ชีวิตรอบที่ 2 ของรุ่นพี่คาบูรากิ - ตอนที่ 7.3 คืนฝนตกกับรุ่นพี่คาบูรากิ
[ ผมอาบน้ำเสร็จแล้วครับ… ]
[ ค่า! ]
ไม่คิดเลยว่าผมจะได้อาบน้ำที่บ้านของรุ่นพี่
ตอนแรกว่าจะไม่อาบ แต่เธอก็พูดอย่างมีเหตุผลว่า
[เธอทำความสะอาดจนเหงื่อออก ไม่อาบน้ำไม่ได้นะ]
ผมเลยไม่มีทางปฏิเสธ
แล้วเธอก็ให้ผมยืมชุดวอร์มที่เห็นได้ชัดว่าเป็นของผู้ชาย พร้อมกับพูดว่า
[ ใส่ชุดนักเรียนนอนคงไม่สบาย ]
[ ว้าว! เหมาะมาก! ]
รุ่นพี่ยิ้มเมื่อเห็นผมใส่ชุดวอร์มตัวใหญ่ๆ
[ ขอบคุณสำหรับชุดนะครับ ]
[ อืม ดีนะฉันมีชุดนี้ อ๊ะ อย่าเข้าใจผิดนะ ฉันซื้อมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ ]
[ การนี้? หมายถึง…? ]
[ ชุดของแฟนไง? แบบเสื้อเชิ้ตของแฟน แต่เป็นชุดวอร์ม ]
[ …อ๋อ ]
ผมไม่ค่อยเข้าใจ แต่ก็ตอบตกลง
[ ถ้ารู้แบบนี้ ฉันน่าจะซื้อชุดชั้นในมาตุนไว้ด้วย ]
[ มะ… ไม่เป็นไรครับ ]
ผมไม่ได้สนใจชุดชั้นในพวกนั้น
[ อ๊ะ ของฉัน? มีแบบน่ารักๆ ด้วยนะ ]
[ ไม่เอาครับ! ]
ไม่ว่าเธอจะพูดจริงหรือพูดเล่น ผมก็ปฏิเสธ
แบบนั้นมันดูโรคจิตเกินไป ต่อให้เป็นแฟนของรุ่นพี่ก็ต้องปฏิเสธ… ใช่ไหม?
[ งั้นฉันไปอาบน้ำบ้าง! ]
[ รุ่นพี่เอาชุดไปด้วยยังครับ? ]
[ เอามาแล้ว! ]
รุ่นพี่ดูร่าเริง เหมือนลืมเรื่องเศร้าๆ ไปแล้ว เธอเดินเข้าไปในห้องน้ำอย่างรวดเร็ว
ไม่สิ… เธอดูเหมือนเด็กมากขึ้น ผมรู้สึกเหนื่อย เหมือนกำลังดูแลเด็กที่เอาแต่ใจ
ผมถามเรื่องชุด เผื่อว่าเธอจะลืม แล้วก็ออกมาพร้อมกับผ้าขนหนูผืนเดียว ผมเหนื่อยเกินกว่าจะรับมือเรื่องแบบนั้น เอาไว้คราวหน้าดีกว่า
[ …คราวหน้าคือคราวหน้าไหนกันนะ? ]
ผมบ่นกับตัวเอง แล้วก็เดินไปที่โซฟาเพื่อพักผ่อน
โซฟาที่บ้านของรุ่นพี่นุ่มมาก ดูแพง ผมติดใจมันมาก
[หืม?]
มีกระดาษแปะอยู่บนโซฟาที่เมื่อกี้ไม่มี
ข้อความบนกระดาษคือ… [ห้ามใช้]
[ …ทำไมล่ะ? ]
โซฟาไม่ได้พัง เมื่อกี้เธอก็นั่งอยู่
หรือว่าจะมีกฎห้ามใช้โซฟาหลังตี 1?
แต่ถึงจะมี มันก็แปลก แต่… รุ่นพี่เป็นคนแปะไว้แน่ๆ
[ เข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม ] คนโบราณว่าไว้ ถ้าเจ้าของบ้านห้าม ผมก็ต้องทำตาม ถึงจะไม่เข้าใจก็เถอะ
ผมเลยไปนั่งที่เก้าอี้กินข้าวแทน แต่มันก็ทำให้ผมรู้สึกเหนื่อยขึ้นมาทันที
ถ้าเป็นโซฟา ผมคงเผลอหลับ แต่การที่ผมหลับตอนที่เจ้าของบ้านไม่อยู่มันก็เสียมารยาท ผมว่าดีแล้วที่โซฟาห้ามใช้
[ งั้น… เรานอนด้วยกัน! ]
[ ทำไมล่ะครับ!? ]
รุ่นพี่พูดขึ้นทันทีที่เธอออกมาจากห้องน้ำพร้อมกับชุดนอน
[ คือ… ฉันเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าถุงนอนมันใช้ไม่ได้แล้ว ]
[ แต่ตอนที่ผมเห็นมันก็ดูใช้ได้นี่ครับ… ]
[ ไม่ๆ ฉันเคยเอาไปใช้หลายครั้ง แล้วก็ไม่ได้ซักเลย มีแต่เหงื่อกับน้ำมันเต็มไปหมด แล้วมันก็คงจะหมักหมมอยู่แบบนั้น เป็นเดือนๆ… กรี๊ด! ฉันเป็นผู้หญิงนะ จะให้ใช้ถุงนอนแบบนั้นได้ยังไงกัน! ]
[ รุ่นพี่ น้ำเสียงดูแข็งๆ นะครับ ]
[ ไม่น่ามั้ง… เอ่อ… ]
[ ยอมรับแล้ว… ]
[ แหม เขินก็บอกมาเถอะ! ]
รุ่นพี่ ตบบ่าผมเบาๆ ด้วยสีหน้าร่าเริง
ก็… ถ้ามีเหงื่อกับน้ำมันติดอยู่ ผมก็คงใช้ไม่ได้เหมือนกัน ผมคงนอนไม่หลับแน่ๆ
[แล้วผมจะนอนตรงไหน…ครับ?]
[ นั่นสินะ ฉันกะว่าจะให้เธอนอนในถุงนอน แต่โซฟาก็ห้ามใช้ ]
เธอแกล้งผมอีกแล้ว… แล้วก็พูดถึงโซฟาที่ห้ามใช้ด้วย บังเอิญเหรอ?
[ แบบนี้ก็มีทางเดียว… เรามานอนด้วยกัน! ]
[ หา!?]
เธอตอกย้ำอีกครั้ง ผมไม่มีทางปฏิเสธ
[ นอนกันเถอะ! บนเตียงเดียวกัน! ]
[ แล้ว ‘สาวน้อยขี้อาย’ เมื่อกี้ หายไปไหนแล้วครับ? ]
[ ไม่ต้องห่วง! เตียงฉันใหญ่ นอนสองคนสบายๆ! ]
[ ผมไม่ได้กังวลเรื่องนั้นสักหน่อย! ]
ผมรู้ว่าเตียงของเธอใหญ่ ผมทำความสะอาดห้องนอนให้เธอแล้ว
แต่… ทำไมเธอถึงวางแผนเรื่องโซฟาที่ห้ามใช้…?
[ ดีจังที่เตียงฉันใหญ่ ฉันปล่อยให้เธอนอนบนพื้นไม่ได้หรอก นี่เป็นเหตุสุดวิสัย ]
[ รุ่นพี่ดูดีใจนะครับ ]
[ ต้องสนุกกับปัญหาสิ! “เรือที่ไม่มีสัมภาระจะโคลงเคลง ไม่สามารถแล่นไปข้างหน้าได้ ความกังวล ความทุกข์ ความยากลำบาก เป็นสิ่งที่ทุกคนต้องการ” โชเพนเฮาเออร์กล่าวไว้ ]
รุ่นพี่พูดคำคมของคนดัง แล้วก็จับมือผมแน่นมาก
[ นี่ๆ โทโมกิคุงก็คงเหนื่อยแล้ว ไปนอนกันเถอะ! ]
ถึงผมจะเหนื่อย แต่หัวใจของผมไม่แข็งแรงพอจะนอนเตียงเดียวกับรุ่นพี่
[ จริงๆ แล้วฉันเรียนคาราเต้ ยูโด ไอคิโดมาหมดแล้ว ]
[ เรื่องที่ผมไม่อยากรู้ที่สุดมาแล้ว! ]
[ ปู่บอกว่า “มิฮารุน่ารักแล้วก็เก่ง อาจจะมีคนไม่ดีมาทำร้ายก็ได้” ]
[ ปู่หลงหลานเกินไปแล้ว! ]
ผมเผลอพูดไม่ดีกับปู่ของรุ่นพี่ที่ผมไม่เคยเจอ เพราะตกใจ
แต่รุ่นพี่กลับไม่โกรธ เธอยังหัวเราะ [ ถึงจะโดนปู่โอ๋ แต่เธอก็คงไม่ชอบใจ ]
[ งั้น… ฉันปิดไฟนะ ]
[ คะ… ครับ… ]
[ อเล็กซ์ ปิดไฟหน่อย ]
รุ่นพี่พูดกับลำโพงอัจฉริยะ
นี่สินะ’สมาร์ทโฮม’ เจ๋งชะมัด… แต่ผมไม่มีกะจิตกะใจจะสนใจหรอก หัวใจมันเต้นโครมคราม แทบจะระเบิดอยู่แล้ว
[ ฮึๆๆ มืดสนิทเลย ]
[ เอ่อ… หรือว่า… ผมควรหันไปทางอื่น… ]
[ ไม่ได้นะ แบบนั้นฉันจะมองไม่เห็นหน้าเธอ ]
ตอนนี้ ผมนอนอยู่บนเตียงควีนไซส์ของรุ่นพี่ หันหน้าเข้าหาเธอ
รุ่นพี่ร่ายมนต์ ปิดไฟในห้อง แต่ผมก็ยังเห็นหน้าเธอรางๆ เราอยู่ใกล้กันแค่นี้
ผมประหม่า จนหายใจไม่ออก ผมรู้สึกเหมือนว่า ถ้าเผลอสูดหายใจเข้าไป ผมจะเสียสติ…
แต่รุ่นพี่กลับดูสบายๆ
[ เธอบอกให้ฉันทำตัวตามสบายไม่ใช่เหรอ? ]
[ ผม… พูดประมาณนั้นแหละครับ… ]
[ งั้น ฉันขยับเข้าไปใกล้ๆ ได้ไหม? ]
[ อุ… มะ… ไม่ได้ครับ ]
[ ขี้งก ]
รุ่นพี่เบะปาก
ถึงจะเป็นท่าทางแบบเด็กๆ แต่ในสถานการณ์แบบนี้ มันดูยั่วยวนมาก
[ ว่าแต่ ฉันพึ่งนึกขึ้นได้! ]
[ …อะไรเหรอครับ? ]
[ การที่เรานอนเตียงเดียวกันแบบนี้… ก็เหมือนแต่งงานกันแล้ว ไม่ใช่เหรอ? ]
[ ผะ… ผมว่าไม่ใช่นะครับ ]
[ อ๊ะ จริงสิ เราแต่งงานกันแล้วนี่ ]
[ ยังนะครับ! ]
ถึงผมจะเซ็นใบทะเบียนสมรสแล้วก็เถอะ! แต่ผมก็โดนบังคับ!
[ ทำไมต้องปฏิเสธแรงๆด้วย … โทโมกิคุง เธอไม่อยากให้ฉันเป็นภรรยาเหรอ? ]
[ อึก… มะ… ไม่ใช่ว่าไม่อยาก… ]
[ หมายความว่าไง? ]
[ อุ… อืม… ]
รุ่นพี่จ้องมองผม
เธอยื่นมือมาจับมือผม
เธอดูเซ็กซี่มาก ผม… ใจสั่น
[ แต่… ผมว่า… เราควรจะ… ค่อยเป็นค่อยไปนะครับ ]
ผมพยายามอย่างมาก ที่จะควบคุมตัวเอง
ถึงในหัวผมจะมีแต่เสียงตะโกนว่า [โทโมกิ! จัดไป!] แต่มันก็ไม่ได้
ผมรู้สึกว่า การที่รุ่นพี่พยายามยั่วยวนผมแบบนี้ เป็นเพราะเธอเชื่อว่าผมจะไม่ทำอะไร
[ ฮิฮิ จริงด้วย เริ่มจากความสัมพันธ์แบบใสๆ ก่อนก็ดีนะ ]
…เกือบไปแล้ว
ดีนะที่ผมไม่ใจอ่อน ถ้าสบตาเธออีก 5 วินาที ผมคงหลวมตัว
[ อีกอย่าง ฉันว่าการที่เธอเรียกฉันว่า ‘รุ่นพี่คาบูรากิ’ มันเหมาะกับเธอมากกว่าเรียก ‘มิฮารุ’ ]
รุ่นพี่พูดพลางจับมือผม แล้วสอดนิ้วเข้ามาในช่องว่างระหว่างนิ้วของผม
ที่เขาเรียกว่า [ จับมือแบบคนรัก ]
นิ้วมือของเธอนุ่มลื่น ผมใจเต้นแรงอีกแล้ว
ผมกังวลเรื่องเหงื่อที่มือ แต่มือของเธออุ่นมาก ผมไม่ไหวแล้ว
[ อ๊ะ จริงสิ ]
[ คะ…ครับ? ]
[ ฉันควรจะเรียกเธอว่า ‘รุ่นน้องฮิโนมิยะ ‘ รึเปล่า? ]
[ เอ๋? ]
[ ให้เข้ากับ ‘รุ่นพี่คาบูรากิ’ ]
[ แล้วแต่รุ่นพี่เลยครับ… แต่ไม่ค่อยมีใครเรียกรุ่นน้องว่ารุ่นน้องหรอกครับ ]
[ จริงด้วย รุ่นน้องฮิโนมิยะ ฮิโนมิยะ โคไฮ… อืม… ฟังดูแปลกๆ ]
[ งั้นก็เรียกเหมือนเดิมก็ได้นี่ครับ ]
[ ฮิฮิ จริงด้วย! ]
รุ่นพี่พูดด้วยน้ำเสียงที่ผ่อนคลายลง
ผมก็ไม่ไหวแล้วเหมือนกัน
ผมนอนเตียงเดียวกับรุ่นพี่ มันทำให้ผมประหม่า แต่ความเหนื่อยล้าก็ทำให้ผมง่วงจนลืมความประหม่า
[ นี่ โทโมกิคุง ]
[…ครับ?]
[ ต่อจากนี้ไป เธอจะอยู่กับฉันใช่ไหม? ]
รุ่นพี่ยิ้มในความมืด
[ อนาคตมันไม่เหมือนกับที่ฉันรู้จัก ฉันกังวล… แต่ถ้ามีเธออยู่ด้วย ความกังวลก็กลายเป็นความหวัง เธอทำให้ฉันรู้สึกแบบนั้น ]
ไม่ใช่ผมในครั้งแรก แต่เป็นผมในครั้งที่สอง
รุ่นพี่มองผมด้วยความมั่นใจ
[ ฉันเคยพูดเท่ห์ๆ ว่าไม่เชื่อเรื่องพรหมลิขิต แต่…การที่ฉันได้เจอเธอ มันคือพรหมลิขิตสำหรับฉันนะ ]
น้ำเสียงที่อบอุ่น อ่อนโยน
เหมือนเพลงกล่อมเด็กที่ทำให้ผมง่วงนอน
ผมอยากตอบเธอ แต่เปลือกตาผมหนักอึ้ง
[ฮิฮิ ไม่เป็นไร นอนพักเถอะ ไม่ต้องตอบก็ได้ ]
ผมทนไม่ไหวแล้ว หลับตาลง
แล้วก็รู้สึกถึงสัมผัสที่อบอุ่นและนุ่มนิ่มกว่ามือของเธอโอบกอดผม
[ฝันดีนะ โทโมกิคุง]
รุ่นพี่กระซิบข้างหูผม
ผมปล่อยให้เปลือกตาปิดลงตามแรงกอดของรุ่นพี่
ผมหลับไปอย่างสงบ ไม่เคยหลับสนิทแบบนี้มาก่อน
[ไม่ว่าจะเมื่อก่อน ตอนนี้ หรือ ต่อไป… ฉันก็รักเธอเสมอนะ]
ผมรู้สึกเหมือนได้ยินประโยคนั้นแว่วมาไกลๆ
{ จบตอนที่่ 7 }