ช่วยข้าทีสองสามีของข้าคือท่านอ๋องจอมโหด NC25 3P - ตอนที่ 21 หนีไปให้ไกล
“หานเซียวท่านปล่อยข้านะ”
สายตาของหานเซียวบัดนี้เย็นเยียบยิ่งกว่าน้ำแข็ง เขายกมุมปากพร้อมกับเอ่ยเสียงต่ำ
“หานเซียวเช่นนั้นหรือ เจ้าเรียกข้าว่าหานเซียวหรือ?”
ชื่อนี้ของเขามีเพียงฝ่าบาทเท่านั้นที่เรียกขาน นางเป็นผู้ใดกันถึงบังอาจได้เพียงนี้
น้ำในตาของหนานอิงเอ่อคลอ นางยังดิ้นรนขัดขืนแต่ก็ไม่อาจสู้แรงของเขาได้ ฉับพลันนางก็ถูกเขาทาบทับลงมาทั้งตัว
“ขะ ข้า”
หนานอิงเสียงสั่น นางเองที่พลาดไปนางไม่รู้ว่าคนผู้นี้มีตำแหน่งใหญ่โตเพียงใด ขุนนางในราชสำนักนางไม่อาจล่วงเกินเขาอาจจะเป็นขุนพลคนสนิทของท่านแม่ทัพก็เป็นได้
“ขะ ข้า ไม่ได้ตั้งใจ ท่านปล่อยข้าเถิด ขอขอโทษนายน้อยข้าขอโทษ”
หนานอิงเปลี่ยนสรรพนามเรียกเขาอย่างว่องไว คำนี้นางได้ยินท่านตาเรียกเขานางเรียกบ้างก็คงจะไม่ผิดกระมัง
หานเซียวหน้าเขียวกลับทำเสียงต่ำลงจนน่ากลัว
“นายน้อยหรือ เจ้าเป็นบ่าวบ้านข้าหรืออย่างไรผู้ใดอนุญาตให้เรียกกัน เห็นทีว่าเจ้ายังต้องการที่จะตายอยู่ใช่หรือไม่!!”
“มะ ไม่ใช่เช่นนั้น”
“เจ้ายิ่งปฏิเสธ ข้าก็ยิ่งไม่พอใจกล้าทำก็ต้องกล้ารับ ข้าหลอกลวงผู้อื่นได้แต่ข้าไม่ชอบให้ผู้ใดหลอกลวง”
หนานอิงอ้าปากค้าง นี่มันความคิดบิดเบี้ยวอันใดกัน หลอกผู้อื่นได้แต่ห้ามผู้อื่นหลอกตัวเองคนผู้นี้ช่างเห็นแก่ตัวเกินให้อภัยแล้ว
หานเซียวไล้นิ้วไปตามกรอบใบหน้างามของนางช้า ๆ สัมผัสความขาวนุ่มดุจแป้งฟูของนางอย่างพึงพอใจ จับเส้นผมของนางขึ้นมากำหนึ่งแล้วสูดดมความหอมลื่นที่ปลายนิ้วของตนเองช้า ๆ
เพียงสูดความหอมนี้ลมหายใจของเขาพลันถี่กระชั้น ดวงตาของเขาเบิกกว้างทันใดเขารู้สึกเหมือนตนเองกำลังหลงใหลความหอมนี้ เขาใช้นิ้วจิ้มแก้มของนางทั้งยังตื่นตะลึง หนานอิงผู้นี้มีร่างกายนุ่มนิ่มยิ่งกว่าเต้าหู้หากเขากัดแก้มของนางให้สงสัยว่าจะมีน้ำไหลออกมาหรือไม่
ในขณะที่หานเซียวคิดเตลิดไปไกลหนานอิงยังวุ่นวายอยู่กับการคิดคำเรียกขานเขา หรือจะเรียกเขาว่านายท่านดี หากเป็นนายท่านจะสามารถเรียกได้หรือไม่ ในที่สุดนางก็ตัดสินใจอ้อนวอนเขาอีกครั้ง
“นะ นายท่าน ขะ โปรดปล่อยข้าเถิด”
ครานี้หานเซียวหัวเราะเสียงดัง หนานอิงกลอกตาหรือว่าเรียกเช่นนี้จะถูกต้องแล้ว แต่เมื่อหานเซียวกล่าวคำนี้นางถึงกับร่างกายแข็งทื่อ
“คนที่เรียกข้าว่านายท่าน ก็มีเพียงแต่นางโลมที่ปรนนิบัติบนเตียง เช่นนั้น….เจ้าอยากปรนนิบัติข้าใช่หรือไม่”
“ขะ ข้า…ไม่…อย่าทำข้า… ข้าไม่คิดจะเป็นนางโลมของท่าน ปล่อยข้าเถิด”
หนานอิงส่ายหน้าปัดป้องเขาอย่างเต็มที่แต่หาได้เป็นผลเมื่อหานเซียวใช้ขาของเขาแยกขาของนางออกอย่างชำนาญ พลางกดทับเอาไว้ไม่ให้นางขยับ
เขาบังกดร่างของตัวเองลงมาให้นางได้สัมผัสว่าบัดนี้ตรงส่วนนั้นของเขาต้องการเพียงใด
“ไม่ต้องการเป็นนางโลมของข้าหรือ แล้วตำแหน่งที่สูงกว่านั้นเจ้าจะปฏิเสธว่าไม่ต้องการใช่หรือไม่ เจ้าบอกมาเถิดว่าเจ้ารู้แล้วว่าข้าคือผู้ใด จึงได้ใช้เล่ห์กลเช่นนี้ ยังเข้ามาหาข้าด้วยร่างกายนุ่มนิ่มของเจ้า…”
เขาก้มลงดอมดมเรือนผมของนางอีกครั้งก่อนจะเอ่ยเสียงต่ำอย่างน่าหวาดผวา
“ด้วยกลิ่นหอมที่เจ้าตั้งใจผสมน้ำเช็ดตัวให้ข้า ทั้งหมดนี้มิใช่แผนการของเจ้าหรอกหรือ แผนการต่ำช้าที่หมายจะใช้กลิ่นกระตุ้นกำหนัดของข้า คิดว่าข้าผู้นี้โง่เง่าจนรู้ไม่ทันเจ้าหรือ?”
หนานอิงไม่คิดว่าคนผู้นี้จะคิดไปไกลเพียงนี้ แค่สมุนไพรกลิ่นอ่อนผสมน้ำเช็ดตัวจะกลายเป็นยากระตุ้นกำหนัดได้อย่างไร อีกอย่างในตัวของนางตอนนี้ห่างน้ำอบกลิ่นร่ำร่างกายมานับเดือนแล้ว เหตุใดเขาจึงคิดว่านางกำลังยั่วเขากัน
คนผู้นี้ประหลาดเกินไปแล้ว นางไม่เคยพบเจอผู้ใดที่คิดเองเออเองเก่งเช่นเขามาก่อน ถึงนางอยากจะก่นด่าแต่นางก็ต้องเอาตัวรอด ทั้งผลักไสทั้งอธิบายไปพร้อม ๆ กัน
“ปล่อยข้า นายท่าน ไม่ใช่ ท่านปล่อยข้า ข้าเพียงแต่หวังดีกับท่าน ข้าหวังดีจริง ๆ หาใช่ตั้งใจ….”
“เจ้าอย่างไรก็ไม่ใช่สตรีที่บริสุทธิ์แล้ว เจ้ากำลังจะเป็น…”
หานเซียวกลืนคำว่า พระชายาของข้า ลงไปในลำคอ เมื่อหนานอิงโพล่งคำพูดที่ทำให้เขาประหลาดใจออกมาด้วยความคับแค้น
“ใช่ข้าถูกโจรชั่วสองคนวางยาแล้วข่มเหงโดยไม่เต็มใจแล้วอย่างไร ถึงข้าหาใช่สตรีที่ยังบริสุทธิ์แต่ก็มิใช่หมายความว่าท่านจะย่ำยีข้าได้เยี่ยงโจรใจสกปรกเช่นนี้”
หานเซียวเอียงคอ เขาบีบคางนางให้หันมามองเขาอีกครั้ง
“เจ้าบอกข้าว่าผู้ใดที่ย่ำยีเจ้า”
หนานอิงเจ็บช้ำใจยิ่ง ส่งเสียงต่ำลอดไรฟันออกมา
“ไอ้โจรชั่วมันวางยาข้าและข่มขืนข้า คนเลวพวกนั้นที่มันย่ำยีข้า”
“เจ้าแน่ใจหรือว่าถูกวางยา ไม่ได้เต็มใจหรือ อย่างในตอนนี้เจ้าก็พยายามที่จะยั่วยวนข้าเช่นกัน”
“คนเลวเช่นท่านก็คงจะคิดแต่เรื่องเลว ๆ กระมัง….หากท่านคิดว่าการที่ข้าถูกย่ำยีเป็นความเต็มใจของข้า ข้าก็ไม่มีสิ่งใดจะพูดแล้ว พวกเลวนั่น พวกชั่วนั่น สมควรตาย สมควรถูกสับร่างกายเป็นหมื่น ๆ ชิ้น”
หนานอิงพ่นคำด่าออกมาอย่างคับแค้นจนแทบจะกระอักเลือด บัดนี้นางกลายเป็นสตรีไร้ค่าเพราะคนสองคนนั้นนางเจ็บแค้นและหวังจะสังหารมันด้วยตัวเองแม้จะรู้มาว่าโจรพวกนั้นถูกกองทัพของท่านแม่ทัพสังหารไปแล้วแต่หากนางได้มีโอกาสพบศพของพวกมัน หนานอิงก็อยากจะขุดศพของพวกมันขึ้นมาแล้วสับมันเป็นหมื่น ๆ ชิ้นโยนให้สุนัขมันกินเสีย
ยิ่งคิดยิ่งเจ็บแค้นเมื่อบัดนี้นางยังมาโดนหานเซียวผู้นี้ข่มเหงด้วยวาจาและการกระทำอีก
ใบหน้าเล็กงดงามแดงก่ำ สายตาอำมหิตเต็มไปด้วยความเคียดแค้นชิงชัง ช่างดูแข็งแกร่งน่ายกย่อง หนานอิงในตอนนี้ช่างน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง
“เจ้าอยากแก้แค้นหรือไม่”
หนานอิงพยักหน้า ดวงตาแข็งกร้าวเย็นเยียบ
“หากพวกมันตายเป็นผีข้าก็จะสาปแช่งไม่ให้มันได้ผุดได้เกิด หากพวกมันยังมีชีวิตรอดข้าก็จะตามสังหารมันด้วยมือของข้าเอง”
“ดี ความแค้นของเจ้าที่มีต่อคนพวกนั้นข้าชอบยิ่ง ข้าจะรอดูว่าเจ้าจะทำเช่นไรต่อไป”
เมื่อรู้ว่าคนสองคนนั้นคือเขากับลู่หนิงหวัง แน่นอนว่าประโยคนี้เขาหาได้เอ่ยมันออกไป
หนานอิงดิ้นรนพยายามให้เขาปล่อย คิดว่าพูดคุยกันมากเพียงนี้เขาคงจะปล่อยนางแล้ว แต่หนานอิงหาได้รู้ตัวว่าคนผู้นี้แตกต่างจากบุรุษอื่นโดยสิ้นเชิง
“ท่าน…จะปล่อยข้าได้หรือ…”
คำพูดของหนานอิงบัดนี้ถูกกลืนหายไปพร้อมกับริมฝีปากที่บดกระหน่ำลงมาอย่างรุนแรงโดยไม่เปิดโอกาสให้นางแม้แต่จะโต้แย้ง
จู่ ๆ หนานอิงที่เต็มไปด้วยความแค้นในผู้นี้กลับกระตุ้นความต้องการของเขาเป็นอย่างมาก ร่างกายของหานเซียวสั่นสะท้านรุนแรง
เขาบดจูบนางโดยไม่เว้นให้นางได้หายใจ ทั้งพยายามควบคุมตนเองไม่ให้ตะกละตะกลามมากเกินไปจนนางรับไม่ทันและตายไปเสียก่อน แขนทั้งสองกักร่างของนางไว้ราวกับเชือกที่รัดแน่นจนหนานอิงรู้สึกเจ็บคล้ายกำลังถูกบดกระดูก
อ้อมกอดของเขานี้แน่นหนาหาใช่อ้อมกอดที่อบอุ่นแต่ประการใด หนานอิงทั้งถูกจูบรุนแรงทั้งถูกกอดรัดจนร่างแทบแหลกคาอ้อมอกเขา บัดนี้นางกำลังตะเกียกตะกายเหมือนปลาเป็นที่หนีน้ำร้อนในบ่อแม้จะรู้ว่าไม่มีทางสำเร็จแต่กระนั้นนางก็ยังไม่หยุดดิ้น
หนานอิงพยายามอย่างเต็มที่ที่จะผลักเขาออกแต่ก็ไม่เป็นผล จวบจนกระทั่งหานเซียวสัมผัสได้ถึงน้ำเปียกชื้นอุ่นร้อนที่ไหลนองเต็มหน้าของนางอีกทั้งยังมีเสียงสะอื้นที่ดังออกมานั่นจึงทำให้หานเซียวชะงักค้าง
“ข้า..เจ็บ..ฮือ….คนบ้า….คนป่าเถื่อน…คนเลว…ข้าเจ็บ”
นางทุบหน้าอกเขาอย่างแรง แต่ดูคล้ายกับว่าจะเสียแรงเปล่าเมื่อเขาไม่รู้สึกเลยสักนิด
หานเซียวคลายอ้อมแขน เขาหาได้เข้าใจนางผู้นี้ที่เอาแต่ขัดขืนทั้งที่นางเองเป็นคนเริ่มจึงรู้สึกหงุดหงิดอยู่มาก แต่เมื่อครั้นนางเรียกเขาว่าคนบ้า คนป่าเถื่อนเขากลับพอใจ
หานเซียวยิ้มเย็น
“ใช่ข้ามันหาใช่คนดีและข้าขอเตือนเจ้าว่าข้าไม่มีวันเป็นคนดีโดยเด็ดขาด ดังนั้นอย่ามายั่วข้าจะดีกว่า”
“ข้าหาได้ยั่วท่าน ข้าแค่หวังดี ข้าแค่หวังดี กลิ่นพวกนี้ก็เป็นเพียงสมุนไพรช่วยผ่อนคลาย คนบ้าเช่นท่านจะเข้าใจได้หรือยัง ฮือ ฮือ ฮือ”
หนานอิงในตอนนี้อาศัยหน้าอกของหานเซียวเป็นผ้าเช็ดหน้าแล้ว น้ำหูน้ำตาของนางทำให้หานเซียวผู้รักสะอาดอึดอัดจนกระทั่งผลักนางออก และนางยังไม่ขยับตัวยังก้มหน้าร้องไห้อย่างอับจนอยู่เช่นนั้น
เขาไม่พูดต่อ เห็นชัดเจนว่านางตั้งใจกระตุ้นกำหนัดเขาด้วยกลิ่นหอมประหลาดของนาง นางจะไม่รู้หรือว่าเขาเป็นผู้ใด นางคงคิดจะใช้ตนเองเพื่อก้าวเข้าสู่ตำแหน่งพระชายาให้ตนเองสุขสบายกระมัง ในยามนี้ยังปากแข็งปฏิเสธแล้วยังใช้น้ำตาเล่นงานเขา
เอาล่ะเขาเป็นบุรุษผู้หนึ่งที่ไม่ชอบน้ำตาสตรี นางช่างเหมือนลู่ไท่เฟยเป็นอย่างยิ่ง หลังจากด่าเขาและลู่หนิงหวังอย่างหยาบคายหลายครั้งก็ก้มลงปิดหน้าด้วยฝ่ามือร้องไห้เอาเป็นเอาตาย
หนานอิงผู้นี้ไม่เคยพบลู่ไท่เฟยเหตุใดจึงได้เหมือนกันเช่นนี้
สุดท้ายแล้วหานเซียวจึงโบกมือไล่นางเสียงเย็น
“เจ้าจะไปที่ไหนก็ไปเถิด เลิกร้องไห้ได้แล้วรำคาญยิ่ง”
หนานอิงได้ยินดังนั้นและรู้ว่าเขาไม่ได้เหนี่ยวรั้งนางเอาไว้แล้วจึงรีบกระโดดเป็นกวางตื่นลงจากเตียงนอนอย่างว่องไว จวบจนนางเกือบจะโผล่พ้นประตูได้ยินเสียงหานเซียวเรียกนางหนึ่งครั้ง
แต่นางมีหรือจะหยุดมือเล็กรีบเปิดประตูอย่างรวดเร็วคล้ายเสียงลมหวีดหวิวพัดผ่านใบหน้าและเส้นผมของนางบางเส้นพลันหลุดร่วงลงบนพื้น มีดสั้นเล่มหนึ่งปักเข้าที่ประตูนั่นอย่างแน่นหนา หนานอิงเข่าอ่อนจนแทบทรุดนางยืนแข็งค้างอยู่ตรงนั้นกระทั่งได้ยินเสียหานเซียวเอ่ยขึ้น
“ต่อไปหากข้าเรียกให้เจ้าหยุดฟังให้ดี ข้าบอกแล้วเจ้ายังมีประโยชน์ในเมื่อเปลี่ยนใจไม่ฆ่าตัวตายแล้วก็จงอย่าให้ผู้อื่นมาฆ่า หันหน้ามาแล้วฟังข้าให้ดี”
หนานอิงยังน้ำตาไหลเป็นสายน้ำแต่ไร้เสียงสะอื้น นางหมุนกายเหมือนหุ่นไม้ตัวหนึ่ง สมองบัดนี้ขาวโพลนไปหมด
“อาหารของเจ้านับว่า…” เขากระแอมครั้งหนึ่งแล้วเอ่ยต่อ “อาหารของเจ้านับว่าพอกินได้บ้าง ดีกว่ากินแป้งแข็งอยู่เล็กน้อยดังนั้นทำเพิ่มให้ข้าอีกชาม หลังกินข้าวให้เตรียมน้ำอุ่นมาสระผมให้ข้าด้วย”
หนานอิงได้ยินแล้วแต่ยังยืนนิ่ง หานเซียวจึงตวาดเสียงดังออกมา
“ยืนเซ่ออยู่ด้วยเหตุใด จำไว้อย่าได้คิดหนีข้าขอเตือนเจ้าว่าเจ้าไม่มีทางรอดแน่”
และนั่นเองทำให้หนานอิงรู้ว่าตนเองในตอนนี้วิ่งเก่งเพียงใด นางวิ่งออกมาจากกระท่อมน้อยหลังนั้นอย่างว่องไวและบัดนี้กำลังนั่งอยู่บนขอนไม้อันเดิม ทั้งยังสงสัยว่าหากตนเองจะหลบหนีจะสามารถหลบหนีได้หรือไม่
เมื่อหวาดกลัวเพียงนี้หนานอิงตัดสินใจอย่างไม่รอช้า นางคิดไปตายเอาดาบหน้าดีกว่าต้องอยู่กับบุรุษอารมณ์แปรปรวนผู้นั้น บุญคุณของนายท่านหนานอิงค่อยคิดตอบแทนในภายหลัง
เส้นทางเล็ก ๆ ที่นางวิ่งมาในคราแรกคิดว่าคงลงเขาได้อย่างง่ายดาย แต่นางหารู้ไม่ว่าแถบนี้เต็มไปด้วยกับดักของนายพราน อีกทั้งยังเป็นเส้นทางเขาวงกตหากไม่ชำนาญทางไม่มีทางที่จะพ้นจากหุบเขาแห่งนี้
นี่เป็นสาเหตุว่าเหตุใดคนที่ตามล่าหานเซียวและลู่หนิงหวังจึงตามพวกเขามาที่นี่ไม่ได้ ที่นี่แต่เดิมเป็นที่หลบซ่อนอันปลีกวิเวกของอาจารย์ของลู่หนิงหวังและหานเซียว
ท่านอาจารย์ของพวกเขาเดิมเป็นแม่ทัพใหญ่ที่เลี้ยงดูคนทั้งสองที่ชายแดนจนเติบใหญ่ หลังจากที่ท่านแม่ทัพใหญ่เกษียณจึงต้องการหาที่สงบอยู่อาศัยในบั้นปลายชีวิตหลังสละตำแหน่ง สองพี่น้องจึงได้สร้างที่นี่ขึ้นมาหวังให้อาจารย์อยู่อย่างสงบสุขโดยมีบ่าวผู้นี้พร้อมทั้งภรรยาของเขาคอยดูแลจนกระทั่งอาจารย์ตายไป
ไม่นานหลังจากนั้นภรรยาของท่านหมอก็ได้ตายจากเช่นกัน บัดนี้จึงเหลือเพียงชายชราที่กลายเป็นนายพรานอาศัยอยู่ที่นี่เพียงลำพัง โดยนาน ๆ ครั้งที่ลู่หนิงหวังและหานเซียวมีโอกาสได้มาเยี่ยมเยียนสักครา
หนานอิงยิ่งวิ่งก็ยิ่งเหนื่อยหอบ นางมึนงงกับเส้นทางอันสับสนเป็นอย่างมากคล้ายเหมือนว่านางจะผ่านมาทางนี้แล้ว หรือยังไม่ผ่านกันแน่ สุดท้ายหนานอิงทำสัญลักษณ์ที่ต้นไม้และเป็นจริงดังคาดนางวิ่งกลับมาทางเดิมอีก
เสียงร้องของสัตว์ป่าอันน่ากลัวดังขึ้น หนานอิงเริ่มหวาดระแวงว่าที่นี่จะมีเสือหรือสัตว์ร้ายอันใดบ้าง หรือหากนางโชคร้ายไปเจอโจรร้ายอีกจะทำเช่นไร
หนานอิงไร้หนทางแล้วเมื่อขาของนางเหนื่อยล้าจนเดินไม่ไหว สุดท้ายจึงตะโกนลั่นป่าหวังว่าผู้อาวุโสคงจะกลับมาจากซื้อข้าวสารที่หมู่บ้านด้านล่างได้ยินนางเข้า
แต่ยิ่งร้องก็ยิ่งคอแห้ง หนานอิงบัดนี้ไม่มีแม้แต่น้ำที่ติดกาย นางก่นด่าตนเองที่ตัดสินใจอย่างไร้สติ จนทำให้ตนเองลำบากเช่นนี้ หนานอิงสะอื้นในลำคอแต่ไม่มีน้ำตาสักหยด
นางเป็นเช่นนี้แล้วจะคิดแก้แค้นผู้ใดได้ นางในตอนนี้แม้แต่ตัวเองยังเอาตัวไม่รอด
เวลาผ่านไปนับชั่วยามจวบจนกระทั่งเดินวนไปเวียนมาที่เดิมอยู่หลายรอบ หนานอิงก็พลาดท่าจนได้ เมื่อนางเดินเหยียบเข้ากับกับดักสัตว์ ถูกเชือกรัดพันเท้าแน่นหนายังมีตาข่ายดักสัตว์ที่ตกลงมาพันร่างของหนานอิงเอาไว้แล้วดึงขึ้นไปห้อยหัวอยู่กลางอากาศ
บัดนี้แม้แต่เสียงร้องขอความช่วยเหลือหนานอิงยังไม่มีแล้ว