมือให้อีกฝ่าย แค่นี้เขาก็เข้าไปข้องเกี่ยวกับวาซีลีมากพอแล้ว เขาไม่อยากเกี่ยวข้องด้วยมากกว่านี้อีก เลิกทำให้ผมต้องกลายเป็นพยานในที่เกิดเหตุเสียทีเถอะน่า อึนฮันได้แต่ร้อนใจ
อึนฮันเห็นวาซีลีหันไปยิ้มให้คนขับรถ เขาแปลความหมายของรอยยิ้มนั่นได้ทันที วันนี้แกโชคดีไปนะ ต้องเป็นอย่างนั้นแน่ ๆ วาซีลีข้ามถนนด้วยท่าทีสบาย ๆ ก่อนจะมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าอึนฮัน วันนี้เขาก็ยังหล่อเหมือนเดิม ชายหนุ่มสวมชุดสูทเหมือนเพิ่งกลับมาจากที่ไหนสักแห่ง และสูทนั่นพอดีตัวเขามากราวกับติดตัวมาแต่แรก
“สวัสดี ยุน”
วาซีลีพูดเสียงอ่อนโยน
“ครับ สวัสดีครับ”
อึนฮันตอบกลับ สีหน้ากระอักกระอ่วน วาซีลีก้มมองสีหน้าอึนฮันแล้วก็เป็นอันได้หลุดหัวเราะออกมา ทั้งที่คิดว่าความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาดีขึ้นมาหน่อยแล้วแท้ ๆ แต่จนแล้วจนรอดก็ยังเหมือนเดิม อึนฮันเงยขึ้นมามองเขาทั้งที่สีหน้าเหมือนจะล้มลงไปได้ทุกเมื่อ อีกฝ่ายต้องมองว่าเขาเป็นแขกไม่ได้รับเชิญขนาดไหนกันนะ แต่ถึงจะรู้ตัวว่าเป็นแขกไม่ได้รับเชิญจริง ๆ เขาก็ยังไม่พอใจที่อีกฝ่ายแสดงออกมาแบบนั้นอยู่ดี
เมื่ออึนฮันเอาแต่ยืนนิ่งหลังจากเขาทักทาย วาซีลีจึงหันไปมองชายหนุ่มอีกคนที่อยู่ข้างอึนฮันแทน ชายคนนี้สูงกว่าอึนฮันเล็กน้อย ผิวพรรณก็ขาวกว่า ทั้งยังดูเป็นมิตร แต่ริมฝีปากและแววตากลับดูหยาบกระด้าง ในสายตาของวาซีลีที่มองคนออกอย่างทะลุปรุโปร่ง เขามองว่าชายคนนี้เป็นมนุษย์ที่น่ารำคาญมากทีเดียว แล้วทำไมคนแบบนี้ถึงมาเดินเที่ยวกับยุนได้ล่ะ วาซีลีคิดอยู่สักพักก่อนจะเอ่ยถาม
“คนนี้คริสเหรอ”
“ชะ…ชื่อนั่น คุณรู้จักได้ยังไง…”
อึนฮันถามสิ่งที่อยากถามมาตั้งแต่คราวก่อนออกไปอย่างระมัดระวัง อีกฝ่ายไปรู้ชื่อของคริสมาจากไหนกัน เมื่ออึนฮันเงยหน้ามองวาซีลีด้วยแววตาเป็นกังวล เขาก็ยักไหล่
“มันขึ้นอยู่บนหน้าจอโทรศัพท์นายไง”
“อะ…อ๋อ ยะ…อย่างนี้เอง…”
อึนฮันลูบอกตัวเองด้วยสีหน้าที่ไม่รู้ว่าโล่งใจหรือยิ่งกังวลกันแน่ อะไรเนี่ย เป็นแฟนกันหรือไง วาซีลีมองชายข้างกายอึนฮันโดยไม่คิดปกปิดสีหน้าไม่พอใจของตัวเอง ไอ้หมอนี่คือคริสงั้นเหรอ คริสที่ไปเจอกันวันเสาร์นั่นน่ะนะ
MANGA DISCUSSION