ชีวิตชิวชิวในต่างโลกกับอดีตผู้สมัครเป็นผู้กล้าที่หลังจากเลเวล 2 ก็กลายเป็นโกง - ตอนที่ 44
◇ ◇ ไม่นานนักที่ห้องแห่งหนึ่งในปราสาทไคน์โรจน์
“เป็นความจริงงั้นรึ?”
นักเวทย์คนนึงมารายงานกับหัวหน้ายามขณะที่หายใจหอบ
“ไม่ผิดแน่ครับ มีปฏิกิริยาจากเวทย์ค้นหาของสมบัติที่ถูกขโมยไปจากปราสาทเมื่อวันก่อนครับ”
ในคริสตัลที่นักเวทย์ถืออยู่มีแผนที่บริเวณใกล้ปราสาทปรากฏขึ้นพร้อมมีแสงส่องสว่าง
“อยู่ที่ไหน?”
“กำลังเคลื่อนที่ไปทางตะวันตกจากปราสาท ด้วยความเร็วขนาดนี้ต้องเป็นรถม้าหรืออะไรสักอย่างแน่นอนครับ”
หัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัยที่ได้ยินดังนั้นก็ร่างแผนที่แบบคร่าว ๆ ขณะที่ดูคริสตัล
“ทิศทางที่มุ่งไปมัน… เมืองโฮทาโร่ไม่ผิดแน่ เราต้องรีบตามไปให้เร็วที่สุด ขอกำลังอัศวินมาเสริมซะ เราต้องทำลายกลุ่มโจรแล้วนำสมบัติมกลับมาให้ได้”
หัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัยผู้นี้คือคนที่รับผิดชอบให้เฝ้าห้องสมบัติในคืนนั้น ที่เขาปล่อยให้ผู้บุกรุกเข้าไปได้ถือเป็นความล้มเหลวเป็นอย่างมาก แล้วที่ยิ่งแย่ไปใหญ่ก็คือปล่อยให้พวกผู้บุกรุกขโมยสมบัติไปได้
“ทุกนาย! คราวนี้จะต้องไม่พลาดเหมือนเมื่อไม่กี่วันก่อน เราจะต้องแก้แค้นสิ่งที่มันทำกับพวกเรา!”
◇ ◇ ปัจจุบัน : ณ ร้านขายของจิปาถะฮิวโก้ที่เมืองโฮทาโร่
ขณะนี้ที่ทหารยามกำลังจะบุกเข้ามาทางประตูหน้าร้าน
“ทุกคนอย่าขยับ!”
ทหารยามซึ่งบุกเข้ามาหน้าประตูร้านพูดขณะมองไปรอบ ๆ
“จ้า ๆ ไม่ขยับแล้วเนี๊ยว แล้วมีธุระอะไรกันเหรอคะเนี๊ยว?”
ยูริมินัสที่นั่งอยู่เคาน์เตอร์แสดงรอยยิ้มจอมปลอมแล้วถามหัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัยอย่างเป็นกันเอง
“เจ้าเป็นเจ้าของร้านนี้รึ? ทั้งพนักงานและลูกค้า กรุณามาเรียงแถวหน้ากระดานตรงนี้ซะ หากยอมฟังกันดี ๆ จะยิ่งทำให้ข้อสงสัยในตัวพวกเจ้าหายไปเร็วขึ้นด้วย ”
หัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัยพูดออกมาเพื่อคลายข้อสงสัยให้ทุกคน
วาลิซซ่าซึ่งเป็นพนักงงานของร้านอยู่ข้าง ๆ ยูริมินัส
ลูกค้าอีกสี่คนที่อยู่มองด้วยสายตาสับสนและยืนอยู่ข้างผนัง
“เอาล่ะคุณเจ้าของร้าน สารภาพมาซะ อย่าต่อต้านโดยเปล่าประโยชน์ สมบัติที่ขโมยจากปราสาทอยู่ที่ไหน?”
หัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัยกดดันยูริมินัส โดยมีทหารยามล้อมยูริมินัสอยู่ถึงสามแถวและท่าทางจะโจมตีได้ทุกเมื่อ
“หัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัยนี่มันไม่หยาบคายเกินไปเหรอคะ หลักฐานก็ไม่มีก็มาบอกว่าพวกเราเป็นคนร้ายซะแล้วนะ?”
วาลิซซ่าที่ยืนอยู่ข้างยูริมินัส เอามือขวางเพื่อปกป้อง
“ด้วยเวทย์ค้นหาของจอมเวทย์หลวง เราได้รู้มาว่าสมบัติที่ถูกขโมยไปอยู่ที่ไหน และเวทย์มันก็ชี้ทางมายังร้านนี้ด้วย!? ไม่มีหลักฐานที่แน่นอนกว่านี้อีกแล้ว!”
หัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัยแผดเสียงขณะที่ทุบโต๊ะเสียงดัง
ขณะที่วาลิซซ่าเองก็แสดงท่าทางโกรธราวกับจะกระโจนเข้าหาเขาได้ทุกเมื่อ
“ใจเย็นก่อนทั้งคู่เลย”
ทันใดนั้นฟุริโอ้ก็ปรากฏตัวขึ้น แล้วพูดออกมาด้วยท่าทางไม่ทุกข์ร้อน
“จ- เจ้าโผล่มาจากที่ไหนกัน!?”
รอบตัวยูริมินัสและวาลิซซ่ามีทหารยามล้อมอยู่ถึง 3 แถว จึงเป็นไปไม่ได้เลยที่แม้แต่แมวจะผ่านไปได้
ฟุริโอ้ที่ไม่รู้โผล่มาจากไหนฝ่าวงล้อมการป้องกันมาได้อย่างสบาย ๆ ทำให้หัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัยและเหล่าอัศวินต่างแสดงท่าทีสับสนกันใหญ่
“น่า เรื่องที่ผมโผล่มาจากไหนนั้นไม่สำคัญหรอก มาคุยเรื่องที่สำคัญกันจริง ๆ ดีกว่า”
จากนั้นฟุริโอ้ก็เริ่มตะโกนเสียงดัง
“ตามกฎหมายของประเทศ สิทธิในการจับกุมผู้กระทำที่ค้นหาได้จากเวทย์ค้นหานั้น กล่าวอีกนัยหนึ่ง หากจะตัดสินได้ว่าอีกฝ่ายเป็นอาชญากรจริง ๆ ต้องค้นหาของที่ถูกขโมยไปให้เจอก่อนใช่มั้ยครับ?”
ราวกับระเบิดถูกทิ้งใส่ศีรษะของหัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัย ทำให้เขาไม่อาจพูดตอบโต้กลับได้จนพูดอะไรไม่ออก
“หัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัยครับ อย่างที่ชายคนนี้พูด เราต้องหาของที่ขโมยไปให้เจอก่อนครับ”
เมื่อเห็นสภาพของหัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัยแล้ว จอมเวทย์ก็พูดขึ้น
“ถูกอย่างที่เจ้าพูด ข้าเข้าใจแล้ว ต้องขอโทษด้วยที่ไปด่วนสรุปเลยว่าพวกเจ้าเป็นคนร้าย แต่การช่วยจอมเวทย์ค้นหาคือหน้าที่ของพลเมืองของประเทศนี้ ไม่มีทางให้เลือกปฏิเสธ เจ้าคงรู้เรื่องนี้ใช่มั้ย?”
หัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัยที่ได้สติกลับคืนมากล่าวกับฟุริโอ้
“อ่า แน่นอนครับ พวกเราจะช่วยพวกคุณค้นหาอย่างสุดความสามารถ”
ฟุริโอ้ตอบด้วยรอยยิ้ม
◇ ◇ ในเวลาเดียวกัน · ในเงาของตึกที่อยู่ห่างของร้านฮิวโกเล็กน้อย
พี่น้องจิ้งจอกเขาทองและเขาเงินหัวเราะคิกคัก ขณะที่เฝ้ามองร้านฮิวโก้ที่ถูกล้อมไปด้วยอัศวินและทหารยาม
เพราะยูริมินัสปฏิเสธที่จะคืนไอเท็มเวทมนตร์ให้ทั้งสองเมื่อวันก่อน หลังจากนั้นพนักงานร้านนั้นยังทำลายน้ำเต้าดูดพลังไปอีก ทำให้พวกเธอหาที่ลงความโกรธนี้ลงที่ไหนไม่ได้
แม้กระนั้นพวกเธอก็ไม่ได้โง่ขนาดที่จะเผชิญหน้าตรง ๆ กับคนที่เพิ่งซัดตัวเองไปหรอก ดังนั้นทั้งสองคนจึงคิดแผนนี้ขึ้นมา
ทั้งสองที่รู้ว่าอดีตราชาเก็บของที่ขโมยจากห้องสมบัติที่ปราสาทไว้ เธอเลยซื้อมันมันมาจากเขา จากนั้นก็แอบเอาไปซ่อนในร้านฮิวโก้
แน่นอนว่าพวกเธอซ่อนมันไว้กับกล่องสมบัติที่ซ่อนไว้
ซึ่งไอเท็มชิ้นนั้นเป็นของที่ถูกขโมยจากปราสาท ดังนั้นจึงมีการลงทะเบียนว่าเป็นไอเท็มที่ถูกโจรกรรรมจากจอมเวทย์ในปราสาทแล้ว ทำให้ค้นหายังไงก็เจออยู่ดี
และจอมเวทย์ต้องใช้เวทย์ค้นหาแล้วเจอของในร้านฮิวโก้แน่ ๆ ถ้าเป็นเช่นนั้นพนักงานฮิวโก้ก็จะถูกจับตัวไปที่ปราสาทแบบแก้ตัวยังไงก็ไม่ขึ้นชัวว์
แต่เพราะมีเจ้าตัวอย่างโกซารุอยู่ที่นั่นด้วย พวกเขาคงไม่ถูกจับง่าย ๆ แน่ บางทีสุดท้ายอาจจะหนีรอดไปได้ แต่ก็ต้องใช้ชีวิตแบบหนีไปชั่วชีวิตอยู่ดี
“เจ้าพวกนั้นเสร็จไปแล้วแน่คอน”
“นี่ล่ะการลงโทษที่ทำให้พวกเราต้องอับอายโคคอน”
จากนั้นทั้งสองก็หัวเราะคุสึคุสึ
“อีกไม่นาน ทหารยามจะต้องเจอโล่แห่งเปลวเพลิงซึ่งเป็นไอเทมเวทมนตร์ที่ถูกขโมยมาแน่ ๆ ”
“จะยอมถูกจับหรือจะสู้… ไม่ว่าจะเลือกแบบไหนก็เป็นจุดจบสำหรับเจ้าพวกนั้นอยู่ดีโคคอน”
◇ ◇ ณ ร้านขายของจิปาถะฮิวโก้
“หัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัยครับ! ตรงนั้น! มีปฏิกิริยามาจากผนังตรงนั้น!”
“งั้นเหรอ อยู่ตรงนั้นเองสินะ!”
หัวหน้ายามมองไปยังทางที่จอมเวทย์ชี้
และในกำแพง ก็มีดาบแห่งเปลวเพลิงถูกแขวนประดับเอาไว้อยู่
“…ห๋า? ดาบ?”
แต่ของที่ถูกขโมยไปเป็นโล่นี่นา….
หัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัยและจอมเวทย์มองที่ดาบด้วยความตกตะลึง
◇ ◇ ถนนแห่งนึงสู่เมืองแห่งหนึ่ง
“…. จะว่าไปแล้วท่านผู้กล้าผมบลอนด์ ฉันมีเรื่องอยากจะถามค่ะ”
“โอ้ ว่าไง ถามมาสิจะตอบให้เป็นกรณีพิเศษ”
“เอ่อ ชื่อจริง ๆ ของท่านผู้กล้าผมบลอนด์คืออะไรเหรอคะ เพราฉันเอาแต่เรียกท่านว่าผู้กล้าผมบลอนด์ตลอดเลย”
“….ทุกคนในปราสาทเรียกฉันด้วยชื่อนั้น…. ดังนั้นจะเรียกชื่อนั้นเลยไม่มีปัญหาหรอก”
“…ถ้าเป็นไปได้ ฉันอยากเรียกท่านด้วยชื่อน่ะค่ะ”
“….จะเก็บไปคิดละกัน หลังจากเรื่องทุกอย่างจบแล้วนะ”
พอพูดจบท่าทางของผู้กล้าผมบลอนด์ก็ดูหงุดหงิดขึ้นมา
หลังจากนั้นผู้กล้าผมบลอนด์ก็ไม่ได้พูดอะไรต่ออีกเลย และเดินต่อไปโดยอุ้มอลัวร์ไว้บนหลัง