“นี่”
คามินสกีเรียกอย่างระมัดระวัง เขาจึงหันหน้าไปหา แล้วอีกฝ่ายก็เอ่ยถามด้วยสีหน้าตระหนก
“นายร้องไห้เหรอ”
อึนฮันคิดว่าเขาจะตายแล้วเสียอีก คามินสกีไม่ได้คิดจะขับรถพุ่งชนไปข้างหน้าหรอกเหรอ เขาคิดว่าตัวเองต้องตายแน่แล้วจริง ๆ ภาพตรงหน้ามืดไปหมด น้ำตาเอ่อคลอ จำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าตัวเองโวยวายอะไรไปบ้าง เขาแหกปากอย่างกับคนบ้า เพราะถ้าไม่ทำอย่างนั้น หัวใจคงหยุดเต้นด้วยความกลัวแน่ ๆ ระหว่างนั้นคามินสกีก็มองดวงตาของอึนฮันอย่างสับสน ชายหนุ่มก้มหน้าลง เหมือนจะได้ยินอีกฝ่ายถามว่าร้องไห้เพราะอะไรจึงไม่อาจสบตาได้
“ร้องไห้หนักเลยเหรอ”
ทั้งที่แค่ทำเป็นไม่รู้ไปก็ได้ แต่อีกฝ่ายกลับไม่ทำอย่างนั้น แม้อึนฮันจะก้มหน้าหลบ แต่เขาก็ยังก้มตามมามองหน้าอยู่ดี ในที่สุดอึนฮันก็เงยหน้าขึ้น พอคามินสกีเห็นขอบตาแดงก่ำของเขาแล้วก็ได้แต่ถอนใจ
“มันอาจจะเป็นวิธีที่น่ากลัวไปหน่อย แต่ก็มีอยู่วิธีเดียวนี่ละ”
คามินสกีเดาะลิ้นอย่างไม่สบอารมณ์เมื่ออึนฮันไม่ยอมตอบอะไรกลับมา เขาเงียบไปนานราวกับไม่รู้ว่าควรพูดอะไรดี ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่ละสายตาไปจากดวงตาของอึนฮัน คามินสกีพาดแขนไว้กับพวงมาลัยพลางมองมา
“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะทำให้นายร้องไห้เลย จริง ๆ นะ”
เขาพูดแบบนั้น แหงอยู่แล้วสิ เรื่องนั้นอึนฮันเองก็รู้ดี ทำไมคามินสกีถึงต้องขับรถพุ่งใส่รถของฝ่ายตรงข้ามเพื่อทำให้อึนฮันร้องไห้ด้วยล่ะ
“ละ…หลังรถมีคนอยู่ใช่ไหมครับ”
อึนฮันถามอย่างระมัดระวัง
“อืม”
คามินสกีตอบอย่างไม่ยี่หระ
“ไว้ชีวิตแค่คนเดียวก็พอแล้วนี่”
นั่นหมายความว่าคามินสกีฆ่าคนอื่นที่เหลือไปหมดแล้ว อึนฮันตัวสั่นสะท้าน เขาต้องมาเจอกับคนที่ฆ่าคนอื่นได้ง่ายดายเหมือนผักปลาทุกสองเดือน ถ้าอย่างนั้นสักวันเขาก็ต้องถูกฆ่าเหมือนกันใช่ไหม เขาเองก็เคยถูกยัดไว้ท้ายรถ เลยรู้ดีว่าน่ากลัวแค่ไหน ตอนนั้นรอดมาได้ก็จริง แต่ถ้ามีอีกครั้งเขาตายแน่นอน พอคิดได้แบบนั้นอึนฮันก็อยากจะหนีออกจากรถนี่เสียเดี๋ยวนี้เลย อยากออกไปจากความกดดันแบบนี้ที่ทำให้ร่างทั้งร่างเหมือนจะทรุดลงเต็มทีแล้ว แต่ก็รู้ดีกว่าใครว่าเขาทำอย่างนั้นไม่ได้
“ผมขอกลับบ้านได้ไหมครับ”
อึนฮันถาม น้ำเสียงวิงวอน
“พอดีตอนเย็นผมมีนัด…ผมต้องกลับบ้านจริง ๆ ครับ”
คำพูดของอึนฮันทำให้คามินสกีขมวดคิ้ว
“เย็นนี้นายนัดกับคนอื่นไว้ด้วยเหรอ ทำไมล่ะ”
อึนฮันไม่ได้ตอบอะไรและเอาแต่เงียบเมื่อเห็นว่าคามินสกีไม่พอใจ เขาไม่คิดจะอยู่กับคามินสกีนาน ๆ แน่นอนอยู่แล้ว คิดแค่ว่าจะกินข้าวด้วยสักมื้อแล้วรีบแยกตัวออกมา แต่ดูเหมือนคามินสกีจะไม่ได้คิดอย่างนั้นเลย นี่เขาคิดจะทำอะไรกับนักฟอกเงินที่ไม่ใช่คนสนุกสนานและไม่ได้รู้จักกันดีอย่างเขาทั้งวันกันล่ะ
“ยกเลิกนัดซะ”
คามินสกีพูดแบบนั้นก่อนจะลงจากรถ ไกลออกไปนั้นเขาเห็นบรรดาลูกน้องของคามินสกีกำลังเดินเข้ามา อึนฮันได้แต่กัดริมฝีปากเมื่อเห็นเงาร่างของพวกนั้นที่ต่างก็สวมชุดสูทสีดำเหมือนกันราวกับเครื่องแบบ
++++++++++++++++++++++
ทันทีที่เข้ามานั่งอยู่ในห้องรับรองของเรือยอชต์ คามินสกีก็ถามว่าจะดื่มอะไร อึนฮันตอบปฏิเสธว่าไม่เป็นไรเหมือนที่เคยทำ แต่คามินสกีกลับตบโต๊ะตรงหน้าเขาเสียงดังปังราวกับทนไม่ได้อีกต่อไป เสียงนั้นดังก้องไปทั่ว ดังจนไม่น่าเชื่อว่าใช้ฝ่ามือตี พออึนฮันสะดุ้งตกใจ คามินสกีก็ยื่นหน้าเข้าไปใกล้ใบหน้าของเขาก่อนจะขู่ด้วยเสียงทุ้มต่ำ
“นายกำลังบอกว่าจะไม่ยอมรับน้ำจากฉันแม้แต่แก้วเดียวอย่างนั้นสินะ ว่าไง”
จริง ๆ แล้วก็ใช่ แต่อึนฮันต้องแสร้งทำเป็นไม่ใช่และอธิบายเสียงเบาหวิว
“มะ…ไม่ใช่อย่างนั้นนะครับ…”
เมื่อคามินสกีพยักหน้า ผู้ชายที่ดูเหมือนบาร์เทนเดอร์ก็เดินยิ้มกว้างเข้ามาทันที
“สวัสดีครับ”
“สะ…สวัสดีครับ”
อึนฮันเอ่ยตอบรับน้ำเสียงใจดีและสุภาพนอบน้อมของบาร์เทนเดอร์อย่างระมัดระวัง ก่อนที่คามินสกีจะถามขึ้น
“จะดื่มอะไร”
อึนฮันพึมพำตอบกลับไป
“ขะ…ขอเป็นน้ำเปล่าก็แล้วกันครับ”
แม้จะขอไปแค่น้ำเปล่า แต่บาร์เทนเดอร์ก็ยังบอกอย่างนุ่มนวลให้เขารอก่อนจะเดินหายไป คามินสกียืนกอดอก ไม่นานบาร์เทนเดอร์ก็ถือแก้วน้ำมาวางไว้ให้บนโต๊ะ อึนฮันเหลือบมองคามินสกีพลางดื่มน้ำในแก้วจนหมด จากนั้นอีกฝ่ายก็ทรุดตัวลงนั่งข้าง ๆ เขา ในขณะที่เขาแอบเขยิบตัวออกห่างไปทีละนิด อึนฮันง่วนอยู่กับการค่อย ๆ ถดตัวไปอีกฟากของโซฟา แต่คามินสกีซึ่งอยู่ข้างตัวกลับเอนหัวลงมาซบไหล่เขาเสียอย่างนั้น อึนฮันถึงกับลืมหายใจ อีกฝ่ายไม่ยอมขยับออกไปสักที เขาจึงทำได้เพียงมองตรงไปด้านหน้า ตัวแข็งทื่อ พยายามทำตัวผ่อนคลายแต่ก็ทำไม่ได้เลย
“ยุน นายนี่นะ”
หลังจากผ่านไปสักพัก คามินสกีก็พึมพำออกมา
“ทำท่าทางแบบนี้กับคนที่ช่วยชีวิตนายน่ะมันไม่มากเกินไปหน่อยเหรอ”
MANGA DISCUSSION