ช่วยข้าทีสองสามีของข้าคือท่านอ๋องจอมโหด NC25 3P - ตอนที่ 18 หานเซียวถูกพิษ
มือและเท้าของหนานอิงถลอกไปหมดแล้ว บัดนี้หนานอิงไม่กล้าแม้แต่ขยับทั้งยังมึนงงกับเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้น
บุรุษป่าเถื่อนผู้นั้นคือผู้ใดกันเขาบอกว่านางกำลังจะฆ่าตัวตายหรือ?
ข้าหรือที่จะฆ่าตัวตาย?
หนานอิงจำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคล้ายความฝันได้อย่างรางเลือน
หรือว่านั่นไม่ใช่ความฝัน แต่เป็นความจริงที่ได้เกิดขึ้นกับตัวนาง แล้วพวกเขาบังเอิญมาพบเข้า
หรือนางเหมยเซียงส่งคนมาช่วยนางจริงๆ แล้ว ฉับพลันหนานอิงรู้สึกเป็นหนี้บุญคุณน้องสาวผู้นั้นของนาง
หนานหง
หนานหงปีนี้อายุสิบหกเป็นเพียงบุตรสาวของนางบำเรอผู้หนึ่งของท่านหนาน
ที่ผ่านมาไร้ตัวตนในสกุลหนาน มารดาของนางเป็นเพียงหญิงคณิกาที่ท่านหนานเคยหลงใหลอยู่ช่วงเวลาหนึ่ง
หนานอิงรู้แต่ว่ามารดาของหนานหงได้ตายจากไปแล้วแต่ด้วยสาเหตุใดนางไม่เคยใส่ใจเนื่องจากในตอนนั้นทั้งหนานอิงและหนานหงเป็นเพียงเด็กน้อยอายุไม่กี่ขวบปีเท่านั้น
ผู้ที่เลี้ยงดูหนานหงมาเป็นแม่นมชราผู้หนึ่งที่หนานอิงคุ้นเคยดี เพราะแม่นมผู้นั้นก็คือแม่นมของหนานอิงเช่นกัน
ดังนั้นจึงทำให้หนานอิงค่อนข้างสนิทสนมกับหนานหงและให้ความเอ็นดูในฐานะน้องสาวผู้หนึ่ง
หนานหงปีนี้อายุสิบหกเพิ่งผ่านพ้นพิธีปักปิ่นมาได้เพียงหนึ่งปี นางเป็นเด็กฉลาดเรียนรู้เร็วจึงนับเป็นมือขวาของหนานอิง
และเพราะมึหนานอิงดูแลหนานหงจึงยังพออยู่ในสายตาของท่านหนานบ้าง
บุตรธิดาของสกุลหนานภายนอกเหมือนรักใคร่กลมเกลียวแต่ความจริงนั้นต่างแย่งกันจะเป็นที่โปรดปรานของท่านหนาน จึงเกิดการแข่งขันกันอย่างเอาเป็นเอาตาย
คนที่เก่งกาจหากเป็นบุรุษท่านหนานจะแบ่งกิจการสาขาตามเมืองต่าง ๆ ให้ดูแล หากเป็นสตรีจะคัดเลือกคนดี ๆ ให้แต่งเพื่อเส้นสายทางการค้า
แต่หากเป็นคนไร้ประโยชน์จะกลายเป็นผู้ที่ถูกหมางเมิน ถ้าเป็นบุรุษก็จะเป็นที่รองมือรองเท้าคนที่เก่งกว่าจะถูกเหยียบย่ำ
เมื่อเป็นสตรีที่ไร้ความสามารถอันใดก็จะถูกส่งไปเป็นอนุของผู้อื่นโดยที่ท่านหนานไม่เคยสนใจว่าสามีของบุตรสาวจะนิสัยใจคอเช่นไร
และเมื่อแต่งออกไปแล้วบุตรสาวผู้นั้นจะถูกตัดขาดจากสกุลทันทีเพื่อไม่ให้สิ้นเปลืองเงินทองของสกุลหนานที่ต้องคอยดูแลอีกต่อไป
ในวันที่หนานอิงถูกลักพาตัวในวันนั้นหนานหงเองก็เกือบจะถูกจับตัวมาด้วยแต่มีคนมาช่วยเสียก่อนนางจึงรอดพ้นมือโจร
หลังเกิดเหตุหนานหงหวาดกลัวเอาแต่กักตัวอยู่ในห้องหอจนกระทั่งหนานอิงกลับมา หนานหงดีใจเป็นอย่างยิ่ง
แต่เมื่อวิ่งออกมาก็เจอฮูหยินใหญ่ทำร้ายหนานอิงเสียแล้ว หนานหงเมื่อไม่มีหนานอิงคุ้มครองจึงไม่กล้าที่จะช่วยเหลือ
หนานหงได้ส่งบ่าวคนสนิทของตนเองคอยให้ความช่วยเหลือหนานอิง กระทั่งจดหมายที่ส่งไปให้นางเหมยเซียงก็เป็นบ่าวผู้นั้นของหนานหงที่ลอบส่งไปให้
หนานอิงยิ้มในใจ ในยามยากอย่างน้อยยังมีน้องสาวคนนี้ที่ดีต่อนางด้วยใจจริง
หวังเพียงว่าในคฤหาสน์สกุลหนานที่ไม่มีหนานอิงปกป้องหนานหงจะใช้ชีวิตอยู่และได้คู่ครองที่ดีออกเรือนไปอย่างสงบเหมือนดั่งเช่นน้องสาวของนางผู้นี้ที่หวังเพียงความสงบในชีวิต
เช้าวันต่อมาหนานอิงก็ถูกแงะออกจากซอกหินโดยบุรุษหล่อเหลาผู้หนึ่ง
นางนั่งขดตัวเองเช่นนั้นอยู่ทั้งคืนโดยที่ไม่ได้ขยับเพราะถูกมัด ยังถูกแมลงกัดค่อยจนมือเท้าที่บอบบางของนางเกิดผื่นแดงจนเห็นได้ชัด
หานเซียวมองร่างเล็กในอาภรณ์ที่เต็มไปด้วยคราบเลือดทั้งยังมอมแมมยิ่งกว่าลูกสุนัขตนหนึ่งอย่างไม่แน่ใจ
“ท่านพี่เราคงไม่ช่วยผิดคนกระมัง สภาพของนางที่ข้าจำได้ไม่ได้เป็นเช่นนี้นี่”
ลู่หนิงหวังนั่งลงเชยคางหนานอิงให้เงยหน้า มุมปากของเขายกขึ้นอย่างเย็นชา
ดวงตากลมโตดำขลับของนางเบิกกว้างมองเขาด้วยความหวาดหวั่น
ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยคราบดินสกปรก ยังบวมช้ำและริมฝีปากแตกอีกทั้งเขียวช้ำเป็นรอย กระนั้นยังเผยให้เห็นผิวขาวเนียนละเอียด
ลู่หนิงหวังไม่เอ่ยคำใดออกมา เขาดึงผ้าที่ยัดปากนางออก
หนานอิงกำลังจะเอ่ยคำบางคำออกมากลับถูกบุรุษผู้นั้นปิดปากของนางด้วยปากของเขาและยังตะโบมจูบลงมาอย่างหนักหน่วง
หนานอิงตกตะลึงอ้าปากค้างปล่อยให้เขารุกล้ำจนพอใจ จุมพิตหนักหน่วงนั่นทำให้ริมฝีปากที่บวมเพราะฝ่ามือของบิดาและฮูหยินใหญ่บวมเป่งขึ้นยิ่งกว่าเดิม
หนานอิงได้สติแล้วไม่รู้ด้วยเหตุใดนางจึงกัดลิ้นเขาอย่างแรง
นางได้ยินเสียงหัวเราะเย็นชาออกจากปากของคนผู้นั้นก่อนที่จะถูกลู่หนิงหวังใช้มือข้างหนึ่งบีบปากของนางให้อ้าออก
เขาเจ็บที่โดนกัดแต่กลับพึงพอใจ จากนั้นเขาก็เพิ่มแรงบีบที่ปากของนางเล็กน้อยจนกระทั่งหนานอิงไม่สามารถทำร้ายเขาได้อึก
เขาจูบนางจนพอใจถึงยอมปล่อย ในขณะที่หนานอิงแทบจะทรุดฮวบลงบนพื้นทั้งยังเจ็บไม่หาย
นางพยามยามคลานหนีทั้ง ๆ ที่ยังถูกมัดอย่างแน่นหนา แต่กระดึ๊บไปได้ไม่กี่ครั้งก็ถูกเขาคนนั่นเหยียบชายกระโปรงของนางเอาไว้จนนางขยับตัวหนีไม่ได้
นางขดตัวคล้ายหนอนตัวหนึ่ง
“พวกท่านเป็นใครกันแน่”
เสียงของหนานอิงทั้งแหบทั้งแห้ง หาได้สดใสเหมือนดั่งเคย นางไม่รู้จริงๆ ว่ากำลังเกิดเรื่องอันใดขึ้นกับตัวเองอีก
หานเซียงไม่ได้สงสัยว่านางเป็นคนอื่นอีกเมื่อเห็นปฏิกิริยาของลู่หนิงหวัง หากไม่ใช่นางผู้นั้นท่านพี่ของเขาคงไม่แม้แต่จะชายตามอง
“ข้าไม่คิดทำร้ายเจ้า อยู่นิ่งๆเถิด”
พี่ชายของเขาปล่อยนางแล้วในขณะที่ช่วยแก้มัดให้นางอีก
เมื่อถูกแก้มัด หนานอิงยังคงหวาดกลัว นางเจ็บไปทั้งร่างไม่เข้าใจว่าเหตุใดบุรุษผู้นั้นถึงจูบนางทั้งที่บอกว่าไม่คิดทำร้าย นางจึงถดร่างถอยหนีอย่างขลาดเขลา
แต่นางตะเกียกตะกายไปได้ไม่กี่คืบก็ถูกลู่หนิงหวังคว้าลำตัวของนางขึ้นด้วยมือเดียว หิ้วนางเหมือนอะไรสักอย่างจนตัวลอย
“ปล่อยข้านะ พวกท่านจะพาข้าไปที่ใด พวกท่านเป็นใครกันแน่”
หานเซียวส่งหยกขาวของตัวเองคืนให้นาง หนานอิงเห็นแล้วนางมองเขาทั้งยังคงถูกลู่หนิงหวังอุ้มเหมือนกระสอบนุ่นอยู่ข้างลำตัว
“พวกท่านเป็นคนของท่านป้าเหมยเซียงหรือ?”
หานเซียงยัดหยกขาวใส่มือของนางโดยไม่ได้บอกสิ่งใด
หนานอิงกำหยกเอาไว้แน่น น้ำตาแทบจะไหลออกมาเมื่อแน่ใจแล้วว่าเป็นนางเหมยเซียงที่ส่งพวกเขามาช่วยเหลือ
เมื่อหนานอิงไม่ดิ้นหนี ลู่หนิงหวังจึงหิ้วนางตัวลอยเดินนำไปที่ม้า
หนานเซียงสบายใจเล็กน้อย คิดว่าคนสองคนนี้หน้าตาหล่อเหลาและองอาจเป็นอย่างยิ่งถึงจะออกจะเย็นชาและป่าเถื่อนไปบ้างแต่พวกเขาก็ช่วยเหลือตนจึงลดความหวาดกลัวลงเล็กน้อย
“ท่านทั้งสองข้าขอถามท่านว่าจะพาข้าไปที่ใดหรือ”
หนานอิงเองก็รู้จากนางเหมยเซียงมาว่าผู้มีพระคุณทั้งสองที่มอบหยกให้เป็นคนใหญ่คนโตในวัง
เพราะคนผู้นั้นเห็นนางโดนจับจึงสงสารให้คุ้มครองนางให้ดีและยังเอ่ยเป็นนัยๆ ว่าหนานอิงโชคดีที่มีหน้าตางดงามทำให้นายท่านมีจิตเมตตา
หนานอิงเองก็ไม่ใช่คนโง่ คิดว่าคนทั้งสองคงอยากได้นางเป็นอนุ แต่ในตอนนั้นนางมีคู่หมั้นอยู่แล้วในใจจึงบ่ายเบี่ยงไม่ยินยอม
แต่ในยามนี้เมื่อเหตุการณ์เลวร้ายเกิดกับนางตนเองถูกถอนหมั้นกลายเป็นสตรีมีมลทิน
หนานอิงเองกลับรู้สึกกระอักกระอ่วนจะทำเช่นไรดี ในเมื่อนายท่านทั้งสองส่งคนมาช่วยเหลือนางมากเพียงนี้
หนานอิงคิดหนักว่าตนจะยอมตอบแทนด้วยร่างกายได้หรือ แต่หากนายท่านรู้ว่านางไม่บริสุทธิ์เสียแล้วเล่าจะฆ่านางทิ้งหรือไม่?
หนานอิงคิดว่าตนเองต้องเจรจา นางยังมีท่านแม่กับอาโจวที่นางต้องช่วยเหลือ ขอเพียงนายท่านยินยอมช่วยท่านแม่และอาโจวนางก็ยินดีทุกอย่าง
“พวกท่านบอกข้าได้หรือไม่ว่าจะพาไปที่ใด”
น้ำเสียงของนางอ่อนลง หานเซียวจึงบอกว่า
“พวกเรายังคงถูกตามล่า ตอนนี้คงต้องซ่อนตัวสักพัก ไม่ต้องห่วงใช้เวลาไม่กี่วันเท่านั้น”
“ซ่อนตัวที่ใดหรือ?”
ดูเหมือนคำถามของหนานอิงจะไม่ได้รับการเหลียวแล เมื่อถูกจับโยนขึ้นหลังม้าตัวหนึ่ง
เป็นเพราะหานเซียวถูกธนูยิงเข้าทึ่แขนเมื่อตอนพาหนานอิงหนีเขาจึงต้องรักษาหานเซียวซะก่อน
เห็นตอนนี้หานเซียวยังเดินได้นั่นเป็นเพราะได้กินยาระงับพิษเอาไว้แต่ก็เป็นเพียงชั่วคราว แต่อาการของเขาก็แย่ลงทุกขณะ
ลู่หนิงหวังต้องรีบส่งข่าวขอความช่วยเหลือด้วยไม่รู้ว่าพิษที่หานเซียวได้รับรุนแรงเพียงใด
“เจ้าขี่ม้าเป็นหรือไม่”
เขาถามนางเสียงเย็น
“ไม่เจ้าค่ะ”
นางตอบเพียงเท่านั้นก็ถูกเขาจับมัดแน่นหนาติดกับหลังม้า
“ท่านจะทำสิ่งใด ปล่อยข้านะ ข้าเจ็บ”
“ในเมื่อเจ้าขี่ม้าไม่เป็นข้าก็ตัองมัดเจ้าเอาไว้หรือไม่ก็ต้องปล่อยให้เจ้าตายที่นี่ แต่ข้าทำเชานนั้นไม่ได้ในเมื่อเจ้ายังมีประโยชน์กับข้าอยู่”
หนานอิงจึงเข้าใจแล้ว เขาเอ่ยคำเดียวกันกับบุรุษที่เป็นน้องชายของเขา แสดงว่าผู้เป็นนายต้องกำชับพวกเขามาอย่างดีแน่ ต้องคุ้มครองให้นางปลอดภัย
ลู่หนิงหวังไม่ยอมนั่งม้ากับนางกลับไปขึ้นม้าตัวเดียวกันกับหานเซียว แล้วทะยานนำหน้าไปอย่างรวดเร็ว ก่อนที่ม้าแสนรู้ที่หนานอิงถูกมัดติดกับจะวิ่งตามมาติดๆ
หนานอิงบัดนี้ระบมไปทั้งตัวราวสองชั่วยามกว่าที่ม้าจะพาพวกเขามาหยุดยังสถานที่เล้นลับแห่งหนึ่ง
เขาพานางหลบมายังกระท่อมที่แอบซ่อนอยู่กลางป่า ที่มีพรานป่าชราผู้หนึ่งคอยดูแลอยู่
พรานผู้นั้นตื่นตระหนกเมื่อเห็นว่ามีสตรีถูกมัดติดมากับม้าของท่านอ๋อง
เขากำลังเอ่ยบางอย่างกลับถูกลู่หนิงหวังยับยั้งไว้ก่อน
“อาเซียวถูกธนูอาบยาพิษเขาไม่มีสติแล้วเร็วเข้า ช่วยเขาเร็ว”
หานเซียวถูกพี่ชายแบกขึ้นหลังแล้วพาหายเข้าไปในกระท่อมทันใด
หนานอิงตะโกนไล่หลังเขา นางไม่อยากถูกทิ้งอึกแล้ว
“นี่ท่านอย่าลืมข้า อย่าลืมข้านะ”
โชคดีที่ครานี้เขาไม่ได้ลืมนาง แต่กว่าจะออกมาแกะร่างของหนานอิงออกจากหลังม้าเวลาก็ผ่านมาราวหนึ่งก้านธูปแล้ว