ชีวิตรอบที่ 2 ของรุ่นพี่คาบูรากิ - ตอนที่ 6.1 ที่อยู่ของรุ่นพี่คาบูรากิ
ตอนพักเที่ยงของวันถัดมา…
[อืมมม…]
ผมมองโทรศัพท์พลางเอียงคอ
ผมกับรุ่นพี่คาบูรากิมีตารางเวลาที่แน่นอน วันนี้เป็นวันศุกร์ ผมควรจะกินข้าวกับเธอ…
(ยังไม่เห็นข้อความเลย…)
รุ่นพี่เป็นคนที่ใส่ใจมาก
ถึงเราจะมีตารางเวลาอยู่แล้ว แต่เธอก็ส่งข้อความมาบอกทุกวัน
เช่น [รอข้าวเที่ยงอยู่นะ] หรือ [เจอกันหลังเลิกเรียนนะ] อะไรแบบนั้น
แต่วันนี้เธอไม่ได้ส่งมา ถึงจะไม่ได้สำคัญ แต่พอไม่มีแบบกะทันหัน ผมก็อดกังวลไม่ได้
(ลองส่งข้อความไปหาดีไหม?)
ผมส่งข้อความไปว่า [วันนี้ผมไปกินข้าวกับรุ่นพี่ได้ไหมครับ?]
แต่… ไม่มีแม้แต่การอ่านข้อความ
[นี่ โทโมกิ วันนี้ไม่ไปชมรมเหรอ?]
อากิระทักผมที่นั่งอยู่ที่โต๊ะ
ผมไปชมรมวรรณกรรมทุกวันจันทร์ พุธ ศุกร์ มา 1 เดือนแล้ว เพื่อนๆ ก็รู้
[รุ่นพี่ยังไม่ส่งข้อความมา ฉันเลยไม่รู้ว่าไปได้รึเปล่า]
[ไม่ต้องรอให้เธออนุญาตก็ได้มั้ง]
[แต่… ถ้ารุ่นพี่ยุ่ง ฉันก็จะเกะกะ]
[เธอก็ นักเขียนนี่นา นายส่งข้อความไปหาเธอแล้วเหรอ?]
[อืม แต่เธอยังไม่อ่าน]
ผมไม่รู้ว่าต้องทำยังไง แต่การได้ใช้เวลากับรุ่นพี่ มันกลายเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับผม แล้วก็… ผมชอบช่วงเวลานั้น
…ดูเหมือนอากิระจะดูออก
[ถ้างั้น ก็ลองไปดูสิ]
[…ฉันทำหน้าแบบนั้นเหรอ?]
[ไม่เชิง]
อากิระยิ้ม เหมือนรู้ทันผม ซึ่งก็คงจริง
[เฮ้อ… เหนื่อยจัง เป็นเวรประจำวันนี่มันลำบาก…]
โอบายาชิเดินเข้ามา แล้วก็ฟุบลงบนโต๊ะผม
[ไง Little Mountain เหนื่อยเหรอ?]
[อาจารย์ใช้งานหนักเกินไป ให้เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ แบบฉันแบกสมุด อะไรแบบนี้… แล้วใคร Little Mountain กัน! นั่นมันโคยามะ! ฉันโอบายาชิ! ถ้าเป็นภาษาอังกฤษก็… นี่ มอคกี้ คำว่า ‘ป่า’ ภาษาอังกฤษว่าไง?]
[อย่าเรียกฉันเหมือนเป็น Siri นะ ถาม Siri เเป๊ป]
[คนกลาง Siri]
ถึงจะบอกว่าจะถาม Siri แต่เขาก็เสิร์ชในเว็บ [ป่า ภาษาอังกฤษ]
[อืม… ภาษาอังกฤษไม่ได้แยก ‘ป่าละเมาะ’ กับ ‘ป่าขนาดใหญ่’ ใช้ woods หรือ forest เเทน]
[จริงด้วย มิน่าฉันถึงนึกไม่ออก]
[ถ้างั้น… My name is Giant Forest… แบบนี้!]
[Giant? น่าจะใช้ Big มากกว่านะ]
[Giant… ป่ายักษ์?]
[ฮ่าๆๆๆ ‘เคียวบายาชิ’! ]
ผมเผลอแปลเป็นภาษาญี่ปุ่น อากิระหัวเราะลั่น
[ดีใจด้วยนะ เคียวบายาชิ ได้ชื่อใหม่แล้ว]
[อ๊าก…! ความหมายก็ใกล้เคียงกัน แต่ทำไมฉันถึงรู้สึกว่าโดนล้อมากกว่าเดิมนะ…? แล้วก็… อย่าตั้งชื่อเล่นให้คนอื่นมั่วๆ สิ!]
[เธอก็ชอบเรียกคนอื่นด้วยชื่อแปลกๆ เมื่อกี้เธอก็เรียกโทโมกิว่ามอคกี้ ก่อนหน้านี้ก็เรียกทอมมี่]
[ไม่เห็นเป็นไรเลย มอคกี้ เหมือนลิง น่ารักดี]
[ไม่น่ารักสักหน่อย…]
ผมไม่ชอบให้ใครเรียกผมว่าลิง
แต่บางคนอาจจะดีใจที่สาวสวยเรียกว่าลิง
[นี่ เคียวบายาชิ!]
[ฉันบอกกี่ครั้งแล้วว่าฉันชื่อ โอบา… ไม่ใช่โคบายาชิ!]
[อากิระบ่นว่า ทำไมมีแค่เขาที่ไม่ได้ชื่อใหม่]
[อ๊ะ? ฉันไม่ได้บ่นสักหน่อย โทโมกิ นาย… อย่าลากฉันไปเกี่ยวสิ…]
[โอ๊ะโอ! ขอโทษที!]
ตายไปคนเดียว มันเหงา
ผมไม่ชอบใจที่อากิระยืนดูเฉยๆ เลยลากเขามาแจมด้วย
[ถ้างั้น… ชื่อใหม่ของนายคือ… นิกโก้!]
[นิกโก้?]
ผมกับโอบายาชิมองหน้ากันด้วยความงุนงง ชื่อนี้มันไม่เห็นจะเข้ากับฮิกะ อากิระเลย
เคียวบายาชิยิ้มเมื่อเห็นปฏิกิริยาของพวกเรา
[ถ้าแยกตัวอักษรคันจิของ ‘อากิระ’ ออกจากกัน มันจะอ่านว่านิกโก้]
จริงด้วย
[หมายถึง… Nikko Edomura( เอโดะ วันเดอร์แลนด์) ไง! ]
[มันไม่เห็นจะเกี่ยวกันเลย]
[นิกโก้มีชื่อเสียงเรื่องภูเขาลิง! ยินดีด้วยนะ มังกิจิ มีลิงเพิ่มมาอีกตัวแล้ว]
[หา? ฉันกลายเป็นลิงตั้งแต่เมื่อไหร่?]
[…ทำไมฉันโดนล้อเป็นลิงตลอดเลยล่ะ]
มังกิจิมันเป็นชื่อที่ตั้งให้ลิงไม่ใช่เหรอ?
[นี่เป็นการลงโทษที่พวกนายชอบเรียกฉันว่าโคบายาชิ เคียวบายาชิ! ชดใช้กรรมที่พวกนายทำไว้ซะ! ฮ่าๆๆๆๆๆ]
เคียวบายาชิหัวเราะเหมือนตัวร้ายที่กำลังจะโดนเอาคืน
ผมกับอากิระกำลังคิดว่าจะเอาคืนเธอยังไงดี
(แต่… พวกเขาก็ยังเหมือนเดิมนะ)
พวกเราสนิทกันมานาน บทสนทนาเลยดูผ่อนคลาย สบายๆ
ถ้าเป็นรุ่นพี่คาบูรากิ ผมคงทำแบบนั้นไม่ได้
ถึงจะดีขึ้นมากแล้ว แต่ผมก็ยังประหม่า ผมไม่มีทางพูดเล่นกับเธอแบบนั้นแน่ๆ
เธอก็เป็นรุ่นพี่ มันก็ถูกต้องแล้ว
[ว่าแต่ โทโมกิ รุ่นพี่ตอบกลับมารึยัง?]
[ยัง เธอยังไม่อ่านข้อความเลย]
ผมคิดว่า สถานการณ์อาจจะดีขึ้น ถ้าคุยเรื่องไร้สาระ แต่ก็… เหมือนเดิม
[รุ่นพี่ เป็นอะไรเหรอ?]
[ก็ วันศุกร์ โทโมกิจะไปกินข้าวกับ ‘คนนั้น’ ที่ห้องชมรมไม่ใช่เหรอ? แต่วันนี้ ‘คนนั้น’ ไม่ส่งข้อความมา เขาก็เลยกังวล]
[หา? มังกิจิ ไม่รู้เหรอ?]
[รู้เรื่องอะไร?]
[‘คนนั้น’ น่ะ ไม่มาโรงเรียน]
[เอ๋!?]
รุ่นพี่คาบูรากิ หยุดเหรอ?
[ฉันได้ยินอาจารย์คุยกันที่ห้องพักอาจารย์ พวกเขาเสียดายที่เธออดได้รางวัลนักเรียนที่ไม่เคยขาดเรียน]
[จริงเหรอ? น่าเป็นห่วงจัง]
เมื่อวานเธอก็ดูแข็งแรงดีนี่…
(…อะ… ขอโทษ ฉันนึกขึ้นได้ว่า มีธุระ วันนี้ฉันกลับก่อนนะ!)
ผมนึกถึงสีหน้าของรุ่นพี่ ตอนที่เธอจากไป
เธอยิ้ม แต่… เหมือนฝืนยิ้ม
ผมคิดว่าไม่เป็นไร… หรือว่า… เธอมีอาการป่วยตั้งแต่เมื่อวานแล้ว?
[โทโมกิ]
อากิระคงเห็นว่าผมกังวล เขาเลยตบไหล่ผม
[นายไม่ต้องคิดมากหรอก ไม่ได้ติดโรคจากเธอใช่ไหม?]
[ใช่ๆ หรือบางที เธออาจจะ ไม่สบาย แล้วก็ นอนอยู่ ก็ได้]
พวกนี้… พอผมทำหน้าเศร้า ก็รีบปลอบใจเลยนะ
ถึงปกติจะชอบพูดเล่นกัน แต่พวกเขาก็เป็นห่วงผม… คงเป็นเพราะแบบนี้ ผมถึงชอบอยู่กับพวกเขา
แล้วผมล่ะ?
ถ้ารุ่นพี่ไม่สบายจริงๆ… ถ้าเธอมีอาการตั้งแต่เมื่อวาน แต่พยายามไม่แสดงออกต่อหน้าผม…
ผม… เป็นคนที่ดีสำหรับรุ่นพี่รึเปล่า?
[…จริงสิ โทโมกิ ไปเยี่ยมเธอดีไหม?]
[เอ๋?]
[ได้ยินมาว่าเธอพักอยู่ที่คอนโดหน้าสถานี แถมยังอยู่คนเดียว ถ้าไม่สบายคงลำบากน่าดู]
[แต่… ฉันไม่รู้ที่อยู่เธอนี่]
[คอนโดไง?]
[คอนโดมันมีตั้งหลายห้อง หมายถึงห้องของเธอต่างหาก]
[จริงด้วย นายคงตะโกนเรียกเธอหน้าคอนโดไม่ได้]
[จริงด้วย]
ถ้าอยากรู้ที่อยู่แน่นอน ผมคงต้องถามรุ่นพี่โดยตรง หรือไม่ก็… ถามอาจารย์โทดะ ที่ปรึกษาชมรม
แต่ถ้าถามรุ่นพี่ เธอก็คงไม่สบายใจ ที่ผมเป็นห่วงเธอ
อาจารย์โทดะ เป็นอาจารย์ผู้หญิง ที่สอนภาษาญี่ปุ่น ในห้องผม
ถึงผมจะสนิทกับเธอ แต่เธอก็คงไม่บอกง่ายๆ
มันเป็นข้อมูลส่วนตัว แถมรุ่นพี่ก็เป็นคนดัง ถ้าข้อมูลหลุดออกไป อาจจะโดนเอาไปใช้ในทางที่ผิด
(…ผมกำลังหาข้ออ้างสินะ)
จริงๆ แล้ว ถึงผมจะเป็นห่วง แต่การไปหาเธอที่บ้านแบบนี้ มันก็เกินไป
แต่รุ่นพี่คาบูรากิไม่เคยขาดเรียน แต่วันนี้เธอกลับหยุด
ผมอดคิดไม่ได้ว่า การที่ผมไปเจอเธอ ใช้เวลาด้วยกันที่ชมรม… มันทำให้เธอ ลำบากใจรึเปล่า?
ผมทำลายชีวิตของเธอ รึเปล่า?
[ฉันน่ะ วันเกิดปีที่แล้ว ได้กินปลาไหลแพงๆ เป็นครั้งแรก]
[…หา?]
โอบายาชิพูดขึ้นมาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย
[อยู่ๆ พูดเรื่องปลาไหลทำไม?]
[ปลาไหลแพงมากกก! แพงกว่าปลาไหลที่ขายในซุปเปอร์มาร์เก็ตตั้งเยอะ!]
[อ่า… แล้วไง? เธอพูดเรื่องนี้ทำไม?]
ดูเหมือนอากิระก็งงเหมือนกัน ก็โอบายาชิมักจะพูดอะไรแปลกๆ แบบนี้แหละ
[พ่อฉันเลี้ยงเป็นของขวัญที่ฉันสอบเข้า ม.ปลายได้ ปกติบ้านฉันไม่ค่อยได้กินปลาไหลอยู่แล้ว แต่นี่เป็นปลาไหลแพงๆ ต่อให้แม่ฉันย่างแบบลวกๆ มันก็อร่อยมาก!]
[เหรอ…]
[แล้วก็… ปลาไหลน่ะ มีประโยชน์ บำรุงร่างกาย อะไรแบบนั้น]
[หืมมม…]
[ฉันก็เลยคิดว่าจะตั้งใจเรียน แต่… วันรุ่งขึ้น ฉันเวียนหัว ไม่สบาย… สงสัยปลาไหลมันมีประโยชน์เกินไป ร่างกายฉันเลยรับไม่ไหว]
ผมกับอากิระมองหน้ากันด้วยความงุนงง
แต่โอบายาชิก็ยังคงทำท่าทางมั่นใจเหมือนเดิม แล้วยกนิ้วชี้ขึ้นมา
[เพราะงั้น การที่มังกิจิใช้เวลากับรุ่นพี่ มันอาจจะไม่ใช่สาเหตุที่ทำให้เธอไม่สบายก็ได้]
[…เอ๋?]
[เมื่อกี้ มังกิจิทำหน้าแบบนั้น ‘หรือว่าการที่ฉันใช้เวลากับรุ่นพี่คาบูรากิ ทำให้เธอ ลำบากใจ เป็นสาเหตุที่ทำให้เธอไม่สบาย?’ แบบนี้]
รู้ทันผมอีกแล้ว!
อ่านตอนใหม่ๆก่อนได้ที่่เพจ Suraの夜