ช่วยทีครับ ใจผมรับคุณมาเฟียไม่ไหว - ตอนที่ พิเศษ 11 (จบเล่ม 2)
อึนฮันก้มหน้าน้อย ๆ แล้วยื่นกล่องออกไปอีกนิด วาซีลีได้แต่ยืนงง ยุนอึนฮันเป็นคนหูตาไวก็จริง แต่ไม่ใช่คนที่จะมาทำเรื่องพิเศษ ๆ แบบนี้แน่นอน อีกฝ่ายกลับเป็นคนที่จะถอยห่างออกไปด้วยความตกใจทุกครั้งเมื่อวาซีลีเป็นคนทำเรื่องพวกนี้ให้ด้วยซ้ำไป เขารับของมาจากอึนฮัน แต่แล้วในขณะที่อึนฮันยิ้มออกมาบาง ๆ นั่นเอง
วาซีลีก็ฉีกกระดาษห่อดังแควก สัมผัสรุนแรงราวกับเจอศัตรูคู่อาฆาตในชีวิตนั้นทำเอาอึนฮันตกใจ
เดี๋ยวสิ ก็ไม่คิดว่าจะต้องแกะแบบทะนุถนอมอะไรหรอกนะ แต่ทำไมถึงฉีกเสียขนาดนั้นล่ะ ระหว่างที่อึนฮันนึกสงสัย วาซีลีก็ฉีกกระดาษห่อและเปิดกล่องออกจนได้พบกับสิ่งที่อยู่ภายในนั้นพอดี
กระเป๋าสตางค์นั่นเอง สีดำงั้นเหรอ ไม่สิ เหมือนจะเป็นสีน้ำตาลเข้มมากกว่า วาซีลีหยิบกระเป๋าขึ้นมาส่องกับแสงแดดเพื่อดูสีให้ชัด ๆ ก่อนจะลดมือลงมาอีกครั้ง หนังของมันนุ่มทีเดียว และเมื่อเปิดกระเป๋าออกดูก็เห็นว่ามีอะไรบางอย่างสอดอยู่ในช่องสำหรับใส่รูป นั่นคือรูปถ่ายของพวกเขาสองคน ตัวเขายิ้มอยู่ในขณะที่อึนฮันมีสีหน้าตกใจ ภาพที่เขายิ้มช่างดูแปลกตา เวลาอยู่ต่อหน้าอึนฮัน เขายิ้มแบบนี้เองสินะ ตอนนั้นเองวาซีลีก็นึกออกว่ารูปนี้ถ่ายไว้เมื่อไร ใครบางคนถ่ายรูปนี้ให้ในวันถัดมาหลังจากครั้งแรกของเขากับอึนฮัน เห็นได้ชัดว่าเขาในรูปยังไม่ได้ชอบอึนฮันเหมือนอย่างตอนนี้ สีหน้าเขาดูเหมือนคนที่ได้เจอของเล่นน่าสนุกมากกว่า ทั้งที่เพิ่งผ่านมาเพียงไม่กี่เดือนทว่าทุกอย่างกลับเปลี่ยนไปมากถึงขนาดนี้
อึนฮันเริ่มพะวักพะวนเมื่อเห็นวาซีลีไม่พูดอะไร หรือว่าเขาควรจะซื้อสีดำมามากกว่านะ แต่ใบที่แล้วของวาซีลีก็สีดำ เขาเลยคิดว่าคราวนี้น่าจะเปลี่ยนอะไรบ้างนิดหน่อยแค่นั้นเองนะ…ถ้ามองผ่าน ๆ มันก็ยังเป็นสีดำอยู่นี่นา หรือว่าจะไม่ถูกใจเรื่องอื่น ไม่ชอบยี่ห้อนี้งั้นเหรอ ขณะที่อึนฮันคิดไม่ตกอยู่นั้นวาซีลีก็พูดขึ้น
“อันที่จริง…ตอนอยู่ลอนดอนน่ะ”
ทำไมคำว่า ‘อันที่จริง’ ถึงได้ออกมาแทนคำว่า ‘ขอบใจนะ’ กันล่ะ สงสัยคงต้องให้ของขวัญใหม่อีกรอบแล้วมั้ง อึนฮันค่อนขอดในใจ
แต่อย่างน้อยแกล้งทำเป็นดีใจก็ถือเป็นมารยาทอย่างหนึ่งไม่ใช่รึไง อึนฮันมองวาซีลีซึ่งนอกจากจะไม่ดีใจแล้วยังไม่พูดอะไรสักคำ ทั้งที่เขาคิดว่าอีกฝ่ายจะดีใจมากแท้ ๆ แล้วจึงตัดสินใจอย่างแน่วแน่ ถ้าเกิดคราวหน้าผมให้ของขวัญคุณอีกละก็ ผมคงต้อง…!
“ฉันไปเกาะแมนมา”
…คิดบทพูดมาด้วยซะแล้ว
วาซีลีดูราวกับครุ่นคิดอะไรอยู่ น้ำเสียงแผ่วเบาดังก้องไปทั่วพื้นที่ภายในห้อง ผิวขาวนวลเปล่งประกายยามต้องแสงแดด อึนฮันมองชายหนุ่มที่หลุบตามองต่ำแล้วก็เพิ่งได้รู้ว่าขนตาของวาซีลียาวขนาดนี้ ทั้งที่คิดว่าไม่มีส่วนไหนในร่างกายนี้ที่เขาไม่รู้จัก แต่กลับยังมีสิ่งใหม่ ๆ ให้ได้ค้นพบอยู่ครั้งแล้วครั้งเล่า
วาซีลีจะมาที่เกาะแมนทำไม อึนฮันคิดขณะมองอีกฝ่ายซึ่งมีสีหน้าเคร่งขรึมจริงจังราวกับกำลังสารภาพบาปก็ไม่ปาน หรือจะมาเจอเขากันนะ แต่พอได้ยินว่าวาซีลีไม่มีเวลามาพบเขา อึนฮันก็ออกมาจากที่นั่นทันทีเลยนี่นา
“ฉันหาเวลาไปน่ะ ทั้งที่ตอนแรกคิดว่าไม่มีเวลาแต่สุดท้ายก็ดันทุรังหาเวลาไปเกาะแมนจนได้ ฉันไม่คิดว่าจะได้เจอนายหรอก แต่อย่างน้อยก็ยังมีโอกาส และแน่นอนว่าก็ไม่ได้เจอจริง ๆ เสียทั้งเวลาเสียทั้งงานไปโดยเปล่าประโยชน์”
วาซีลีพึมพำออกมา อึนฮันไม่เข้าใจเอาเสียเลย ทำแบบนั้นไปทำไมนะ วาซีลีคลี่ยิ้มเมื่ออึนฮันมองเขา
“แต่พอรู้ว่านายมาอยู่ใกล้ ๆ ก็ทนไม่ได้ ฉันเอาแต่คิดว่าอย่างน้อยขอแค่ได้เห็นหน้านายสักนาทีก็ยังดี ความเสียหายทุกอย่างนั่นเทียบไม่ได้เลยกับหนึ่งนาทีที่ได้เจอนาย”
วาซีลีพูดอย่างนั้นพลางก้มมองกระเป๋าในมือ เอาเถอะ ฉันไม่ขอให้นายเข้าใจหรอก เขาพลิกมันกลับไปกลับมาด้วยแววตาที่อึนฮันไม่คุ้นเคย ชายหนุ่มเอาแต่มองมันซ้ำแล้วซ้ำเล่าเหมือนคนที่เพิ่งเคยเห็นกระเป๋าสตางค์เป็นครั้งแรกในชีวิต มองอย่างไม่ละสายตาราวกับจะจดจำทุกรอยเย็บบนนั้น
“ฉันจะไม่คาดหวังและขอถามนายเหมือนกับในตอนนั้น”
วาซีลีถามขึ้นเหมือนไม่ใช่เรื่องสลักสำคัญอะไร
“ไปอยู่ด้วยกันไหม”
อึนฮันพูดอะไรไม่ออกไปพักใหญ่
ปัญหามากมายแล่นผ่านเข้ามาในหัว ขนาดแค่ไปไนต์คลับด้วยกัน วิถีชีวิตชาวเกย์ของอึนฮันยังแตกเป็นเสี่ยงไม่เหลือชิ้นดี แค่ชั่วโมงเดียวยังเป็นไปได้ขนาดนั้น แต่นี่มาชวนให้ไปอยู่ด้วยงั้นเหรอ…
ขึ้นชื่อว่านรกจะอย่างไรก็คือนรกวันยังค่ำ แต่อึนฮันคิดว่านี่คงเป็นนรกที่แสนหวานอย่างร้ายกาจ เมื่อเห็นเขาไม่ตอบอะไร วาซีลีจึงถามซ้ำอีกครั้ง
“อยากไปอยู่กับฉันไหม”
ฟังจากน้ำเสียงก็รู้แล้วว่าเขาต้องให้คำตอบเดี๋ยวนี้ คำพูดอย่าง ฉันจะให้เวลานายคิด หรืออะไรเช่นนั้นไม่เคยมีหรอก ‘สารบัญปัญหาที่คาดว่าจะเกิดขึ้น’ ในหัวของอึนฮันยังคงต้องอัปเดตอยู่ตลอดเวลา และหลังจากนี้ก็น่าจะมีตามมาอีกเป็นพันข้อ แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ
“ไปสิครับ”
อึนฮันตอบด้วยน้ำเสียงสบาย ๆ ราวกับตัดสินใจเรื่องอาหารเช้า
เขาค้นเจอเหตุผลนับพันว่าทำไมพวกเขาสองคนไม่ควรจะอยู่ด้วยกัน แต่การที่ตัวเขารู้สึกว่าจะไปอยู่ด้วยดีไหมนะ สุดท้ายแล้วนั่นก็หมายความว่าอยากอยู่ด้วยกันอยู่ดีไม่ใช่หรือไง และหากเป็นแบบนั้น เขาก็อยากจะตอบไปแบบสบาย ๆ เหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร
วาซีลีเหม่อมมองอึนฮันด้วยสีหน้าสับสนเหมือนคนท้องไส้ปั่นป่วน เขามองอึนฮันโดยไม่แม้แต่จะกะพริบตาคู่นั้นที่กำลังตกตะลึงเลยสักนิด อึนฮันเห็นแบบนั้นก็เป็นอันต้องหัวเราะออกมา แม้หนทางข้างหน้าจะอีกยาวไกลแต่เขาก็แค่หัวเราะไปกับมัน
ทำไมเรื่องแบบนี้ถึงเกิดขึ้นกับเขากันนะ
เขาไม่อยากจะคิดถึงเรื่องแบบนั้นอีกต่อไปแล้ว อึนฮันอยากอยู่อย่างปลอดภัยไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่ แต่สุดท้ายก็ไม่มีที่ไหนปลอดภัยสำหรับเขาเลย ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ยุนอึนฮันก็ขอโอบกอดความสุขนี้ไว้ในอ้อมแขนแม้ว่าตัวเขาเองจะกำลังกระโดดลงจากหน้าผาก็ตาม