ชีวิตใหม่ในดราโทก้า ดินแดนมังกร - ตอนที่ 64: ภาค 3 ตอนที่ 9 เด็กนี่น่ารำคาญจริง...อา!!
ทะ- ทำยังไงดี!! ข่าวดีคือพวกเรากำลังจะได้ไปเมืองบาดาลอย่างที่หวังกัน แต่ว่าข่าวร้ายคือ…นี่มันงานหนักเลยไม่ใช่เร้อ!!
ฉันที่อยู่ในชุดเกราะเต็มยศนั้นเดินวนไปวนมาอย่างกระวนกระวาย โดยไม่สนว่าพื้นจะสั่นสะเทือนมากขนาดไหน ก่อนจะฟุบตัวลงนั่งแล้วสั่นอย่างกังวล ฝากแค่เคียร่าไปเจรจาเรื่องสำคัญ ที่ถ้าพลาดทุกอย่างก็จบเนี่ยนะ?! บ้า บ้าไปแล้ว อูวว ปวดท้องจัง
“ฮะ ๆ ริเกลเครียดเกินไปแล้วน่า”
‘ไม่ ๆ เคียร่าต่างหากชิลเกินไปแล้ว!!’
ฉันเถียงออกไปในทันทีที่เคียร่าพูดแบบนั้น แต่เธอก็ไม่สนใจแถมยังหัวเราะชอบใจอีกต่างหาก อะไรกัน! ทำไมเคียร่าถึงดูสบายแบบนั้นล่ะ เธอเองก็น่าจะเข้าใจไม่ใช่เรอะว่าหน้าที่ตัวเองตอนนี้มันกดดันขนาดไหน!! ถึงจะรู้ว่าแบบนี้แสดงว่ามีแผนแล้วก็เถอะ แต่ก็…เมืองบาดาลเลยนะ!
เราไม่รู้ว่าที่นั่นเป็นยังไง มีอะไรบ้าง แล้วจะเจรจายังไง เราไม่รู้เลยนะ!
“ไปกันเลยไหมริเกล”
‘เอ๊ะ เดี๋ยวสิ-’
สุดท้ายเคียร่าก็ไม่ฟังเสียงร้องของฉัน แล้วโดดขึ้นหลังพลางคุมบังเหียนให้เดินไปยังชายหาด โดยที่ในมือนั้นถือจดหมายซึ่งบอกทางไปเมืองบาดาลเอาไว้ และก่อนที่เราจะลงไปในทะเลกันหนนี้ฉันก็จัดการร่ายเวทคลุมตัวเคียร่าเอาไว้ ให้สร้างอากาศหายใจไว้รอบตัว เป็นสภาพเหมือนฟองอากาศคลุมตัวล่ะนะ แถมยังกันแรงดันของน้ำได้อีก คล้าย ๆ กับที่ร่ายไว้เวลาบินนั่นแหละ
ดังนั้นถึงจะใส่เกราะหนาแบบนี้ก็ไม่มีปัญหา! ว่าแล้วฉันก็โดดลงไปในทะเลทั้งแบบนี้เลย เพราะฉันต่อให้ไม่ต้องร่ายเวทอะไรไว้ก็กลั้นหายใจใต้น้ำได้นานอยู่แล้ว
‘ไปที่แนวปะการังตรงนั้นสินะ’
ฉันร้องออกมาในขณะที่หันหน้าไปทางแนวปะการังขนาดใหญ่ ที่คราวนี้เห็นสีสันได้อย่างชัดเจนเพราะว่าแสงจากดวงอาทิตย์ เคียร่าจึงพยักหน้าให้ฉันเป็นคำตอบ เอาวะ เป็นไงเป็นกัน!
ฉันตีหางครั้งหนึ่งเพื่อดันตัวเองให้ว่ายไปด้านหน้า พร้อมกับขยับตัวให้ไหลไปตามกระแสน้ำ เราจึงมุ่งหน้าไปในทะเลอย่างรวดเร็ว ไม่นานนัก เราก็มาถึงที่แนวปะการัง
“สุดยอดเลย…”
มีเสียงของเคียร่าที่ดังแบบก้อง ๆ มาจากหลังของฉันเพราะว่าพูดอยู่ในฟองน้ำ นั่นก็เพราะว่าด้านหน้าของเราตอนนี้…คือฟองน้ำขนาดใหญ่ที่กว้างมากกก ภายในฟองน้ำสูงพอ ๆ กับถ้ำที่พวกรูบี้อยู่ แต่มันกว้างแล้วก็ยาวมาก จนฉันรู้สึกว่าตัวเองตัวเล็กมากเลย และที่น่าทึ่งกว่านั้นก็คือมีสิ่งปลูกสร้างและปะการังหลากหลายชนิดอยู่ด้านในนั้น พร้อมกับคนที่เดินพลุกพล่านไปมาเหมือนเป็นเมืองทั่วไปเลย…
แล้ว เข้าไปยังไงหว่า?
ในระหว่างที่คิดว่าจะเข้าไปยังไงฉันก็ดันตัวให้ว่ายวนไปด้านข้างของฟองน้ำขนาดใหญ่นี้ แต่ถ้าเข้าไปเลยนี่จะถือว่าเป็นการบุกรุกโดยพลการรึเปล่านะ? ไม่สิ เราก็ได้คำเชิญให้ไปที่วังแล้วนี่นา แต่แล้วเดิมทีวังที่ว่ามันอยู่ตรงไหนล่ะเฟ้ย
‘ซู่!!’
ในขณะที่กำลังคิดไปเรื่อยอยู่นั่นเอง ก็เกิดเสียงน้ำพุ่งขึ้นอย่างแรงจนสะดุ้งโหยง ด้านในฟองน้ำนั้น…มีน้ำพุพุ่งออกมา?? เอ๊ะ หมายความว่าไงล่ะนั่น และเมื่อมองไปยังน้ำพุนั้นก็เห็นได้ว่ามีคนลอยขึ้นมาจนชนกับของฟองน้ำ และ…ทะลุออกมาข้างนอก? สรุปแล้วมันเข้าออกกันแบบนั้นเหรอ?!
ถ้าทะลุเข้าไปเลยนี่ น้ำจะไม่ทะลักเข้าไปด้านในเหรอ ฉันคิดแบบนั้นพร้อมทั้งใช้นิ้วจิ้มฟองน้ำอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ ก็…ดูท่าจะหนาอยู่นะ ไม่น่าจะขาดง่ายขนาดนั้น แต่เมื่อกี้คนก็ออกมาได้นี่นา
เมื่อฉันหันกลับไปดูอีกครั้ง หนนี้ก็เห็นได้ว่าข้างตัวมีมนุษย์บาดาลกลุ่มหนึ่งที่ใส่ชุดแบบเรียบง่ายว่ายอยู่ พร้อมทั้งมองทางนี้ด้วยความสงสัย…ก่อนจะว่ายทะลุเข้าไปในฟองน้ำเลย
‘ซู่!!’
เอ๋!! นะ- น้ำมันทะลักเข้าไปด้วยแล้วนะ!! ฉันแสดงสีหน้าตกใจออกมาเมื่อเห็นแบบนั้น เป็นไปตามที่ฉันคาดว่าพอทะลุเข้าไปน้ำก็จะพุ่งเข้าไปด้วย แต่ว่า…บ้านเมืองไม่เสียหาย แถมไม่นานนักฟองน้ำก็กลับมามีสภาพเดิม ราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น งั้นก็เข้าไปแบบนั้นได้เลยเหรอ??
ในขณะที่พวกเรางงอยู่นานนั้นเอง ก็มีคนที่ใส่ชุดซึ่งน่าจะเป็นทหารถือฉมวกสามแฉกว่ายน้ำมาหาพวกเรา เคียร่าไม่รอช้าที่จะหยิบซองจดหมายซึ่งอยู่ในน้ำได้ไม่มีปัญหาขึ้นมา เขาจึงรู้ได้ทันทีว่าเราเป็นแขกก่อนจะส่งสัญญาณให้ตามมา
เขาพาว่ายเหนือขึ้นไปด้านบนของฟองน้ำที่หลังของฉันโผล่ขึ้นไปบนน้ำหน่อยหนึ่ง แล้วว่ายตรงผ่านเมืองที่มีคนอัดแน่นไปเรื่อย งี้นี่เอง ถ้าเดินในนั้นมันจะช้าสินะ สู้ว่ายน้ำไปแบบนี้จะเร็วกว่า จนผ่านไปพักหนึ่งเราก็มาถึงที่ที่มีอาคารขนาดใหญ่ตั้งอยู่…วังมังกร!!
อ้าว ไม่ใช่เหรอ? แต่ก็คงเป็นวังของประเทศนี้แหละนะ แหม เห็นมันทรงคล้ายกับปราสาทญี่ปุ่นแบบเบี้ยวนิดหน่อยล่ะนะ เลยเผลอ…เอ๋ ทรงแบบปราสาทญี่ปุ่นเนี่ยนะ!!
จะว่าไปพอลองสังเกตดูดี ๆ เมืองใต้น้ำมันออกไปทางตะวันออกของชาติที่แล้วนี่หว่า ได้ไงอะ? ประเทศที่พวกเราอยู่นี่โครงสร้างเป็นแบบตะวันตกทั้งนั้นเลยนะ เอ๋!!
แต่เรื่องนั้นคงต้องเอาไว้ก่อน ทหารคนนั้นว่ายน้ำทะลุเข้าไปด้านในฟองน้ำ ฉันจึงทำตามเช่นกัน สัมผัสเวลาชนเข้ากับฟองน้ำนั้นแปลกประหลาด มันลื่น ๆ หยึ๋ย ๆ แต่พอออกแรงเข้าไปมันก็ขาดออกจากกันแล้วส่วนที่อยู่ด้านในก็เย็นขึ้นมาเพราะมีลม…มีลมในฟองน้ำ
แต่ในตอนที่คิดอะไรไปเรื่อยฉันก็พอร่างตัวเองเข้ามาในฟองน้ำได้ทั้งหมด…หวา!! ร่วงแล้ว!! ใช่แล้ว ทันทีที่เข้ามาด้านในก็รู้สึกได้ทันทีว่าแรงโน้มถ่วงกำลังดึงให้ตกลงไปที่พื้น แถมน้ำที่ทะลักเข้ามาพร้อมกันก็ยังดันลงไปอีก ถึงแม้ว่ามันจะช่วยทำให้ไม่เจ็บได้ก็เถอะ แต่ด้วยความเคยชินฉันก็กระพือปีกให้ตัวเองบินขึ้น
ตะ- ตกใจหมดเลย…
“เป็นอะไรไหม? ริเกล”
‘เปล่า ไม่เป็นไร’
ฉันตอบเคียร่าไปอย่างแผ่วเบาก่อนจะบินลงไปอยู่ตรงที่โล่งภายในวังขนาดใหญ่ ซึ่งมีทหารประจำการอยู่เยอะพอสมควรเลย
“ยินดีต้อนรับท่านแขกผู้มาเยือน”
แล้วในตอนนั้นเองคนที่เหมือนว่าจะเป็นขุนนางก็เดินมาต้อนรับเคียร่า…โว้ว นี่มันชุดญี่ปุ่นโบราณชัด ๆ เลยนี่นา เอ ก็นานมากแล้วด้วยสิมันเรียกว่าอะไรนะ…
“อะ ค่ะ…ขอโทษนะคะที่ฉันอาจจะทำตัวไม่คุ้นชินเกินไปหน่อย เพราะบ้านเมืองของพวกท่านดูต่างจากที่พวกเราอยู่มาก”
“ฮ่า ๆ อย่าได้ใส่ใจเลย พวกเราเองก็ไม่เคยมีแขกจากบนทวีปมาก่อน อีกทั้งหลายอย่างในประเทศเราได้รับมาจากอีกทวีปหนึ่ง เพราะเมื่อครั้งอดีตประเทศของเราใกล้กับชายฝั่งทางนั้น ก่อนจะลอยมาตามกระแสน้ำของทะเล และอยู่ที่ทวีปใหม่นี้ครับ”
เห๋ เป็นแบบนี้นี่เอง หรือก็คือ ทวีปที่พวกเราอยู่ตอนนี้เป็นแบบตะวันตก ส่วนทางนั้นก็เป็นแบบตะวันออกในโลกก่อนงั้นเหรอ? อาจจะใช่ล่ะมั้ง แต่พึ่งรู้เลยแฮะว่ามีอีกทวีปอยู่ด้วย โลกนี้มันกว้างใหญ่ดีแฮะ
และหลังจากทักทายกันเล็กน้อย เขาก็เชิญเคียร่าให้ไปเข้าเฝ้า ส่วนฉันก็รออยู่ที่สวนเหมือนเดิม…ถึงเวลาน่าเบื่ออีกแล้ว จะเป็นอะไรรึเปล่านะเคียร่า กังวลจังเลยนะ…
ฉันถอนหายใจยาวออกมาก่อนจะทิ้งตัวให้นอนแผ่ลงไปกับพื้นทรายในสวนของวัง จะว่าไป ก็แปลกตาดีเหมือนกันแฮะ มันเป็นสวนที่ถูกจัดขึ้นมาคล้ายกับแบบญี่ปุ่น
ที่เปลี่ยนจากหินกรวดสีขาวกลายเป็นพื้นทราย พุ่มหญ้าสีเขียนก็เปลี่ยนเป็นปะการังหลากสี แถมยังมีบ่อน้ำซึ่งมีปลา…แล้วก็มังกร มีมังกรอยู่ในนั้นด้วยล่ะ
ใช่แล้ว ฉันที่กำลังทำหน้าเบื่อหน่ายมองไปรอบ ๆ อยู่นั้น ก็สบตาเข้ากับมังกรตัวหนึ่งซึ่งอยู่ในบ่อน้ำขนาดกลางไม่ใหญ่มาก มันเองก็จ้องกลับมาที่แบบไม่ละสายตา โดยที่ตัวยังคงอยู่ในบ่อน้ำโผล่ขึ้นมาแค่ครึ่งบนของหัวให้ตาอยู่บนน้ำเหมือนจระเข้ แต่ว่านะ ไม่เนียนหรอก ก็แหม บนหัวเล่นมีเขากวางสีขาวเด่นขนาดนั้นนี่นา ส่วนผิวหนังจากที่เห็นก็เป็นสีน้ำเงินเข้ม…
“กรร!!”
ทันใดนั้น มันก็ส่งเสียงร้องแหลมเล็กออกมา พร้อมทั้งพ่นบางอย่างออกมาจากปาก พุ่งใส่หน้าฉัน…น้ำนี่หว่า พอรู้ว่าเป็นแค่น้ำธรรมดาไม่มีอันตรายอะไรฉันก็ถอนหายใจออกมาอีกรอบ เฮ้อ…
‘แกเป็นใครน่ะ! ออกไปจากสวนของมิโอะนะ!!’
มิโอะ? อ้อ ก็เป็นบ้านเมืองแบบนี้สินะ จะชื่อแนว ๆ นั้นก็คงไม่แปลกหรอกมั้ง ว่าแล้วฉันก็เมินเสียงร้องของมังกรตัวน้อยซึ่งโผล่ขึ้นมาจากบ่อน้ำ แล้วขดตัวนอนไปด้วยความเบื่อ เมื่อไหร่เคียร่าจะกลับมานะ
‘นี่! อย่าเมินมิโอะนะ!!’
ฉันลืมตาข้างหนึ่งขึ้นมามองเจ้าตัวที่พูดว่าตัวเองชื่อ ‘มิโอะ’ อีกครั้ง ตอนนี้เจ้าตัวก็โผล่ขึ้นมาจากน้ำ ไม่สิ คลานขึ้นมาจากน้ำเรียบร้อยแล้ว บนหัวของมังกรตัวนั้นคล้ายมังกรทั่วไปมีสีน้ำเงินเข้มทั้งตัว มีหนวดยาวข้างจมูกทั้งสองข้าง ตรงคอไล่ลงมามีเหงือกที่น่าจะไว้หายใจใต้น้ำ มีครีบที่หลังหัวไล่ยาวไปจนถึงปลายหาง
หืม ที่ปลายหางของหมอนั่นเป็นทรงคล้ายมือ? ไม่รู้แฮะ แต่มีแฉกแยกออกสี่แฉก ส่วนขาก็เป็นแบนเป็นใบพายคล้ายเต่า แต่สั้นกว่าแถมยังมีเล็บด้วย และบนหลังนั่น…เอ๊ะ ปะการัง?
(เครดิตผู้ออกแบบ : Kola-rabbit )
‘นั่นบนตัวนายมีปะการังอยู่เหรอ’
‘หวา! ผู้บุกรุกตื่นแล้ว!!’
ไม่ไหว เด็กนี่ไม่ฟังกันเลยสักนิด ทั้งยังส่งเสียงร้องใส่เหมือนกับพยายามเห่าอยู่อีก หนวกหูจัง…จนสุดท้ายฉันเลยหมดความสนใจแล้วจะแกล้งหลับหนีไปทั้งแบบนั้นเลย ก็น่าสนใจอยู่หรอกมังกรวารีเนี่ย แต่ก็…เด็กนี่น่ารำคาญจังเลยนะ
‘นี่แนะรับไปซะมังกรปฐพี!’
‘โอ้ย!!’
ฉันเผลอร้องออกมาเสียงดังเมื่อรู้สึกว่าแผ่นบางข้างปากตัวเองโดนดึง เจ็บ!! เจ็บโว้ย!! เมื่อสะดุ้งโหยงขึ้นมาดูว่าเกิดอะไรขึ้น ก็เห็นได้ว่าเจ้าตัวนั้นมันใช้หางของมัน จับเข้าที่ข้างปากของฉันแล้วดึงไป
‘ทำอะไรของแกเนี่ย!! ออกไป- อุก’
ในตอนนั้นที่กำลังจะลุกขึ้นนั่นเอง ก็รู้สึกได้ว่าบังเหียนถูกดึงไป หือ?? มีคนขึ้นมาบนหลังฉันเรอะ?!!
“ดึงความสนใจไว้ได้ดีมากมิโอะ! ฉันขึ้นมาบนหลังผู้บุกรุกได้แล้ว!!”
มีเสียงเด็กผู้หญิงที่ดังอย่างห้าวหาญอยู่บนหลังฉัน…มัน กำลัง ดึง บังเหียน ช้านนน!!! อา!! เฮ้ ไม่เคยโดนสอนมาเหรอว่าอย่าแหย่มังกรเล่นน่ะ ลงไปนะเฮ้ย!!
ฉันรีบลุกขึ้นมาทันทีด้วยความตกใจ แล้วส่ายหน้าไปมาให้ลูกมังกรที่เกาะตรงปากอยู่หลุดออกไป ไม่ไหว หางเจ้านั่นจับแน่นชะมัด แต่มนุษย์ที่อยู่บนหลังนี่ ถ้าออกแรงเพิ่มอีกหน่อย…
“จะ- เจ้าหญิงครับ! นั่นไม่ใช่มังกรของพวกเรานะครับ มันอันตราย-”
ห๋า!! เจ้าหญิงเรอะ? นี่พวกแกปล่อยเด็กที่คนสำคัญขนาดนี้มาได้ไงฟะ เดี๋ยวนะ ถ้าฉันสะบัดให้ออกไปตอนนี้ มีหวังร่วงลงไปแล้วเจ็บหนักแน่…แบบนั้นก็ซวยเคียร่าอะดิ!!
เอ ทำยังไงดี…
“หึ แค่นี้น่ะสบายมาก เพราะฉันคือเจ้าหญิงที่ต้องปกป้องประเทศนี้ไงล่ะ! จะควบคุมเจ้ามังกรนี่ให้ดูเอง!”
จะบ้าเรอะ ถ้าแกตกจากหลังฉันมีโอกาสตายได้เลยนะเฮ้ย! ถ้าคิดว่าเป็นเจ้าหญิงก็ให้ความสำคัญกับตัวเองมากกว่านี้ แล้วลงไปจากหลังฉันซะ!!
แต่แน่นอนว่าเรื่องแบบนั้นไม่มีทางบอกออกไปได้ ตอนนี้สภาพของฉันอยู่ในความสับสนเหมือนกับพวกทหารที่ดูท่าทีอยู่ และเด็กเจ้ากรรมบนหลังฉันก็…
“ไปเลย!!”
“กรร!!”
สะบัดบังเหียนฉัน แง๊ จะเป็นไรก็ไม่รู้แล้วน๊า!! ว่าแล้ว ฉันก็กางปีกทั้งสองข้างออก แล้วออกบินขึ้นตรงไปยังขอบของฟองน้ำ…
——————- ————————–
“เวลาป่านนี้แล้วสินะ เรามาพักทานอาหารกลางวันกันก่อนไหม หลังมื้ออาหารค่อยมาหารือกันต่อ”
“นั่นสินะคะ งั้นฉันขอเป็นทานร่วมกับมังกรที่พามาได้ไหมคะ”
เนื่องจากที่นี่โครงสร้างการปกครองเป็นคล้ายกับญี่ปุ่น คนที่อยู่ตรงหน้าฉันในตอนนี้ก็คือ โชกุน นั่นเอง เมื่อฉันขอออกไปแบบนั้นเพื่อที่จะได้ไปหาริเกล เขาก็ลูบเคราของตัวเองพลางยิ้มให้
“โอ้ ไม่มีปัญหา เรามีจุดให้ทานโดยมองสวนไปด้วยได้อยู่ จะให้คนนำทางไปนะ”
“ขอบคุณมากค่ะ ถ้างั้นก็–”
“กรร!!”
เอ๋ เสียงริเกลเหรอ? เกิดอะไรขึ้นน่ะ! หลังได้ยินเสียงคำรามดังของริเกลฉันก็เก็บความตกใจไว้ไม่อยู่ แล้วรีบรุดขึ้นไปดูตรงหน้าต่างเพื่อหาต้นเสียง แล้วตอนนั้นเอง…ฉันก็ได้เห็นร่างของริเกลบินขึ้นเหนืออาคารบ้านช่อง แล้วพุ่งออกจากฟองน้ำไปไว ๆ บนหลังนั่นมีคนอยู่เหรอ?
“…เกิดอะไรขึ้นน่ะ?”
โชกุนที่สงสัยเช่นกันจึงเดินมาดูด้านข้าง แต่ว่าฉันไม่สามารถสงบใจได้แบบนั้นแล้วจะรีบเดินออกจากห้องไป แต่ก็พบกับทหารที่ดูเหมือนจะรีบยิ่งกว่าวิ่งสวนมา
“ทะ- ท่านครับ!! เจ้าหญิงขี่มังกรของแขกออกไปแล้ว”
“…ห๊ะ”
ดูเหมือนว่า จะเกิดเรื่องประหลาดขึ้นซะแล้วล่ะ หวังว่าจะไม่เป็นไรนะ…ทั้งริเกลทั้งคนที่โดนเรียกว่าเจ้าหญิงเลย