ชีวิตชิวชิวในต่างโลกกับอดีตผู้สมัครเป็นผู้กล้าที่หลังจากเลเวล 2 ก็กลายเป็นโกง - ตอนที่ 20
พอหญิงสาวตื่นขึ้นก็รู้ว่าตัวเธอถูกจับได้ซะแล้ว
“..อึก”
เธอพยายามแก้เชือก
“เป็นไปไม่ได้ นี่มันอุปกรณ์ระดับสูงที่ยับยั้งพลังเวทย์ได้”
ฟุริโอ้ที่เห็นว่าเธอฟื้นแล้วจึงเดินมาหาด้วยรอยยิ้มเจื่อนๆ
ฟุริโอ้วางเธอบนที่อีกด้านของโซฟาในนั่งห้องนั่ง เธอพยายามดิ้นให้หลุดและมองสำรวจไปรอบๆ
“… ถูกจับได้นี่มันความล้มเหลวของชีวิตชัดๆ.. ฆ่าฉันสิ”
หญิงสาวหลับตาและขบฟัน
“ทำไมคุณต้องพยายามค้นหาตัวชายที่ชื่ออาร์ทโชว์ขนาดนี้ล่ะครับ ทั้งที่คำสั่งก็แค่จับตัวเขาแล้วพาตัวไปด้วยกัน แค่นี้เองไม่ใช่เหรอครับ”
อาร์ทโชว์คือชื่อที่ฟุริโอ้เคยใช้ตอนที่อยู่เมืองก่อนหน้านี้
ผู้หญิงคนนี้บอกว่าได้รับคำสั่งจากคนระดับสูงให้มาจับเขา แต่ว่า…
…เธอทำพลาด ทำให้รู้ว่าเป็นปีศาจและคนระดับสูงที่เธอว่าก็คงหนีไม่พ้นจอมมารนั้นแหละ
ฟุริโอ้คิดถึงความเป็นไปได้ในใจ
“อยากให้คุณช่วยอธิบายสถานการณ์ให้ฟังแบบละเอียดๆ ทีได้มั้ยครับ บางทีผมอาจจะช่วยได้”
“ขอปฏิเสธค่ะ ฆ่าฉันสิ สายลับปีศาจที่ทำภารกิจพลาดจะต้องฆ่าตัวตายและลบสิ่งที่แสดงถึงตัวตนไปอยู่แล้ว”
เธอปฏิเสธและหันหน้าหนีฟุริโอ้
ฟุริโอ้ยิ้มแบบขมขื่นต่อปฏิกิริยาของเธอและวางมือที่บนเข่าเธอเบาๆ
และใช้เวทย์อ่านใจโดยไม่ให้เธอรู้ แล้วค้นหาเรื่องคำสั่งจากในความทรงจำของเธอ
…
ไม่กี่นาทีต่อมา ฟุริโอ้ยิ้ม
“…คุณกลีเนียล ผมจะถามอีกครั้ง คำสั่งที่คุณได้รับคือ “จับกุมอาร์ทโชว์แล้วพาตัวเขาไปด้วยกัน” ใช่มั้ยครับ?”
“ใช่ค่ะ”
ฟุริโอ้ยิ้มแบบขมขื่นให้กับคำตอบของเธอ
“ผมเข้าใจแล้ว งั้นเรามาตกลงกัน ผมจะแก้เชือกให้ แต่หลังจากนี้ให้คุณกลับไปปราสาทจอมมารแล้วตรวจสอบรายระเอียดของภารกิจกับยูริมินัสซะ แล้วผมจะปล่อยคุณไป”
“เดี๋ยวสิ ฉันยังไม่ได้บอกชื่อคุณเลย แล้วคุณรู้ได้ยังไง แม้แต่ชื่อท่านยูริมินัสเองก็ด้วย คุณเป็นใครกันแน่!?”
“เข้าใจแล้วนะ?”
หญิงสาวพยายามเชื่อมต่อเบาะแส แต่ก็ถูกแรงกดดันของฟุริโอ้ทำให้เงียบไป ทำให้เธอไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากพยักหน้าตอบ
เมื่อฟุริโอ้เห็นกลีเนียลหายไปลับตาจากบ้านแล้ว แต่ทว่าปัญหายังไม่จบ…
“ ท่านสามีจับเข่าผู้หญิงคนอื่นไปนานเลยนี่ค่ะ อยากรู้จังว่าทำไมกันน้า”
ลิซปรากฏเบื้องหน้าของฟุริโอ้ด้วยออร่าน่ากลัว ร่างกายของเขาเปียกโชกไปด้วยเหงื่อ
เขาจึงตัดสินใจบอกสถานการณ์ให้เธอทราบก่อน… (เดี้ยง)
ไม่กี่วันต่อมา…
“ขอโทษจริงๆ ค่ะ”
กลีเนียลกำลังคุกเข่าต่อหน้าฟุริโอ้ในบ้านของเขา
หลังจากเธอกลับไปหาหัวหน้าของเธอ(ยูริมินัส) เพื่อถามรายละเอียดของภารกิจ
“ไปหาที่อยู่ของอาร์ทโชว์มา ห้ามล้มเหลวเด็ดขาดเนี๊ยว ถ้าเจอเขาแล้วก็พามาที่นี่ซะเนี๊ยว”
“นั่นหมายความว่าให้จับกุมตัวและพาเขามาที่นี่ แปลได้แบบนี้ใช่มั้ยคะ?”
“..ฉันบอกให้ไปจับตัวเขามาเมื่อไหร่กันเนี๊ยว?”
“เพราะท่านพูดแบบกำกวมฉันก็เลย… สรุปคือไม่ต้องจับกุมแต่ให้พาพวกเขามาสินะคะ แล้วให้ต้อนรับเขาให้สุภาพที่สุด ขอโทษที่ทำงานผิดพลาดค่ะ”
กลีเนียลถูกยูริมินัสดุ ตอนนี้ยูริมินัสผมหลายส่วนถูกไฟไหม้
ต้องขอบคุณเวทย์อ่านใจจริงๆ ที่ทำให้รู้ว่าเธอได้รับคำสั่งอะไรว่าจากยูริมินัส
ดูเหมือนกลีเนียลเธอจะเข้าใจผิด ดีแล้วล่ะ ที่ให้เธอกลับไปหายูริมินัส
“ถ้าฉันไม่กลับไปยืนยันรายละเอียดของภารกิจ อาจจะต้องเสียใจกับสิ่งที่ทำลงไปก็ได้ ขอบคุณมากค่ะ”
กลีเนียลโขกหัวลงบนพื้นในท่าคุกเข่า
“ไม่ต้องขอบคุณหรอกค่ะ ทุกคนผิดพลาดกันได้”
วาลิซซ่าที่เธอสถานการณ์ จึงไปช่วยพยุงกลีเนียลให้ลุกขึ้น
“ถึงฉันจะทำเรื่องโหดร้ายกับคุณขนาดนั้น แต่คุณก็ยังยกโทษให้…”
“สิ่งสำคัญคืออนาคตค่ะ ดังนั้นไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องอดีตหรอก”
“..รู้สึกละอายใจมากเลยค่ะ”
กลีเนียลร้องไห้เพราะได้ยินคำพูดของวาลิซซ่า
หลังจากกลีเนียลสงบสติอารมณ์ได้ พวกเขาก็ถามคำถามเธอหลายๆ เรื่องกับเธอ
ได้ใจความว่า เธอเป็นลูกน้องที่ขึ้นตรงกับยูริมินัส และยังเป็นสายลับฝึกหัด
ภารกิจค้นหาตัวอาร์ทโชว์ครั้งนี้ ยูริมินัสส่งสายลับทุกคนไปทั่วอาณาจักร แต่อาณาจักรนี้กว้างใหญ่กำลังคนจึงไม่พอ ดังนั้นจึงต้องส่งเด็กฝึกหัดอย่างเธอไปด้วยอย่างช่วยไม่ได้
“เพราะนี้เป็นภารกิจแรกของฉัน… ฉันก็เลยอยากจะทำให้สำเร็จ… แต่น่าสมเพซจริงๆ ตัวฉัน”
กลีเนียลทำหน้าเศร้าและถอนหายใจ
ไม่นานนัก…
กลีเนียลก็จากไปเพราะเธอยังมีภารกิจอยู่ เธอคิดว่าจะหารอบๆ เมืองโฮทาโร่และตรวจสอบการเข้าออกเมืองลองดู
“ท่านสามีไม่บอกชื่อจริงของคุณกับเธอเหรอคะ?”
“ถึงเธอจะเป็นเด็กฝึกหัด แต่ก็เป็นถึงหน่วยสืบราชการลับของจอมมาร รอจนกว่าเธอจะรู้เองจะดีกว่านะ”
ลิซพยักหน้าให้กับฟุริโอ้
“แต่ว่า… ฉันรู้สึกไม่ค่อยดีเลยค่ะ ” (วาลิซซ่ารู้สึกไม่ดีที่ฟุริโอ้ไม่บอกชื่อเธอไปครับ)
“งั้นจะให้บอกเธอก็ได้นะ แต่เป็นไปได้ว่าจอมมารจะมาหาวาลิซซ่าไม่ก็ผมทันทีเลยนะสิ“
“วะ ว่าไงนะคะ?!”
วาลิซซ่าทำหน้าหมดหวังเมื่อได้ยินคำพูดของฟูริโอ้
“คะ แค่ฉันเคยชี้ดาบใส่หน้า… นี่ต้องตามจ้องล้างต้องผลาญขนาดนี้เลยเหรอคะ”
วาลิซซ่าเหงื่อไหล่เป็นสายน้ำ ขณะพึมพำบางอย่าง
“วูฮู้ อิจฉาคู่รักพวกนี้จังเลยน้า!”
“ตอนเขามาก็สวมมงกุฎดอกไม้ให้เขาสิค่ะ”
“ มู!”(พยักหน้าว่าเห็นด้วยกับความเห็นของบิลลี่)
แต่เพื่อนๆ ของเธอเหมือนจะไม่เห็นเลยว่าตอนนี้วาลิซซ่าทำหน้ายังไงอยู่
กระต่ายน้อยซาแบร์กระโดดขึ้นมาบนไหล่แล้วตบไหล่เสียง ป๋อง ป๋อง เพราะสงสารเธอ
ขณะเดียวกันที่ถนนในเมืองโฮทาโร่…
“เฮ้ย แกคิดว่ามาเดินชนลูกน้องข้าแล้วจะรอดไปได้แบบสบายๆ งั้นเหรอ?”
“เจ็บครับพี่ใหญ่ เจ็บมากเลยครับ”
ชายคนนั้นล้มกลิ้งบนพื้นกับเหยื่อคนใหม่
ด้านหน้าของพวกเขาคืออัศวินหญิงที่แต่งกายแบบผู้ชายและสวมชุดเกราะ
“ ฉันขอโทษด้วยที่ชนไหล่ แต่ถ้าจะมาตามรังควานขูดรัดเงินกันล่ะก็…”
จากนั้นอัศวินหญิงก็ชี้ดาบไปทางทั้งสอง
กลิ่นอายแสดงความแข็งแกร่ง แผ่ออกมาจากตัวเธอและชายผู้เป็นคู่หูเธอ
“มะ ไม่ใช่นะครับ”
พวกเขาเห็นท่าไม่ดีเลยหนีทันที
“เฮ้อ นั่นคงเป็นพวกอันธพาลที่อยู่กันแถวๆ นี้สินะ”
แม้จะถอนหายใจอยู่ แต่อัศวินหญิงคอสเดรสก็ยังมองไปรอบๆ
“อย่างแรกต้องรวบรวมข้อมูลก่อน หากเป็นเมืองนี้น่าเหมาะสำหรับหาข้อมูลของท่านอาร์ทโชว์จากกิลด์นักผจญภัยได้”
เธอพึมพำแล้วซ่อนใบหน้าใต้ฮู้ด
และด้านหลังของฮู้ดนั้นมีสัญลักษณ์ของอาณาจักรเวทมนตร์ไคน์โร้ดอยู่