ตอนที่ 16 ท่านแม่ข้าลาก่อน
หวังเหยียนเคาะประตูแต่ไม่มีผู้ใดมาเปิด เขาจึงตัดสินใจเปิดประตูนั้นเสียเอง ได้ยินเสียงบางอย่างอยู่ด้านหลัง เขาจึงร้องเรียกชื่อของนางออกมา
“อิงเอ๋อร์ อิงเอ๋อร์ ข้ามาแล้ว”
เงียบ
แต่ว่าก่อนหน้านี้หวังเหยียนได้ยินชัดเจนว่ามีเสียงคนดังจากด้านหลัง เขาจึงวางตะกร้าที่ถือติดมือมาบนโต๊ะ ค่อย ๆ เดินเข้าไปหลังฉากที่กั้นอยู่
แต่แล้วคล้ายกับมีใครสักคนผลักเขา หวังเหยียนจึงเซถลาล้มลงไปด้วยไม่ทันระวังด้านหน้าเป็นถังน้ำใบใหญ่ที่มีสตรีคนหนึ่งกำลังอาบน้ำอยู่ เสียงกรีดร้องของสตรีผู้นั้นดังขึ้นทันใด
หวังเหยียนที่ตกลงไปในถังไม้ลุกพรวดขึ้นมา เขาเบิกตากว้างเมื่อเต้านมเต่งตึงสองเต้าเต็มสองตาสตรีผู้นั้นกรีดร้องเสียงดัง แล้วยังมีสตรีอีกคนหนึ่งที่กำลังโผล่ขึ้นมาจากน้ำอีกด้วย
“ท่านพี่หวังเหยียน”
บ่าวรับใช้กรูกันเข้ามาราวกับนัดแนะ หวังเหยียนตกเป็นแพะในสิ่งที่ตนเองไม่ได้ตั้งใจกระทำในทันที
“คุณชายหวังเหตุใดท่านมาอยู่ที่นี่”
บ่าวสองคนรีบนำผ้าผืนโตมาคลุมกายให้คู่แฝดหนานหมิงและหนานเมิ่งบุตรสาวของฮูหยินใหญ่ ทั้งสองคนร้องไห้ออกมาไม่หยุด จนกระทั่งหวังเหยียนที่กำลังตกอกตกใจขวัญผวารู้สึกตัว
เขารู้ดีว่าหลังจากนี้เขาเองก็ไม่สามารถปฏิเสธสองคนพี่น้องฝาแฝดนี้ได้อีกเป็นแน่ บ่าวช่วยพยุงเขาออกจากอ่างน้ำ ความหวังที่จะได้เจอกับหนานอิงพังทลายลงภายในพริบตา
เขาเป็นคนฉลาดจึงรู้ดีว่าตนเองบัดนี้ตกลงไปในหลุมใหญ่ที่ฮูหยินใหญ่ขุดล่อเอาไว้เสียแล้ว หวังเหยียนอยากจะหัวเราะนัก ที่แท้ฮูหยินใหญ่ที่เขานับถือผู้นี้นับเป็นสตรีที่แสนเจ้าเล่ห์ผู้หนึ่งเท่านั้นเอง แต่เรื่องม้นเกิดขึ้นขนาดนี้พยานมากมายและยังอยู่ในคฤหาสน์ของท่านหนานเช่นนี้เขาก็ไร้คำแก้ต่างแล้ว
หวังเหยียนมองสตรีทั้งสองอย่างเย็นชา ถึงต้องรับพวกนางเข้ามาเป็นฮูหยินใหญ่และฮูหยินรองของเขา แต่อย่างไรเขาก็จะไม่ทอดทิ้งหนานอิงเป็นอันขาด
เรื่องของหวังเหยียนและคุณหนูฝาแฝดถูกพูดถึงกันปากต่อปาก สองสกุลกำลังหันหน้าปรึกษากันเมื่อท่านหนานเอาเรื่องหวังเหยียนจนถึงที่สุดให้รีบมาสู่ขอบุตรสาวฝาแฝดของตนเองให้เร็วที่สุด สุดท้ายแล้วเรื่องระหว่างเขาและหนานอิงจึงไม่ได้เอ่ยถึงเป็นการชั่วคราว
กำหนดการแต่งงานของคู่แฝดและหวังเหยียนจึงได้หารือกัน สินสอดถูกส่งมาภายในวัน นั่นเป็นสินสอดที่สกุลหวังเตรียมไว้ให้กับหนานอิง แต่บัดนี้ถูกส่งให้กับคู่แฝดแทนเสียแล้ว
หนานอิงได้ยินข่าวนี้จากคำบอกเล่าของหนานหมิงและหนานเมิ่งด้วยตนเอง นางได้แต่นั่งนิ่งเงียบไม่แสดงความรู้สึกใดออกมา
“ของที่เคยเป็นของเจ้าบัดนี้ข้าสามารถแย่งคืนมาได้หมดแล้ว เป็นเช่นไรเล่าความรู้สึกตอนนี้เจ้าอยากตายหรือไม่ เจ็บช้ำเพียงใดกันนะที่ถูกแย่งคนรัก เจ้ายังจำวันนั้นได้หรือไม่เป็นข้าและพี่สาวแท้ ๆ ที่ต้องดูตัวกับคุณชายหวัง แต่เพราะแผนร้ายของเจ้าที่วิ่งไปชนเขาจนตกลงไปในน้ำ เพราะเขาจำเป็นต้องช่วยเหลือเจ้าเรื่องจึงเลยเถิดมาถึงการหมั้นหมาย วันนี้ข้าเพียงแต่ใช้มารยาเดิมของเจ้าเท่านั้นเพื่อแย่งของของข้าคืน เป็นเช่นไรเล่ารู้สึกอย่างไรที่ถูกข้าเอาคืนเช่นนี้ หนานอิงเจ้ามันตกต่ำถึงที่สุดแล้ว ข้าสะใจยิ่ง”
หนานอิงคิดถึงเหตุการณ์วันนั้น นางเป็นเด็กอายุยังไม่ถึงสิบปีด้วยซ้ำกำลังวิ่งตามจับผีเสื้อกับบ่าว ผู้ใดจะรู้ว่าหมิงเหยียนจะโผล่มาจนนางชนเข้าและเกิดเรื่อง หนานอิงเองยังเด็กไม่รู้ความเติบโตขึ้นมาก็พบว่าตนเองได้หมั้นหมายกับหมิงเหยียนเสียแล้ว หากสองพี่น้องไม่กล่าวถึงเรื่องนี้นางเองก็ลืมไปแล้ว
ไม่น่าเชื่อว่าคนพวกนี้ยังผูกใจเจ็บได้นานเพียงนี้และยังใช้อุบายนี้มาใช้กับคุณชายหวัง หนานอิงเองได้รับยาเกินขนาดในตอนนี้คล้ายสติไม่มีแล้ว นางเหมือนจะประสาทหลอนได้ยินอาโจวพูดกรอกหูเบา ๆ
“คุณหนูอย่าไปฟังนะเจ้าคะ อย่าไปฟังเจ้าค่ะ”
“วันหมั้นของข้ากำหนดใกล้เข้ามาแล้ว เจ้าจงรอฟังข่าวดีของพวกข้าและข่าวร้ายของเจ้าเถิด”
สายตาของพวกนางทั้งสองต่างแสดงออกว่าชิงชังหนานอิงมากเพียงใด หนานอิงสติล่องลอยบ่าวไพร่เมื่อเห็นเป็นเช่นนั้นจึงลือกันว่านางเสียใจเรื่องการหมั้นหมายที่กำลังจะเกิดขึ้นระหว่างคุณชายหวังและหนานหมิงกับหนานเมิ่งบุตรีของฮูหยินใหญ่จนทำใจรับไม่ได้ หนานอิงกำลังจะเป็นบ้าเพราะเสียใจอย่างหนัก
จนกระทั่งเรื่องนี้เล่าลือไปนอกคฤหาสน์ ปากคนยาวกว่าปากกว่าจริงดั่งว่าเพียงชั่วพริบตาเดียวเรื่องสองเรื่องก็ถูกแพร่กระจาย ทั้งเรื่องที่หนานอิงเสียใจเรื่องงานแต่งจนเป็นบ้า และเรื่องที่นายท่านหนานรับหนานอิงเอาไว้ไม่ขับไล่นางหลังจากนางกลับมา นั่นเป็นเพราะท่านหนานมีใจเมตตาต่อบุตรสาว จึงน่านับถือยิ่ง สองเรื่องนี้ไม่นานก็ถูกกล่าวถึงแทบจะทุกบ้านแล้ว เมื่อเป็นเช่นนี้กิจการของสกุลหนานพลันกลับมาคึกคักดังเดิม
มีบุรุษหลายคนที่เคยหมายปองหนานอิงต่างใจกล้าส่งคนมาสู่ขอไปเป็นนางบำเรอ คุณชายหวังเอ่ยปากพูดเรื่องนี้กับผู้เป็นมารดาว่าเขาต้องการให้หนานอิงมาเป็นอนุอีกคนแต่กลับถูกมารดาตำหนิอย่างรุนแรง
“เจ้าอย่าคิดฝันที่จะเอาสตรีที่ผ่านมือโจรพวกนั้นมาเป็นภรรยาอีก ข้าไม่ยินยอมเด็ดขาดแม้จะเป็นอนุหรือนางข้างห้องก็ไม่ได้เด็ดขาด”
หวังเหยียนเป็นคนใจอ่อนเห็นน้ำตามารดาก็อดสงสารไม่ได้จึงไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้ให้มารดาเสียใจอีก เรื่องของเขากับสองพี่น้องคู่แฝดก็ถูกกำหนดเอาไว้แล้ว
สองสามวันมานี้บาดแผลของหนานอิงได้รับการรักษาเป็นอย่างดีนางจึงดีขึ้นไม่น้อย แต่สิ่งที่มาพร้อมกับอาการที่ดีขึ้นคือหนานอิงมักจะเหม่อลอยอยู่เสมอ ไม่เป็นตัวของตัวเองอย่างเห็นได้ชัด
“คุณหนูท่านไม่เป็นไรใช่หรือไม่เจ้าคะ”
หนานอิงไม่ตอบ นางเอาแต่จ้องที่ประตู บ่าวสองคนเข้ามาช่วยหนานอิงเปลี่ยนอาภรณ์เป็นอาภรณ์ที่งดงามของหนานอิงเอง
อาโจวเห็นหนังสือที่หนานอิงได้รับมาจากนางเหมยเซียง อาโจวจึงรีบเอามาเก็บไว้ไม่ให้สองคนนั้นเห็น
“เหตุใดฮูหยินใหญ่จึงใจดีให้คุณหนูใส่เสื้อผ้าพวกนี้เล่า”
บ่าวสองคนเองก็ไม่รู้จึงได้แต่คิดเอาเอง
“สงสัยเพราะอารมณ์ดีที่จะเกิดเรื่องมงคลขึ้นกระมัง เรื่องของคุณชายหวังกับคุณหนูคู่แฝด”
อาโจวไม่ถามต่อแล้ว กลัวว่าหนานอิงยิ่งจะได้รับความกระทบกระเทือนจิตใจยิ่งกว่าเดิม แค่นี้ก็เหม่อลอยจนเหมือนไม่มีสติแล้ว
เมื่อถึงเวลาดื่มยา หนานอิงก็ดื่มอย่างว่าง่าย อาโจวเองก็นึกสงสัยว่าเหตุใดฮูหยินใหญ่จึงให้หนานอิงดื่มยาบ่อยเช่นนี้ แต่เมื่อเห็นแผลที่เริ่มหายดีก็ไม่กล้าคิดว่าเป็นยาพิษ
อาโจวคืนหนังสือเล่มนั้นให้หนานอิง นางไม่ได้เปิดดูจึงไม่รู้ว่ามีสิ่งใดอยู่ในนั้น นางเก็บไว้ในอกเสื้อของหนานอิงอย่างดี
“คุณหนูใส่ชุดนี้แล้วยังแต่งหน้าเช่นนี้กลับมาเป็นคนงามของอาโจวอีกครั้งแล้วนะเจ้าคะ คุณหนูต้องรีบหายนายท่านใจอ่อนลงมากแล้วคิดว่าอีกไม่นานก็คงปล่อยคุณหนูให้กลับเรือนได้”
อาโจวยังคิดในแง่ดี สองสามวันมานี้คุณหนูก็ได้รับการปรนนิบัติที่ดีขึ้นไม่ใช่หรือ
ตกเย็นวันนี้จู่ ๆ อาโจวก็ถูกปล่อยออกมามีเพียงหนานอิงเท่านั้นที่ยังถูกคุมขังอยู่ อาโจวเป็นห่วงหนานอิงจึงยังอยู่เฝ้าหน้าประตูเรือนทาส แต่กลับถูกบ่าวลากไปและจับนางไปขังไว้ในห้องเก็บฟืนอันหนาวเย็น
“ปล่อยข้าพวกเจ้าจะทำชั่วอันใดกับคุณหนู ปล่อยข้า ข้าจะไปช่วยคุณหนู”
อาโจวสังหรณ์ใจไม่ดี วันนี้นางสังเกตได้ว่าบ่าวที่เฝ้าหน้าเรือนทาสก็ถูกเปลี่ยนคน หนานอิงยังเหม่อลอยนางคล้ายไม่ได้สติผู้ใดให้ทำสิ่งใดก็ยินยอมทำตามอย่างว่าง่าย
ภายในเรือนของฮูหยินใหญ่สามแม่ลูกรวมทั้งบ่าวคนสนิทของพวกนางต่างกำลังรุมล้อมกัน พวกนางบัดนี้มีความสุขเป็นอย่างยิ่ง ใบหน้ายิ้มแย้มอิ่มเอิบ
“ท่านแม่ท่านจะลงมือคืนนี้หรือเจ้าคะ”
“ในเมื่อทุกอย่างลงตัวแล้วก็ต้องเป็นคืนนี้ จะปล่อยนางเอาไว้ทำไมให้เนิ่นนานในเมื่อเรื่องทุกเรื่องเป็นไปตามแผนแล้ว แม่ของนางหากรู้ว่าลูกสาวผูกคอตายก็คงได้ตายตามกันไปแน่ ยิงธนูนัดเดียวได้นกถึงสองตัวเช่นนี้สะใจแม่ยิ่ง”
“ท่านแม่คราแรกข้าไม่เข้าใจท่านว่าจะช่วยรักษานางเพื่อสิ่งใด วันนี้เข้าใจกระจ่างแล้วเจ้าค่ะ”
ฮูหยินใหญ่ลูบศีรษะของบุตรสาวที่รักดั่งแก้วตาดวงใจทั้งสอง
“แม่บอกแล้วว่าจะทำให้หวังเหยียนแต่งพวกเจ้าเป็นฮูหยินใหญ่ในบ้านก็ต้องทำได้ตามนี้ ส่วนนังหนานอิงนั่นหากมันตายด้วยร่างกายที่ถูกดูแลเป็นอย่างดี ผู้ชันสูตรศพย่อมรู้ดีว่าพวกเราหาได้ทรมานนางตรงข้ามกลับดูแลนางดียิ่ง จดหมายลาตายแม่ก็ให้นางเขียนแล้ว เพื่อรักษาเกียรติของสกุลนางจึงตัดสินใจปลิดชีพตนเอง หากเรื่องการตายแพร่ออกไปนางย่อมได้รับการยกย่องแต่ยกย่องแล้วอย่างไร นางกลายเป็นผีไปแล้ว ชื่อเสียงที่เสียหายเพราะนางก็ย่อมกู้คืนกลับมาได้ สตรีของสกุลหนานยอมตายไม่ยอมลดทอนศักดิ์ศรีของตนเอง เช่นนี้พวกเจ้าสองคนที่เป็นคนของสกุลหนานก็ย่อมได้รับการยกย่องไปด้วย เป็นเช่นไรเล่าแผนการของแม่ พวกเจ้าว่าดีหรือไม่”
“เจ้าค่ะ ท่านแม่ของข้าฉลาดยิ่ง”
บุตรสาวทั้งสองของฮูหยินใหญ่ล้วนคาดไม่ถึงว่ามารดาจะวางแผนได้ล้ำลึกเพียงนี้ ในคืนนี้พวกนางทั้งหมดจึงเฝ้ารอคอยข่าวการตายของหนานอิงอย่างใจจดใจจ่อ
ในเรือนทาสหนานอิงบัดนี้กำลังเขียนจดหมายลาตายตามคำสั่งของใครบางคนที่คอยกระซิบบอก เบื้องหน้าของนางมีเชือกขาวที่คล้องเอาไว้กับขื่อเตรียมพร้อมให้นางฆ่าตัวตายอย่างเรียบร้อย
ที่แท้ยาที่ผสมในยารักษาของนางคือยาเลอะเลือน ยาชนิดนี้หากผู้ใดดื่มติดต่อกันมาหลายวันจะไม่มีสติอยู่กับตัว ผู้ใดสั่งให้ทำสิ่งใดก็ยินยอมที่จะทำตามอย่างว่าง่าย
หนานอิงเขียนจดหมายเสร็จแล้ว เสียงกระซิบบอกให้นางลุกขึ้น หนานอิงขยับกายอย่างช้า ๆ กลางดึกอันเงียบสงบนั้นเสียงกระซิบสั่งการว่าหากหนานอิงได้ยินเสียงฆ้องตีบอกเวลายามจื่อให้นางผูกคอของตนเองเสียอย่าได้ลังเล
หนานอิงพยักหน้าอย่างช้า ๆ นางยืนรออยู่ตรงนั้นโดยไม่ขยับไปที่ใด
คนผู้นั้นออกไปแล้ว จดหมายที่นางเขียนถูกพับอย่างเรียบร้อยแล้ววางเอาไว้ในจุดที่คนสามารถมองเห็นได้ชัด
ในคืนนี้มารดาของหนานอิงที่ยังล้มป่วยฝันร้าย นางฝันว่าบุตรสาวมาบอกลาตนเอง หนานอิงได้ตายไปแล้ว มารดาจึงตื่นขึ้นมาร้องไห้อย่างน่าเวทนาเสียงดังไปทั้งคฤหาสน์
“อิงเอ๋อร์ ลูกอยู่ที่ไหนยังปลอดภัยดีหรือไม่ อิงเอ๋อร์ของแม่ อาโจวเจ้าอยู่หรือไม่ส่งข่าวของอิงเอ๋อร์ให้ข้ารู้หน่อย นางสบายดีหรือไม่ นางอยู่ที่ใด”
มารดาหยิบจดหมายที่หนานอิงส่งมาให้สองฉับบอกว่าตนเองถูกขัง แต่ไม่ได้รับความลำบากอันใด เพียงแต่ถูกขังอยู่ในห้องไม่ต้องเป็นห่วง ท่านพ่อทุเลาความโกรธแล้ว อย่างไรก็เป็นพ่อลูกไม่อาจตัดขาดได้ ท่านแม่โปรดสบายใจ
มารดาอ่านซ้ำไปซ้ำมา เดิมทีลายมือของหนานอิงปกติเป็นระเบียบเรียบร้อยยิ่ง ทั้งงดงามทั้งอ่อนช้อย แต่ในจดหมายที่เขียนมาหานางแม้จะเป็นลายมือของหนานอิงจริง ๆ แต่กลับมีรูปร่างที่คดเคี้ยวอีกทั้งตัวอักษรยังคล้ายจะสั่นไหว
หรือว่าบุตรสาวของนางไม่ได้สบายอย่างที่เขียนมา
มารดาของหนานอิงร่ำไห้อ้อนวอนขอร้องให้ปล่อยนางไป นางต้องการไปหาลูก ในยามดึกสงัดเช่นนี้ท่านหนานที่นอนอยู่ในห้องของอนุคนงามที่อายุเพียงสิบเจ็ดปีเท่ากับหนานอิงถึงกับอารมณ์เสีย ท่านหนานตะคอกบอกคนที่อยู่ด้านนอกเสียงดัง
“ผู้ใดก็ได้หาสิ่งใดไปอุดปากนางเสีย หากไม่ยอมหยุดก็จัดการให้นางหุบปาก รำคาญหูยิ่งคนจะหลับจะนอน”
กล่าวจบเขาก็ดึงร่างของอนุคนงามเข้ามากอด อนุผู้นั้นยังอยู่ในวัยเยาว์พูดจาหวานหู เนื้อหนังเต่งตึงทำให้ท่านหนานหลงใหลเป็นอย่างยิ่ง
บัดนี้ดูเหมือนว่าหมดเสี้ยนหนามจากมารดาของหนานอิง ฮูหยินใหญ่ก็ได้พบศัตรูอีกหนึ่งคนที่เข้ามาแทนที่
บ่าวร่างกายใหญ่โตสองคน ตรงไปยังเรือนของมารดาของหนานอิงทันใด พวกเขาถูกคนของฮูหยินใหญ่ดึงตัวเอาไว้
“ฮูหยินใหญ่สั่งว่า ทำเช่นไรก็ได้ให้นางตายเสียอย่าให้รอดในคืนนี้”
สองคนมองหน้ากัน แต่ในยามนี้ฮูหยินใหญ่เป็นผู้มีอำนาจสูงสุด เมื่อฮูหยินใหญ่สั่งพวกเขาก็ย่อมต้องทำตาม
ทันทีที่เข้าไปถึงเรือนของมารดาของหนานอิง พวกเขาเปิดประตูห้องไล่บ่าวออกไป
“นายท่านสั่งให้จัดการอุดปากนาง ข้ามาทำตามคำสั่งเจ้าหลีกไป”
“บังอาจเจ้าเป็นแค่บ่าวมีสิทธิ์อันใดมาแตะต้องอนุของนายท่าน”
“หลีกไป ทั้งหมดเป็นคำสั่งของนายท่าน นายท่านไม่โปรดปรานนางแล้วดีเท่าใดแล้วที่นายท่านไม่ขายนางต่อให้หอนางโลม คงเห็นว่าชรามากแล้วขายไปก็ไม่ได้ราคากระมัง ถอยไปหากไม่อยากเจ็บตัว”
บ่าวผู้นั้นจำใจถอยไป เสียงร่ำไห้ยังดังไม่หยุด
เมื่อพวกเขาเข้ามาในห้องจึงจัดการจับมารดาของหนานอิงเอาไว้แล้วใช้ผ้าอุดปากทันใด
บ่าวร่างโตบอกข่าวร้ายแก่ฮูหยินเสียงเบา ไม่ให้บ่าวสตรีที่เฝ้าอยู่ด้านนอกได้ยินเสียง
“หนานอิงนางฆ่าตัวตายไปแล้ว อย่าร้องหานางเลย นางฆ่าตัวตายหนีความอัปยศไปแล้ว เจ้าก็รีบตามนางไปเสียจะมีชีวิตอยู่อีกทำไมกันเล่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า”
มารดาของหนานอิงอยากจะกรีดร้อง แต่นางทำไม่ได้ได้แต่คร่ำครวญด้วยความเจ็บปวดแทบใจสลาย ร้องไห้ออกมาจนน้ำตาเป็นสายเลือด
นางดิ้นรนอยากจะไปดูให้เห็นกับตา ความฝันเมื่อสักครู่ก็ทำให้นางใจสลายแล้วยิ่งได้ยินเช่นนี้นางไม่อาจทนได้อีกต่อไป
หัวใจของนางดูเหมือนจะอ่อนแรงลงทุกทีจนกระทั่งร่างกายเริ่มนิ่งและแข็งค้าง
แต่เมื่อคิดถึงใบหน้าของบุตรสาว มารดาจึงออกแรงอีกครั้ง นางดิ้นรนเหมือนปลาที่กำลังจะถูกเชือด ต้องการหลุดพ้นจากการจับกุมนี้
“ข้าจะไปหาลูกของข้า ข้าจะไปหานาง ข้าต้องปกป้องนาง ลูกแม่ ลูกแม่ ปล่อยข้า ปล่อยข้า พวกสารเลวปล่อยข้า”
บ่าวสองคนที่กำลังจับนางเกิดโมโหที่สตรีผู้นี้ดื้อรั้นเหลือเกิน พวกเขาผลักนางจนกระทั่งร่างกระเด็น มารดาของหนานอิงศีรษะกระแทกต้นเสาอย่างแรง ดวงตาของนางโบกโพลงรู้สึกเจ็บแปลบที่ศีรษะคล้ายกำลังจะแตกออกเป็นเสี่ยง
นางทรุดฮวบลงไปบนพื้นก่อนที่ลมหายใจของนางจะค่อย ๆ แผ่วลงเรื่อย ๆ มือของนางอ่อนแรงยิ่ง แต่กระนั้นยังพยายามไขว่คว้าเมื่อดวงตาพร่ามัวเห็นว่าเป็นผู้ใดที่กำลังเปิดประตูเข้ามาหานางพร้อมกับร้องเรียกนางด้วยใบหน้าที่เจ็บปวด
“ท่านแม่ ท่านแม่”
มือผอมบางของมารดาไขว่คว้าได้เพียงแค่อากาศ ไม่อาจจับต้องสัมผัสบุตรสาวได้ ปากร้องเรียกหนานอิงแผ่วเบา
“หนานอิง แม่กำลังไปหาลูกแล้ว แม่จะปกป้องลูกเอง”
น้ำตาของนางหลั่งเป็นสายก่อนที่ลมหายใจจะแผ่วลงไปเรื่อย ๆ และดับสิ้นในที่สุด
บ่าวสองคนที่อยู่ในเรือนต่างตกใจเป็นอย่างยิ่ง พวกเขาตีบ่าวชราที่เฝ้าอยู่หน้าห้องมารดาของหนานอิงจนสลบ ก่อนจะวิ่งไปที่เรือนของฮูหยินใหญ่ขอความช่วยเหลือทันที
“นางตายแล้วขอรับ นางตายแล้ว”
ฮูหยินใหญ่ยิ้มเยาะหยัน ดวงตาบอกถึงความยินดียิ่ง โยนเงินให้พวกเขาทั้งคู่คนละถุงแล้วเอ่ยว่า
“ไปซ่อนตัวซะ อย่าให้ใครจับได้”
พวกเขาต่างมองหน้ากัน เพิ่งฆ่าคนตายเป็นครั้งแรกมือจึงค่อนข้างสั่น เมื่อได้ถุงเงินแล้วพลันออกจากจวนอย่างเงียบเชียบโดยที่ไม่มีผู้ใดสังเกตเห็นในคืนนั้น
เสียงฆ้องตีบอกเวลายามจื่อดังขึ้น หนานอิงได้ยินแล้วจึงค่อย ๆ ก้าวเท้าขึ้นเหยียบตั้งอย่างเหม่อลอย ในยามนี้แม้จะมีบ่าวคอยเฝ้าอยู่ด้านนอกและเห็นการกระทำนั้นแต่ก็ไม่มีผู้ใดขัดขวางการฆ่าตัวตายของนางแม้แต่คนเดียว
หนานอิงวางคอของตนเองพาดเข้ากับผ้าขาวที่ห้อยลงมาเป็นห่วง เสียงฆ้องตีบอกเวลายามจื่ออีกครั้ง คราวนี้นางสลัดเท้าถีบตั่งให้ล้มลง พลันดิ้นรนกระเสือกกระสนอยู่บนผ้าผืนนั้น ดวงตาของนางเบิกโพลงเชือกค่อย ๆ รัดลำคอจนแน่นลำหายใจอ่อนลงไปทุกขณะ
หนานอิงคล้ายจะหมดสติแล้วก่อนที่นางจะขาดอากาศหายใจ นางพลันรู้ตัวว่ากำลังเกิดสิ่งใดกับตนเอง
ชาตินี้สิ้นสุดกันที ท่านแม่ลูกอกตัญญูไม่ทันได้ตอบแทนท่าน
ก่อนที่สติของหนานอิงจะดับมอด เสียงการต่อสู้ข้างนอกดังขึ้น พร้อมทั้งประตูไม้ของเรือนทาสพลันพังทลายลงมาด้วยแรงถีบของใครบางคน
ผ้าขาวผืนนั้นถูกกระบี่คมกริบตัดจนขาด ร่างของหนานอิงร่วงลงในอ้อมแขนของคนผู้หนึ่ง นางมองไม่เห็นว่าเป็นผู้ใด ก่อนที่นางจะสลบไปทันใด
Chapters
Comments
- ตอนที่ 30 ทิ้งนางเอาไว้ มกราคม 31, 2022
- ตอนที่ 29 กองกำลังลับ มกราคม 31, 2022
- ตอนที่ 28 ให้ความอบอุ่นด้วยร่างกาย มกราคม 31, 2022
- ตอนที่ 27 ลุกขึ้นสู้ มกราคม 31, 2022
- ตอนที่ 26 ตัดสินใจเช่นไรดี มกราคม 31, 2022
- ตอนที่ 25 ไม่ช่วยนางแล้ว มกราคม 31, 2022
- ตอนที่ 24 ทำดี มกราคม 29, 2022
- ตอนที่ 23 ยาถอนพิษ มกราคม 29, 2022
- ตอนที่ 22 พยายามฆ่าตัวตาย มกราคม 29, 2022
- ตอนที่ 21 หนีไปให้ไกล มกราคม 28, 2022
- ตอนที่ 20 ลำบากใจยิ่ง มกราคม 28, 2022
- ตอนที่ 19 อยู่กันเพียงลำพัง มกราคม 28, 2022
- ตอนที่ 18 หานเซียวถูกพิษ มกราคม 27, 2022
- ตอนที่ 17 คนที่เป็นภัย มกราคม 27, 2022
- ตอนที่ 16 ท่านแม่ข้าลาก่อน มกราคม 27, 2022
- ตอนที่ 15 เหยื่อล่อ มกราคม 26, 2022
- ตอนที่ 14 ความหวังพังทลาย มกราคม 26, 2022
- ตอนที่ 13 ลู่ไท่เฟย มกราคม 26, 2022
- ตอนที่ 12 รุมทำร้าย มกราคม 25, 2022
- ตอนที่ 11 ท่านพ่อข้ากลับมาแล้วเจ้าค่ะ มกราคม 25, 2022
- ตอนที่ 10 อยากได้ก็เอาไป มกราคม 25, 2022
- ตอนที่ 9 ความเข้าใจผิด มกราคม 25, 2022
- ตอนที่ 8 ผู้ช่วยชีวิต มกราคม 25, 2022
- ตอนที่ 7 ป่วยหนัก มกราคม 25, 2022
- ตอนที่ 6 คนไร้หัวใจ มกราคม 25, 2022
- ตอนที่ 5 เจ้าชอบนางหรือ มกราคม 25, 2022
- ตอนที่ 4 เสียน้ำทั้งค่าย NC25 มกราคม 25, 2022
- ตอนที่ 3 เสียน้ำทั้งค่าย NC25 มกราคม 25, 2022
- ตอนที่ 2 สตรีบริสุทธิ์ NC25 มกราคม 25, 2022
- ตอนที่ 1 ท่านแม่ทัพ มกราคม 25, 2022
MANGA DISCUSSION