ช่วยทีครับ ใจผมรับคุณมาเฟียไม่ไหว - ตอนที่ 17
เขาทำงานติดต่อค้าขายกับมาเฟียอย่างคามินสกีมามากกว่าหนึ่งปี ไม่มีทางกลัวคนธรรมดา ๆคนหนึ่งอยู่แล้ว ทว่าอึนฮันไม่อยากให้คนพรรค์นี้ย่างกรายเข้ามาในบ้านเขา
“ระหว่างนายกับฉันยังมีเรื่องอะไรให้คุยอยู่อีกเรอะ”
เมื่ออึนฮันพูดออกไปแบบนั้น ซ็องฮันก็จับแขนเขาไว้ ทั้งยังขอไม่ให้ทำแบบนี้
“ครั้งหนึ่งเราสองคนก็เคยมีความสัมพันธ์ดี ๆ ต่อกันไม่ใช่เหรอ”
“ความสัมพันธ์ดี ๆ ที่เริ่มด้วยการข่มขู่แล้วข่มขืนน่ะเหรอ”
อึนฮันปัดมือซ็องฮันออก แม้จะทำเป็นใจดีอ่อนโยน แต่แววอำมหิตกลับแวบผ่านเข้ามาในแววตาของซ็องฮันซึ่งมีนิสัยโหดร้ายทารุณเป็นทุน ทำไมพวกคนโฉดถึงได้หน้าตาดูเป็นคนดีกันไปหมดนะ จู่ ๆ อึนฮันก็นึกสงสัยขึ้นมา ก็แม้แต่คามินสกียังหน้าตาเหมือนนักบวชเลยไม่ใช่รึไง
“แต่ยังไงฉันก็มาถึงนี่แล้ว อย่างน้อยก็เลี้ยงกาแฟฉันสักแก้วสิ”
อย่างไรก็ตาม ซ็องฮันกลับไปทำหน้าตาใจดีเหมือนเดิม เพราะคิดว่าอาจจะมากเกินไปหากใช้กำลังบังคับอึนฮันที่ไม่ได้อ่อนโยนเหมือนเมื่อก่อนแล้ว
“ออกไปได้แล้วไป”
อึนฮันพยักพเยิดไปทางบันไดด้วยความไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงต้องเลี้ยงกาแฟคนที่ไม่เปลี่ยนไปจากเมื่อก่อนเลยสักนิดด้วย
“ไม่ไป ฉันจะยืนอยู่ตรงนี้จนกว่านายจะเลี้ยงกาแฟฉัน”
หือ อึนฮันขมวดคิ้ว
“จำเอาไว้เลย ฉันจะยืนอยู่ตรงนี้จริง ๆ ไม่ว่าจะหนึ่งหรือสองวัน และจะไม่ไปไหนทั้งนั้นจนกว่าจะได้ดื่มกาแฟกับนายสักแก้ว”
เขาอาจจะแค่ล้อเล่นก็ได้ ทว่าซ็องฮันเป็นคนถือดี ถึงแม้จะไม่มีทางทนอยู่ได้ถึงวันหรือสองวัน แต่คนอย่างเขาก็รออยู่ตรงนี้ได้สองชั่วโมงเป็นอย่างน้อย ท้ายที่สุดอึนฮันจึงต้องยอมแพ้
“รอก่อน”
ว่าแล้วอึนฮันก็เข้าไปจัดของในบ้าน เขาเอื้อมไปหยิบกระเป๋าสะพายข้างใบที่พกไปไหนมาไหนด้วยประจำ แต่แล้วสายตาก็ดันเหลือบไปเห็นกระเป๋าสีดำที่แขวนไว้อย่างเรียบร้อยอยู่ข้างกัน คามินสกีเป็นคนเลวก็จริงอยู่ แต่ก็ยังมีมุมอ่อนโยนกับอึนฮัน ทั้งช่วยชีวิต ทั้งให้ของขวัญ ที่สำคัญคือไม่เคยต้องการอะไรจากเขาเป็นการตอบแทนเลย ถึงแม้อึนฮันไม่มีอะไรจะมอบให้ชายหนุ่ม คามินสกีก็ไม่เคยทำเหมือนเขาไม่มีตัวตน
อึนฮันหยิบกระเป๋าสีดำขึ้นมาสะพายแล้วใส่โน้ตบุ๊กลงไป ความจริงแล้วเขาชอบกระเป๋าใบนี้ แต่เขาเอ่ยขอบคุณหรือว่าสะพายมันต่อหน้าคามินสกีอีกครั้งไม่ได้ เพราะนั่นเปรียบเสมือนการส่งสัญญาณบอกอีกฝ่ายว่าให้สนใจเขาต่อไปได้ ดังนั้นเขาจะไม่ทำแบบนั้นเด็ดขาด คามินสกีเป็นคนน่ากลัว ไม่ว่าชายหนุ่มจะใจดีแค่ไหนหรือช่วยชีวิตเขาอย่างไร แต่ความกลัวก็ยังไม่หายไปอยู่ดี
ตอนนี้อึนฮันอายุสามสิบปีแล้ว เขาอยากมีความสัมพันธ์ที่เงียบสงบและเรียบง่าย แม้ไม่อยากไปข้องเกี่ยวกับผู้ชายอย่างคามินสกี แต่เขายังต้องเจอกับคามินสกีต่อไป ทว่าหากลามไปถึงขั้นมีความสัมพันธ์ทางกาย อึนฮันก็จะคบหากับผู้ชายคนอื่นได้ยากขึ้น เพราะหากเขาเริ่มมีความสัมพันธ์กับคามินสกี ตอนจบของความสัมพันธ์ที่ว่านั้นก็จะขึ้นอยู่กับฝ่ายนั้นโดยปริยาย น่ากลัวจะตายไป ยิ่งไปกว่านั้น คามินสกีเพียงแค่ล่าอึนฮันอยู่ตามที่นีโคไลบอกเท่านั้น ไม่ได้นึกชอบพออะไรเขาเป็นพิเศษเลย ตราบใดที่เป็นการไล่ล่า สิ่งที่รออยู่ย่อมมีเพียงผลลัพธ์อันน่าหวาดหวั่น ทางที่ดีที่สุดคือเขาต้องหนีให้พ้นสายตาของนักล่าให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
“กระเป๋าอะไรล่ะนั่น”
ซ็องฮันขมวดคิ้ว
“บ้านฉันไม่มีกาแฟให้นาย ออกไปซะ”
อึนฮันพยักหน้าเป็นเชิงให้ออกไป ซ็องฮันหัวฟัดหัวเหวี่ยงอยู่พักหนึ่ง แต่สุดท้ายก็เดินตามออกมา อึนฮันออกมายืนคิดอยู่หน้าอพาร์ตเมนต์ว่าเขาควรไปที่ไหนดี แต่แล้วก็นึกขึ้นได้ว่ามีร้านสตาร์บัคส์อยู่ห่างจากตรงนี้ไปสองบล็อก หากเป็นเรื่องรสชาติกาแฟของยี่ห้อนี้ ไม่ว่าจะที่เกาหลีหรืออเมริกาก็เหมือนกันหมด อึนฮันตัดสินใจแล้วว่าเขาจะไปดื่มกาแฟที่สตาร์บัคส์กับเจ้าคนน่ารำคาญนี่สักแก้วจากนั้นจะบอกลาทันทีอย่างไม่มีข้อแม้
“สตาร์บัคส์ โอเคไหม”
“ถ้าไม่โอเค นายจะชงให้ฉันที่บ้านไหมล่ะ”
“แค่ยืนคุยกันริมถนนก็ดีถมไปแล้ว”
อึนฮันกอดอก เห็นแบบนั้นซ็องฮันก็หัวเราะออกมา
“ไม่เอา ๆ ก็ได้ ไปสตาร์บัคส์กัน”
จากนั้นทั้งสองก็ออกเดินไปสตาร์บัคส์ อึนฮันต้องคอยฟังเรื่องราวในอดีตของซ็องฮันไปตลอดทาง เขาไม่ได้อยากฟังเลยสักนิด แต่คนเล่าก็ยังเอาแต่สาธยายชีวิตของตัวเองจนหมดเปลือก เรื่องที่ได้เป็นนักบินในสายการบินของพ่อแม่บ้างละ หาเงินได้แต่ไปเจอผู้หญิงลำบากบ้างละ หรือกระทั่งเรื่องที่ตัวเองหมายตาแอร์โฮสเตสคนหนึ่งไว้แต่เข้าหาไม่ได้เพราะเธอหยิ่ง อึนฮันรับฟังเรื่องราวทั้งหมดนั้นด้วยใบหน้าเฉยชา แล้วจู่ ๆ ซ็องฮันก็โน้มริมฝีปากมากระซิบชิดริมหูเขา
“เพราะอย่างนั้นช่วงนี้ฉันเลยเก็บกดน่ะ นายมีแฟนรึยัง”
อึนฮันผลักซ็องฮันออก ดูเหมือนคนคนนี้ยังอยากหลับนอนกับผู้ชายอยู่หลังจากที่ไม่ได้ทำมานาน ยิ่งคิดแบบนั้น เขาก็ยิ่งเกลียดซ็องฮันมากกว่าเดิม